tripgether.com

โคราช เขาใหญ่ วังน้ำเขียว แบบมึนๆ 3วัน 3คืน นครราชสีมา ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

87,297 ครั้ง
27 มี.ค. 2560

วันนี้เราจะพาทุกคนไปบุกจังหวัดใหญ่ของภาคอีสานกัน นั่นก็คือนครราชสีมา หรือโคราชบ้านเรานั่นเอง การเดินทางของเรา มีสมาชิกทั้งหมด 8 คน โดยทริปนี้เราได้เพื่อนเป็นคนโคราชนำทางถึงสองคน เพราะฉะนั้นหายห่วงเรื่องที่พัก และเรื่องเที่ยว ทริปนี้ไม่มีหลงแน่นอนน ทริปนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่เราสอบเสร็จ เป็นทริปเร่งด่วน ตอนเช้าสอบเสร็จ ตอนค่ำเราก็เดินทางกันเลย Let is Go!
 
 

คืนที่ 1  19/05/2559  (เวลาโดยประมาณ 22.15 น.)

เราเริ่มต้นกันที่ สถานีขนส่งหมอชิต ชั้น 2 เราจะเดินทางไปกับ รถทัวร์ของแอร์โคราชพัฒนา อยู่จุดขายตั๋วที่52 มีรถออกทุกครึ่งชั่วโมง ราคาตั๋วอยู่ที่ 191 บาท แต่ๆๆๆๆ สามารถซื้อตั๋วไป-กลับได้ในราคาที่ถูกกว่านั่นก็คือ 361 บาท (ซึ่งเราเพิ่งรู้ตอนขากลับ T^T)

ได้ตั๋วมาแล้วว เราก็ไปเตรียมตัวขึ้นรถ เข้าห้องน้ำ หาไรทาน เตรียมของตุนไว้เยอะๆ จากนั้นก็ตรงไปขึ้นรถเลยย ชานชาลาที่ 77,79 โดยรถทัวร์ของแอร์โคราชพัฒนา คนไม่เยอะมาก รถใหม่ นั่งสบาย มีน้ำ และขนมแจกค่ะ

รถของเรา ออกเดินทางตอนสี่ทุ่มครึ่ง ถึงโคราชก็ตอนตีสองครึ่ง ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง โดยเราบอกพนักงานว่าลงที่เดอะมอลล์โคราช จากนั้นมีคุณอาของเพื่อนมารับ ก่อนจะเข้าที่พัก เราก็ต้องแวะหาอะไรรองท้องงง บอกก่อนเลยว่า เมืองโคราชตอนนี้เป็นอะไรที่เงียบมากก แต่เราก็ยังมี 7-11 เป็นเพื่อนคู่ใจ 555 และนับว่าเป็นโชคดีของเราที่เจอร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่หน้าเซเว่นพอดี จะรออะไรอ่ะ ไปทานนกันนนเลยยยย

  

ร้าน บะหมี่เกี๊ยว ติ๊กต๊อก อยู่หน้าร้าน 7-11 แห่งหนึ่งในโคราช (จำทางไม่ได้ ใครรู้ว่าอยู่แถวไหนบอกด้วย ^^) ร้านนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 17.00-03.00 น. ถ้าเราไปช้ากว่านี้ รับรองว่าอดรับประทานกันแน่นอน หลังจากรับบประทานกันเสร็จ  เราก็มุ่งเข้าสู่ที่พัก โดยคืนแรก เราจะพักกันที่ หมู่บ้าน “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ พาร์ค” ทางไปสวนสัตว์โคราชนั่นเอง


เช้าวันแรกที่ โคราช : 20/05/2559

เนื่องจากเมื่อคืนเราเดินทางกันมาเหน็ดเหนื่อย ทำให้สมาชิกเราหลายคน หลับสนิท สลบคาที่ กว่าจะตื่นกันก็เที่ยง เพราะฉะนั้น เรามาดูบรรยากาศรอบๆหมู่บ้านกันก่อนดีกว่า

โปรแกรมของเราวันนี้ คือ “ตะลุยเมืองโคราช” เริ่มต้นออกเดินทางจากหมู่บ้านด้วยรถสองแถวโคราชนั่นเอง มาโคราช เราก็ต้องไม่พลาด ส้มตำ ของดีถิ่นอีสาน  วันนี้เราขอแนะนำส้มตำร้าน “บ้านตำตำ” อยู่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เมนูแนะนำ คือ ตำถาด บอกเลยว่า แซ่บได้ใจจริงๆ อีกหนึ่งเมนูที่เราเพิ่งได้ลองกันก็คือ แกงเห็ดป่า เมนูนี้บอกเลยว่าอร่อยมาก มื้อนี้เราหมดกันไป 8xx บาท สั่งกันมาเยอะจริงๆ

หลังจากที่เราอิ่มสบายอยู่ท้องกันแล้วว  เราก็ไปหาของหวานรับประทานกันต่อ โดยจะนั่งสองแถวสาย8 บริเวณด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เพื่อไปยังร้าน “กาแฟ ฮูย่า” บรรยากาศร้านแบบสบายๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการนั่งพักผ่อน โดยมีที่นั่งทั้งด้านนอก และด้านใน

เรานั่งร้านกาแฟได้สักพัก เพื่อรอเวลาช่วงเย็นๆ ไปสักการะท้าวสุรนารี โดยเราเรียกรถตุ๊กตุ๊กจากหน้าร้านไป ตกคนละ 10 บาทค่ะ บริเวณด้านหลังอนุสาวรีน์ท้าวสุรนารี จะเป็น “ประตูชุมพล” ว่ากันว่าถ้าลอดครบ 3 ครั้งจะได้คบกับคนที่นี่นั่นเอง วันที่เราไปมีน้องๆมานั่งเล่นดนตรีด้วยนะคะ

หลังจากสักการะท้าวสุรนารีเสร็จ โปรแกรมของเราต่อไปก็คือ “สวนน้ำบุ่งตาหลั่วเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9” ที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่กว้างขวางมากค่ะ บรรยากาศดี วิวสวย มีให้อาหารปลา พายเรือคายัค ที่สำคัญมีจักรยานให้เช่าคันละ 20 บาทด้วยค่ะ น่าเสียดายมากที่วันที่เราไปกัน ฝนตกค่ะ ปั่นจักรยานหนีฝน อย่างกับปั่นมาราธอนเลยค่ะ 5555 นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีทีเดียว

ที่สุดท้ายที่เราอยากจะแนะนำสำหรับโปรแกรมวันแรกในตัวเมืองโคราช คือ “ตลาดเซฟวัน (SAVEONE)” ค่ะ ที่นี่เป็นตลาดนัด ตลาดขายของ ที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของโคราชค่ะ สามารถมาหาอาหารรับประทานหรือเดินช็อปปิ้งชิวๆ ได้ที่นี่ค่ะ (ที่นี่มี Top supermarket ด้วยนะคะ)

จบโปรแกรมวันแรกแล้ว ขอฝากภาพบรรยากาศตัวเมืองโคราชไว้นะคะ


เช้าวันที่ 2 : 21/05/59

วันนี้เราต้องตื่นกันตั้งแต่เช้าค่ะ เพราะเราจะไป “เขาใหญ่” และ “วังน้ำเขียวกัน” เริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่ 8.00 น. เลยค่ะ โดยการเดินทางของเราวันนี้ มีคุณอาของเพื่อนเป็นผู้ขับรถพาเที่ยวค่ะ เย่!!! เริ่มที่สถานที่แรกกันเลยค่ะ “ปาลิโอ เขาใหญ่  (Palio)” บอกเลยคนที่มาเขาใหญ่พลาดไม่ได้นะคะ ที่จะเก็บภาพจากที่นี่  ที่นี่มีการสร้างตึกเป็นสไตล์อิตาลีค่ะ เหมือนคุณเข้ามาอยู่ในเมืองๆหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร อีกทั้ง ที่นี่ยังมี ร้าน MK ด้วยนะคะ แต่เราขอแนะนำไอศกรีมผลไม้ค่ะ หน้าร้อนอย่างนี้ทานไอศกรีมให้ชื่นใจกันค่ะ

แวะถ่ายรูปที่ปาลิโอกันเสร็จแล้ว เราก็มุ่งขึ้นสู่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ค่ะ โดยจุดมุ่งหมายของเราก็คือ น้ำตกเหวสุวัต สำหรับค่าเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผู้ใหญ่ 40 บาทนะคะ แล้วก็มีราคายานพาหนะแยกอีกค่ะ บริเวณหน้าทางเข้าจะมีป้ายเขียนชัดเจน พอเราจ่ายเงินปุ๊ป เจ้าหน้าที่ก็จะให้บัตรมาค่ะ

ระยะทางที่ขึ้นเขา เพื่อไปน้ำตกเหวสุวัต นับว่าไกลมากค่ะ ทางคดเคี้ยวเยอะมาก ระหว่างทางจะพบอ่างเก็บน้ำเขาใหญ่ค่ะ อย่าลืมแวะลงไปถ่ายรูปกันก่อนนะคะ

จากนั้นก็ขับรถขึ้นมาเรื่อยๆค่ะ กว่าจะถึงน้ำตกเหวสุวัต ทำกันปวดหัวเลยทีเดียว แต่แล้วเราก็มาถึงค่ะ น้ำตกเหวสุวัต

ป้ายบอกว่าเลี้ยวซ้ายลงน้ำตกค่ะ เราก็เดินกันไปสักพัก มีจุดชมน้ำตกค่ะ มีชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ เราก็ถามกันค่ะว่า มีน้ำไหมคะ ลงไปจะเป็นน้ำตกหรอคะ และเขาก็ตอบเรากับมาว่า นี่ค่ะน้ำตก …..

อื้อหืออออออ อึ้งกันเลยสิคะ ใครจะมาน้ำตก แนะนำว่าอย่ามาช่วงหน้าแล้งเชียวนะคะ คือแทบจะไม่มีน้ำเลยค่ะ ถือว่าแล้งมาก เราก็ต้องกลับด้วยความช้ำใจ ขึ้นเขามา 27 กิโลแต่ไม่เป็นไรค่ะ ก่อนลงจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เราก็แวะจุดชมวิวจุดแรกที่เราผ่านขึ้นมาค่ะ จุดนี้ถ้าได้แวะถ่ายรูปจะพบว่าวิวสวยมากๆค่ะ เราได้มีโอกาสทักทายกับลิงด้วยนะคะ

กว่าจะลงจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กันได้ ก็บ่ายโมงแล้วค่ะ ท้องเริ่มหิวแล้วว เราก็ขับรถลงมาทางปาลิโอค่ะ แล้วก็จะพบกับร้าน “ก๋วยเตี๋ยววัดดง(มูลเหล็ก)” ลงมาไม่ไกลจากอุทยานมากค่ะ ที่นี่มีเมนูให้เลือกเยอะ อาหารอร่อย มาเขาใหญ่ต้องไม่พลาดนะคะ วันที่เราไปคนแน่นมากค่ะ อาหารจึงได้ช้านิดนึง แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ อร่อยให้อภัยได้ (ทีนี่มีไอศกรีมให้เลือกรับประทาน ทั้งแบบแท่งและแบบถ้วยด้วยนะคะ)

เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วว เราก็ขับรถย้อนขึ้นมาทางอุทยานค่ะ ก็ถึงทางเข้าเราจะพบทางแยกเลี้ยวซ้าย มุ่งหน้าสู่วังน้ำเขียวค่ะ ขับมาได้ไม่นาน เราจะพบหมู่บ้านสไตล์อิตาลีที่ชื่อว่า TOSCANA ค่ะ

ลุยเข้าไปถ่ายรูปกันเลย โดยเราจะบอกพี่ยามว่า มาทานอาหารค่ะ อิอิ TOSCANA เป็นที่พักสไตล์อิตาลีค่ะ แต่ทีนี่ก็มีโซนโรงแรม ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ เปิดให้บริการนะคะ ที่สำคัญมีสนามเด็กเล่น ทั้งสไลเดอร์ ชิงช้า โหนตัว และมีตารางหมากรุกขนาดใหญ่ให้เล่นด้วยค่ะ

หลังจากถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่วังน้ำเขียวกันค่ะ โดยจุดมุ่งหมายแรกคือ สวนมัลเบอร์รี่ ชื่อว่า “สวนแม่หม่อน” ที่นี่สามารถเก็บลูกมัลเบอร์รี่รับประทานได้เลยนะคะ  แต่ตอนที่เราไปก็บ่ายๆเย็นๆแล้วค่ะ เลยเหลือให้เราลองชิมแค่นิดเดียว พร้อมๆกับน้ำมัลเบอร์รี่ อร่อยจริงๆค่ะ เราซื้อกลับมากัยคนละขวดสองขวด ทั้งขวดใหญ่ และขวดเล็กค่ะ

สถานที่ต่อไปที่เราจะไปคือ ร้าน 22 องศา ร้านกาแฟที่วังน้ำเขียวค่ะ ที่นี่เป็นร้านกาแฟนั่งชิวสบายๆ บรรยากาศดีมากๆค่ะ ภายในร้านตกแต่งอย่างน่ารัก มีของหวาน และเครื่องดื่มให้เลือกรับประทานอย่างหลากหลาย เราตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์วันเกิดเพื่อนกันที่นี่ค่ะโดยชุดที่เราสั่งคือ ชุดช็อกโกแลตลาวาค่ะ โดยชุดนี้ราคาจะอยู่ที่ 139 บาทค่ะ 

เราจบทริปเขาใหญ่ วังน้ำเขียวกันที่นี่ค่ะ เพราะต่อไปเราก็มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองโคราชเพื่อไปทานบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างกัน โดยร้านที่เราเลือกคือ ร้านไจโกะ ค่ะร้านนี้อยู่ตรงข้ามกับชาบูนัมเบอวัน ราคาอยู่ที่หัวละ 199 ให้กุ้งมาคนละ 4 ตัวค่ะ (ถ้ารวมบุฟเฟ่ต์กุ้ง 259 ค่ะ) เป็นกุ้งแม่น้ำตัวไม่ใหญ่มาก นอกนั้น อาหาร เครื่องดื่ม ไม่อั้น ไม่จำกัดเวลาด้วยค่ะ 

อาหารที่นี่มีให้เลือกเยอะนะคะ ทั้งเครื่องดื่ม เนื้อย่าง ไอศกรีม (แต่มีข้อควรระวังค่ะ อย่านำเบคอนลงเตามากเกินไป ไม่งั้นไฟจะลุกได้ค่ะ ^^)


เช้าวันที่ 3 : 22/05/59

เช้าวันสุดท้ายที่โคราชค่ะ วันนี้เป็นวันที่เราเดินทางกลับแล้ว เรามาแวะทานอาหารเวียดนามกันก่อนกลับค่ะ โดยร้านจะอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี แต่เสียดายที่เราไม่ได้ถ่ายรูปกลับมาค่ะ เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เราก็นั่งตุ๊กตุ๊ก โดยบอกเขาว่าไป บขสเก่านะคะ  แล้วก็เป็นการสิ้นสุดการทริปนี้ของเราค่ะ

ลาก่อนโคราชช… แล้วพบกันใหม่ทริปหน้านะคะ

 

ขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกคำแนะนำ ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านการเดินทางของเรานะคะ
ขอบคุณทริปการเดินทางและข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวนักเดินทางจากสมาชิกพันทิป
คุณสมาชิกหมายเลข 1332286

 


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ