tripgether.com

อัปเดตมุมใหม่ๆ กิน เที่ยว พัก มุมถ่ายรูปสุดชิคที่ ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ

22,241 ครั้ง
23 ส.ค. 2560

ชะอำ เป็นเมืองท่องเที่ยวพักผ่อนใกล้กรุงเทพฯ ที่เราเก็บกระเป๋าเที่ยวได้ตั้งแต่วัยเฟชรชี่ถึงวัยทำงาน และตามประสามนุษย์เงินเดือนที่มีเวลาน้อย อยากเที่ยวพักผ่อนใกล้ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะต้องคิดถึงชะอำเป็นอันดับแรก และที่สำคัญมาเที่ยวทั้งทีมันต้องได้พักผ่อนแบบเต็มที่ ทั้งกิน เล่น ช้อปปิ้ง และได้รูปอัพลงโซเซียลกันรัวๆ ทริปนี้เราเลยปักหมุดมาที่ “ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ” อาณาจักรแห่งความสนุก มาที่เดียวได้ครบทุกฟังชั่นของคนมีเวลาน้อยอย่างเราๆ ไม่ว่าจะเป็นโซน Santorini Park ‘Stay’ ที่มาพร้อมกับห้องพักสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน และยังมีมุมเติมความหวานกับเมนูอร่อยๆ ที่ Miffy’s Garden Cafe และเด็ดสุดสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปที่โซน Alive Museum เอาเป็นว่าจะครบแค่ไหนตามไปส่องกันในรีวิวนี้เลย!!

ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ เป็นที่เที่ยวและที่พักผ่อนสุดฮิต แถมยังเดินทางสะดวกสุดๆ เพราะตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ขับรถอยู่บนถนนจะมองเห็นชิงช้าสวรรค์ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คที่คุณต้องมองตามอย่างแน่นอน และเมื่อเข้ามาภายในพื้นที่ของซานโตรินี พาร์ค ชะอำความรู้สึกของคุณจะเหมือนหลุดไปอยู่ในเมืองซานโตรินี ประเทศกรีซยังไงยังงั้น! และเมื่อมาถึงแล้วเราขอเช็คอินเข้าห้องพักเก็บกระเป๋ากันให้เรียบร้อยกันก่อนที่ Santorini Park ‘Stay’

บริเวณโซนล็อบบี้

The Common Room เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง

บรรยากาศภายใน Santorini Park ‘Stay’

ภายในห้องพักก็ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้ง ทีวี มินิบาร์ เครื่องปรับอากาศ ไดร์เป่าผม Wifi ฯลฯ

ออกไปลุยกันต่อ… ตอนนี้ทางซานโตรินีเพิ่งได้ปรับโซนใหม่อย่าง Alive Museum พิพิธภัณฑ์สามมิติสุดล้ำที่ได้ลิขสิทธิ์จากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีจุดถ่ายรูปสามมิติมากกว่า 30 แบบด้วยกัน ค่าเข้าชมคนละ 240 บาทเท่านั้นสามารถโพสต์ท่าถ่ายรูปได้เรื่อยๆ แบบไม่จำกัดเวลาเข้าชม…

เริ่มต้นด้วยมุมศิลปินให้เราได้โพสต์ท่าเป็นนางแบบเก๋ๆ

ต่อด้วยภาพวาดโมนาลิซาสามมิติ ผลงานระดับโลกของเลโอนาร์โด ดา วินชี

ปรับโหมดมาเป็นนักกีฬากันสักหน่อย

ฝันจะเป็นนักเต้นบัลเล่ต์มานานงานนี้ต้องจัดสักรูป

โพสต์ท่าเทพๆ ฉีกขา 180 องศาไปเลย

อยากได้ภาพขี่ม้าเท่ๆ มุมนี้ก็มีให้จัดพร้อมฉากสวยๆ

ฟินๆ ในอ้อมแขนของซุปเปอร์แมน

หนีงูยักษ์กับมุมถ่ายภาพเท่ๆ

เบียร์แก้วยักษ์ที่สายเมาต้องยอมใจ

หรือจะโพสต์ท่าแกล้งๆ หยอกๆ แบบนี้ก็เก๋ดีนะเออ

ภาพคู่กับครอบครัวสักรูป

โพสต์ท่ากันเพลินจนพลังงานเริ่มลด เลยเดินมาหาอะไรเย็นๆ หวานๆ กินที่ Miffy’s Garden Cafe ซึ่งเป็นคาเฟ่น่ารักๆ สไตล์มินิมอลที่เน้นการตกแต่งในโทนสีขาว และใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนที่ให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ตกแต่งตามมุมต่างๆ ด้วยโคมไฟ หมอนอิงมิฟฟี่ และยังมีมุมสีเขียวที่ช่วยให้เราได้รู้สึกสบายตาอีกด้วย

มุมเคาน์เตอร์บาร์ชมบรรยากาศด้านนอก

โดยมีเมนูแนะนำเป็น Miffy Fruity Pancake เสิร์ฟด้วยแพนเค้กวนิลา กินคู่กับวิปครีมที่เพิ่มความสดชื่นด้วยผลไม้สดหลายชนิดทั้งกล้วย กีวี สตรอว์เบอร์รี่ มะม่วงเพิ่มความหอมและหวานยิ่งขึ้นด้วยเมเปิ้ลไซรัปและซอสสตรอว์เบอร์รี่

ต่อด้วย Miffy Budou cheese pie เมนูชีสพายที่ให้รสเปรี้ยวๆ ของบลูเบอร์รี่ตัดกับรสเค็มของชีสได้อย่างลงตัว เพิ่มความกรุบกรอบด้วยตัวแครกเกอร์ที่อัดมาด้านล่างกินพร้อมกันอร่อยลงตัวทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มชื่นใจอย่าง Miffy Iced Lemon tea ชามะนาวที่เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำแข็งรูปมิฟฟี่ ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ดีทีเดียวหลังจากทำกิจกรรมจากเครื่องเล่นต่างๆ มาเหนื่อยๆ

ต่อด้วยเมนูใหม่ที่แนะนำว่าต้องลอง Thai tea Kakigori เมนูบิงซูชาไทยที่ยังคงคอนเซ็ปต์ความน่ารักสไตล์มิฟฟี่ เสิร์ฟมาพร้อมท็อปปิ้งให้เราได้ใส่เพิ่มตามสไตล์ไม่ว่าจะเป็นซอสชาไทย ซอสนมข้นหวาน และเม็ดไข่มุก โรยหน้าด้วยแผ่นอัลมอลด์สไลด์ที่เพิ่มความมันระหว่างรับประทาน

และเมนสุดท้ายที่ห้ามพลาด My D.I.Y. Pancake เซ็ตเมนูที่จะให้คุณได้สนุกไปกับการทำแพนเค้กในสไตล์ของคุณ ที่เหมาะสำหรับทุกวัยเพราะนอกจากจะได้สร้างสรรค์ไอเดียในมื้อนี้แล้วคุณยังได้กินเมนูแพนเค้กอร่อยๆ ที่มาพร้อมกับท็อปปิ้งแน่นๆ 6 อย่างที่คุณสามารถเลือกใส่ได้ตามความชอบไม่ว่าจะเป็นฝอยทอง กล้วย สตรอว์เบอร์รี่ เม็ดช็อกโกแลตชิพ ไอศกรีม ซอสช็อกโกแลต และที่พิเศษสุดๆ สั่งเมนูนี้คุณจะได้ตุ๊กตามิฟฟี่น่ารักๆ กลับบ้านด้วยนะจ๊ะ

เริ่มลงมือวาดมิฟฟี่แพนเค้กกันเลย

แพนเค้กสุกแล้วเราก็โรยท็อปปิ้งได้ตามชอบ

อิ่มอร่อยไปกับเมนูหวานๆ กันเรียบร้อยแล้วเราก็ออกไปลุยเครื่องเล่นกันต่อ ซึ่งที่นี่ก็มีให้เราได้สนุกกันอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นสายชิลล์หรือสายลุยมีให้เราได้เล่นกันจนลืมเวลาไปเลย…

ม้าหมุน

บอลลูนน้ำ

และสำหรับคนที่พักที่นี่ตอนเช้ายังมีเมนูอร่อยๆ ให้เราได้อิ่มกันต่อ โดยห้องอาหารจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 7.30 – 10.00 น.

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็เดินเล่น ช้อปปิ้ง และหามุมถ่ายรูปโพสต์ท่ากันแบบเพลินๆ จนถึงเวลาเช็คเอ้าท์ในช่วงเที่ยง เรียกว่าตั้งแต่เช็คอินที่ “ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ” จนถึงวันเช็คเอ้าท์เรายังไม่หยุดกดชัตเตอร์กันเลย ใครที่กำลังมองหาที่พัก พร้อมที่เที่ยว และที่กิน แบบเช็คอินที่เดียวได้ครบทุกฟังชั่นไม่ต้องเดินทางไปหลายๆ จุดจนเหนื่อย “ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ” ตอบโจทย์ในข้อนี้มากๆ และที่สำคัญยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วย ต่อให้มีวันหยุดแค่วันเดียวคุณก็มาเที่ยวและพักผ่อนที่นี่ได้แบบชิลล์ๆ…

Location: 555 ม.3 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
Open-Close: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.30-18.30 น., วันเสาร์-อาทิตย์ 09.00-18.30 น.
Phone: 081 930 8967
Website: www.santoriniparkchaam.com
Facebook: Santorini Park Cha-Am

 


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ