Home Isolation ติดเชื้อโควิด-19 ต้องกักตัวที่บ้านทำอย่างไร?
3,925 ครั้ง
20 ก.ค. 2564
3,925 ครั้ง
20 ก.ค. 2564
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยว่า เพื่อเป็นการควบคุมป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร จึงได้ร่วมกับเครือข่ายด้านสาธารณะสุขและภาคีเครือข่ายอื่นๆ เร่งเพิ่มจำนวนศูนย์พักคอย (Community Isolation) ให้กระจายครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว เพื่อนำส่งผู้ติดเชื้อให้เข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาลเบื้องต้นให้เร็วที่สุด เป็นการแก้ไขปัญหาผู้ป่วยตกค้างและบรรเทาปัญหาการแพร่กระจายเชื้อให้กับคนในครอบครัวและชุมชน
กรุงเทพมหานคร เปิดแนวทางดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยให้มีการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) เบื้องต้นเป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ให้โทรแจ้งสายด่วนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 1330 กด 14 (โทรได้ตลอด 24 ชม.) หรือแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปสอบสวนโรค หรือประเมินอาการเบื้องต้น และสามารถกรอกข้อมูล/ลงทะเบียนได้ที่นี่ https://crmsup.nhso.go.th/
ผู้ป่วยต้องมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ ดังนี้
ในขณะที่แยกกักตัวที่บ้านจะได้รับ
ส่งให้ ณ ที่พัก มีแพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุข ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ผ่านทางวิดีโอคอล หรือโทรศัพท์วันละ 2 ครั้ง เป็นประจำทุกวัน จนครบระยะเวลา 14 วัน
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการมากขึ้น (เปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีแดง) ให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ตามช่องทางที่กำหนด หรือโทร 1330 เพื่อให้ทีมแพทย์ประเมินแนวทางการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ที่สำคัญ คือ ต้องสังเกตอาการของตัวเอง วัดอุณหภูมิทุกวัน หากอาการแย่ลง เช่น มีอาการหอบ เหนื่อย มีไข้สูงขึ้น ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ให้รีบติดต่อ รพ. ที่รักษาอยู่ หรือโทร 1330 ให้ทางรพ. ส่งรถไปรับเพื่อนำส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ. แต่หากมีเหตุจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปยังโรงพยาบาลด้วยตนเอง แนะนำให้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ไม่ใช้รถสาธารณะ และต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หากมีผู้ร่วมยานพาหนะไปด้วยให้เปิดหน้าต่างรถเพื่อเพิ่มการระบายอากาศ และเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ต้องเดินทางไปด้วย
นอกจากนี้ผู้ป่วยรายใหม่ที่เป็นเคสสีเขียว จะสามารถแยกกักตัวแบบ Home Isolation ได้แล้ว ผู้ป่วยที่เข้าพัก ณ โรงพยาบาลสนาม Hospitel และโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษามาแล้ว 7 – 10 วัน สามารถกลับบ้าน แล้วแยกกักรักษาตัวตามแนวทางของ Home Isolation ได้เช่นกัน แต่ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์