2 วัน 1 คืน ฉะเชิงเทรา นอนสบาย อิ่มพุง อิ่มบุญ สัมผัสความสไลว์ไลฟ์แบบไม่ไกลเมืองกรุง
40,663 ครั้ง
11 ธ.ค. 2561
40,663 ครั้ง
11 ธ.ค. 2561
ฉะเชิงเทรา หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ เมืองแปดริ้ว จังหวัดที่มีบรรยากาศแบบบ้านๆ และธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูณ์ แบบที่หาได้ใกล้ๆ เมืองกรุงฯ ที่นี่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม มีทั้งสวนผลไม้และเป็นเมืองเก่าแก่ที่อยู่คู่กับแม่น้ำบางปะกง หากพูดถึงฉะเชิงเทราก็คงต้องนึกถึงวัดหลวงพ่อโสธร วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองแปดริ้ว และวิถีชีวิตสงบๆ ริมแม่น้ำบางปะกงที่ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตร่วมกับสายน้ำเป็นภาพที่หาชมจากที่ไหนไม่ได้อย่างแน่นอน แถมยังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ขับรถไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็ถึงจังหวัดเล็กๆ ที่มากไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ลองวางแพลนมาเที่ยวที่นี่ให้ได้สักครั้ง รับรองว่าประทับใจอย่างแน่นอน
ทำงานมาทั้งสัปดาห์ในที่สุดก็ถึงวันหยุดสักที เย้! ได้ยินแบบนี้เราก็ไม่รอช้าที่จะรีบวางแพลนหาที่เที่ยว แต่มีวันหยุดแค่วัน เสาร์-อาทิตย์ จะไปเที่ยวไกลๆ ก็คงมีเวลาไม่พอ เราเลยวางแผนหาที่เที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ ทริปนี้เน้นกิน เน้นพักผ่อน เน้นเที่ยว เช้าวันเสาร์เราออกเดินทางออกจากกรุงเทพฯ กันในช่วงสายๆ เพราะจากกรุงเทพฯ ไปฉะเชิงเทราใช้เวลาเดินทางเพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง
เดินทางมาถึงเมืองแปดริ้วร่างกายก็อยากดื่มกาแฟเย็นๆ รสชาติดีๆ เราเลยรีบปักหมุดแล้วรีบขับรถตรงดิ่งมายังร้าน Rosetta Padriew (โรเซตต้า แปดริ้ว) คาเฟ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติและคุณภาพของกาแฟของเมืองแปดริ้ว ที่การันตรีด้วยรางวัลมากมาย ใครที่เป็นคอกาแฟต้องห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด
ภายในร้านตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียล ลอฟต์ แบบคูลๆ ผสมกับสไตล์เรโทรยิ่งทำให้ในตัวร้านดูเก๋มากขึ้น ที่นั่งภายในร้านก็มีทั้งมุมบาร์และมุมโซฟาที่ให้อารมณ์แตกต่างกัน
วันนี้เราเลยก็จัดเมนู ลาเต้ร้อน และ Black Sherbet ที่เป็นเมนูใหม่ของทางร้าน หรือใครที่ชอบกาแฟดริปหอมที่นี่ก็มีบารีสต้าทำให้ได้นะ
มาฉะเชิงเทราทั้งทีก็ต้องห้ามพลาดที่จะไปไหว้หลวงพ่อโสธรที่ วัดโสธรวรารามวรวิหาร วัดที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว ที่โดดเด่นด้วยอุโบสถหลังใหญ่ ที่มีหลังคายอดแหลมสูง ภายในประดิษฐาน หลวงพ่อโสธร องค์จริงไว้ภายใน
หรือใครที่อยากจุดธูปขอพรสามารถมากราบไหว้หลวงพ่อโสธรองค์จำลองได้ที่อุโบสถข้างๆ กัน
ไหว้พระอิ่มบุญกันไปแล้ว ก็ต้องไปอิ่มพุงกันต่อ เวลาก็ล่วงเลยมาถึงช่วงเที่ยววันพอดี เราเลยรีบปักหมุดไปกันต่อที่ ท่าน้ำ คาเฟ่ คาเฟ่ริมน้ำบางปะกงบรรยากาศดีที่เป็นอีกหนึ่งร้านที่ต้องห้ามพลาดมาเช็คอินกันให้ได้
ภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจที่เน้นของตกแต่งน่ารักๆ และที่สำคัญเน้นบรรยากาศริมแม่น้ำ สำหรับที่นั่งก็มีให้เลือกทั้ง โซนห้องแอร์ภายในร้าน และ โซนที่นั่งริมน้ำ ที่จะพาทุกคนไปรับลมชิลล์ๆ พร้อมกับชมวิวแม่น้ำฟินๆ
ที่นี่มีทั้งเมนูเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และเมนูอาหารไทยแนวฟิวส์ชั่นพู้ด เราเลยขอจัดเต็มแบบเน้นๆ กันที่ร้านนี่เลย วันนี้เราสั่ง สปาเก็ตตี้จ้าวสมุทร, ข้าวไข่ข้นกุ้งต้มยำ, Dark Kyoto Matcha, Midnight Coconut Cocoa, Elder Flower Honey Soda, สโคน, เค้กมะพร้าวอ่อนไอศครีมกระทิไข่แข็ง
พอกินเสร็จแน่นท้องจนแทบจะเดินไม่ไหว เลยต้องรีบไปเช็คอินที่พักหาที่นอนเล่นกันสักหน่อย วันนี้เรามานอนกันที่ เรือนลำพู โฮมสเตย์ ที่พักบรรยากาศดีริมแม่น้ำบางปะกงที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติของป่าชายเลน และมีต้นลำพูขนาดใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น
ตัวบ้านพักทุกหลังจะถูกสร้างขึ้นเหนือน้ำ เพราะแม่น้ำบางปะกงจะ ขึ้น-ลง ตามธรรมชาติถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่หาไม่ได้จากที่อื่นอย่างแน่นอน
วันนี้เรานอนกันที่ เรือนลำพู1 เรือนไม้ที่โดดเด่นด้วยหลังคามุงจากทรงแหลม และมีระเบียงอยู่รอบๆ ตัวบ้านพัก
ภายในตกแต่งด้วยวัสดุจากธรรมชาติยิ่งรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติสุดๆ และมีเตียงนอนสำหรับนอนสองคน พื้นที่ภายในห้องกว้างขวางแถมมีประตูกระจกบนใหญ่ที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้จากในห้อง
หน้าบ้านมีศาลาริมน้ำให้ขึ้นไปนั่งชิลล์ๆ อีกด้วย
เราเลยแอบเก็บภาพบรรยากาศบ้านหลังอื่นๆ มาฝากเพื่อนๆ ด้วย ที่นี่มีทั้งบ้านสำหรับพัก 2 คน จนไปถึงบ้านหลังใหญ่ที่สามารถเข้าพักได้ 6-8 คนเหมาะสำหรับครอบครัวหรือแก๊งค์เพื่อนสุดๆ
ที่พักบรรยากาศดีๆ มีมุมพักผ่อนให้หลากหลายมุม เราเลยเดินถ่ายรูปกันจนเพลิน มีทั้งมุมท่าน้ำให้นั่งเอาเท้าจุ่มน้ำชิลล์ๆ หรือจะมานั่งรับลมเย็นๆ ที่ศาลาหน้าบ้านก็ได้ฟีลไปอีกแบบ
เผลอแป้บเดียว..พระอาทิตย์ก็เริ่มตกดิน เหมือนเป็นสัญญานว่าท้องจะต้องร้องอีกแน่ๆ เราเลยรีบหาร้านอาหารอร่อยๆ ทันที และแล้วเราก็เจอร้าน นั่งจ้อ ริมน้ำบางปะกง ร้านอาหารอร่อยบรรยากาศดีติดริมแม่น้ำบางประกง ที่ตกแต่งร้านให้กลมกลืนกับธรรมชาติ พร้อมกับประดับด้วยโคมไฟที่ยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศให้ดีสุดๆ และอีกหนึ่งไฮไลท์คือรอบๆ ตัวร้านจะตกแต่งด้วยผลงานศิลปะยิ่งทำให้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศ
เราเลยสั่งเมนูแนะนำของทางร้านมาลองกินกันสักหน่อย ทั้งเมนู ปลากระพงทอดน้ำปลา, ต้มยำปลากระพง, กุ้งราดซอสมะขาม แต่ละเมนูรับลองเลยว่าแซ่บถูกปากถูกใจอย่างแน่นอน
บรรยากาศรอบๆ ตัวร้านมีทั้งที่นั่ง โซนระเบียงห้อยขา โซนริมน้ำ และยังมีที่โซนชั้นบนไว้รับลมเย็นๆ พร้อมฟังดนตรีสดจากทางร้าน บอกได้เลยว่าร้าน นั่งจ้อ เป็นร้านอาหารบรรยากาศดี รสชาติอร่อยที่ช่วยปิดทริปวันแรกให้เป็นทริปที่แสนประทับใจ
เช้าวันอาทิตย์ วันหยุดสุดสัปดาห์ก่อนจะไปลุยงานต่อเราเลยรีบตื่นนอนแต่เช้า เพราะอีกหนึ่งไฮไลท์ของ เรือนลำพู โฮมสเตย์ คือวิวพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า พร้อมกับกินอาหารเช้า เซตเบรคฟาสต์ จากทางที่พัก
และเช็คเอ้าท์ออกจาก เรือนลำพู โฮมสเตย์ ช่วงสายๆ และไปต่อกันที่ ท่าข้าม คาเฟ่ อีกหนึ่งคาเฟ่ที่โดดเด่นเรื่องเมนูของหวานที่มีรสชาติระดับ เลอ การ์ดอง เบลอ ตัวร้านตกแต่งน่ารักๆ และมีหลากหลายโซนให้เลือกทั้ง โซนในตัวร้านที่มีที่นั่งให้เลือกหลากหลาย ห้อง Tea Room ที่ตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจผสมกับความเป็นมินิมอล และห้อง Music Room ห้องที่ตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟต์ตัดด้วยเหล็กสีดำแบบคูลๆ
อย่างที่บอกทริปนี้เราเน้นกิน เราเลยจัดหนักอีกครั้งกันที่ร้านนี้ วันนี้เราสั่งเมนูของหวานอย่าง เค้กCaramel tripple chocolate, แพนเค้ก ซุฟเฟล, ช็อคโกบานาน่า วาฟเฟิล และเมนูของคาวรสชาติดี ผัดไทกุ้งสด, สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า, สปาเก็ตตี้ผัดเผ็ดไส้กรอก และตามด้วยเมนูเครื่องดื่ม Espresso Yusu, Brownie Choco Freppe
อิ่มจนแน่นท้องกับท่าข้ามคาเฟ่ไปแล้ว เราก็ต้องหาที่เดินย่อยกันสักหน่อย เราเลยมุ่งหน้าไปกันต่อที่ วัดสมานรัตนาราม วัดที่มีพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ภายในวัดนอกจากจะมีองค์พระพิฆเนศแล้วยังมีพระธาตุอินแขวนจำลอง วิหารหลวงพ่อองค์ดำ ไว้ให้กราบไหว้ขอพรกันอีกด้วย
และมีอีกหนึ่งคาเฟ่ที่อยู่ไม่ไกลจากวัดสมานรัตนาราม จะไม่แวะก็ยังไงๆ อยู่ เราเลยรีบเปิดแมพพร้อมปักหมุดไปที่ร้าน River Breeze Cafe คาเฟ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ตกแต่งร้านด้วยสไตล์ บีช เฮ้าส์ ให้อารมณ์บ้านสีขาวเก๋ๆ ริมทะเลถึงแม้จะไม่ได้อยู่ริมทะเลแต่ก็เข้ากับบรรยากาศของแม่น้ำบางประกงสุดๆ
ไม่รอช้า รีบสั่ง Tropical Rain สมูทตี้ผลไม้ที่ผสมผสานระหว่าง กล้วย สัปรดและมะม่วง เมนูแนะนำของทางร้านทันที และไม่พลาดที่จะยกมาดื่มที่ระเบียงริมน้ำของทางร้านที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์ของ River Breeze Cafe เลยก็ว่าได้
และอีกหนึ่งวัดชื่อดังของจังหวัดฉะเชิงเทราที่มีเจดีย์สีทองตั้งเด่นเห็นมาแต่ไกล และมีอุทยานพิฆเนศที่มีพระพิฆเนศปางประทานพรองค์ใหญ่อยู่ด้วยนั่นก็คือ วัดโพรงอากาศ ตัววัดยิ่งใหญ่และสวยงามมากๆ บรรยากาศภายในวัดก็ร่มรื่นและเงียบสงบสุดๆ เป็นอีกหนึ่งวัดห้ามพลาดถ้ามาเที่ยวฉะเชิงเทราแล้วลองแวะเข้ามาขอพรกันสักครั้ง
ก่อนกลับกรุงเทพฯ เราเลยไม่พลาดที่จะแวะไปอีกหนึ่งคาเฟ่เป็นการปิดท้ายทริปฉะเชิงเทรา นาวา เฮ้าส์ คาเฟ่ คาเฟ่ริมน้ำบางปะกงสไตล์มินิมอลที่มีที่นั่งให้เลือกทั้งโซนห้องแอร์ในตัวร้านที่มีกระจกบานใหญ่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ และโซนริมน้ำรับลมเย็นๆ จากธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
สตอว์เบอร์รี่อิตาเลียนโซดา รสชาติเข้มข้นดื่มแล้วสดชื่นสุดๆ นาวา เฮ้าส์ คาเฟ่ ถือว่าเป็นร้านปิดท้ายทริปที่น่าประทับใจสุดๆ
อย่างที่บอกว่าทริปนี้เป็นทริปที่เราเน้นกิน เน้นเที่ยววัด เราเลยจัดเต็มไปด้วยร้านอร่อยๆ อิ่มพุงและวัดสวยๆ อิ่มบุญ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็สามารถเดินทางมาเที่ยวได้แบบชิลล์ๆ ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือเมืองแปดริ้วแห่งนี้ จังหวัดที่มีธรรมชาติดีๆ อาหารอร่อยๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ลองหนีความวุ่นวายในเมืองกรุงมาใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์กันที่นี่กันได้ ปล่อยให้เวลาไหลไปอย่างช้าๆ กับแม่น้ำบางปะกง รับรองเลยว่าเหมือนได้กลับมาชาร์จพลังให้เต็มร้อยพร้อมกับไปลุยงานต่ออย่างแน่นอน