One Day Trip เที่ยวเขาใหญ่ เติมความเฟรช เช็คอินกินร้านเด็ด
1,062 ครั้ง
21 มี.ค. 2567
1,062 ครั้ง
21 มี.ค. 2567
เขาใหญ่ สถานที่ที่เป็นมากกว่าที่พักผ่อนทางธรรมชาติ เพราะนอกเหนือจากพื้นที่อุทยานที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสุดกรีนแล้ว บริเวณรอบๆ ของอุทยานฯ ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ รวมทั้งโลเคชั่นสวยๆ อีกมากมายให้ได้ไปเช็คอินกัน วันนี้เรามีแพลนทริป One Day Trip เที่ยวเขาใหญ่ เติมความเฟรช เช็คอินกินร้านเด็ด มาฝากกันให้ทุกคนได้ไปตามด้วยนะ
มาเขาใหญ่ เราจะพลาดการมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ยังไง เพราะโลเคชั่นแรกของเราก็คือที่นี่ ซึ่งเราจะตะลุยเดินสายเที่ยวเก็บจุดเช็คอินธรรมชาติจุดต่างๆ ในอุทยานฯ เขาใหญ่กันก่อน ซึ่งค่าเข้าอุทยานอยู่ที่คนละ 40 บาท และค่ายานพาหนะ 30 บาท/คัน (แนะนำให้เตรียมเงินสดมาจะสะดวกที่สุด)
จุดแรกในอุทยานที่ไม่แวะไม่ได้เลยก็คือ จุดชมวิวกม. 30 ซึ่งเป็นทางผ่านเข้าไปสู่จุดต่างๆ ภายในอุทยาน โดยจุดนี้จะมีที่จอดรถให้บริการพร้อม ไฮไลท์ของจุดชมวิว กม. 30 คือเป็นลานกว้างที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาสลับซับซ้อนได้แบบชัดเจนและพาโนรามา อีกทั้งยังมีสัญลักษณ์ของยูเนสโก้ตั้งอยู่อีกด้วย
ด้วยความที่บริเวณจุดชมวิว กม 30 เป็นพื้นที่กว้างจึงเหมาะกับการใช้เป็นจุดนั่งพักที่วิวสวยสุดๆ แถมยังมีลมเย็นๆ พัดมาอยู่ตลอด ชิลล์มากๆ บอกเลย แถมยังถ่ายรูปสวยอีกด้วย
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, ที่เที่ยวเขาใหญ่
ถัดเข้ามาด้านใน เป็นอ่างเก็บน้ำสายศร โลเคชั่นฟีลดีถ่ายรูปสวยที่มาพร้อมกับบรรยากาศแบบต่างประเทศ โดยอ่างเก็บน้ำสายศรเป็นอ่างเก็บน้ำที่ไม่กว้างมาก บริเวณพื้นที่รอบๆ เป็นลานหญ้ากว้าง พร้อมกับแนวป่าที่อยู่อีกด้าน
มุมถ่ายรูปที่เป็นที่นิยมและเรียกได้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ตามมาจากในโซเชียลก็คือมุมต้นไม้สีขาวริมอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ยืนต้นตายเหลือเพียงกิ่ง ด้านล่างที่โคนต้นไม้เป็นก้อนหินใหญ่ ไม่ว่าจะยืนหรือนั่งก็ถ่ายรูปออกมาสวยมากๆ แถมยังมีวิวผืนน้ำและแนวป่าเป็นฉากหลังน่ารักๆ อีกด้วย
นอกจากมุมต้นไม้แล้ว ด้านข้างของอ่างเก็บน้ำยังมีทางเดินไม้ พร้อมกับมุมที่นั่งชมวิวที่ออกแบบมาเป็นรูปหัวใจ ให้นั่งพักพร้อมกับชมวิวปล่อยใจ แถมยังใช้เป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ อีกมุมได้เลย
อ่างเก็บน้ำสายศร, ที่เที่ยวเขาใหญ่
มาเที่ยวกันต่อที่ น้ำตกเหวสุวัต หนึ่งในน้ำตกที่สวยงามที่อยู่ภายในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงแล้วสามารถจอดรถและแวะเข้าห้องน้ำ รวมทั้งนั่งพักกินข้าวก่อนเดินลงที่น้ำตกที่ฝั่งตรงข้ามได้เลย จากลานจอดรถ ต้องเดินลงเนินเพื่อเข้าไปยังน้ำตก
ใช้เวลาจากด้านบนลงมาด้านล่างประมาณ 5 – 10 นาที ก็จะพบกับเวิ้งน้ำที่มีน้ำตกไหลจากหน้าผาลงมาด้านล่าง ด้วยความที่เรามาในช่วงหน้าร้อน เลยทำให้ปริมาณของน้ำตกมีไม่มาก แต่ก็ยังคงความชุ่มฉ่ำและเย็นสบายแบบสุดๆ รอบๆ ของพื้นที่น้ำตกจะเต็มไปด้วยแนวหินน้อยใหญ่ที่ตั้งเรียงรายอยู่ สามารถใช้เป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ หรือจะใช้เป็นเก้าอี้ธรรมชาตินั่งพักสบายๆ ฟังเสียงน้ำตกได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถเดินหามุมถ่ายรูปหรือมุมที่นั่งพักผ่อนได้แบบสบายๆ แต่ด้วยความที่มีก้อนหินใหญ่สลับกับเล็ก ต่างระดับกัน อาจจะต้องอาศัยความระมัดระวังกันด้วยนะ
น้ำตกเหวสุวัต, ที่เที่ยวเขาใหญ่
ก่อนออกจากพื้นที่อุทยานฯ เราแวะมาที่ หอดูสัตว์หนองผักชี ซึ่งตั้งอยู่ในเส้นทางเดียวกันกับอ่างเก็บน้ำสายศร เป็นหอดูสัตว์ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและความเงียบสงบอีกทั้งยังเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีลักษณะภูมิประเทศแบบทุ่งหญ้าสะวันนาอีกด้วย รวมระยะทางจากด้านหน้าที่เป็นลานจอดรถเข้าไปถึงตัวหอดูสัตว์ เป็นระยะทาง 900 เมตร ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาที
ตลอดสองฝั่งทางเดินเป็นเนินเล็กๆ สลับกัน และมีทุ่งหญ้าขึ้นอยู่ แอบกระซิบว่าถ้าใครอยากได้รูปสวยๆ ก็สามารถแวะพักถ่ายรูปที่ตามข้างทางได้เลย ฟีลน่ารักสดใสแบบสุดๆ
เดินตามทางมาเรื่อยๆ เราก็จะเห็นหอดูสัตว์ตั้งตะหง่านอยู่ไม่ไกล โดยมีลักษณะเป็นอาคารไม้ที่ยกพื้นสูง มีหน้าต่างหรือช่องที่ไว้ให้ดูสัตว์อยู่ทุกด้านรอบอาคาร สามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบๆ ได้ทั้งทุ่งหญ้าสะวันนา แนวเขา แนวป่า และพื้นที่ของหนองน้ำและเนินโล่งที่อยู่ไม่ไกล
หากอ้างอิงจากข้อมูลและเกร็ดความรู้ที่มีให้อ่านในหอดูสัตว์แล้ว หากมาที่นี่ในช่วงเช้าและเย็นจะมีโอกาสพบกับสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ทั้งช้างป่า หมูป่า กวาง รวมทั้งนกนานาพันธุ์ แถมบรรยากาศภายในหอดูสัตว์ยังเงียบสงบและมีลมเย็นๆ พัดเข้ามาด้านในอยู่ตลอด เหมาะกับการมานั่งพัก คอยดูสัตว์ได้แบบยาวๆ
หอดูสัตว์หนองผักชี, ที่เที่ยวเขาใหญ่
เที่ยวชมธรรมชาติกันในอุทยานฯ กันแบบจัดเต็มไปตลอดทั้งช่วงเช้าแล้ว ในทริปนี้มื้อกลางวันเรามาเช็คอินที่ร้านเป็นลาว ร้านอาหารไทย – ลาว ที่มีรางวัลการันตีความอร่อยอย่างรางวัลมิชลินไกด์ถึง 2 ปีซ้อน รวมทั้งรางวัลระดับประเทศอื่นๆ อีกหลายรางวัล ซึ่งตัวร้านตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย สังเกตได้อย่างชัดเจน ด้านข้างตัวร้านมีลานจอดรถที่กว้างขวาง หายห่วงได้เลย
บริเวณด้านร้านเป็นสวนเล็กๆ ที่ตกแต่งไว้ให้ได้ถ่ายรูปเล่นกันระหว่างรออาหารอีกด้วย
โซนที่นั่งของร้านเป็นที่นั่งแบบโอเพ่นแอร์ทั้งหมด ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ โซนด้านในที่เป็นโถงกว้างในตัวร้าน พร้อมบรรยากาศการตกแต่งที่คุมโทนความเป็นท้องถิ่นได้เต็มร้อย อีกทั้งบรรยากาศยังโปร่งโล่งสบายอีกด้วย และอีกโซนคือโซนริมระเบียงด้านนอก เหมาะสำหรับใครที่อยากนั่งรับลมเย็นๆ มองวิวต้นไม้ใบหญ้าไปด้วย
เมนูอาหารมื้อนี้ เราสั่งมาแบบจัดเต็มมีทั้งส้มตำหลวงพระบาง ผัดหมี่โคราช ไก่โคราชต้มน้ำปลา ไก่ย่างนาสมุนไพร แกงลาวเห็ด 3 อย่าง ลาบปลาดุก และตับทอดนมสด เสิร์ฟคู่กับผัก และข้าวเหนียวดำที่ห่อใบตองมาแบบหอมๆ โดยเมนูทั้งหมดของทางร้านเน้นใช้วัตถุดิบแบบออร์แกนิกจากเกษตรกรในชุมชนที่ปลอดสารพิษและสดใหม่
เมนูที่เป็นไฮไลท์ที่ได้รางวัลมิชลินไกด์ก็คือ แกงลาวเห็ด 3 อย่าง ที่ต้องบอกเลยว่ารสชาติดั้งเดิม ถูกต้องตามต้นฉบับของแกงเห็ดพื้นบ้านอีสานของแท้ นอกจากเห็ดที่มีถึง 3 ชนิดแล้ว ยังมีบวบชิ้นพอดีคำ กรอบๆ พร้อมกับน้ำแกงใบย่านางที่เข้มข้นกำลังดี หอมกลิ่นใบโหระพาอ่อนๆ
อีกหนึ่งเมนูมิชลินสุดจัดจ้านก็คือ ลาบปลาดุก ซึ่งลาบปลาดุกของทางร้านใช้เนื้อปลาที่นำไปย่างแล้วนำมาคั่วจนแห้ง คลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศแบบลาบแท้ๆ บอกเลยว่าทั้งแซ่บ ทั้งหอม กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ คือฟิน
อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ ไก่โคราชต้มน้ำปลา ซึ่งจุดเด่นของไก่โคราช คือ เนื้อนุ่ม หนึบ เหมือนติดสปริง เอาไปต้มน้ำปลาหอมๆ กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด บอกเลยว่าอร่อยมากๆ แอบกระซิบว่าเมนูนี้เป็นเมนูใหม่ล่าสุดของทางร้าน มีขายแค่วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์เท่านั้นนะ
เป็นลาว, ที่เที่ยวเขาใหญ่
จัดเต็มมื้อกลางวันไปแล้ว มาพักผ่อนยามบ่ายสบายๆ กันต่อที่ บ่อน้ำผุดธรรมชาติ บ้านท่าช้าง สถานที่ท่องเที่ยวคลายร้อนสุดฮิตอีกแห่งของเขาใหญ่ และนับว่าเป็นอันซีนทางธรรมชาติที่ว้าวมากๆ บ่อน้ำผุดแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำที่ใหญ่ที่สุดของเขาใหญ่ มีลักษณะผุดมาจากชั้นหิน มีสีฟ้าและใสจนสามารถมองเห็นพื้นน้ำด้านล่างและฝูงปลาเลย
กิจกรรมยอดฮิตเมื่อมาถึงบ่อน้ำผุดธรรมชาติ บ้านท่าช้าง ก็คือการนอนแช่น้ำ แต่ไม่นานมานี้ที่นี่เพิ่งมีกิจกรรมใหม่ล่าสุดเอาใจสายคอนเทนต์ อย่าง การพายเรือคายัค ชมเส้นทางน้ำธรรมชาติ ซึ่งแบ่งเป็น 2 แบบด้วยกันคือ พายคายัคเส้นทางระยะยาว 1 ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ 170 บาท/คน และพายแบบระยะสั้นราคาอยู่ที่ 100 บาท
เราเลือกเป็นพายเรือระยะยาว ซึ่งจะมีคนดูแลความปลอดภัย พายนำทางเราไป โดยระหว่างทางจะผ่านแนวหินปูนที่มีความสวยงาม ธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม พร้อมกับความเงียบสงบของพื้นที่ธรรมชาติ เป็นการพายไปเรื่อยๆ จนถึงจุดปลายทางซึ่งเป็นแนวฝายกั้นน้ำ จากนั้นก็พายกลับมายังจุดเริ่มต้น บอกเลยว่าเป็นกิจกรรมที่สนุกและสดชื่นมากๆ
มุมที่สวยที่สุดต้องตรงนี้เลย เป็นแนวหินปูนที่ถูกกัดเซาะเป็นร่อง ถือเป็นหนึ่งในอันซีนที่สวยงามแบบสุดๆ
บ่อน้ำผุดธรรมชาติ บ้านท่าช้าง, ที่เที่ยวเขาใหญ่
ชุ่มฉ่ำใจไปแล้ว มาเพิ่มความสบายใจ เพิ่มความเป็นสิริมงคลกันต่อที่ หลวงพ่อ ทวดเขาใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของพุทธอุทยานอาณาจักรหลวงพ่อทวด ไฮไลท์ของที่นี่คือหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่สีทองอร่าม ที่มีความสูงกว่า 111 เมตร นับว่เป็นหลวงพ่อทวดที่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
บริเวณรอบๆ ของอุทยาน นอกจากจะมีหลวงพ่อทวดและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลหลายจุดแล้ว ยังเป็นพื้นที่ของสวนที่มีความร่มรื่นและมีต้นไม้หลากหลายชนิดให้ได้เดินเที่ยวชมและใช้เป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ ได้อีกด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะภายในสวนยังมีพระพิฆเนศ พระพรหม และเทพองค์อื่นๆ ให้ได้ขอพรกันแบบรัวๆ อีกด้วย
อีกฝั่งของอุทยานเป็นลานกว้างที่มีร้านค้าและรูปปั้นช้างเผืกที่เชื่อกันว่าหากได้ลอดท้องช้างตัวนี้แล้ว จะได้รับความเป็นสิริมงคลและสมปรารถนาอีกด้วย
หลวงพ่อทวด เขาใหญ่, ที่เที่ยวเขาใหญ่
ปิดทริปเขาใหญ่กันที่ Lamaya Khaoyai ร้านอาหารฟีลดีที่มาพร้อมกับการตกแต่งที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครด้วยสไตล์แบบชนเผ่า บอกเลยว่าถ้าได้มาแล้วต้องว้าวแบบสุดๆ แถมร้านนี้ยังคนเยอะมากๆ ถ้ามาในช่วงเย็นของวันศุกร์และเสาร์ อาจถึงขั้นต้องจองคิวกันเลยทีเดียว
ความโดดเด่นของร้านคือรูปปั้นหญิงสาวชนเผ่าที่ถือหน้ากาก ที่ตั้งอยู่กลางร้าน รายล้อมด้วยความสวยงามของเสาไม้ที่มีพู่ห้อยลงมา โดยตัวร้านเน้นใช้โทนสีที่เป็นสีน้ำตาลธรรมชาติและตกแต่งด้วยการคุมโทนแบบชนเผ่ามากๆ
โซนที่นั่งของร้านมีทั้งแบบอินดอร์ทีอยู่ชั้น 1 ของร้าน เป็นโถงกว้าง ภายในห้องเน้นโทนสีเขียวเข้ม และมีของตกแต่งอย่างตุ๊กตาชนเผ่าและการประดับกระเบื้องที่สวยงาม
โซนโอเพ่นแอร์อยู่บริเวณชั้น 2 ที่มีทั้งที่นั่งแบบเบาะโซฟา พร้อมกับโต๊ะกลม และที่นั่งริมระเบียงใกล้กับรูปปั้นหญิงชนเผ่า บอกเลยว่าบรรยากาศดี แถมยังถ่ายรูปสวยแบบสุดๆ เพราะทั่วทั้งโซนนี้เน้นใช้โทนสีน้ำตาล พร้อมกับของตกแต่งที่สื่อถึงความเป็นชนเผ่าได้แบบเต็มร้อย
ในส่วนเมนูอาหารของทางร้าน ส่วนใหญ่เป็นเมนูอาหารนานาชาติที่เสิร์ฟเมนูวัตถุดิบคุณภาพ โดยมื้อนี้เราสั่งมาหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สปาเก็ตตี้ครีมเห็ดทรัฟเฟิล สเต็กเนื้อสันนอก ซุปพักทอง และปลากะพงกับซอสฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มเติมความสดชื่นอย่าง อเมซอน ที่เป็นเครื่องดื่มม็อกเทลกลมกล่อม
ไฮไลท์ของทางร้านคือการแสดงไฟที่เรียกได้ว่าตระการตาเหมือนได้มาอยู่ในเทศกาลไฟยังไงอย่างงั้นเลย โดยเวลาที่จัดแสดงไฟจะเริ่มรอบแรกในเวลา 19.00 น. ของทุกวัน
มีจังหวะที่รูปปั้นหญิงสาวชนเผ่ากระพริบตา พร้อมกับลวดลายที่ขีดขึ้นบนตัวด้วย น่าประทับใจมากๆ
Lamaya Khaoyai, ที่เที่ยวเขาใหญ่
ทั้งหมดนี้ก็คือ One Day Trip เที่ยวเขาใหญ่ เติมความเฟรช เช็คอินกินร้านเด็ด เป็นทริปที่ถึงจะมีเวลาแค่วันเดียว แต่ได้เที่ยวแบบเต็มอิ่ม แถมยังได้ตะลุยเก็บความสดชื่นและพลังงานดีๆ จากธรรมชาติในอุทยาน รวมทั้งที่เที่ยวอันซีนของเขาใหญ่ อีกทั้งยังได้จัดเต็มเมนูอาหารที่ร้านดังประจำเขาใหญ่อีกด้วย บอกเลยว่าทริปนี้เต็มอิ่มและได้เข้าใจแล้วว่าทำไม ใครๆ ก็มาเขาใหญ่
สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริป (โดยประมาณ)
– ค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คนละ 40 บาท
– ค่าอาหารและเครื่องดื่มร้านเป็นลาว คนละ 200 บาท (หาร 4 จากราคาประมาณ 800 บาท)
– ค่าพายเรือคายัค บ่อน้ำผุดธรรมชาติ บ้านท่าช้าง คนละ 170 บาท
– ค่าอาหารและเครื่องดื่มร้าน Lamaya คนละ 1,686 บาท
รวมค่าใช้จ่ายตลอดทริป เฉลี่ยต่อคน ประมาณ 2,096 บาท (ยังไม่รวมค่าน้ำมันรถและของฝากอื่นๆ)
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ One Day Trip เที่ยวเขาใหญ่ เติมความเฟรช เช็คอินกินร้านเด็ด ถ้าวันหยุดนี้ใครแพลนหาที่เที่ยวสนุกๆ แบบไม่ค้างคืน ตามแพลนเราไปได้เลย หรือถ้าใครอยากเที่ยวยาวๆ เรามีที่พักมาแนะนำด้วยกับ 10 ที่พักเขาใหญ่ สวยหรู ดูแพง อัปเดตครึ่งปีหลัง 2022 หรือถ้าใครอยากเน้นคาเฟ่และร้านอาหาร เราก็มี 18 คาเฟ่ ร้านอาหารเขาใหญ่ ถ่ายรูปสวย บรรยากาศดี รสชาติเด็ด อัปเดต 2023 ด้วยนะ