ยอดน้อยอย่าพึ่งวางใจ! ชี้ยอดผู้ติดเชื้อ อินเดีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ กลับมาเพิ่มสูงขึ้น!

จากการรายงานของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันนี้ (16 เม.ย.) โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ระบุว่าวันนี้มีผู้ป่วยกระจายตัวอยู่ใน 68 จังหวัด โดยผู้ป่วยในช่วงอายุ 20 – 29 ปีมีจำนวนมากที่สุด และจำนวนผู้ป่วยลดลงหลังครบ 14 วัน นับตั้แต่มีการประกาศเคอร์ฟิว แต่ย้ำยัง “ไม่ผ่อน” ความเข้มข้นของมาตรการ

---

“ผลของวันนี้ที่ดีมาจากที่เราทำเมื่อ 14 วันที่แล้ว และเราบอกว่าวันนี้เราจะผ่อนคลายละ พรุ่งนี้ก็อาจจะดีอยู่ แต่อีก 14 วันอาจจะมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ยืนยันวันที่ 16 เมษายน มีทั้งหมด 29 ราย แบ่งเป็นกลุ่มดังนี้

• ผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยหรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้า 14 ราย
• ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ได้แก่ คนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 2 ราย กลุ่มที่ไปสถานที่ชุมนุมชน 1 ราย อาชีพเสี่ยง 2 ราย
• อยู่ระหว่างการรอสอบสวนโรค 10 ราย

โดยโฆษก ศบค. ยังเปิดเผยข้อมูลจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 14 วัน (2-15 เม.ย.) ทั้งหมด 25 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อนรวม 9 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร, ชัยนาท, ตราด, น่าน, บึงกาฬ, พิจิตร, ระนอง, สิงห์บุรี, อ่างทอง

สำหรับยอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมจนถึงขณะนี้ของประเทศไทย รวมแล้วมี 2,672 ราย กระจายอยู่ใน 68 จังหวัด ยอดสูงสุดอยู่ที่กรุงเทพ 1,349 คน ตามด้วย จ.ภูเก็ต 191 คน จ.นนทบุรี 148 คน จ.สมุทรปราการ 108 คน แม้โดยรวมยอดผู้ติดเชื้อในไทยดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังไม่ควรวางใจ เพราะอาจจะเกิดการเพิ่มของอัตราการติดเชื้อขึ้นได้ ป้องกันไว้ก่อนดีที่สุด

สำหรับทั่วโลกตอนนี้มีผู้ป่วยสะสมเกินกว่า 2 ล้านคน และเสียชีวิตไปกว่า 134,616 ราย ในช่วงระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์การระบาดยังคงน่าเป็นห่วง โดยนอกเหนือจากประเทศฝั่งอเมริกาและยุโรป ด้านเอเชีย อย่าง อินเดีย ก็มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 883 คนในวันเดียว, ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 741 คน และ สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 728 คน โดยทั้ง 3 ประเทศต้องออกมาตรการและความเข้มงวดมากขึ้น อย่างเช่นที่ญี่ปุ่น ก็มีแนวโน้มจะต้องเพิ่มมาตรการและการจำกัดพื้นที่เข้า – ออกของประชาชน หลังจากมียอดตัวเลขของผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง หากยังไม่ได้รับการแก้ไข 

โดยโฆษก สคบ. กล่าวว่า ประชาชนยังคงต้องใช้มาตรการดูแลตนเองอย่างเคร่งครัด ถึงแม้ว่า 30 เม.ย.นี้ จะสิ้นสุดระยะเวลาเคอร์ฟิว แต่ก็ไม่มีข้อยืนยันว่าสถานการณ์จะไม่เลวร้าย หากประเทศอื่นๆ ยังมีการติดเชื้อสูง “เราเองทำตัวเลขได้สองหลัก แต่ข้างๆ บ้านเราเป็นตัวเลขสามหลัก เหมือนเราเป็นไข้เลือกออก บ้านเราไม่มียุงแน่ๆ แต่ข้างบ้านเรายังเป็นไข้เลือดออกกันหมด ท่านคิดเหรอครับว่าท่านจะยังปลอดภัย”

---