รวมวิธีล็อกดาวน์-ป้องกันไวรัสสุดโหดจากทั่วโลก แบบนี้ก็ได้หรอ?
3,781 ครั้ง
22 เม.ย. 2563
3,781 ครั้ง
22 เม.ย. 2563
การล็อกดาวน์เป็นมาตรการที่หลายๆ ประเทศใช้เพื่อยับยั้งเชื้อโควิดไม่ให้แพร่เชื้อและส่งผลเสียหายไปมากกว่านี้ วันนี้ทริปเก็ทเตอร์เลยเอาวิธีล็อกดาวน์ของแต่ละประเทศมาให้เพื่อนๆ ดูกันว่าแต่ละประเทศใช้วิธีไหนกันบ้าง บอกเลยว่ามีทั้งวิธีโหด และไอเดียเจ๋งๆ เพียบ แต่บางประเทศก็น่าเศร้าจริงๆ ถ้าอยากรู้แล้วลองตามมากันเลย
ประเทศอินโดนีเซีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่กำลังมีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นมาก ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะออกมาประกาศมาตรการควบคุมแล้ว แต่ประชาชนชาวอินโดนีเซียก็ยังไม่ค่อยเชื่อฟังและทำตามคำสั่งสักเท่าไร ทำให้ผู้ปกครองเขตปกครองแห่งหนึ่งในจังหวัดเซ็นทรัลขิองชวาอินโดนีเนียเกิดปิ๊งไอเดีย ตัดสินใจนำพวกกระทำผิดไปขังไว้ในบ้านร้างผีสิงซะเลย งานนี้ไม่รู้ว่าจะกลัวผีหรือจะกลัวเชื้อไวรัสกันแน่ แต่ที่แน่ๆ เป็นไอเดียสุดแปลกที่เอาความเชื่อเหนือธรรมชาติมาใช้ในการควบคุมเชื้อไวรัส
มาต่อกันที่อินโดนีเซีย อีกเช่นเคย ชาวบ้านในหมู่บ้านเคปูห์ ของอินโดนีเซียต้องตกอยู่ท่ามกลางความหวาดผวาหลังพบเงาสีขาวลักษณะคล้ายศพที่ถูกผ้าห่อศพพันไว้กระโดดออกมาหลอกหลอนผู้คนที่เดินไปมาช่วงเวลาเคอร์ฟิวส์ ทำเอาชาวบ้านตกอกตกใจขวัญหนีกระเจิงเพราะผีที่ออกมาหลอกหลอนนี้ ไม่ใช่ผีจริงๆ แต่เป็นอาสาสมัครที่รับบทเป็น โปคอง หรือ ผีผ้าห่อศพ ไว้ใช้หลอกคนในหมู่บ้านให้กักตัวอยู่แต่ในบ้านเพื่อจะได้ปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมื่อมาตรการล็อคดาวน์ไม่ผลก็ต้องหันมาใช้วิธีไสยศาสตร์แบบนี้
วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมามีรายงานความคืบหน้ามาตรการล็อกดาวน์ยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งประธานาธิบดีโรดริโก โรดี้ ดูแตร์เต ได้ประกาศกร้าวสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสามารถยิงปลิดชีพผู้ฝ่าฝืนกฎเคอร์ฟิวได้ และปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายจากการเหนี่ยวไกของเจ้าหน้าที่ เพราะชายคนดังกล่าวได้ละเมิดกฏและไม่สวยหน้ากากอนามัย แถมยังออกมาเดินเตร็ดเตร่ยามวิกาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตักเตือนแล้ว แต่แทนที่ชายคนดังกล่าวจะเดินจากไปกลับแสดงท่าทีฉุนเฉียวและพูดจาหยาบคตายใส่เจ้าหน้าที่พร้อมทั้งยกเคียวที่นำติดตัวมาด้วยข่มขู่เจ้าหน้าที่ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องลั่นไกสังหารชายคนเมาเสียชีวิต
หลังจากที่รัฐบาลอินเดียประกาศมาตรการล็อกดาวน์ให้ประชาชนอยุ่ในบ้านเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศ มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละท้องถิ่นใช้มาตรการเด็ดขาดในการบังคับกำหมายให้ประชาชนอยู่บ้านด้วยการใช้ไม้ไล่ตีคนที่ฝ่าฝืนคำสั่งล็อกดาวน์ นอกจากนี้นยังมีมาตรการลงโทษด้วยวิธีการต่างๆ เช่นสั่งให้วิดพื้น ลุกนั่ง และเจาะลมยางรถเป็นต้น
มีรายงานว่าโบสถ์แห่งหนึ่งในแอฟริกาใต้มีการเอาน้ำยาฆ่าเชื้อเดทตอลมากินเพื่อฆ่าเชื้อโรคในร่างกายทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 ราย ทั้งนี้เป็นความเชื้อแบบผิดๆ จึงมีการประกาศเตือนให้ประชาชนได้รับทรายบว่าห้ามนำน้ำยาความเชื้อเดทตอลมากิน เพราะเป็นน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดภายนอก ไม่ใช่ทำความสะอาดภายใน โดยการสัมภาษณ์อ้างว่าได้ดื่มเดทตอลเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยและให้สมาชิกภายในโบสถ์ดื่มและเชื่อว่าพระเจ้าสั่งให้นำสิ่งนี้มาให้กิน
วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมามีการรายงานว่า ชาวอิหร่านกว่า 600 คน เสียชีวิตหลังจากดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป หลังมีการปล่อยข่าวลือว่า การดื่มแอลกอฮอล์เข้มข้นจะสามารถรักษาอาการป่วยจากเชื้อโควิดได้ นอกจากนี้ยังมีผู้รักษาตัวในโรงพยาบาลอีกราว 3,000 คนเนื่องจากล้มป่วยเพราะดื่มแอลกอฮอล์เข้าข้นเข้าไป
คนอเมริกันจำนวนหนึ่งไม่พอใจมาตรการล็อกดาวน์ที่ทำให้พวกเขาต้องอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ใช้ชีวิตตามปกติ พวกเขามองว่าการใช้กฎหมายบังคับให้คนอยู่ในแต่บ้านเป็นการละเมิดเสรีภาพ ทำให้ผู้นำสหรัฐอย่างโดนัลด์ทรัมป์เปิดเผยโรดแมพที่จะผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ 50 รัฐทั่วประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และยังเปิดชายหาดชื่อดังอย่างชายหาดแจ๊คสันวิลล์ที่รัฐฟลอริด้า และชาวอเมริกาส่วนหนึ่งยังเชื่ออีกว่า ควรยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ปล่อยคนออกมาใช้ชีวิตและทำงาน เพื่อให้เศรษฐกิจไปต่อได้ ใครติดเชื้อก็รักษา รักษาไม่ได้ก็ตาย แต่คนหมู่มากจะค่อย ๆ มีภูมิต้านทานหมู่ขึ้นเอง
REUTERS/Sam Thomas NO RESALES. NO ARCHIVES