พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันอังคารที่ 12 มกราคม 2564 หารือกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ โดยมีประเด็นเกี่ยวกับการเยียวยาโควิดระลอกใหม่ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการเยียวยาผลกระทบทุกกลุ่มครอบคลุมเหมือนที่ผ่านมา
สำหรับการเยียวยาโควิดระลอกใหม่ โดยทางรัฐบาลจะเยียวยารายได้ให้แก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทยจากสถานการณ์โควิด-19 ครอบคลุมในกลุ่มอาชีพอิสระ กลุ่มเกษตรกร โดยมอบเงินเยียวยา จำนาน 3,500 บาท ต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2564 ประชาชนที่ได้สิทธิจะต้องลงทะเบียนผ่าน โครงการ “เราชนะ” ที่ตอนนี้ทางกระทรวงการคลังกำลังดำเนินการอยู่
นอกจากนี้ที่ประชุมครม. ยังมีมติอนุมัติมาตรการบรรเท่าผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 ในระยะเร่งด่วน ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักคือ
- มาตรการเสริมสภาพคล่อง บรรเทาภาระหนี้สินของผู้ประกอบการ SME และประชาชน
- มาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ใช้แรงงาน การลดหย่อนเงินสมทบนายจ้าง และผู้ประกันตน เพิ่มสิทธิประโยชน์ การว่างงาน ฯลฯ
- มาตรการลดค่าใช้จ่ายของประชาชน โดยการลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา และค่าอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง แถลงข่าวมาตรการด้านการเงิน เพื่อดูแลเยียวยาผู้ได้รับผผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมให้ข้อมูลถึงโครงการ “เราชนะ” เพิ่มเติมว่า
- ‘เราชนะ’ ไม่เหมือน ‘คนละครึ่ง’ : โครงการคนละครึ่งผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับสิทธิ แต่สำหรับโครงการเราชนะจะใช้หลักคิดมาจากคนทั้งประเทศ ถ้าใครไม่มีมาตรการช่วยเหลืออยู่แล้วก็จะได้รับสิทธิเราชนะ ไม่ต้องสุ่มลงทะเบียนเหมือนคนละครึ่ง
- ‘เราชนะ’ ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิ แต่จะดึงจากฐานข้อมูลเดิม : สำหรับใครที่มีข้อมูลลงทะเบียนไว้กับโครงการต่างๆ แล้ว เช่น บัตรคนจน คนละครึ่ง เยียวยาเกษตร ก็จะสามารถดึงข้อมูลมาใช้ได้เลย ไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่ม แต่ต้องรอความชัดเจนเรื่องระบบอีกครั้ง
- ได้สิทธิซ้ำซ้อนได้ไหม? เช่น ได้เงินทั้ง ‘คนละครึ่ง’ และ ‘เราชนะ’ : ระบบจะมีการแสกนและคัดกรองผู้มีสิทธิ หรือหน่วยงานหลักที่ดูแล ผู้ที่มีการลงทะเบียนซ้ำซ้อนอยู่แล้วก็จะถูกคัดออก เช่น หน่วยงานประกันสังคม สำหรับคนที่ยังไม่มีประกันสังคมก็จะมีสิทธิได้รับเงินจากโครงการ ‘เราชนะ’
- มาตรการ ‘เราชนะ’ จะชัดเจนวันไหน? : มาตรการ ‘เราชนะ’ จะนำเข้า ครม. เพื่อพิจารณาในวันที่ 19 มกราคม 2564 แต่ตามการคาดการณ์แล้ว ประชาชนจะสามารถลงทะเบียนและรับเงินเยียวยาก้อนนี้จะได้ภายในสิ้นเดือนมกราคม 2564 หรืออย่างช้าคือต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564