สายการบิน Lufthansa พร้อมบินตรง กรุงเทพฯ – มิวนิก แล้ววันนี้
7,329 ครั้ง
29 มี.ค. 2565
7,329 ครั้ง
29 มี.ค. 2565
ใครกำลังหาตั๋วเครื่องบินเพื่อไปเที่ยว ไปเยี่ยมญาติ เดินทางไปเรียนต่อ หรือติดต่อธุรกิจที่ประเทศเยอรมนี ขอแสดงความยินดีด้วยเพราะสายการบินลุฟท์ฮันซ่า (Lufthansa) ได้ให้บริการเที่ยวบินแล้วในทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2565 เส้นทางกรุงเทพฯ – มิวนิก และ มิวนิก – กรุงเทพฯ
สายการบินลุฟท์ฮันซ่า (Lufthansa) สายการบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเยอรมนี และเป็นสายการบินที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของยุโรป เชื่อมต่อกรุงเทพฯ สู่มิวนิก ยุโรป และทั่วโลก เปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ และมิวนิก ด้วยเครื่องบิน A350 เริ่มบริการทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2565 โดยเที่ยวบินนี้เป็นบริการที่มาแทนที่เที่ยวบินไปแฟรงค์เฟิร์ตในช่วงฤดูหนาว
ในตารางบินฤดูร้อนของปี 2565 ให้บริการรวม 20 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยสายการบินระดับพรีเมียมของกลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ได้แก่ สวิส อินเตอร์ เนชั่นแนล แอร์ไลน์ สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ และสายการบินลุฟท์ฮันซ่า
ตารางการบินเบื้องต้นของสายการบินลุฟท์ฮันซ่ามีดังต่อไปนี้
เครื่องบินแอร์บัส เอ350-900 (Airbus A350-900) เป็นเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดในโลก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งได้กำหนดมาตรฐานการประหยัดเชื้อเพลิงในระดับสูง และความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ซึ่งมีที่นั่งปรับเอนราบ (lie-flat seats) 48 ที่นั่งในชั้นธุรกิจ, 21 ที่นั่งในชั้นประหยัดพิเศษ และ 224 ที่นั่งในชั้นประหยัด ตรงสู่ท่าอากาศยานมิวนิกที่เป็นท่าอากาศยานระดับ 5 ดาวแห่งแรกของยุโรป
ซึ่งเที่ยวบินระหว่างมิวนิก – กรุงเทพฯ นั้นไม่ได้เป็นเพียงบริการเดียวของกลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ซึ่งเป็นกลุ่มสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปในการให้บริการแก่ลูกค้าชาวไทย สายการบินระดับพรีเมียมอื่นๆ ของกลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่าไม่ว่าจะเป็นสวิส อินเตอร์ เนชั่นแนล แอร์ไลน์ (SWISS) และสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (Austrian Airlines) ก็ให้บริการบินเชื่อมต่อจากประเทศไทยสู่ใจกลางยุโปรด้วยเช่นกัน ตามตารางบินฤดูร้อน SWISS ให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ – ซูริก 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และ Austrian Airlines ให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ – เวียนนา ทุกวัน
ด้านสุขภาพและความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงาน สายการบินลุฟท์ฮันซ่าได้มีการนำมาตราการด้านสุขภาพและสุขอนามัยระดับแนวหน้าของอตุสาหกรรมมาใช้ตลอดการเดินทาง ทั้งการติดตั้งเครื่องกรองอากาศที่ล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูง (High Efficiency Particulate Air: HEPA) ที่ช่วยให้อากาศในห้องโดยสารสะอาดอยู่ตลอดเวลา อากาศที่หมุนเวียนทั้งหมดจะถูกกรองและทำความสะอาดสิ่งสกปรกทั้งฝุ่น แบคทีเรีย และไวรัส ได้ถึง 40 เปอร์เซ็นของอากาศในห้องโดยสาร โดย 60 เปอร์เซ็นต์จะถูกแทนที่ด้วยอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเครื่องบิน ตัวกรองอากาศ HEPA เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในระบบปรับอากาศสำหรับห้องผ่าตัดของโรงพยาบาล ซึ่งในทุกๆ 3 นาที อากาศในห้องโดยสารทั้งหมดนั้นจะได้รับการเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
ทั้งนี้ยังมีข้อกำหนดการในการสวมหน้ากากเพื่อปิดปากและจมูกตลอดการเดินทาง ตั้งแต่เวลาขึ้นเครื่องจนถึงลงจากเครื่องบิน ซึ่งทุกขั้นตอนจะได้รับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องตลอดการเดินทาง เพื่อรับประกันความปลอดภัยสูงสุดสำหรับทุกคน
โดยซาบรินา วินเทอร์ หัวหน้าฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก กลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่า กล่าวว่า “การที่ประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ได้เปิดประเทศอีกครั้ง จะช่วยกระตุ้นความต้องการในการเดินทางสู่จุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจที่เป็นที่นิยมที่สุดในเอเชียแปซิฟิกอีกครั้ง นับเป็นหนึ่งเหตุผลที่ดีว่าทำไมเราจึงให้บริการเที่ยวบินจากสายการบินระดับพรีเมียมทั้งสามสายการบินของเรามายังกรุงเทพฯ”
และทาง สเตฟาน โมลนาร์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง สายการบินในกลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่า ได้กล่าวปิดท้ายว่า “เราสามารถให้บริการลูกค้าของเราที่เดินทางมายังมิวนิก ไม่เพียงแต่ความสะดวกสบายของเครื่องบินแอร์บัส เอ350 ที่ล้ำสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเดินทางเข้าถึงท่าอากาศยานระดับ 5 ดาวแห่งแรกของยุโรปได้ตลอดเวลา โดยท่าอากาศยานดังกล่าวได้รับการโหวตให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในยุโรปถึง 14 ครั้ง ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับการเชื่อมต่อที่เหนือระดับจากมิวนิกไปยังทุกหนแห่งในยุโรป รวมถึงที่อื่น ๆ ด้วยสุดยอดเครือข่ายการบินของกลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่า”
สำหรับใครที่ยังหาเวลาบินไปเที่ยวประเทศเยอรมนียังไม่ได้ เที่ยวไทยสไตล์ยุโรปกันก่อนได้ที่ 5 ที่พักเขาใหญ่สไตล์ยุโรป เช็คอินอยู่ไทยแต่เหมือนไปเมืองนอก! และ 5 ที่พักฟีลลิ่งปราสาทสุดหรู เหมือนอยู่อาณาจักรส่วนตัว หรือจะไปเช็คอินร้านอาหารและคาเฟ่กับ 5 ร้านอาหาร-คาเฟ่สไตล์ยุโรป นั่งจิบชาถ่ายรูปแบบเก๋ๆ ฟีลลิ่งเหมือนอยู่ต่างประเทศ