หายแล้วไปไหน? เรื่องเล่าจากคน(เคย)ติดโควิด-19

หลายคนอยากรู้ว่า คนที่ตรวจพบว่าติดโควิด-19 แล้ว อาการจะเป็นอย่างไร? ต้องเจอกับอะไรบ้างในระหว่างการรักษา? แล้วหลังจากที่หายดีแล้วจะต้องทำตัวอย่างไร? วันนี้ทริปเก็ทเตอร์ได้นำเรื่องราวจากผู้ที่ติดโควิด-19 แต่หายแล้ว มาฝากกัน!

---

1.บอริส จอห์นสัน (นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร)

เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว หลังจากเข้ารับการรักษาอาการ COVID-19 เมื่อสัปดาห์ก่อน และถูกนำตัวส่งห้อง ICU จนอาการดีขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากนี้จะไปพักฟื้นในคฤหาสน์ Chequers ที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้าน Ellesborough ประเทศอังกฤษ โดยบอริส จอห์นสันได้ถ่ายคลิปวีดีโอเผยแพร่ทางทวิตเตอร์ ด้วยน้ำเสียงที่ยังเหนื่อยล้า กล่าวขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ ทั้งนี้หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล ในช่วงพักฟื้นเขาได้ให้พยาบาลสองคนมาคอยเฝ้าดูแลอาการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งเขาได้ดึงเอาบทเรียนความเจ็บปวดของตัวเองมาเพิ่มความเข้มงวดให้กับประเทศ แม้ว่าตัวเขาจะยังไม่สามารถกลับไปทำงานได้ทันทีตามที่แพทย์ให้คำแนะนำก็ตาม

---

2.มารูยาน เฟลไลนี (นักฟุตบอล, สโมสรซานตง ลู่เหนิง และทีมชาติเบลเยียม)

หลังจากที่ มารูยาน เฟลไลนี ได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่าผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2563 ได้เข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลในจีน และในระหว่างรักษานั้นเขาได้ใช้เวลาในการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย จนกระทั่งวันที่ 14 เมษายน 2563 สโมสรชางตง ลู่เหนิง แถลงการณ์ว่า เฟลไลนี ได้รับการประเมินว่าหายแล้ว จึงได้ออกจากโรงพยาบาล หลังจากที่เข้ารับการรักษาเป็นเวลา 3 อาทิตย์ แต่จะต้องกลับไปกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งมารูยาน เฟลไลนี ก็ได้โพสต์ข้อความบนอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “ถึงเวลาที่ผมจะได้กล่าวขอบคุณจากห้วงลึกที่สุดของหัวใจต่อคณะแพทย์และคณะพยาบาลที่โรงพยาบาลรวมถึงสโมสร และทีมแพทย์ของสโมสร ที่ช่วยดูแลผมมาเป็นอย่างดีและอำนวยความสะดวกให้แก่ผมในระหว่างที่พักรักษาตัวที่นี่ ช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิตของผมได้ผ่านไปแล้ว! เรามาสู้กันต่อไป นี่คือสิ่งที่สำคัญ!”

---

3.คุณธเรศ คีรี (กรรมการผู้จัดการ บริษัทดวงกมลสมัย)

คุณธเรศ คีรี ได้เรียบเรียงประสบการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยไล่เรียงตั้งแต่เริ่มเดินทางกลับจากอังกฤษเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 แล้วกักตัวเอง 14 วัน ก่อนจะเริ่มมีไข้และเจ็บคอ จึงตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ผลปรากฏว่าติดเชื้อโควิด-19 หลังจากได้รับแจ้งก็มีรถพยาบาลมารับเพื่อเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยเขาได้เล่าเหตุการณ์การส่งตัวอย่างละเอียด รวมถึงขั้นตอนการรักษา บรรยายถึงความรู้สึกและอาการของตนเอง จนถึงวันที่ 7 เมษายน 2563 แล้วกลับไปกักตัวอยู่ที่บ้านอีก 14 วัน

ขอบคุณรูปภาพจาก: Thares Keeree

Facebook: Thares Keeree

---

4.Greta Thunberg (นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม)

เกรต้า ธันเบิร์ก สาวน้อยนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า หลังจากที่เธอกลับจากทริปยุโรป เธอได้กักตัวเอง 14 วัน แล้วพบว่าตัวเองมีอาการคล้ายกับพ่อของเธอ ก็คือ รู้สึกเหนื่อย, มีอาการสั่น, เจ็บคอ และไอ โดยเกรต้าไม่ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพราะในสวีเดนการจะตรวจหาเชื้อไวรัสตะต้องมีอาการรุนแรงเท่านั้น ซึ่งเธอเองไม่ได้มีอาการรุนแรงมากนัก จึงได้กักตัวอยู่ที่บ้านจนหายดี

 

Facebook: Greta Thunberg

---

5.แมทธิว – ลิเดีย ดีน (อยู่ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาล)

แมทธิว – ลิเดีย ดีน ดาราดังที่ติดเชื้อโควิด-19 ทำเอาหลายๆ คนตกใจกันอยู่ไม่น้อย โดยเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา แมทธิวได้ประกาศผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่าตนติดเชื้อโควิด-19 และเขาก็ได้เล่าถึงไทม์ไลน์ว่าไปที่ไหนบ้างก่อนที่จะติดเชื้อ สำหรับอาการของแมทธิวนั้นแทบจะไม่แสดงออกเลย มีแต่ปวดเมื่อยเล็กน้อย ต่อมาก็เริ่มมีไข้ และได้รับการตรวจเชื้อไวรัส พอกลับมาถึงที่บ้านก็ได้แยกตัวออกจากทุกคนในบ้าน ต่อมาทางครอบครัวของแมทธิวก็ได้ไปตรวจเชื้อ ปรากฏว่าของลิเดียผลออกมาเป็นบวก ส่วนลูกๆ อาการปกติดี จากนั้นทั้งคู่จึงได้เข้ารับการรักษาร่วมกัน โดยแมทธิวและลิเดียได้เล่ารายละเอียดของการรักษา อย่างการเอ็กซเรย์ปอด และผลข้างเคียงจากยา คือมีอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย ไม่อยากอาหาร ทั้งคู่บอกว่าต้องกินยาประมาณ 3 – 4 ตัว จนครบ 10 วันแล้ว แต่ผลยังคงเป็นบวก ซึ่งระหว่างการรักษาจะเป็นเหมือนช่วงที่กำลังสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อให้เพียงพอต่อการต้านไวรัสออกไป ล่าสุดในวันที่ 10 เมษายน 2563 เชื้อของทั้งคู่ยังคงเป็นบวก และได้ออกมาตอบคำถามสำหรับคนที่สงสัยว่า เหตุที่ยังไม่หายดีเป็นเพราะทั้งคู่รักษาร่วมกันหรือไม่ ซึ่งในเคสนี้ จากการสอบถามกับแพทย์โดยตรงแล้วได้ข้อมูลว่าเชื้อไม่สามารถส่งต่อกันไปมาได้ เพราะเป็นเชื้อตัวเดียวกัน และยังบอกอีกว่าเชื้อจะอยู่ที่อุจจาระเป็นส่วนมาก ดังนั้นหากเข้าห้องน้ำจะต้องปิดฝาชักโครกก่อนแล้ว ค่อยกดทำความสะอาดเพื่อป้องกันการฟุ้งของเชื้อ หรือไม่ก็ควรแยกห้องน้ำไปเลย และจนถึงตอนนี้ที่ทั้งคู่ยังคงรับการรักษาอยู่นั้น ก็จะอัพเดตอาการและมีประสบการณ์มาบอกเล่าอยู่เรื่อยๆ สามารถติดตามได้ทางอินสตาแกรมของทั้งคู่เลย

---