ทริปบ้านอีต่อง ปิล๊อก 3 วัน 2 คืน ลุยเหมืองสมศักดิ์ แวะน้ำตกจ๊อกกระดิ่น ชมวิวทะเลหมอกเนินช้างศึก
115,804 ครั้ง
3 ก.ย. 2561
115,804 ครั้ง
3 ก.ย. 2561
บ้านอีต่อง ปิล๊อก จ.กาญจนบุรี อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสุดฟิน ตั้งอยู่บนขุนเขา ใกล้อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ บรรยากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เดิมทีที่นี่เป็นชุมชนเหมืองที่รุ่งเรือง จนผ่านวันและเวลาอันยาวนาน เหลือเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ที่แฝงไปด้วยเสน่ห์อันมากมาย เป็นอีกหนึ่งแหล่งพักผ่อนสุดฮิต ที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน หวังที่จะหลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์สักคืนสองคืน ขอบอกว่าระดับทริปเก็ทเตอร์ไม่มานอนอย่างเดียวแน่ รับรองว่าโหด มันส์ ฮา กันแน่นอน….
เราออกเดินทางจากกรุงเทพกันช่วงสายประมาณ 8 โมงเช้าในวันธรรมดา เพื่อจะไปสัมผัสปิล๊อกแบบไม่วุ่นวาย ขับรถกันแบบชิลล์ๆ มีเพื่อนนำทางเป็น GPS ครั้งนี้แม่นยำเชื่อถือได้ ถึงตัวอำเภอเมืองกาญประมาณ 9 โมงกว่าๆ
จากตัวเมืองขับรถต่อไปบ้านอีต่อง ที่อำเภอทองภูมิ อีกราวๆ 200 กิโล ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ระหว่างทางเส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยวและแคบ ต้องอาศัยความชำนานและความระมัดระวังอยู่พอสมควร ถนนหนทางเป็นลาดยางสลับกับดินแดง มีหลุมบ้างพอให้ตื่นเต้น ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวให้พักยืดเส้นยืดสาย พักเข้าห้องน้ำห้องท่า จุดนี้ชื่อว่า จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 11 ชมวิวกันแบบออเดิร์ฟกันไปก่อน
ขับมาอีกเรื่อยๆ ฝั่งขวามือจะพบกับอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ด้านในมีจุดชมวิวและห้องพักให้บริการ มาถึงแล้วทั้งทีต้องเก็บให้หมด
จากอุทยานก็แปลว่าใกล้ถึงเหมืองแล้ว เรามาถึงหมู่อิต่องประมาณบ่ายสองโมง เก็บมาทั้งหมด 399 โค้ง อย่างปลอดภัย แถมช่วงที่เรามาขอบอกว่าฝนตกตลอดทาง จึงได้เห็นหมอกกันแบบจัดเต็ม เหมือนอยู่ในหนัง Silent Hill ยังไงยังงั้น ต้องรอช่วงลมพัดแรงๆ ถึงจะได้เห็นวิวหมู่บ้าน
ก่อนอื่นขอเช็คอินเข้าที่พักกันก่อนเลยละกัน คืนนี้เราพักกันที่ บ้านอีต่องโฮมสเตย์ ที่นี่จะอยู่โซนชั้นบนท้ายตลาด เส้นถนนคนเดิน ตรงข้ามกับไปรษณีย์อีต่อง มีทั้งหมด 10 ห้อง มีให้เลือกนอน 2 – 4 คน ราคาก็มีให้เลือกตั้งแต่ 1,000 – 1,300 บาท ราคารวมอาหารเช้าแล้ว (อ่านรีวิว 20 โฮมสเตย์บ้านอีต่องเพิ่มเติม คลิ๊ก)
ภายในห้องพักเรียบง่าย ดูอบอุ่น มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น ผ้าเช็ดตัว กาน้ำร้อน เครื่องทำน้ำอุ่น
ตกช่วงเย็นท้องเริ่มหิว มื้อแรกที่บ้านอีต่องต้องแวะกินที่ร้าน ครัวเจ๊ณี ร้านนี้มาในคอนเซ็ป ยกทะเลมาบนเขา ถึงจะอยู่ห่างไกล แต่ขอบอกว่ามีอาหารครบจ้า ทั้งอาหารทะเล และอาหารไทยอีกหลายเมนู จะสั่งเป็นกับข้าวหรือจานเดียวก็มีเพียบ ที่สำคัญราคายังแสนถูก
อิ่มท้องกันแล้ว ขอมาอิ่มตาเดินชมบรรยากาศรอบๆ กันหน่อย ต้องบอกก่อนเลยว่า บ้านอีต่องเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ เดินกันแปปเดียวก็ทั่วหมู่บ้านแล้ว จุดแรกจะพบกับประตูและบ้านหลังใหญ่ริมน้ำ ชาวบ้านเล่าว่าเป็นบ้านพักของเจ้าของสัมปทาน ตั้งเด่นอยู่ริมน้ำ สวยงามสุดๆ
รอบบ้านประดับประดาด้วยเครื่องจักรทำเหมืองที่ผ่านการใช้งานจนหมดวาระ แต่ยังดูเหมือนมีชีวิตอยู่ตลอด ถัดเข้ามาจะมีบ่อน้ำแร่ไหลผ่าน มีปลาคาร์ปแหวกว่าย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นสุดๆ ฟินมาก มีมุมชิคให้เก็บภาพกันมากมาย ช่วงหมอกแบบนี้ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ปิดท้ายด้วยบรรยากาศบ้านอีต่องยามค่ำคืน ก็ไม่ได้เงียบเหงา ส่วนถนนคนเดินจะคึกคักช่วงวันเสาร์-อาทิตย์
ในส่วนของอาหารเช้าที่อีต่องโอมสเตย์มาแบบเรียบง่าย มีข้าวต้มไก่ ขนมปัง และกาแฟ เติมพลังพร้อมลุยปล๊อกกันต่อ
ส่วนวันนี้ เราจะไปลุยเช็คอินกัน 3 ที่ 3 สไตล์ โดยที่อีต่องโฮมสเตย์จะพาเราไป ต้องเดินทางโดนรถกระบะ 4WD เท่านั้น ที่สำคัญควรเป็นคนในพื้นที่ที่ชำนาญเส้น เพราะเส้นทางค่อนข้างโหด ส่วนราคาจัดกันแบบเหมาๆ 1,500 บาท ตอนนั้นทีมงานเราไปกัน 3 คน และได้เพี่อนร่วมทางเพิ่มอีก 2 คน เลยหารกันเหลือคนละ 300 บาท คุ้มมาก
เริ่มกันที่บ้านป้าเกล็นหรือเหมืองสมศักดิ์ เดิมทีเป็นเหมืองที่รุ่งเรืองของคุณลุงสมศักดิ์และป้าเกล็น จนถึงปี 2529 เหมืองนี้ก็ถูกปิดลง และลุงสมศักดิ์ก็ได้เสียชีวิตลง เหลือแต่เพียงป้าเกล็นและความรักที่ยังคงวนเวียนอยู่ที่นี่ เส้นทางขอบว่าทรหดมาก มีทั้งขึ้นทั้งลง นั่งท้ายกระบะก็สนุกไปอีกแบบ ใช้เวลาราวๆ 40 นาที
เข้ามาด้านในขอบอกว่าอันซีนคุ้มเหนื่อย มีป้าเกล็นคอยต้อนรับ ด้านในประดับตกแต่งน่ารัก เล่าเหตุการณ์และความรักที่มี่ต่อเหมืองสมศักดิ์
อีกหนึ่งความพิเศษที่จะต้องมาลิ้มลองคือ เบเกอรี่สุดพิเศษ สูตรเหมืองสมศักดิ์ ที่ทำโดยป้าเกล็น ครั้งนี้มีเค้กกาแฟ รสชาติข้มข้นชิ้นเต็มคำ ราคา 50 บาท
นอกจากขนมอร่อยๆ แล้ว ที่นี่ยังมีโฮมสเตย์ให้นอนท่ามกลางลำธารและธรรมชาติอีกด้วย สามารถติดต่อโดยตรงที่บ้านป้าเกล็นได้เลย ห้องพักก็เป็นสไตล์ง่ายๆ ตกแต่งน่ารักสไตล์ฝรั่ง ส่วนบรรยากาศรอบๆ ก็สุดฟิน มีลำธารไหลผ่านกลางโฮมสเตย์ มีมุมเก๋ๆ ให้เก็บภาพกันเพียบ
ได้เจอน้ำเย็นๆ แล้วก็อยากเล่นน้ำ ขอลุยต่อที่ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ที่นี่จะตั้งอยู่ริมทางระหว่างมาบ้านอิต่อง ใช่เวลาเดินทางจากหมู่บ้านราวๆ 10 นาที เส้นทางเป็นถนนลาดยาง รถเล็กๆ สามารถแวะมาชมได้ เส้นทางสะดวกสบาย ส่วนคำว่า จ๊อกกระดิ่น เป็นภาษาพม่า เพี้ยนจาก ก๊อกกระด่าน แปลว่าน้ำตกที่ไหลผ่านซอกหินผา ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จึงต้องมีค่าบำรุงสถานที่กันเล็กน้อย ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท และค่าจอดรถคันละ 30 บาท
จากปากทางเดินเข้ามาอีกประมาณ 500 เมตร ระหว่างท่างมีสะพานและธารน้ำให้ถ่ายรูปกันมากมาย
ตัวน้ำตกมีความสูง 34 ฟุต ความพิเศษ คือน้ำตกนี้ไหลผ่านเหมืองแร่ทังเสตน เรียกว่าเล่นน้ำตกนี้เหมือนอาบน้ำแร่ไปในตัว ช่วงที่เราไปเป็นช่วงต้นเดือนสิงหาคม ถือว่าน้ำค่อนข้างแรง เรียกว่ายืนตรงจุดชมวิวก็เปียกปอนกันหมด แต่ได้รูปสวยๆ กลับไปกันอย่างแน่นอน
เรามุ่งหน้าลุยต่อกันที่ เนินช้างศึก จุดชมวิวมุมสูง ชมวิวเขาช้างเผือกและบรรยากาศกรีนๆ แบบ 360 องศาแต่ด้วยความโชคร้ายหมอกปกคลุมแบบมิด แถมอากาศยังเย็นหนาวไปกว่าเดิม ถ้าหากใครมีเวลาที่นี่สามารถเดินจากหมู่บ้านมาได้ ระยะทางประมาณ 1 กิโล เผื่อได้เห็นวิวแบบไม่มีหมอกบัง
จบทริปแล้วเรากลับถึงบ้านอีต่องราวๆ บ่ายสามโมง สรุปทริปนี้ใช้เวลาไปประมาณเกือบ 4 ชั่วโมงถือว่าคุ้มค่ามาก หากใครอยากไปลุยแบบทริปเก็ทเตอร์ครั้งนี้ ก็สามารถติดต่อได้ที่พี่นิพนธ์ เบอร์โทร 087 156 1264 กันได้เลย
ขอไปเช็คอินพักผ่อนกันสักหน่อยกับที่พักคืนนี้ที่ กลิ่นไอหมอก คันทรี่วิว ที่นี่จะอยู่เส้นเดียวกับบ้านอีต่องโฮมสเตย์ ถัดไปทางขวาสุดซอย โดดเด่นด้วยสีสัน และวิวทะเลหมอก ภายในห้องพักค่อนข้างเรียบง่าย น่าพักผ่อน ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เป็นอีกหนึ่งที่พักอีต่องวิวสวยที่ไม่ควรพลาด
วันนี้เราตื่นกันสายด้วยอากาศที่เย็นสบายและหมดแรงที่หมดไปในทริปเมื่อวาน เลยขอแวะทานอาหารเที่ยงก่อนกลับกันที่ร้าน Mining Coffee ร้านอาหารเล็กตรงโซนตลาดอีต่อง มีบริการทั้งกาแฟและอาหาร ก่อนกลับก็ไม่พลาดขอห้อยไม้เป็นที่ระลึกว่าครั้งนึงเราเคยมาเยือนหมู่บ้านอิต่อง…
ยังไม่หมดก่อนกลับขอไปลุยเก็บภาพจุดผ่านแดนไทยพม่าสักเล็กน้อย มาถึงแล้วต้องเก็บให้หมด
เป็นยังไงกันบ้างกับทริปบ้านอิต่อง ปิล๊อค 3 วัน 2 คืน ที่เราเก็บมาฝากกันในครั้งนี้ ถึงจะหมอกลงหนา แต่นี่ละเป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยว ดูสวยงามไปอีกแบบ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทริปที่น่าประทับใจสุดๆ ความจริงไม่ได้คาดหวังว่าจะสนุกขนาดนี้ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่พัก ที่อยากจะแนะนำให้ลองมาพักผ่อนกัน รับรองได้ถึงความประทับใจ แถมยังได้รูปสวยๆ กลับไปอีกเพียบอย่างแน่นอน
*การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง*
แบบที่ 1 นั่งรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วมาลงที่หน้าท่ารถเมืองกาญ ราคาคนละ 120 บาท แล้วต่อรลเมล์มาอำเภอทองผาภูมิ อีก 80 บาท
แบบที่ 2 นั่งรถทัวร์ บขส.999 จากหมอชิตลงที่อำเภอทองผาภูมิ ราคาคนละ 288 บาท
จากนั้นให้รถสองแถวประจำทาง คันสีเหลือง ป้ายด้านข้างเขียนว่า ทองผาภูมิ – อิต่อง ค่าโดยสารคนละ 70 บาท มีทั้งหมด 3 รอบ คือ 10:30/11:30 /12:30 น. ใช้เวลาการเดินทางทั้งสิ้น ราวๆ 2 ชั่วโมง โดยรถจะจอดที่หน้าหมู่บ้านอีต่องเลย