ทริป 3 วัน 2 คืน แอ่วเชียงใหม่สุดม่วน นอนสุดฟิน เช็คอินสุดชิค
40,736 ครั้ง
12 ก.พ. 2562
40,736 ครั้ง
12 ก.พ. 2562
เชียงใหม่ เมืองที่มีอะไรใหม่ๆ มาให้เราต้องไปอัพเดตกันตลอดโดยเฉพาะที่นอน ที่กิน ที่เที่ยว ที่จะต้องทำให้เราตามไปเช็คอินและถ่ายรูปกันฟินๆ กันแบบชีวิตดี๊ดี และแน่นอนเชียงใหม่เป็นอันดับหนึ่งในลิสต์ที่เราวางแพลนจะไปแบบเน้นพักผ่อน เน้นเช็คอิน เน้นกิน เน้นเที่ยว กับที่พักเปิดใหม่สไตล์โมเดิร์นที่อยู่ใกล้จุดเช็คอินสุดฮิตในเมืองเชียงใหม่ และที่พักสุดหรูสไตล์บูทีคท่ามกลางธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง กับทริป 3 วัน 2 คืน แอ่วเชียงใหม่สุดม่วน นอนสุดฟิน เช็คอินสุดชิค
เข้าใกล้วันหยุดทีไรก็มีใจอยากจะไปเที่ยวทุกที และแน่นอนเชียงใหม่เป็นอันดับหนึ่งในลิสต์ที่เราวางแพลนจะไปเพราะมีทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่เช็คอิน สวยๆ แถมยังเดินทางไปไหนมาไหนได้ง่ายๆ ด้วยรถสาธารณะ ว่าแล้วเราก็ไม่รอช้ารีบกดค้นหาที่พักที่อยู่ใกล้ที่เที่ยว ที่กิน ที่เช็คอินแบบเพลินๆ เพื่อให้สะดวกกับทริป 3 วัน 2 คืนของเรามากที่สุด พอได้ที่พักแล้วก็ไม่รอช้ากดตั๋วเครื่องบินพร้อมไปฟินที่เชียงใหม่กันโลด…
เราขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองประมาน 10.30 น. นั่งเครื่องแค่ชั่วโมงนิดๆ เครื่องก็แลนด์ดิ้งที่สนามบินเชียงใหม่ตอนเกือบเที่ยงวันพอดี และไม่รอช้าเรารีบมุ่งหน้าไปที่ Darley Hotel Chiangmai ที่พักที่เราบุ๊คกิ้งเอาไว้ จากสนามบินเชียงใหม่ถึงตัวโรงแรมใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาที โดยมีรถสาธารณะจากสนามบินให้เลือกทั้งรถแดง และ RTC Chiang Mai City Bus หรือรถเมล์เชียงใหม่ และยังสามารถเหมารถแดงและรถแท๊กซี่เพื่อความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย
และแล้วเราก็มาถึงโรงแรม Darley Hotel Chiangmai ที่พักเปิดใหม่สไตล์โมเดิร์นที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ อยู่ใกล้ทั้งที่กิน ที่เที่ยวและแหล่งช็อปปิ้งมากมาย ซึ่งแต่ละที่ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คยอดฮิตของเมืองเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ ตัวโรงแรมตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นตั้งแต่ภายนอกโรงแรมจนไปถึงภายในโรงแรม และยังมีพนักงานที่คอยให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นอีกด้วย
เมื่อเข้ามาถึงล็อบบี้ก็ต้องเช็คอินผ่านระบบ Self Service ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ และยังมีพนักงานของทางโรงแรมคอยให้คำแนะนำ
อย่างที่บอกไปว่าทริปนี้เราสองคนเน้นมาพักผ่อนแบบชิลล์ๆ เราเลยจองห้อง Premier Room ห้องที่ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นเรียบหรู ที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่มาพักผ่อนแบบเรามากๆ พื้นที่ภายในห้องก็ยังกว้างขวางและครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ที่มาพร้อมกับเตียง Queen bed และโซฟานุ่มๆ พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ไว้ให้ชมวิวกันอย่างจุใจ
ห้องสวยน่านอนขนาดนี้เราก็ไม่พลาดที่จะเก็บรูปมุมชิคๆ ภายในห้องไปอัพลงอวดเพื่อนๆ แบบชีวิตดี๊ดีกันสักหน่อย ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนภายในห้องก็ได้รูปสวยๆ อย่างแน่นอน
และยังมีมุมให้นั่งพักผ่อนและนั่งทำงานที่ชั้นสองอีกด้วย ใครที่อยากหามุมสงบๆ นั่งชิลล์หรือนั่งทำงานต้องมาที่มุมนี้เลย
และที่สำคัญตัวโรงแรมตั้งอยู่ใกล้ที่เที่ยว ที่กิน แหล่งช้อบปิ้งสุดฮิตของเชียงใหม่มากมายทั้ง ถนนคนเดินท่าแพ ตลาดวโรรส ย่านชุมชนวัดเกต และย่านถนนท่าแพ ซึ่งแต่ละที่สามารถเดินเท้าไปด้วยตัวเองได้เลย รับรองเลยว่าถูกใจสายกินเที่ยว ทั้ง Day Life และ Night Life อย่างแน่นอน
ที่เที่ยวแต่ละที่อยู่ไม่ไกลจากตัวโรงแรมแถมเดินไปได้เรียกได้ว่าประหยัดงบเที่ยวไปได้เยอะเลยทีเดียว พอตกเย็นท้องก็เริ่มร้องซะแล้ว เราเลยปักหมุดแล้วเดินไปกันที่ร้าน ซามูไรคิทเช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่เราพัก ตัวร้านตกแต่งด้วยสไตล์ญี่ปุ่นแบบเท่ๆ ที่ให้อารมณ์อาซากายะ เหมือนนั่งอยู่ในร้านอาหารที่ญี่ปุ่นและที่สำคัญ ทุกเมนู 59 บาท
และเดินไปกันต่อที่ ถนนคนเดินท่าแพ ซึ่งจะมีทุกวันอาทิตย์ จากโรงแรมใช้เวลาเดินประมาน 10 นาที บรรยากาศที่ถนนคนเดินท่าแพเต็มไปด้วยของขายงานแฮนด์เมดและของกิน ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กับสองสาวแบบเราสุดๆ
เมื่อเดินช็อปปิ้งแบบจัดหนักจัดเต็มเสร็จแล้ว เราก็ขึ้นรถแดงจากประตูท่าแพไปอีกหนึ่งจุดที่อยู่ไม่ไกลจากตัวโรงแรม และถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ ขัวเหล็ก สะพานข้ามแม่น้ำปิงที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำปิงและเมืองเชียงใหม่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำในยามค่ำคืน
หมดไปสำหรับวันแรกทริปเที่ยวในเมืองเชียงใหม่ ที่เราเน้นมาเที่ยวชิลล์ๆ แถมยังพักที่พักใกล้ๆ ที่เที่ยวอย่าง Darley Hotel เรียกได้ว่าทริปนี้ทั้งชิลล์และประหยัดงบไปเยอะ
วันนี้เราตื่นเช้ามาพร้อมกับบรรยากาศดีๆ ในตอนเช้าของโรงแรม Darley Hotel เรามานั่งจิบกาแฟสูดอากาศที่บริสุทธิ์ของเชียงใหม่ ทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนในตอนเช้าแบบสโลว์ไลฟ์ที่หาไม่ได้ในเมืองกรุงฯ
และจัดเต็มกับอาหารเช้าของทางโรงแรมที่มีแต่ของอร่อยๆ ให้เราได้เลือกหลากหลายเมนู ทั้งเมนูพื้นเมืองอย่าง ไข่ป่าม หรือเมนูทานง่ายๆ อย่างข้าวเหนียวหมูปิ้ง แซนวิช และติ่มซำ ก่อนจะเช็คเอ้าท์และฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม
เมื่อวานเราได้เห็นบรรยากาศของประตูท่าแพตอนกลางคืนไปแล้ว เช้านี้เราเลยมาถ่ายรูปกับป้าย ประตูท่าแพ อีกรอบ เพราะเรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ ที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่ายรูปชิคๆ โพสต์ท่าเก๋ๆ กันตรงนี้
และย่านถนนประตูท่าแพยังมีคาเฟ่สุดครีเอท อย่างร้าน Gateway Coffee Roaster ตัวร้านตั้งอยู่บนชั้นสองของตึก ภายในตัวร้านตกแต่งด้วยโครงสร้างเดิมของตัวตึกและมีที่นั่งหลากหลายมุม แต่ที่เป็นไฮไลท์เลยคือมุมระเบียงที่สามารถมองเห็นวิวของถนนท่าแพแบบ 180 องศา
ฝั่งตรงข้ามยังมีวัดสวยๆ อย่าง วัดมหาวัน เราเลยเข้าไปชมบรรยากาศภายในวัดกันสักหน่อย
และอีกหนึ่งแหล่งช็อปปิ้งห้ามพลาดที่อยู่ใกล้ๆ กับตัวโรงแรมนั่นก็คือ ตลาดวโรรส หรือที่คนเชียงใหม่เรียกกันว่า กาดหลวง ที่เป็นแหล่งรวมของฝากอร่อยๆ อย่างแคบหมู น้ำพริกหนุ่ม หรือจะเป็นผลไม้อบแห้งและของฝากจากเชียงใหม่อีกหลายอย่างก็รวบรวมไว้ที่นี่ครบ
เมื่อเดินมาถึงกาดหลวงแล้ว อีกหนึ่งที่เที่ยวที่อยากแนะนำเลยก็คือ ย่านชุมชนวัดเกต ที่สามารถเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปิงมาจากกาดหลวงได้เลย
ย่านวัดเกตเป็นย่านชุมชนที่มีบ้านเรือนเก่าๆ และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ให้เรามาถ่ายรูปแบบฮิปๆ ก่อนเดินกลับเอากระเป๋าที่ฝากไว้กับทางโรงแรม Darley Hotel
เนื่องจากอีกหนึ่งที่พักที่เราจะไปพักกันต่อในวันนี้ตั้งอยู่นอกเมืองเราเลยต้องเช่ารถเพื่อความสะดวกในการเดินทาง และเราก็ไปต่อกันที่คาเฟ่สุดฮิตที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง The Bistro at Ping River ที่มีเมนูเครื่องดื่มและเบเกอรี่อร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และที่สำคัญภายในตัวร้านตกแต่งได้สวยเหมาะแก่การมานั่งชิลล์และถ่ายรูปมากๆ
มุมที่เป็นไฮไลท์ที่ใครๆ มาก็ต้องถ่ายรูปคือมุมโต๊ะที่ตั้งอยู่บนระเบียงริมน้ำมุมนี้
กินอิ่มและได้รูปสวยถูกใจ เราเลยปักหมุดไปกันที่ Ratchapruek Lanna Boutique ที่พักที่เราจะไปนอนกันในคืนนี้ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ใช้เส้นทางเดียวกันกับทางไปอุทยานหลวงราชพฤกษ์และเลี้ยวไปทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ออกจากตัวเมืองเพียง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาน 30 นาที
ราชพฤกษ์ ลานนา บูทีค (Ratchapruek Lanna Boutique) รีสอร์ทท่ามกลางธรรมชาติและบรรยากาศที่เงียบสงบ ตัวรีสอร์ทตกแต่งด้วยสไตล์โคโลเนียลและล้านนาบูทีคเข้าด้วยกันอย่างลงตัว และยังมีสระว่ายน้ำให้ว่ายน้ำผ่อนคลาย เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการมาพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัว
ภายในสวนเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด และต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นและบริสุทธิ์
วันนี้เรานอนห้อง Junior Room ที่ตกแต่งด้วยสไตล์โคโลเนียลคอนเท็มโพลารี่ พื้นที่ภายในห้องกว้างขวางและมีเตียงขนาดใหญ่ อีกทั้งยังแบ่งสัดส่วนได้อย่างลงตัว และพิเศษด้วยมุมห้องนั่งเล่นพร้อมชุดโซฟาและครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
ด้านหน้าห้องมีโต๊ะให้นั่งชมสวนดอกไม้
และยังมีจักรยาน Mobike ให้ปั่นด้วยนะ
เที่ยวมาทั้งวันเลยขอมานั่งชิลล์ริมสระว่ายน้ำสักหน่อย
บรรยากาศรอบๆ สระว่ายน้ำเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้ในสวน
ปิดท้ายวันที่สองของทริปนี้ ด้วยมื้อเย็นสุดอร่อย วันนี้เราสองคนขอจัดเต็มริมสระว่ายน้ำด้วยเมนูอาหารพื้นเมืองอย่าง เซ็ตออเดิร์ฟเมือง และต้มยำกุ้ง รสชาติสุดแซ่บจากฝีมือเชฟของทาง ราชพฤกษ์ ลานนา บูทีค
เช้าวันสุดท้ายของทริป ตื่นเช้ามาสูดโอโซนพร้อมกับอากาศหนาวๆ และกินมื้อเช้าจากทางรีสอร์ทที่เราสามารถเลือกได้แบบเป็นเซ็ตตั้งแต่ตอนเช็คอิน ซึ่งอาหารแต่ละเมนูจัดเต็มไปด้วยปริมาณและความอร่อย
ตัวรีสอร์ทยังตั้งอยู่ใกล้ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เพียง 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาที เราก็เลยไม่พลาดเข้าไปชมบรรยากาศสวนดอกไม้นานาชนิดและเก็บภาพสวยๆ เพียบ
และเมื่อมาถึงอุทยานหลวงราชพฤกษ์แล้วก็ต้องห้ามพลาดที่จะขึ้นไปขอพรที่ วัดพระธาตุดอยคำ สักหน่อย
ก่อนกลับไปเช็คเอ้าท์ออกจากรีสอร์ทเราเลยแวะไป บ้านกระต่ายแอดเวนเจอร์ ร้านบรรยากาศริมน้ำที่อยู่ไม่ไกลจาก ราชพฤกษ์ ลานนา บูทีค
และกลับมาเช็คเอ้าท์ออกก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ที่ ราชพฤกษ์ ลานนา บูทีค ที่ให้การต้อนรับและการบริการอย่างอบอุ่นตั้งแต่วันเช็คอินจนถึงวันเช็คเอ้าท์
เป็นอย่างไงกันบ้างกันทริป 3 วัน 2 คืน กับสองที่พักบรรยากาศสองสไตล์ ทั้ง Darley Hotel Chiangmai ที่พักเปิดใหม่ใกล้ที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์สำหรับผู้ที่มาเที่ยวพักผ่อนในตัวเมืองเชียงใหม่ และ Ratchapruek Lanna Boutique ที่พักสุดหรูท่ามกลางธรรมชาติสุดสงบที่หาได้ไม่ไกลจากตัวเมือง ลองเอาทริปนี้เป็นทริปตัวอย่างในการเที่ยวแบบชิลล์ๆ เน้นกิน ฟินถ่ายรูป และที่สำคัญเชียงใหม่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู รับรองเลยว่าจะต้องหลงรักเชียงใหม่มากขึ้นอย่างแน่นอน
ดูคลิปวิดีโอเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน