ท่องทะเลใต้ 5 วัน 4 คืน นอนโฮมสเตย์ กินอยู่บ้านๆ ทดลองใช้ชีวิตให้พอเพียง
18,879 ครั้ง
3 พ.ย. 2560
18,879 ครั้ง
3 พ.ย. 2560
แม้ว่าช่วงนี้จะใกล้เข้าหน้าหนาวแล้ว แต่สำหรับคนที่รักทะเล และกำลังคิดถึงความอบอุ่นของไอทะเลเห็นทีต้องไม่พลาดเก็บกระเป๋าออกไปเที่ยวทะเลกัน และที่สำคัญรีวิวนี้เราได้ร่วมเดินทางไปกับโครงการพัฒนาเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT) ที่ได้พาเราไปเที่ยวและสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน และได้พักโฮมสเตย์พร้อมกับเรียนรู้วิถีชีวิตจากหลายๆ ชุมชนอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วมาเก็บกระเป๋าไปนอนโฮมสเตย์ริมทะเลกันเถอะ…
Day: 1 เราออกเดินทางกันแต่เช้าจากกรุงเทพฯ มายังสนามบินภูเก็ต ด้วยการโดยสารสายการบิน ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ เมื่อมาถึงก็เดินทางกันต่อด้วยรถตู้ไปยังท่าเรือท่าฉลองเพื่อนั่งเรือไปยังเกาะโหลน โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที
กิจกรรมที่เกาะโหลนจะมีเที่ยวน้ำตก เที่ยวทะเล เดินป่า ชมถ้ำค้างคาว
และยังมีกิจกรรมแนววิถีชีวิตให้เราได้สัมผัสไม่ว่าจะเป็นการทำผ้าบาติก ให้เราได้ออกแบบลวดลายผ้าเก๋ๆ ไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
และยังมีกิจกรรมทำขนมต้มใบมะพร้าว และขนมโคแบบโบราณ
หลังจากทำกิจกรรมที่เกาะโหลนเสร็จ ขอแวะรับประทานอาหารกันก่อน
จากนั้นเราก็เดินทางมาเที่ยวชมตึกเก่าย่าน Old Town กลางเมืองภูเก็ต ซึ่งนอกจากจะมีตึกเก่าสไตล์ชิโนโปตุกีสแล้ว ที่นี่ยังมีสตรีทอาร์ทเท่ๆ ให้เราได้เก็บภาพอีกหลายมุมทีเดียว หรือถ้าอยากเที่ยวแบบเพิ่มความรู้ก็ต้องไม่พลาดแวะมาชมพิพิธภัณฑ์ไทยหัว ซึ่งในอดีตตึกนี้เป็นโรงเรียนของคนจีนที่อพยพมาอยู่ภูเก็ตนั้นเอง
ซึ่งภายพิพิธภัณฑ์ไทยหัวจะเล่าถึงการทำอุตสาหกรรมของคนจีนสมัยก่อน คือ การทำเหมืองแร่
เดินเล่นชมเมืองกันสักพัก ก็ขอแวะมาชิมขนมจีนสุดเด็ดที่ร้าน i46 จากร้านขนมจีนเดินเข้าซอยนู้น ออกซอยนี้อยู่สักพัก เราก็มาแวะครัวบาบ๋า เพื่อดูวิธีการทำ “ผัดหมี่ฮกเกี้ยน ต้นตำรับเมืองทุ่งคา”
หลังจากเพลิดเพลินกับ หมี่ฮกเกี้ยน เราก็ออกเดินทางกันต่อไปยังที่พักของเราในคืนนี้ที่ ชุมชนบ้านสามช่องเหนือ อ. ตะกั่วทุ่ง จ. พังงา สำหรับการเดินทางไปยังที่พักจะต้องนั่งเรือข้ามฝั่งไปอีกประมาณ 5 – 10 นาที
Day: 2 วันนี้เราตื่นกันแต่เช้า ออกมาสูดอากาศและกลิ่นไอทะเลที่ ชุมชนบ้านสามช่องเหนือ พร้อมรับประทานอาหารเช้าแบบบ้านๆ “ข้าวยำน้ำวูดู” เมนูสุดเด็ดของโฮมสเตย์แห่งนี้
ก่อนจะออกเดินทางกันอีกครั้ง เพื่อล่องเรือไปชมถ้ำเพชรประการัง และนั่งซีแคนนูชมระบบนิเวศน์ป่าโกงกาง
เดินทางกันต่อไปยังชุมชนบ้านท่าดินแดง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เพื่อเที่ยวชมการปลูกผักปลอดสารพิษไฮโดรโปรนิกส์
ชมการร่อนแร่ดีบุก
และพายเรือคายัคชมป่าชายเลนส์ทุ่งสะวันนา และถ่ายรูปหาดเขาหน้ายักษ์ก่อนที่จะฝนจะเริ่มเทลงมา
รับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว
ก็ถึงเวลาพักผ่อนคืนนี้เราไปพักกันที่ บุหลันอันดา บาบ๋ารีสอร์ท อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งได้มีพนักงานมาค่อยต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกับเสิร์ฟข้าวต้มปลาจาระเม็ดและชาแดง หรือ ข้าวต้มบาบ๋า
อีกทั้งยังมีกับการแสดงจากกลุ่มเด็ก-ชาวบ้าน การเต้นแบบภาคใต้ “ร็องแง๊กร่วมสมัย” ให้เราได้เพลิดเพลินไปกับการต้อนรับครั้งนี้
Day: 3 ช่วงเช้าตื่นมารับประทานอาหารที่ บุหลันอันดา บาบ๋า รีสอร์ท โดยมีเมนูซิกเนเจอร์ที่ต้องลองอย่าง ข้าวยำ ที่เสิรฟ์มาพร้อมกับผักเยอะๆ
เมื่อเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันต่อไปยัง ชุมชนท่องเที่ยวบ้านแหลมสัก เพื่อเที่ยวชมเจดีย์วัดแหลมสัก หรือ ควนวิเวการาม ซึ่งมีอายุกว่า 100 ปี และไปสักการะศาลเจ้าซกโป้ซีเอี๋ย ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3
หลังจากขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เราก็ออกเดินทางกันต่อด้วยเรือหัวโทง เพื่อไปชมภาพเขียนสีอายุกว่า 3,000 ปี อีกทั้งยังได้ทำกิจกรรมเลี้ยงสาหร่ายในกระชัง และปลูกต้นไม้
รับประทานอาหารเที่ยง “ข้าวคลุกกะปิกุ้งตัก อาหาร signature ของแหลมสัก
รับประทานอาหารเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันต่อไปยัง ชุมชนท่องเที่ยวบ้านทุ่งหยีเพ็ง อ.เกาะลันตา จ. กระบี่
ซึ่งเป็นชุมชนชาวมุสลิม ที่ได้เริ่มมีการทำการท่องเที่ยวแบบป่าชุมชมตั้งแต่ปี 2540 และพัฒนาโครงการท่องเที่ยวมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน จะมีนักท่องเที่ยวเช้าชมประมาณ 100 – 200 คน โดยมีกิจกรรมนั่งเรือยาวชมธรรมชาติราคาลำละ 1000 บาท นั่งได้ 10 คน สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 089 590 9173 บังนัด และ 080 699 2326 คุณฉัก
หลังจากทำกิจกรรมที่บ้านทุ่งหยีเพ็งเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางไปยังที่พักของเราในคืนนี้ที่บ่อหินฟาร์มสเตย์ อ.สิเกา จ.ตรัง
Day: 4 หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เราเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวบ่อหินฟาร์มสเตย์ อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งชุมชมที่มากมายไปด้วยวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่น่าสนใจ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอย่างเกาะยา ให้เราได้ดำน้ำชมปะการัง และยังมีชายหาดสวยให้เราได้เดินเล่นและถ่ายรูปเพลินๆ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นแหล่งซีฟู้ดชั้นดีอีกด้วย
เราใช้เวลาอยู่ที่ชุมชนบ่อหินฟาร์มสเตย์กันสักพักใหญ่ ก็ออกเดินทางกันต่อโดยแวะรับประทานอาหารเที่ยง
ก่อนจะไปเที่ยวชมบ้านลำขนุน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งที่นี่มีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่างทีเดียวไม่ว่าจะเป็น เรียนรู้การแกะรูปหนังตะลุง
ชมการแสดงมโนราห์ และเที่ยวชมแปลงเกษตรของชาวบ้าน
หลังจากนั้นก็ออกเดินทางกันต่อไปยังชุมชนท่องเที่ยววังสายทอง อ.ละงู จ.สตูล เพื่อเข้าพักโฮมสเตย์ในคืนนี้
Day: 5 เช้านี้รับประทานอาหารที่ร้านแม่ศรีเวียง เป็นอีกหนึ่งร้านเด็ดที่แนะนำว่าต้องแวะมาโดนหากได้มีโอกาสมาเที่ยวที่ อ.ละงู จ.สตูล
จากนั้นก็เที่ยวชมชุมชนบ้านวันสายทอง ซึ่งมีกิจกรรมเดินชมถ้ำภูผาเพชร
และเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวบ่อเจ็ดลูก อ.ละงู ซึ่งจะต้องเดินทางด้วยเรือ ซึ่งที่นี่มีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทริปเกาะเข้าใหญ่, พายเรือคายัค เพื่อไปชมปราสาทหินพันยอด
หลังจากเสร็จกิจกรรมพายเรือคายัค พวกเราก็แวะรับประทานอาหารเย็น ก่อนที่จะเตรียมเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันในช่วงเย็นนี้ ซึ่งช่วงขากลับเราไปขึ้นเครื่องกันที่สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา
ขอบคุณการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต