วิถีแว๊นแบ็คเกอร์จากกรุงเทพฯ สู่ น้ำตกหมันแดง จ.เพชรบูรณ์ กับสามคนสองคัน by สาวหน้ากลม
10,682 ครั้ง
16 ต.ค. 2559
10,682 ครั้ง
16 ต.ค. 2559
“ความสุขอยู่ที่ได้เที่ยว ไม่เกี่ยวกับซีซีรถ” ตามนั้นเลยค่ะ ทริปนี้ขี่ exciter 150 cc รถคู่ใจคันเดิมไปขึ้นเหนืออีกครั้ง เมื่อใดที่หัวใจเสพติดการเดินทาง และการผจญภัยครั้งแรกจบลงแบบ Happy Ending การผจญภัยครั้งนี้ของสาวหน้ากลมจึงบังเกิดขึ้น
ทริปนี้เป็นทริป ขี่มอไซด์ ไปเดินป่า ออกเดินทางด้วยมอเตอร์ไซด์ 3 คน 2 คัน ระยะทางรวมไปกลับ 1106 กิโลเมตร
ออกเดินทางไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ
11/08 19:00 กทม เพชรบูรณ์
12/08 เพชรบูรณ์ > ภูทับเบิก >น้ำตกหมันแดง >บ้านร่องกล้า
13/08 บ้านร่องกล้า >ภูหินร่องกล้า >เขาค้อ
14/08 เขาค้อ > กทม
คืนแรกออกจาก กทม ประมาณทุ่มกว่าๆ แล้วค่ะ รถติดมากมาย ตั้งแต่ดอนเมือง จนถึง ลพบุรี มองนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว จากแผนที่วางไว้ว่าจะไปให้ถึงตัวเมืองเพชรบูรณ์ จึงเปลี่ยนแผนเป็นนอนพักแถววิเชียรบุรี เป็นห้องพักราคา 600 บาท ที่พักอยู่ตรงข้ามปั้ม ปตท และใกล้โรงพยาบาลวิเชียรบุรี
วันที่สอง ตื่นตีห้า ออกจากโรงแรมที่พัก และเดินทางระยะทางอีก 170 กว่ากิโล เพื่อให้ทันดูหมอกที่ภูทับเบิก และเดินป่าน้ำตกหมันแดง เราถึงภูทับเบิกประมาณ 7 โมงเช้า แต่น่าเศร้าใจที่หมอกฟุ้งกระจาย ไม่เป็นทะเลหมอกอย่างที่หวังไว้ เราต้องเตรียมอาหารเที่ยงและน้ำไปทานในป่าเอง เมื่อสั่งอาหารเรียบร้อย…ระหว่างรอข้าวกล่อง ก้อขี่รถตามหาทะเลหมอกกัน
เห็นหมอกไกลๆนั้นไหม!!
วิวรอบๆเป็นรีสอร์ทที่พักของภูทับเบิก
การเดินทางเข้าไปชม น้ำตกหมันแดง นั้นต้องให้เจ้าหน้าที่นำทาง โดยจากจุดตรวจภูทับเบิกไปอีก 11 กิโล ด้านขวามือจะพบ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ภรก. 7 (หมันแดง) อำเภอ ด่านซ้าย เลย
เราได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ “พี่อ่อนศรี” เจ้าหน้าที่นำทางไว้แล้ว เบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่ พี่อ่อนศรี เผื่อใครสนใจไปเดินน้ำตกนะค่ะ [Tel. 0910400774] จากภูทับเบิกเรามาถึงหน่วยพิทักษ์น้ำตกหมันแดงประมาณแปดโมง เปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดแว๊น เป็นชุดเดินป่า…. ที่หน่วยพิทักษ์ลมพัดแรง หมอกลงจัด อากาศหนาวมากและน้ำค้างลงแรง พี่เจ้าหน้าที่จุดไฟอั่งโล่ไว้ผิงไฟให้อุ่น เจ้าแมวเหมียวน้อยหนาวสั่น…ต้องผิงไฟช่วยคลายหนาว จนขนไหม้เป็นย่อมๆ แบบไม่รู้ตัว
เวลาประมาณ เก้าโมง เราก้อเริ่มออกเดินเท้าเข้าป่ากัน ภาพแรกที่เห็น เมื่อย่างเท้าเข้าป่า คือทุ่งหญ้ามอสเขียว เหมือนดินแดนเนรมิตร
น้ำตกหมันแดง มีทั้งหมด 9 ชั้น ในการเดินเท้าเข้าไปชม โดยเริ่มจากหน่วยพิทักษ์หมันแดง ไปสิ้นสุดที่หมู่บ้านหมันขาว แต่ในการเดินเท้าของเราครั้งนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเราจะเดินแค่ 5 ชั้น ไป-กลับทางเดิม ระยะทางไปกลับทั้งหมด 8 กิโล ความสวยงามของน้ำตกหมันแดงในช่วงหน้าฝนคือ “ดอกลิ้นมังกร สีชมพู” ซึ่งจะบานแค่เดือนสิงหาคมและกันยายนเท่านั้น พี่อ่อนศรี เจ้าหน้าที่นำทางของเรา เดินไวมว๊าก
ประมาณเที่ยงครึ่ง พี่เจ้าหน้าที่ บอกให้เราออกเดินทางกลับ ขากลับต้องเดินขึ้นเขา เล่นเอาหอบแฮ่กๆ ดมยาดมไป เดินเกาะเชือกไป ถึงหน่วยพิทักษ์ประมาณเกือบบ่ายสาม เราเปลี่ยนชุดเดินป่าออก ใส่เสื้อการ์ด พร้อมเดินทางไปยังหมู่บ้านร่องกล้า เราขี่วนๆ หาห้องพักไปเรื่อยๆ สุดท้ายมาจบที่นี่ คืนละ 1000 นอนได้ 3-4 คน อุณหภูมิ 20 กว่าองศาแต่หนาวมากเพราะลมแรง ใครที่ว่าลำปางหนาว ตอนนี้ขอบอกเลยว่า เพชรบูรณ์หนาวกว่าลำปางมากกกก!! คืนนี้นอนกันตั้งแต่สองทุ่ม หมดแรง….เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ
เช้าวันที่สอง วันนี้เราจะออกบ้านร่องกล้าไปยังไป อุทยานภูหินร่องกล้า
ที่อุทยานภูหินร่องกล้า จะมีบ้านไม้สีเขียวที่เรียกว่า โรงเรียนการเมืองการทหาร หากมาตอนใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีจะสวยมากเลยค่ะ หลังจากเดินดูบ้านไม้สีเขียว เราจะเดินชม ลานหินปุ่มม กันค่ะ เค้าบอกว่ามีดอกลิ้นมังกรสีเหลืองด้วย ไปกันค่ะ (ดอกไม้ระหว่างเดินไปลานหินปุ่ม) หลังจากเดินเที่ยวลานหินปุ่มจนเมื่อยตุ่ม เราจะไปเที่ยวเขาค้อกันต่อ ที่เที่ยวเยอะจริงๆ เพชรบูรณ์ หลังจากถ่ายรูปไปรษณีย์เขาค้อจนหมดมุม เราก้อมาคิดกันว่า เราจะนอนที่ไหนกัน ฝนก้อตกหนัก ทำเวลาในการขี่ไม่ได้เลย จะไปนอนน้ำหนาวหรือนอนเขาค้อดีนะ จอดมอไซด์ริมทางแล้วคิดกันดีกว่า
เอาแหละ กินกาแฟแล้วนอนที่เขาค้อนี่แหละ ไม่เหนื่อยดี สบายสบาย แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตไบเกอร์คือ “คาเฟอีน” หากาแฟกินกัน….แหละแล้ว เราก้อมาถึงร้านกาแฟ ที่เช็คอิน สุดฮิต “Pino Latta” ทางเข้าทางเดียวกับ..วัดผาซ่อนแก้ว
กาแฟหลักร้อย วิวหลักล้านน ที่พักหลักพัน [ที่พักคืนละ 6500 แอบถาม พนักงานที่ร้าน] หลังจาก คาเฟอีน เข้ากระแสเลือดแล้ว ออกเดินทางต่อไปหาที่พักกันค่ะ คืนนี้จะนอนไหนน๊า หลังจากขี่มอไซด์..ตามหาที่พักที่ราคาเหมาะสมกับ ฐานะแล้งแค้น ของเราได้ ก้อมาจบที่นี่ จ๊ะเอ๋!! ที่พักหลักร้อย ประทับใจหลักล้าน ที่นี่เลยค่ะ บ้านพักผู้พัน ราคาที่พัก 800 นอนได้ 4-6 ท่านมีอาหารเช้าเป็น กาแฟ ปาท่องโก๋ ขนมปังปิ้ง
วันที่สาม วันนี้ต้องกลับกรุงเทพแล้วนะ แต่ก่อนจะกลับต้องมี สไปร์ทกันหน่อย กังหันลม!!!
หลังจากชมวิวกังหันลม จนหัวฟูยุ่งเหยิง เพราะลมแรงมว๊ากกกก เราก็ต้องโบกมือลาเพชรบูรณ์กันแล้ว ระยะทางที่กลับประมาณ 400 กิโล ขี่กลับแบบไม่เร่งรีบนัก แต่ระหว่างทางรถติดมากมายเช่นเคย ก้อวันหยุดยาวนี่นะ ใครก้อมาเที่ยว ใครก้อกลับบ้าน ออกจากเพชรบูรณ์ประมาณ บ่ายสามกว่ากว่า ถึง กรุงเทพเมืองฟ้าอมรประมาณสี่ทุ่ม
และอย่างเช่นเคย…ขอจบทริปนี้ด้วยรูปใบนี้ รูปที่หัวใจบันทึกความทรงจำดีดีไว้ ฉันมาแล้วนะ เพชรบูรณ์เมืองเก๋ไก๋ ถ่ายที่ พระตำหนักเขาค้อ
ขอบคุณข้อมูลการเดินทางและภาพถ่ายสวยๆ จากคุณMarisapk