tripgether.com

สุพรรณบุรี 2 วัน 1 คืน รื้อฟื้นบรรยากาศเก่าสุดเก๋ไก๋ ครบทุกความสุข ช้อป ชิม ชิลล์

52,598 ครั้ง
21 มี.ค. 2562

เมืองยุทธหัตถี วรรณคดีขึ้นชื่อ เลื่องลือพระเครื่อง รุ่งเรืองเกษตรกรรม สูงล้ำประวัติศาสตร์ แหล่งปราชญ์ศิลปิน ภาษาถิ่นชวนฟัง เกริ่นคำขวัญกันมาซะชัดเจนขนาดนี้แล้ว..ทริปนี้ก็คงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก สุพรรณบุรี อีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวยอดฮิต ที่มีทั้งธรรมชาติ วิถีชีวิต รวมถึงความเป็นกันเองและสำเนียงเสียงพูด ที่ยังคงไว้ได้อย่างเป็นเสน่ห์ ครั้งนี้ทริปเก็ทเตอร์เลยจะพาไปฟินทำความรู้จักกับที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ให้มากขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ กับ ทริปสุพรรณบุรี 2 วัน 1 คืน บอกเลยว่าประทับใจ ยกให้เป็นอีกหนึ่งจังหวัดน่าสุดประทับใจ ที่จะไม่ลืมเลือนไปจากเมมโมรี่ของชีวิตกันเลย


l DAY 1 l

เราออกเดินทางกันช่วงสายๆ ของเช้าวันธรรมดา เพื่อเลือกที่สัมผัสกับเสน่ห์ของความเรียบง่ายของสุพรรณบุรี การเดินของทริปนี้เราใช้รถยนต์ส่วนตัวยิงตรงมาตามใช้คู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี เข้าสู่บางบัวทองและมุ่งหน้าบนถนนหลวงเส้น 340 ผ่านจังหวัดทั้งปทุมธานี นครปฐม และอยุธยา ใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมง 30 นาที ก็ถึงประตูสู่สุพรรณบุรีที่ อำเภอสองพี่น้อง และแวะชิลล์ประเดิมกันที่ร้านแรกกับ บ้านริมนาคาเฟ่ ร้านน่านั่งบรรยากาศริมทุ่งนาแห่งเดียวของอำเภอนี้

Baan_Rim_Na_Cafe-29

ร้านนี้ตั้งอยู่พื้นที่ของชุมชนบ้านเรือนไทยหลังสวย ที่ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาจากทางไหนก็ต้องสะดุด ภายในมีบริการทั้งร้านอาหาร ร้านของฝาก รวมถึงที่พัก ส่วนคาเฟ่จะอยู่ด้านในติดริมนา เป็นบ้านไม้เรือนไทยสีน้ำตาลเข้ม ที่ดูลงตัวกับผืนนาสีเหลืองทอง ถึงแม้ช่วงที่เราไปจะเก็บเกี่ยวไปแล้วบรรยากาศก็ยังสดชื่น ภายในมีบาร์และมุมนั่งที่ตกแต่งในแบบโบราณ ประดับกระจกสีที่เมื่อกระทบกับแสงแดดยามสายแล้วงดงาม มีมุมให้เลือกนั่งกันเพียบ

Baan_Rim_Na_Cafe-6-02suphanburi

 แต่สำหรับมุมเด็ดวิวดีต้องยกให้กับระเบียงห้อยขาริมนา ที่จะมีลมพัดมากระทบหน้าเป็นระลอก

Baan_Rim_Na_Cafe-13

ส่วนเมนูที่นี่จะเน้นเสริฟเครื่องดื่มและขนมไทยซะส่วนใหญ่ และเมนูซิกเนเจอร์ที่เรียกว่าต้องสั่งกันทุกออร์เดอร์เลยก็คือ เมี่ยงกลีบบัว เมนูโบราณหากินยาก รสชาติกลมกล่อมมาพร้อมเครื่องเคียงกลิ่นหอมชวนสดชื่นเข้ากับบรรยากาศ แถมยังถ่ายรูปสวย ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งชา กาแฟ แต่ถ้าหากสดชื่นก็ต้องเมนูอิตาเลี่ยนโซดาสุดซาบซ่า

Baan_Rim_Na_Cafe-6-01suphanburi

Baan_Rim_Na_Cafe-1

ถึงจะมาช่วงวันหยุดก็ไม่ต้องกลัวจะคนเยอะ ยังมีมุมกระท่อมไม้ไผ่แบบเป็นส่วนตัว หรือใครฟินเพิ่มเติมก็มีห้องพักสวยสไตล์ไทยให้พักผ่อนด้วยนะ / บ้านริมนาคาเฟ่ เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 19.00 น. เบอร์โทรศัพท์ 081 936 6681

Baan_Rim_Na_Cafe-0-02suphanburi

ไม่ไกลกันในอำเภอสองพี่น้องแห่งนี้ ยังมากมายด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั้ง วัดไผ่โรงวัว วัดอัมพวัน และวัดท่าเจดีย์ แต่ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ก็ต้องยกให้ ตลาดน้ำสะพานโค้ง ซึ่งคือจุดหมายต่อไปของเรา จากริมนาคาเฟ่ใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาที

Saphan_Kong_Market-18

ตลาดนำ้สะพานโค้ง เป็นตลาดเปิดใหม่ที่พึ่งเปิดให้ชิลล์ช่วงปลายปี 61 ที่ผ่านมานี้เอง ตัวตลาดตั้งเลียบขนานระหว่างกับคลองสองพี่น้องและสระบัวหลวงขนาดใหญ่ มีทางเดินไม้ไผ่ทอดยาวเป็นสะพานที่โค้ง ซึ่งสองฝั่งขนาบด้วยร้านขายของทั้งคาว หวาน และพืชผักสวนครัวที่เก็บมาจากสวนสดๆ ขายกันแบบบรรยากาศพื้นบ้านเป็นกันเอง และถึงแม้เราจะมาวันธรรมดาร้านจะไม่ค่อยเยอะเหงาหน่อย แต่ก็มีข้อดีคือจะถ่ายรูปสวยและไม่วุ่นวาย

Saphan_Kong_Market-18

Saphan_Kong_Market-18

ร้านส้มตำแซ่บๆ ก็มีให้ลิ้มลองนะ โป๊กๆ โคลกกับมันส์บนเรือเลยจ้า

Saphan_Kong_Market-17

ส่วนมุมเด็ดที่เรียกว่าเป็นไฮไลท์ใหม่ของอำเภอสองพี่น้องก็คือ สุ่มปลายักษ์ ที่สร้างจากไม้ไผ่ท่อนใหญ่กว่าพันลำโดยฝีมือของชาวบ้าน ซึ่งเป็นเหมือนหอคอยมีทั้งหมด 8 ชั้น ส่วนมุมสวยต้องยกให้ชั้นบนสุด ที่เป็นมุมเปิดโล่งสามารถชมวิวตลาดและทุ่งดอกบัวได้แบบ 360 องศา

Saphan_Kong_Market-99-01suphanburi

มีสะพานไม้ไผ่ให้เดินเล่นถ่ายรูปกับทุ่งดอกบัวกันอีกหลายจุด ส่วนมื้อเที่ยงก็ต้องขอฝากท้องไว้ที่ตลาดนี้เลยละกัน

span_1-01suphanburi

ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดร้านปากทางเข้าตลาด ซึ่งร้านนี้จะเปิดบริการกันทุกวัน บริการก๋วยเตี๋ยวเรือราคาชามละ 25 บาท ที่ลุงแอบกระซิบว่าช่วงสุดสัปดาห์ขายได้มากกว่า 600-700 ชามต่อวันกันเลย และอีกหนึ่งร้านต้องยกให้ทะเลกระทะร้อน ที่มีครบทั้งหอย กุ้ง ปลาหมึก เสริฟแบบร้อนๆ เพียง 50 บาทเท่านั้น

Saphan_Kong_Market-73

นั่งกินแบบเพลินๆ ก็เหมือนว่าโชคจะเข้าข้าง เราเหลือบเห็นกับร้านเล็กๆ ริมน้ำในฝั่งตรงข้าม ซึ่งถามคุณลุงก็ได้ทราบชื่อกันว่าคือ คาเฟ่ เจดีย์ 

Chedi_Cafe-23

คาเฟ่นี้จะอยู่ทางฝั่งวัด ถูกขั้นกลางด้วยคลองสองพี่น้องซึ่งมีสะพานไม้เก่าเชื่อมสองฝั่งเข้าหากัน ระหว่างเดินข้ามสะพานก็จะมีมอเตอร์ไซต์ขับข้ามไปมา เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน

Saphan_Kong_Market-88-03suphanburi

ภายในร้านมาในดีไซน์แบบโมเดิร์น แฝงด้วยความน่ารักผ่านความคราฟท์จากเฟอร์นิเจอร์ไม้ และอุปกรณ์จักสานที่ดูลงตัวเข้าตลาดน้ำ มีมุมให้เลือกนั่งทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ ถึงจะเข้าช่วงบ่ายก็ไม่ร้อนมีลมพัดตลอด

Chedi_Cafe-99-01suphanburi

Chedi_Cafe-12

และถ้าหากอยู่ติดริมน้ำแบบนี้ก็แน่นอนว่าต้องเปลตาข่าย ให้นั่งชิลล์โพสต์ถ้าชิคๆ ซึ่งจากมุมนี้เราจะเห็นตลาดแบบมุมกว้างแถมยังถ่ายรูปติดกับสุ่มปลายักษ์ได้อีกด้วย

Chedi_Cafe-9

ส่วนเมนูช่วงนี้จะบริการเครื่องดื่มเป็นส่วนใหญ่ มีทั้งชา กาแฟ และมาถึงเมืองสุพรรณบุรีอู่ข้าวอู่น้ำของไทยทั้งที ก็ต้องลองเมนูเด็ดอย่าง น้ำมะพร้าวปั่นหอมๆ และน้ำมะกรูดสุดสดชื่น ที่เจ้าของร้านปลูกเองจากสวน รับรองถึงความอร่อยและคุณภาพ เติมเต็มสู้กับอากาศร้อนๆ ยามบ่ายได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญราคาเบาหวิวเริ่มต้นเพียง 40 บาทเท่านั้น สามารถแวะมาชิลล์กันได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น. เบอร์โทรศัพท์ 086 537 7761

Chedi_Cafe-14

Chedi_Cafe-77-02suphanburi

จากนั้นเรามุ่งไปสู่อำเภออู่ทองเพื่อที่จะไปสักการะและชมความอลังการกันที่ วัดเขาทำเทียม ซึ่งจากตลาดสะพานโค้งใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

Wat_kao_tum_team-2

เข้ามาจะพบกับพระพุทธรูป พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ องค์ใหญ่มหึมา ที่มีความสูงถึง 35 เมตร และความกว้างหน้าตัก 25 เมตร ซึ่งถูกยกให้เป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฉากหลังเป็นหินผาขนาดใหญ่ซึ่งกำลังทยอยแกะสลักพระพุทธรูปองค์อื่นๆ

Wat_kao_tum_team-16

Wat_kao_tum_team-9

ด้านข้างมีสระน้ำบรรยากาศชิลล์ๆให้พักผ่อน และสำหรับใครที่อยากไหว้พระ ทำบุญ ก็มีมุมร่มๆ ให้ได้นั่งพักผ่อนทำใจให้สงบ ช่วงกลางวันอาจจะร้อนสักหน่อย แต่ที่วัดก็มีบริการร่มและน้ำดื่มเย็นๆ จัดไว้ให้

Wat_kao_tum_team-10

เที่ยวกันแบบเพลินๆ เข้าสู่ช่วงบ่ายสามโมงก็ถึงเวลาเข้าที่พักซึ่งวันนี้เราจะฝากค่ำคืนที่แสนพิเศษไว้ที่ อำเภอเดิมบางนางบวช อีกหนึ่งอำเภอท่องเที่ยวของจังหวัดสุพรรณฯ และเช็คอินเข้าที่พักสุดน่ารักบรรยากาศริมน้ำ ท่าจีนริมเวอร์โฮม หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ บ้านหุ่นไล่กา

Tahjeen_Riverhome-4

ที่ท่าจีนริเวอร์โฮมบรรยากาศค่อนข้างสงบและเป็นกันเอง ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่นอกจากแม่น้ำท่าจีนสายใหญ่แล้วนั้นยังมี ทุ่งนา สวนดอกไม้ และต้นไม้ใหญ่ ส่วนห้องพักมาในรูปแบบหลังเล็กๆ แบบคอจเทจสีสันลูกกวาด ที่กระจายไปยังมุมต่างๆ ทั้งสวน สระว่ายน้ำ และริมน้ำ

Tahjeen_Riverhome-56

Tahjeen_Riverhome-45

ส่วนห้องพักที่เราเลือกนอนกันในคืนนี้จะชื่อว่า Bird Home ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ ภายในแบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน ซึ่งความพิเศษของหลังนี้คือเป็นหลังเดียวที่อยู่ติดริมน้ำและมีระเบียงส่วนตัวให้ฟิน

Tahjeen_Riverhome-49

ทั้งสองห้องมาในสไตล์ที่แตกต่าง ห้องแรกมาในโทนสีสันสดใส แฝงด้วยความวินเทจเล็กๆ มีมุมสวนกรีนให้ชม และทั้งสองห้องยังมาพร้อมห้องน้ำในตัว

tahjeen_1-01suphanburi

ส่วนห้องที่สองจะหันหน้าเข้าแม่น้ำ ภายในดูโรแมนติก เหมาะสำหรับคู่รัก ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งทีวีพร้อมเครื่องเล่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศเหมือนกันทั้งสองห้อง

tahjeen_2-01suphanburi

ช่วงเย็นท้องเริ่มร้องในอำเภอเดิมบางนางบวชก็มีร้านอร่อยเยอะพอสมควร แต่ร้านเด็ดที่คนในพื้นที่แนะนำมานั้นชื่อว่า เล็กเสี่ยวหงส์ ร้านนี้ตั้งอยู่ในย่านชุมชนริมน้ำท่าจีน แต่ภายในบรรยากาศเงียบสงบ ตัวร้านบ้านโบราณสองชั้นทรงแปลกตาอายุกว่า 100 ปี  ภายในมาในรูปแบบโอเพ่น มีโต๊ะนั่งให้เลือกประมาณ 10 กว่าตัว 

LEK_SIAO_HONG_RESTAURANT-10

LEK_SIAO_HONG_RESTAURANT-2

ส่วนเมนูร้านจะบริการทั้งอาหารไทยและจีน ที่เน้นใช้วัตถุดิบชั้นดีในพื้นที่และตามฤดูกาล ส่วนเมนูแนะนำต้องยกให้ ผัดไหลบัว 60 บาท และ เมนูปลารสเด็ดอย่าง ต้มยำปลาค้าว ที่มีความมันเล็กๆ ตัดเข้ากับความเปรี้ยมและเผ็ดร้อนเข้ากันได้อย่าลงตัว สนนราคา 200 บาทเท่านั้น ปิดท้ายวันได้อย่างหนำใจ

dd_1-01-03suphanburi

มีแพให้ลงไปรับลมถ่ายรูปกันด้วย เปิดบริการทุกวัน 9.00 – 21.00 น. (หยุดทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน) ร้านอยู่ใกล้ธนาคาร ธ.ก.ส และ เทสโก้โลตัส ไม่ไกลจากตลาดท่าช้าง โทร 086 574 1407, 091 716 7061

LEK_SIAO_HONG_RESTAURANT-11


l Day 2 l

 ตื่นเช้ามาสูดอากาศดีๆ กับบรรยากาศริมน้ำและมื้อเช้า สำหรับมื้อเช้าที่ท่าจีนริเวอร์โฮมจะเสริฟแบบอเมริกันเบรคฟารสต์ มีทั้งเซ็ตไข่ข้น ไข่ดาว รวมไข่กระทะแบบไทย

Tahjeen_Riverhome-80

Tahjeen_Riverhome-80

ยังไม่ได้เพียงเท่านี้ อีกทีเด็ดลับของที่นี่มีคาเฟ่บริการบาร์สไตล์วินเทจและโฮมคาเฟ่สุดคิวท์บริการเค้ก และชาหอมๆ ซึ่งมีเลือกกว่า 100 รส นำเข้ามาจากทั้งโซนยุโรปและเอเชีย เกาหลี ญี่ปุ่นครบ ให้เติมพลังพร้อมลุยสุพรรณฯต่อได้แบบสบายๆ พร้อมเช็คเอาท์ลุยเมืองสุพรรณต่อกันแล้วจ้า!

Tahjeen_Riverhome-00-03suphanburi

อ่านรีวิวฉบับเต็มท่าจีนริเวอร์โฮม คลิ๊ก!

Tahjeen_Riverhome-90-02suphanburi

จากนั้นไม่ไกลก่อนกลับขอแวะกับเช็คอินสูดอากาศดีๆ ที่ปอดของสุพรรณซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 5 กิโลเมตรที่ บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติฯ หนึ่งที่เที่ยวยอดฮิตติดลมบมของสุพรรณบุรี ที่เรียกว่าไม่มาก็เหมือนมาไม่ถึงเลยก็ว่าได้ มีค่าเข้าชมคนละ 30 บาทเท่านั้น

Bueng_Chawak-2

บึงฉวากแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 2,700 ไร่ ซึ่งจะเป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นหลายโซน ส่วนสถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำ ภายในจะแบ่ง 3 โซนหลักๆ ได้แก่ โซนแรก อาคารแสดงสัตว์น้ำหลังที่ 1 และ 2 ซึ่งจะเป็นตึกเชื่อมต่อกัน โซนนี้จะจัดแสดงทั้งปลาน้ำจืดและปลาทะเลกว่า 50 สายพันธุ์ และมุมไฮไลท์อย่างอุโมงค์ปลาน้ำจืดที่มีความยามถึง 8.5 เมตร แถมยังเป็นเป็นอุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทย 

g_1-01suphanburi

Bueng_Chawak-43

ส่วนโซนที่ 2 จะเป็นบ่อจรเข้ขนาดใหญ่ที่แหล่งอาศัยของจรเข้ตามธรรมชาติ มีทางเดินทอดยาวเหนือน้ำให้เดินชม

Bueng_Chawak-20

ส่วนโชว์จรเข้จะมีเฉพาะช่วงวันสุดสัปดาห์ โชว์จรเข้ 11.30, 13.00, 15.00 น. และสุดท้ายโซนส่วนสวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล ที่จะจัดแสดงพันธุ์ปลาทะเลซึ่งภายใน มีไฮไลท์เด็ดมากมาย ทั้งตู้แนวปะการัง ตู้ปลาทรงกระบอก และอุโมงค์ปลาฉลามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย สำหรับใครที่มีเวลาพอแนะนำลองเข้าไปสัมผัส มีค่าบริการเพิ่มคนละ ผู้ใหญ่ 150 บาท

Bueng_Chawak-20

ไม่เพียงเท่านี้บึงฉวากยังมีที่เที่ยวโซนอื่นๆ มีทั้ง อุทยานผักพื้นบ้าน เขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่า และสวนสัตว์บึงฉวาก เราเลยไม่อยากเสียเที่ยวแวะไปทักทายเหล่าเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันตั้งแต่สมัยเด็ก มีค่าบริการคนละ 20 บาท ต้อนรับกันแบบน่ารักด้วยสัตว์เล็กๆ อย่างชะนี ลิงกระรอก เจ้าเมียร์แคทสุดน่ารัก

j_1-01suphanburi

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นกรงสัตว์ป่าแอฟริกา กรงเสือโคร่ง รวมถึงกรงนกใหญ่และเกาะกระต่ายที่น่าเสียดายเพราะช่วงที่ไปนั้นกำลังปิดบำรุงกันพอดี เดินเล่นกันเพลินๆ ก็เข้าสู่ช่วงเที่ยงพอดี สำหรับใครที่จะมาพักผ่อนที่บึงฉวากก็เปิดบริการทุกวัน วันธรรมดา 8.30 – 16.30 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์และนักขัตฤกษ์ 8.30 – 17.00 น.

Zoo_Bueng_Chawak-1

และแน่นอนว่ามาถึงสุพรรณบุรีจะไม่แวะที่นี่ไม่ได้ ตลาดสามชุก ที่นี่เป็นตลาดห้องแถวไม้แบบโบราณ ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน และเป็นชุมชนของชาวไทยเชื่อสายจีนและมีอายุยาวนานกว่า 100 ปี ก่อนตะลอนช้อปชิมของฝาก ขอเก็บภาพชมวิวกระสะพานกันก่อน

 Sam_Chuk_Market-9

v_1-01suphanburi

ถึงแม้เราจะมาช่วงวันธรรมดาก็ยังมีร้านค้าเปิดค่อนข้างเยอะ บรรยากาศคึกคักไม่แพ้ช่วงเสาร์อาทิตย์ แต่คนน้อยเดินสบายอากาศไม่ร้อน

Sam_Chuk_Market-58

ll_1-01suphanburi 

ได้ของฝากติดไม้ติดมือกันไปเยอะก็อย่าลืมแวะพักถ่ายรูปกันด้วยหล่ะ เดินเพลินๆ กลับกรุงเทพช่วงบ่ายก็ยังมีเวลาเหลือสำหรับพักผ่อน จะมาเสาร์อาทิตย์ก็สบยาพร้อมลุยงานวันจันทร์ต่อได้แบบชิลล์ๆ สำหรับเปิดให้บริการทุกวัน 7.00 – 17.00 น. ตลาดจะเริ่มวาย ถ้ามาไม่ถึงที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงสุพรรณบุรี

Sam_Chuk_Market-49


เป็นยังไงกันบ้างกับทริปสุพรรณบุรี 2 วัน 1 คืน ที่ทริปเก็ทเตอร์ได้ไปตะลอนและเก็บบรรยากาศมาฝากกันในครั้งนี้ หวังว่าจะเป็นไกด์ที่ดีสำหรับใครที่กำลังหาที่เที่ยวที่เดินทางง่าย ใช้เวลาไม่นาน แต่ได้ความสุขที่เรียกว่าครบทุกความต้องการ บอกเลยว่าถึงจะเป็นทริปสั้นๆ แต่รู้สึกประทับใจ ยกให้เป็นอีกหนึ่งจังหวัดนอกสายตาที่ไม่ควรพลาด ต้องมาเยือนให้ได้กันสักครั้ง

 


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ