เกาะสิมิรัน หาดทรายขาว น้ำทะเลใส ประทับใจจนต้องกลับไปอีกครั้ง

วันนี้ผมจะมาขอแชร์ความประทับใจกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันที่ผมได้มีโอกาสไปเยือนอีกครั้ง หลังจากที่เคยไปมาในอดีตเมื่อ 7 ปีที่แล้ว และจำได้ว่าทะเลที่นี่สีสวยมาก จัดว่าสวยสุดในประเทศเลยก็ว่าได้ครับ

เนื่องจากเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้วมีข่าวว่ามีวาฬเพชรฆาตเทียมว่ายเข้ามาที่สิมิลัน ป๊าผมจึงไม่รีรอที่จะรีบโทรจองที่พักและแพคเกจทัวร์ จึงเป็นที่มาของทริปนี้ครับ คือหวังจะมาเห็นวาฬล้วนๆเลย เพราะตอน snorkelling เมื่อรอบที่แล้วก็รู้สึกว่าที่นี่ปะการังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่เที่ยวทะเลมา 10 กว่าปีก็ยังไม่เคยเห็นวาฬตัวเป็นๆ ซะที

การเดินทางขาไปไปโดยรถทัวร์ครับขึ้นจากสถานีขนส่งสายใต้ รถออก 1 ทุ่มตรงไปถึงสามแยกก่อนเลี้ยวเข้าท่าเรือประมาณ 7 โมงครึ่งและมีรถตู้จากบริษัททัวร์ Seastar มารับไปที่ท่าเรือ เพื่อไปรวมกลุ่ม เช่าอุปกรณ์ ฟังบริฟ ก่อนเดินทางไปที่เกาะ

โดยใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือถึงเกาะสิมิลันประมาณ 1 ชม. 20 นาทีครับ โดยก่อนถึงเกาะ 4 ซึ่งเป็นเกาะหลักที่ใช้พัก จะมีแวะให้ดำน้ำ 1 จุดก่อน เมื่อไปถึงก็พบกับน้ำทะเลสีฟ้าใส สวยงามเหมือนที่เคยเห็นเลยครับ

พอถึงเกาะสี่ตอนประมาณเที่ยงๆ ก็เช็คอินเข้าบ้านพักและรับประทานอาหารบุฟเฟต์บนเกาะครับ รอบ่าย 3 ออกไปขึ้นเรือคูนออกไปดำน้ำกันอีกรอบ โดยจะอยู่บนเรือจนถึงพระอาทิตย์ตกเลยครับ มีลงไป snorkelling 2 จุด ก่อนรับประทานทานอาหารเย็นบุฟเฟต์บนเรือ

พอกลับถึงฝั่งประมาณทุ่มนึงเจอท้องฟ้างามๆเลยขอเก็บภาพซะหน่อยครับ เพราะก่อนมามีข่าวว่าพายุเข้า

---

วันที่ 2 ผมตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อมาถ่ายทางช้างเผือก แต่เมฆเยอะจนต้องยอมไปนอนต่อ รอขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ต้องผิดหวังอีกเพราะเมฆเยอะฟ้าปิด เลยยอมแพ้รอ 8 โมงเพื่อไปขึ้นเรือออกไปรับประทานอาหารเช้าบนเริอและออกไปดำน้ำตามที่ไกด์นัดหมายไว้

วันนี้มีดำน้ำช่วงเช้า 2 จุด ไกด์จะปล่อยให้ดำจุดละ 40นาที- 1ชั่วโมง ตอนดำก็พยามว่ายตามไกด์ครับเพราะเค้าจะรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน โดยเฉพาะเต่าครับใครอยากเจอนี่ตามไกด์เลยครับ ทริปนี้ผมเจอเต่าอยู่ 3-4 ตัว ใครมาสิมิลันแล้วไม่เจอเต่านี่พลาดมากนะครับ เพราะสิมิลันนี่เค้ากันเขตไว้ให้เต่ามาวางไข่แล้วเอาไข่ไปอนุบาล

ปลาสิงโต

ปลาไหลมอเรย์ ทริปนี้ก็เจออย่างน้อย 4 ตัวครับ

กลางวันก็ทานอาหารบุฟเฟต์บนเรืออีก

เสร็จแล้วไกด์ก็ให้ขึ้นไปพักบนเกาะ รอบ่าย 3 ออกมาดำน้ำใหม่ครับ เลยมีเวลาเก็บภาพธรรมชาติบนเกาะ ซึ่งที่นี่มีอะไรให้ดูหลากหลายมาก ทั้งนกชาปีไหน ค้างคาวแม่ไก่ นกชาปีไหน (Nicobar Pigeon)

ค้างคาวแม่ไก่

พอถึงเวลาบ่าย 3 ก็ออกไปดำน้ำอีกครับ รอบนี้ก็เจอเต่าอีก เจอทั้งตอน snorkelling และตอนรับประทานอาหารเย็นเลยครับ เค้าขึ้นมาว่ายรอบๆเรือ คงตามกลิ่นอาหารมา

วันนี้พอกลับถึงฝั่ง ฝนตั้งเค้ามาเลยครับ เลยไม่ได้ถ่ายพระอาทิตย์ตก เลยรีบเข้านอนเพื่อรอตื่นมาลุ้นช้างอีกคืน และสุดท้ายก็สมหวังครับ คืนนี้ฟ้าเปิดสุดๆ เห็นทางช้างเผือกด้วยตาเปล่าเลยทีเดียว ฟินกันไป ดูกันหน้าหาดเลย

ถ่ายถึงตี 5 ครึ่งเลยไม่ต้องนอนต่อแล้ว

---

วันที่ 3 วันสุดท้าย ไหนๆก็จะเช้าแล้วไ ปรอถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นต่อเลยที่หาดเมียงอีกฝั่งของเกาะ 4 ครับ ซึ่งต้องเดินผ่านทางที่ค่อนข้างเป็นป่าไปตอนนั้นมืดมาก ต้องถือไฟฉายเดิน ระหว่างทางก็ไปจ๊ะเอ๋กับปู่ไก่หลายตัวเลยครับ

วันนี้อากาศค่อนข้างสดใส เป็นใจต่อการถ่ายภาพและ snorkelling มาก แต่วันนี้ต้องกลับซะแล้ว แต่ยังดีที่โปรแกรมยังไม่จบครับ ยังมีขึ้นเรือไปดำน้ำรอบเช้าอีก แต่วันนี้จะดำใกล้ๆกับเกาะ 4 หน่อย แต่ก็ยังเจอเต่าเหมือนเดิมครับ ส่งท้ายก่อนกลับ

เที่ยงก็รับประทานอาหารบนเรือเหมือนเดิมครับ ก่อนกลับขึ้นฝั่งไปเก็บข้าวของ เตรียมขึ้น speed boat กลับฝั่ง โดยขากลับก็ยังมีแวะดำน้ำ 1 จุดและขึ้นเกาะ 8 ซึ่งมีหินเรือใบเป็นสัญลักษณ์ของสิมิลัน

พอถึงฝั่งก็อาบน้ำแต่งตัว นั่งรถตู้ของบริษัททัวร์ไปขึ้นเครื่องกลับบ้านที่ภูเก็ตครับ

 

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมครับ สุดท้ายขอฝากไว้ว่าเวลาไปเที่ยวตามที่ธรรมชาติ เราคือผู้มาเยือน อย่าไประรานเข้าบ้านเค้า จะได้มีธรรมชาติสวยๆ ไว้ให้ดูไปนานๆ ครับสามารถติดตามความเคลื่อนไหว พร้อมทริปเดินทางอื่นเพิ่มเติมได้ที่ Pantip/สมาชิกหมายเลข 2189312

---