tripgether.com

ไม่เดียวดายอีกแล้วที่พุ่ยโค อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน (จุดชมวิวใหม่ ที่อยากให้คุณได้ไปสัมผัส)

26,890 ครั้ง
9 ม.ค. 2560

เมื่อลมหนาวพัดมาการขึ้นดอยไปดูทะเลมองก็กลับมาอีกครั้ง ทุกๆปีผมก็จะมีทริปท่องเที่ยวเพื่อขึ้นไปถ่ายรูปชมทะเลหมอกกันกับเพื่อนตลอด ด้วยความที่อยู่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ การจะไปต่อ ยังลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยานั้นแสนง่ายครับ ขับรถไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง โดยทริปนี้ได้นัดกันกลับกลุ่มเพื่อนๆ หาที่ใหม่ๆลองไปกัน และผมก็อยากลองกล้องใหม่ที่เพิ่งจะถอยมาไม่กี่สัปดาห์ดูด้วย เป้าหมายลงมาที่ ดอยพุ่ยโค อ.สบเมย จ.แม่ฮองสอนครับ เนื่องจากช่วงนี้มีรีวิวออกมาให้ดูกันแล้วบ้าง เห็นแล้วน่าสนใจ สถานที่มีการปรับปรุงใหม่ให้สวยงามขึ้นและสะดวกสบายในการเดินทาง ความเป็นอยู่ข้างบนก็กางเต้น ก่อไฟทำอาหาร เหมาะสำหรับคนชอบแคมป์ปิ้งมากๆครับ เรื่องไฟฟ้าไม่มี แต่มีห้องน้ำและน้ำให้ใช้อยู่ เป็นธรรมชาติสุดๆ ใครที่อยากออกมาพักผ่อนต้องลองไปเที่ยวดูครับ

GPS N18 00.288 E98 00.290 alt.1,400.

สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Coachjunjourney

การเดินทาง พวกผมเริ่มออกจาก อ.สันป่าตอง เดินทางมาถนนเส้น เชียงใหม่-ฮอด ถึงแยกวงเวียนตัวอำเภอฮอด เลี้ยวขวามาทางแม่สะเรียง เส้นนี้ช่วงหลังๆนี้ผมมาบ่อย เพราะทางนี้สามารถไป แม่สะเรียง อมก๋อย แม่ฮองสอนได้ ระหว่างทางก็แวะสวนสนบ่อแก้ว หรือมาช่วงดอกบัวตองบานก็สวยดีครับ

จากนั้นก็ขับเรื่อยๆไปถึงแยกเข้าแม่สะเรียง ตรงนี้เราเลี้ยวซ้าย ไปทาง สบเมยครับ เมื่อผ่านแม่สะเรียงเราก็แวะชาร์ตพลัง กาแฟ กัน ที่ร้านดังของเมืองนี้กันสักแก้ว

กินกาแฟกับปิงซู หวานๆเย็นๆ ร่างกายก็สดชื่นพร้อมเดินทางต่อครับ ขับรถต่อไปตามทางไป สบเมย เรื่อยจนมาถึงทางแยกเพื่อขึ้นไปยังหมู่ย้าน อุมดาเหนือ หากไม่ได้เอารถกะบะมาเองคงต้องจอดและหาเหมารถไปส่งครับ ติดต่อ ลูกหาบหรือรถรับส่ง พี่ชาติชาย เจ้าหน้าที่ ดูแลบนดอย 097 272 7693 (ข้อมูล เพิ่มเติมจากหลังไมค์ ส.อบต.อนันต์ เพ็ญจิตต์ 085 724 0967), (ข้อมูลเพิ่มเติมรถรับจ้าง ไป-กลับ อ.สบเมย – ดอยพุ่ยโค 2000 บาท อ.แม่สะเรียง – ดอยพุ่ยโค 3000 บาท ลูกหาบขนของขึ้นดอย ไป-กลับ 400 บาทต่อ 1คน)

ได้รถก็เดินทางกันต่อ หมู่บ้านอุมดาเหนือ แวะซื้อสะเบียงเพิ่มได้สุดท้าย และติดต่อลูกหาบได้ตรงนี้ครับ

จุดจอดรถ จากตรงนี้ต้องเดินเท้า ต่ออีก 840 เมตร หมูๆ

ทางเดินก็ประมาณนี้ครับ ทำเป็นขั้นไว้ให้เดินง่ายหน่อย

จุดชมวิวที่หนึ่ง มีศาลาให้พัก ครึ่งทางแล้วครับ เหลืออีก 480 เมตร

พร้อมแล้วก็เดินกันต่อครับ เดียวไม่ทันพระอาทิตย์ตกดิน

ลูกหาบเราแข็งแรงมากครับ

ถึงแล้วครับ

โชคไม่ดีฟ้าปิดไม่เห็นพระอาทิตย์ตกดินซะงั้น

จากนั้นถึงเวลากางเต้นครับ วันที่พวกผมขึ้นมาเป็นวันเสาร์ ก็มีนักท่องเที่ยวมากันตามปกติครับ หาจุดกางเต้นกันได้สบายๆไม่เน้นมาก ลูกหาบช่วยหาฟื้นมาก่อกองไฟให้ จากนั้นก็ลงมือทำกับข้าวกันครับ ใครมีเตาแก๊สแบบใช้แก๊สกะป๋องนี่สะดวกมากเลยนะครับ

ข้างบนสัญญาโทรศัพแรงดีครับ 3G แต่ไม่ถึง 4G Ais true มีเต็ม กินข้าวอิ่มรอดูดาว ฟังเพลงเล่นกีต้าจากเต้นข้างๆไปเพลินดีครับ บรรยากาศคันทรีๆ ที่คนเมืองต้องการ เสียดายวันที่ผมขึ้นหมอกเยอะและลมแรงฟ้าไม่ค่อยเปิดโอกาสถ่ายดาวเป็น 0 ครับ ความชื้นเยอะอีกฝ้าขึ้นกล้อง เก็บไว้ในเป๋าตลอดเลย

เช้าแล้วตื่นๆออกมาดูพระอาทิตย์กับทะเลหมอกกัน

รูปเยอะครับ ชมไปเรื่อยๆ ล่ะกัน พระอาทิตขึ้น 6โมง ทะเลหมอกมีตอนจนถึง 8.30 แต่9 โมงไปก็เริ่มกะจายหายไปบ้างแล้วครับ มุมยอดฮิตก็ศาลา และต้นไม้เดียวดาย(ต้นมะกอกมั้งครับ) เนินหญ้าที่ทองลงไปถ่ายก็ระวังหน่อยนะครับหญ้าอาจจะเปียกน้ำค้างทำให้ลื่นได้

หมดแล้วครับ ทราบจากพี่คนดูแลสถานที่ บอกมีต้นนนางพญาเสือโคร่งด้วยทางขึ้นมาปลูกเป็นแนว คงได้มาอีกรอบแน่ๆเดือน มกรา- กุมภา ขอบคุณที่เข้ามาชมภาพนะครับ รูปทั้งหมดถ่ายด้วยกล้อง sony a7 lens 28-70 และ Sony a6300 lens 16-50

 

ขอบคุณรีวิวดีๆ พร้อมภาพถ่ายสวยๆ จากสมิกพันทิป Coachjunjourney


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ