รัฟฟิเน่ คาเฟ่ & เดอะ ชีส์ เฮ้าส์ บางแสน คาเฟ่ปราสาทอัศวิน อีกหนึ่งจุดเช็คอินความฟินและความอร่อย

บางแสน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเมืองชายทะเลที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ซึ่งสามารถขับรถมาได้เพียงชั่วโมงนิดๆ นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวและจุดเช็คอิน ของบางแสนแล้ว ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่มากมาย แต่มีหนึ่งร้านที่อยากแนะนำให้ไปให้ได้สักครั้งคือร้าน รัฟฟิเน่ คาเฟ่ & เดอะ ชีส์ เฮ้าส์ 

---

รัฟฟิเน่ คาเฟ่ & เดอะ ชีส์ เฮ้าส์ (Raffine Cafe & The She’s House) ร้านอาหารและคาเฟ่ที่ตกแต่งในสไตล์ยุโรปและได้ไอเดียการออกแบบตัวร้านมาจากปราสาทอัศวินและโรงนาในชนบท อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติและสวนอันร่มรื่นที่ตกแต่งได้อย่างสวยงามราวกับอยู่สวิซเซอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งร้านน่านั่งบางแสนที่รับรองได้เลยว่ามาถึงแล้วนอกจากจะได้กินเมนูอร่อยๆ แล้วยังได้รูปสวยๆ ไปเปลี่ยนโปรไฟล์กันอย่างแน่นอน

สำหรับตัวร้าน รัฟฟิเน่ คาเฟ่ & เดอะ ชีส์ เฮ้าส์ แบ่งออกเป็น 2 โซนคือโซน รัฟฟิเน่ คาเฟ่ และโซน เดอะ ชีส์ เฮ้าส์ ซึ่งทั้ง 2 โซนอยู่บนพื้นที่ไร่เศษริมถนนเลี่ยงเมืองหนองมน – บางแสน เรียกได้ว่าขับรถเพียงแค่ไม่ถึง 10 นาทีจากหาดบางแสนก็ได้มาฟินกับบรรยากาศและเมนูอร่อยๆ กันที่นี่ได้เลย

มาเริ่มต้นกันที่โซน รัฟฟิเน่ คาเฟ่ โซนปราสาทอัศวินสุดอลังการที่ตกแต่งภายนอกด้วยอิฐและโดดเด่นด้วยหลังคายอดแหลมของตัวร้านที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่ยุโรปสุดๆ เพียงแค่เดินผ่านซุ้มประตูอาร์กเข้ามาในพื้นที่ของตัวร้านจะได้พบสวนสีเขียวเต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด 

ภายในตัวร้านยังคงคอนเซ็ปต์การตกแต่งสไตล์ยุโรปประดับประดาไปด้วยของตกแต่งที่ให้ฟีลลิ่งเหมือนนั่งอยู่ในปราสาทหรูอารมณ์วินเทจนิดๆ พร้อมที่นั่งที่สามารถรองรับได้ถึง 52 ที่นั่ง 

ที่นั่งแต่ละที่ภายในตัวร้านถูกจัดวางได้อย่างลงตัวและให้บรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป ที่สำคัญที่นั่งทุกที่ยังมีความเป็นส่วนตัวอีกด้วย 

และยังมีมุมที่นั่งริมซุ้มอาร์กกระจกบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นวิวน้ำตกด้านนอกตัวร้านได้อีกด้วย มุมนี้ร่มรื่นสุดๆ 

สำหรับโซน รัฟฟิเน่ คาเฟ่ ยังมีห้องจัดเลี้ยงสุดไพรเวท 2 ห้อง และห้องคาราโอเกะ 1 ห้อง (รองรับไม่เกิน 25 คน) เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาห้องจัดเลี้ยงในบรรยากาศสุดส่วนตัว ไม่ว่าจะจัดเลี้ยงวันเกิด วันครบรอบ หรือโอกาสสำคัญต่างๆ ก็รับรองได้ว่าประทับใจอย่างแน่นอน

และบริเวณด้านหน้ายังมีสวนสวยๆ พร้อมที่นั่งในสวนแบบเอ้าท์ดอร์ซึ่งมีทั้งมุมน้ำตกและมุมกลางสวนสุดร่มรื่น

มาฟินกันต่อกับอีกหนึ่งโซนซึ่งอยู่ข้างๆ กันคือโซน เดอะ ชีส์ เฮ้าส์ ที่ออกแบบตัวร้านให้เป็นโรงนาสไตล์ยุโรปซึ่งโดดเด่นไม่แพ้ปราสาทอัศวิน ภายในยังตกแต่งได้อย่างหรูหราและจัดวางส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งและของประดับประดาได้อย่างลงตัว ช่วงเย็นๆ ค่ำๆ หลังจากเที่ยวทะเลเสร็จลองแวะมานั่งชิลล์กันที่โซนนี้รับรองเลยว่าไม่อยากลุกหนีไปไหนเลยล่ะ

นอกจากนี้ยังมีที่นั่งโซนเอ้าท์ดอร์ในสวนที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในสวนดอกไม้ในสวิซเซอร์แลนด์ เพลิดเพลินไปกับดนตรีสดที่จะมาบรรเลงบทเพลงเพราะๆ ให้ฟังกันเฉพาะวัน ศุกร์ – เสาร์ ตั้งแต่ 19.00 – 22.00 น.

เท่านั้นยังไม่พอยังมีในส่วนของห้องคาราโอเกะสุดไพรเวท 2 ห้อง แบ่งเป็นห้องเล็ก (รองรับไม่เกิน 10 คน) และห้องใหญ่ (รองรับไม่เกิน 15 คน) ภายในห้องตกแต่งอย่างดี พร้อมเครื่องเสียงและระบบเสียงที่ได้มาตรฐาน แถมยังสั่งเมนูอร่อยๆ มาทานกันได้ตามสบาย

และที่โดดเด่นไม่แพ้กับตัวร้านเลยก็คือเมนูอร่อยๆ ของที่นี่ที่มีทั้ง อาหารไทย ยุโรป จีน และฟิวส์ชั่น แถมยังมีเครื่องดื่ม และเบเกอรี่อีกด้วย ซึ่งเมนูแต่ละเมนูได้ผ่านการคิดและรังสรรค์โดยเชฟมากประสบการณ์และคัดสรรวัตถุดิบอย่างดีมาทำการปรุงอาหาร

มาเริ่มต้นกันที่เมนูสไตล์ยุโรปอย่าง The She’s House Combo Set (เดอะชีส์เฮ้าส์คอมโบเซ็ต) เซ็ตสเต็กที่จัดเต็มไปด้วย เนื้อหมู เนื้อแกะ และไส้กรอกอิตาเลียน เสิร์ฟพร้อมมันบด และซอส 3 รสชาติ 3 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น น้ำสเต็กเกรวี่ น้ำจิ้มแจ่ว และน้ำจิ้มซีฟู้ด ราคาเซ็ตละ 850 บาท

และ U.S.A Chicken BBQ (ไก่ทอดซอสบาร์บีคิว U.S.A) ชุดเล็ก ราคา 160 บาท

และเมนูห้ามพลาดเลยก็คือเมนูพิซซ่าสไตล์อิตาเลียนโฮมเมดที่มีรสชาติแตกต่างจากที่อื่นอย่างแน่นอน ที่สำคัญสามารถสั่งได้ถึง 2 หน้าในถาดเดียว วันนี้เราเลือกเป็นหน้า Pizza Seafood White Wine Cream Sauce (พิซซ่าครีมซอสทะเลไวน์ขาว) และหน้า Pizza Tom Yum Seafood (พิซซ่าต้มยำซีฟู้ด) ราคา 380 บาท

มาต่อกันที่เมนูไทยๆ อย่าง กุ้งราดซอสมะขาม กุ้งตัวโตเนื้อแน่นราดซอสมะขามสุดกลมกล่อม ราคา 420 บาท 

และ น้ำพริกไข่ปู ราคา 180 บาท

อีกทั้งยังมีเมนูสไตล์จีนอย่าง สามสหาย ที่มีทั้งเนื้อเป็ดย่าง หมูกรอบ และหมูแดงไว้ในจานเดียวกัน ราคา 350 บาท

ของคาวไปแล้วมาต่อกันที่เมนูของหวานกันบ้าง สำหรับเมนูของหวานที่มาแล้วจะต้องห้ามพลาดเลยก็คือ Chocolate Lava (ช็อคโกแล็ต ลาวา) ราคา 169 บาท

และ Banana Chocolate Crepe (บานาน่า ช็อคโกแลต เครป) ราคา 165 บาท 

หรือใครที่เป็นคอกาแฟก็ต้องไม่พลาดกับ Sala Latte (สละ ลาเต้) ราคา 89 บาท

นอกจากนี้แล้วยังมีเมนูอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรี่อีกมากมายให้เลือก

ทั่วบริเวณตัวร้านมีมุมถ่ายรูปสวยๆ บรรยากาศดีๆ มากมาย 

ยิ่งบรรยากาศช่วงค่ำที่ทางร้านจะเปิดไฟประดับช่วยเพิ่มความโรแมนติกได้เป็นอย่างดี 

เอาเป็นว่าใครที่มาเที่ยวบางแสนแล้ว อย่าลืมแวะมาที่ร้าน รัฟฟิเน่ คาเฟ่ & เดอะ ชีส์ เฮ้าส์ บางแสน กันสักครั้ง เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินบรรยากาศดีของบางแสน ที่นอกจากจะได้กินเมนูอร่อยๆ แล้วยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย อีกทั้งยังมีเมนูอาหารหลากหลายให้เลือก ที่สำคัญตัวร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในบางแสนอีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีบริการจัดเลี้ยงและห้องคาราโอเกะอีกด้วย รับรองได้เลยว่าการมาเที่ยวบางแสนครั้งนี้ทั้งอิ่มใจและอิ่มพุงอย่างแน่นอน

---

Location: 7/31 ถ.เทศบาลพัฒนา 1 ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี (ตัวร้านตั้งอยู่ริมถนนเลี่ยงเมืองหนองมน – บางแสน)
Open – Close: ร้านเปิดทุกวันเวลา 10.30 – 22.00 น.
Phone: 080 197 9919 
Facebook: Raffine Cafe & Restaurant

 

---