น้ำตกเอราวัณ สวรรค์ 7 ชั้นแห่งเมืองกาญจนบุรี ที่ต้องลองไปให้ได้สักครั้งในชีวิต!
67,712 ครั้ง
6 ก.ย. 2561
67,712 ครั้ง
6 ก.ย. 2561
น้ำตกเอราวัณ น้ำตกขนาดใหญ่และมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก ตั้งอยู่ที่ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี และน้ำตกแห่งนี้ยังแบ่งออกเป็น 7 ชั้น คือ ไหลคืนรัง, วังมัจฉา, ผาน้ำตก, อกผีเสื้อ,เบื่อไม่ลง, ดงพฤกษา และชั้นสุดท้ายชื่อว่า ภูผาเอราวัณ ซึ่งทั้ง 7 ชั้นก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของชาวไทยและชาวต่างชาติต่างก็ต้องมาชมความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ให้ได้สักครั้งในชีวิต ทริปเก็ทเตอร์ก็ไม่พลาดที่จะนำภาพสวยๆ มาฝากเพื่อนๆ ทุกคนด้วย
เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้าเพื่อไปให้ถึงเมือง กาญจนบุรี ก่อนเที่ยงโดยจุดมุ่งหมายของเราก็คือไปตะลุยน้ำตกเอราวัณกันแบบเน้นๆ และขับรถมุ่งหน้าเข้าสู่น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ระยะทาง 193 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาน 3 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงตัวน้ำตกเอราวัณ ระหว่างทางไปจะได้เห็นธรรมชาติทั้งสองข้างทางที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยต้นไม้และภูเขาที่สวยงาม
และแล้วเราก็มาถึง น้ำตกเอราวัณ บอกเลยว่าได้รับความสดชื่นตั้งแต่ทางเข้าเพราะทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อมาถึงทางเข้าก็ต้องเสียค่าเข้าอุทยานฯ คนละ 100 บาท
ด้านหน้าของทางเข้าน้ำตกเอราวัณก็จะมีบริการรถกอล์ฟเพื่อนั่งเข้าไปยังน้ำตกด้านในซึ่งอยู่ห่างจากที่จอดรถประมาน 800 เมตร ค่าบริการคนละ 30 บาท หรือใครอยากจะเดินชมธรรมชาติเข้าไปยังน้ำตกด้านในก็ชิลล์ไปอีกแบบ นอกจากนี้ด้านหน้าน้ำตกก็จะมีร้านอาหารอร่อยๆ มากมายแบบไม่ต้องกลัวว่าจะหิวกันเลยทีเดียว
และแล้วเราก็มาถึงน้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 1 ที่มีชื่อว่า ไหลคืนรัง เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของกันตะลุยสวรรค์ 7 ชั้น ชั้นนี้จะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ สายน้ำจะไหลลงตามหินที่ลดหลั่นกันลงมา เหมาะสำหรับมานั่งพักผ่อนรับลมชิลล์ๆ พร้อมชมวิวน้ำตกฟินๆ
มาต่อกันที่ ชั้นที่ 2 วังมัจฉา แน่นอนว่าชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า วังมัจฉา ชั้นนี้จะมีปลามาตัวเล็กตัวใหญ่มาแหวกว่ายให้เราได้ดูกันแบบเต็มตา ที่สำคัญเดินจากชั้นแรกขึ้นมาอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น ความสวยงามของชั้นนี้บอกเลยว่าจะทำให้ทุกคนประทับใจแน่นอน
ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ชั้นนี้อยู่ห่างจากชั้นที่สองเพียง 200 เมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าชมธรรมชาติเพลินๆ ก็ถึงแล้ว ชั้นนี้จะมีแอ่งน้ำสีมรกตอยู่ตรงกลางและมีน้ำตกที่ไหลลงมากระทบกับโขดหินที่อยู่ด้านล่าง บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์และมีร่มเงาน่านั่งพักผ่อนเป็นอย่างมาก
เดินชมธรรมชาติยังไม่ทันเหนื่อย เผลอแป๊บเดียวก็ขึ้นมาถึง ชั้นที่ 4 อกผีเสื้อ ที่ชั้นนี้จะมีโขดหินขนาดใหญ่คล้ายหน้าอกที่เป็นท่ีมาของชื่อ และมีสายน้ำไหลลงมาตามโขดหินและไหลลงสู่แอ่งด้านล่าง จะลงเอาตัวไปแช่น้ำเย็นๆ หรือสไลด์เดอร์ลงมาตามโขดหินก็สนุกอย่างแน่นอน
และระหว่างทางก็จะมีสะพานข้ามลำธารที่มีธรรมชาติรอบๆ ที่อุดมสมบูรณ์
และแล้วการผจญภัยก็เริ่มขึ้น สำหรับคนที่อยากขึ้นไปต่อใน ชั้นที่ 5 ชั้นนี้มีชื่อว่า เบื่อไม่ลง ต้องบอกก่อนเลยว่าถ้าจะขึ้นมาชั้นนี้ต้องฟิตร่างกายมากันเลยทีเดียว เพราะทางขึ้นค่อนข้างลาดชันและต้องปีนโขดหินและอยู่ห่างจากชั้นที่ 4 ถึง 600 เมตร แต่ขึ้นมาถึงแล้วรับรองว่าหายเหนื่อยอย่างแน่นอน เพราะชั้นนี้เป็นชั้นยอดฮิตของชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต่างพากันมาเล่นน้ำกัน รับรองเลยว่าถ้าขึ้นมาถึงชั้นนี้แล้วต้องเบื่อไม่ลงสมชื่ออย่างแน่นอน
ไฮไลท์ของชั้นที่ 5 บริเวณนี้จะมีม่านน้ำตกไหลลงให้เราได้ถ่ายรูปสวยๆ มีจุดลงเล่นน้ำใสที่สามารถมองเห็นตัวปลาได้แบบชั้นเจนอีกด้วย
ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา ชั้นนี้จะไม่ค่อยมีน้ำเท่าไร แต่ว่าความสวยงามของชั้นนี้คือน้ำตกที่ไหลลงมาสู่อ่างน้ำสีมรกตที่รายล้อมไปด้วยป่าอันอุดมสมบูรณ์ เราเลยนั่งพักกันที่ชั้นนี้ก่อนจะเดินขึ้นไปต่อ
และสิ่งที่เรารอคอยก็มาถึง เราเดินขึ้นมาถึง ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ ชั้นนี้เป็นชั้นบนสุดของน้ำตกเอราวัณ ที่ใครเห็นเป็นต้องร้องว้าวอย่างแน่นอนเพราะชั้นนี้มีน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง ที่บอกเลยว่าจะต้องเอาตัวไปรับสายน้ำที่ไหลลงมาให้ได้เพราะน้ำชั้นนี้ทั้งใสและสะอาดสุดๆ และยังมีแอ่งน้ำให้เล่นแบบฟินๆ อีกด้วย
เป็นอย่างไงกันบ้างกับ ทริปเที่ยวน้ำตกเอราวัณ ที่ ทริปเก็ทเตอร์ ได้ไปเก็บภาพสวยๆ ทั้ง 7 ชั้นมาฝากเพื่อนๆ ต้องบอกเลยว่าน้ำตกเอราวัณเป็นน้ำตกที่สวยงามมากๆ ถ้าหากใครอยากจะมาชมความงามทั้ง 7 ชั้นจะต้องใช้เวลาประมาน 3-4 ชั่วโมง ในการเดินทาง ขึ้น-ลง และที่สำคัญต้องฟิตร่างกายมาให้พร้อมแล้วมาตะลุย สวรรค์ 7 ชั้นแห่งเมืองกาญจนบุรีแห่งนี้ ที่ต้องลองมาให้ได้สักครั้งในชีวิต!
Location: เขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
Open-Close: เปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00 – 17.00 น. (หากต้องการขึ้นชั้นเจ็ดต้องไปก่อน 15.00 น. เพราะเจ้าหน้าที่จะทยอยเคลียร์นักท่องเที่ยวลงมา)
Price: ค่าเข้าคนไทย 100 บาทต่อคน, ต่างชาติ 300 บาทต่อคน, ค่ารถ 50 บาทต่อคัน