ปักหมุด!! 7 สถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในปี 2020
5,355 ครั้ง
3 ก.พ. 2563
5,355 ครั้ง
3 ก.พ. 2563
ใครกำลังเสาะหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อออกเดินทางหาความสวยงามและประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตอยู่ ทริปเก็ทเตอร์อยากจะแนะนำ 7 สถานที่ท่องเที่ยวแบบกรีนๆ แต่ร้อยบรรยากาศมาให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายลองหาเวลาออกไปค้นพบกับความสวยงามของธรรมชาติที่ไม่ต้องไปไหนไกลก็หาได้จากที่ประเทศไทยเรา ต้องบอกเลยว่าทุกที่มีความสวยงามที่แตกต่างกันไปแต่โดนใจแน่นอน!
“ป่าต้นน้ำ” บ้านน้ำราด สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากชาวบ้านในชุมชน ซึ่งที่บ่อน้ำผุดแห่งนี้รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสุดร่มรื่น บริเวณบ่อมีน้ำผุดสีฟ้ามรกตใสราวกับกระจก ซึ่งในบ่อน้ำแห่งนี้มีตาน้ำเป็นหัวใจหลัก พื้นบ่อเป็นพื้นทรายตะกอนหินปูนซึ่งทำให้น้ำใสอยู่ตลอดเวลา ในบ่อน้ำไม่ลึกมากสามารถนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำได้สบายๆ หรือใครอยากนอนแช่ตัวก็ทำได้เช่นกัน เรียกได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งลิสต์เมื่อเดินทางไปเที่ยวจ.สุราษฎร์ธานี แล้วต้องแวะไปเช็คอินถ่ายรูปกับความสวยงามของธรรมชาติเก็บไว้ให้ได้เลย
Location: ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด หมู่ที่ 4 ต.บ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี
Open-Close: เปิดทำการ 09.00-17.00 น.
Fee: ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ใหญ่ 10 บาท/คน, เด็ก 5 บาท/คน
สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปกับสะพานไม้ต้องมาที่ อุทยานเขาแหลมหญ้า–หมู่เกาะเสม็ด ตั้งอยู่ที่ต.หาดแม่รำพึง-เพ จ.ระยอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีเส้นทางเดินเลียบทะเลที่สามารถเดินไปเรื่อยๆ จนถึงจุดชมวิวบนภูเขาที่สามารถมองเห็นวิวของเกาะเสม็ดได้ ซึ่งเป็นการเดินปีนหินเลียบชายทะเลลัดเลาะไปตามเชิงเขาและผาหินในบางจุดจะมีสะพานไม้เล็กๆ ให้ข้ามเป็นช่วงสั้นๆ เพื่อให้การเดินทางไปต่อได้ง่ายขึ้น ระหว่างทางก็จะมีวิวสวยให้ชมได้ตลอดเดินไปชมวิวไปเพลินดีทีเดียว นอกจากนี้ยังมีสะพานไม้ทอดยาวซึ่งเป็นท่าเทียบเรือสปีดโบ๊ทที่สามารถไปถ่ายรูปสวยๆ ได้ชิลล์ๆ เลย
Location: 79 หมู่ 1 บ้านก้นอ่าว ถ.หาดแม่รำพึง-เพ ต.เพ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
Fee: คนไทย/ผู้ใหญ่ 40 บาท,เด็ก 20 บาท และชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท, เด็ก 100 บาท
Open-Close: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
Phone: 038 653 034
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมเก็บภาพความสวยงามได้แค่ปีละครั้งเท่านั้น เพราะทะเลบัวแดงแห่งนี้จะออกดอกบานสะพรั่งแค่ช่วงเดือนธันวาคม-เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่ต้องแวะมาเช็คอินเก็บภาพให้ได้ปีละครั้ง แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าไปเที่ยวและจะได้ภาพที่สวยงามที่สุดขอแนะนำเป็นช่วงเวลาตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึง 11.00 น. เพราะจะได้เห็นดอกบัวที่บานเต็มบึงหนองหานแบบสุดลูกหูลูกตาสวยงามมาก จนทำให้คนต่างเรียกที่นี่ว่า “ทะเลบัวแดง” หากใครกำลังจะเดินทางไปต้องรีบหน่อยแล้ว และควรจะเตรียมกล้องและพร็อพให้พร้อมด้วยนะ จะได้มีรูปสวยสมใจกลับไปถ่ายใหม่ต้องรออีกปีเลยเชียว!
Photo by: ทะเลบัวแดง อุดรธานี
Location: บ้านเชียงแหว ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
Facebook: ทะเลบัวแดง อุดรธานี
จุดชมวิวเสม็ดนางชี มหัศจรรย์ความงามแห่งอ่าวพังงา เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งสามารถมองเห็นวิวเกาะ และภูเขาหินปูนในอ่าวพังงา โดยในช่วงเช้าเราจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นแทรกตัวอยู่ระหว่างช่องเขาทำให้เห็นวิวที่สวยแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาของพระอาทิตย์ และอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดก็คือ การนอนมองดวงดาวในยามค่ำคืนที่จะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งหลายๆ คนก็จะหาที่พักวิวดีอย่าง เสม็ดนางชีบูทีค ที่ให้บริการทั้งที่พักและลานกางเต็นท์ให้เราสามารถนอนพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ พร้อมวิวสวยของอ่าวพังงาในแบบที่ไม่ควรพลาด!!
Photo by: Sametnangshe boutique เสม็ดนางชีบูทีค
Location : บ้านหินร่ม ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
Fee: ค่าธรรมเนียมเข้าชม 30 บาท/คน
Open-Close: เปิดบริการทุกวันเวลา 08.00-17.00 น.
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแบบกรีนๆ จุดเช็คอินแบบลับๆ ที่น่าไปมากกับ เขาช่องลม เขื่อนขุนด่านปราการชลที่สามารถเดินทางด้วยเรือโดยสารจากบริเวณสันเขื่อนใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที เมื่อเข้ามาถึงจะรู้สึกเย็นสบายผ่อนคลายมากๆ ด้วยบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยป่าเขาอันเขียวขจีตลอดเส้นทางเดินสวยงามมีธารน้ำไหลได้ยินเสียงนก เสียงน้ำเพลิดเพลินสุดๆ ตลอดเส้นทางก็จะมีทั้งปีนเขา ไต่เชือก ถือว่าเป็นการผจญภัยที่สนุกมากๆ เมื่อเดินเข้ามาถึงน้ำตกช่องลม ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่สวยงามไม่แพ้กัน ที่นี่ก็เป็นหนึ่งสถานที่ที่น่าไปมากๆ ในปี 2020 นี้
Location: เขื่อนขุนด่านปราการชล ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก
Open – Close: บริการเหมาเรือเริ่มออกเที่ยวแรกตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. (คิวเรือออกทั้งวันไม่มีรอบ)
Price: ราคาเหมาเรือ 1 – 7 คน 1,500 บาท 7 คนขึ้นไปคนละ 200 บาท
Recommend: แนะนำให้ใส่รองเท้ากีฬาหรือรองเท้าสำหรับเดินป่าไป
อีกหนึ่งความงดงามและเป็นแลนด์มาร์กที่เป็นอาคารสัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ที่ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ เรียกได้ว่าอาจจะเป็นจังหวัดทางผ่านที่คนอาจไม่ได้แวะเวียนกันเข้าไปท่องเที่ยวมากนัก แต่ที่นี่ก็มีความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคำว่า ผสาน + เชื่อมโยง มีความหมายว่า จุดรวมตัวของแม่น้ำทั้งสี่สาย (ปิง วัง ยม น่าน) ซึ่งมีความสวยงามและเป็นอีกหนึ่งจุดที่อยากให้ลองพาเพื่อน ครอบครัว และคนรักไปท่องเที่ยวถ่ายภาพสวยๆ พร้อมชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่จะเชื่อมโยงความสวยงามและประสบการณ์ใหม่ๆ อีกหลายอย่างที่คุณจะได้มันกลับมาจากสถานที่แห่งนี้
Location: แหลมเกาะยม อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์
ปิดท้ายด้วย หล่มภูเขียว อีกหนึ่งจุดเช็คอินดีๆ ที่ไม่ควรพลาดเป็น Unseen Thailand ที่อยากจะให้ทุกๆ คนลองไปสัมผัสในปี 2020 นี้ ซึ่งหล่มภูเขียวแห่งนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท เป็นแอ่งน้ำสีฟ้ามรกตใสมองเห็นตัวปลาแหวกว่ายไปมาได้อย่างชัดเจน ซึ่งแอ่งน้ำแห่งนี้มองๆ ดูแล้วคล้ายกับปล่องภูเขาไฟที่เกิดจากการยุบตัวของผิวดิน หล่มภูเขียวแห่งนี้รายล้อมไปด้วยป่าดิบแล้ง หน้าผาภูเขาหินปูนที่เงียบสงบ แหล่งน้ำแห่งนี้มีความลึกมากพอสมควรจึงไม่แนะนำให้ลงเล่นน้ำ และห้ามให้อาหารปลาเพราะจะทำให้น้ำเน่า ฤดูท่องเที่ยวของหล่มภูเขียวแห่งนี้แนะนำให้มาช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนกุมภาพันธ์ เพราะจะมีความสวยงามเป็นพิเศษในแบบที่นักท่องเที่ยวสายกรีนไม่ควรพลาด!
Location: ต.บ้านอ้อน อ.งาว จ.ลำปาง
Open-Close: จันทร์-ศุกร์ 08.00 – 16.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 06.30 – 16.00 น.
Fee: ไม่เสียค่าบริการ
Phone: 089 952 3829
Facebook: หล่มภูเขียว