เที่ยวไต้หวัน 3 วัน 2 คืน ตะลุยนิวไทเป ฉบับไปเองครั้งแรก Part 2
390 ครั้ง
20 ธ.ค. 2567
390 ครั้ง
20 ธ.ค. 2567
พร้อมเทใจไปไทเปกันรึยังกับพาร์ทสุดท้ายของทริป เที่ยวไต้หวัน 3 วัน 2 คืน ตะลุยนิวไทเป ฉบับไปเองครั้งแรก Part 2 และใครที่ยังไม่ได้อ่าน Part 1 สามารถกดลิงก์ตามไปที่นี่ได้เลย เที่ยวไต้หวัน 3 วัน 2 คืน ตะลุยนิวไทเป ฉบับไปเองครั้งแรก Part 1 ในพาร์ทนี้ เราจะพาทุกคนไปชมความงดงามทางประวัติศาสตร์ของนิวไทเปและจุดเช็คอินถ่ายรูปใหม่สุดก่อนใคร ที่จะทำให้การไป เที่ยวไต้หวัน ในครั้งนี้มีรูปสวยๆ ไปอวดลงโซเชียลแบบปังๆ อลังการ
เช้าวันที่ 3 วันสุดท้ายของการ เที่ยวไต้หวัน ที่เราก็แอบเศร้านิดๆ แต่ก็ต้องฮึบเก็บกระเป๋าออกเดินทางไปเก็บเกี่ยวความสนุกกันต่อ หลังจากที่เราชาร์จพลังกันมาทั้งคืน เราพาทุกคนมาเดินย่อยอาหารเช้ากันที่ Tamsui Fisherman’s Wharf เดินเล่น ถ่ายรูปชิคๆ รับลมเย็นๆ ชมสะพาน Lover’s Bridge ถ้าเดินข้ามสะพานนี้ไปเพื่อนๆ จะเจอกับตลาดปลา เดินหาร้านกาแฟ นั่งจิบกาแฟริมทะเลยามเช้า ก่อนเริ่มต้นวันใหม่ สำหรับคู่รักต้องถูกใจ หอชมวิว Lover’s Tower ใช้เวลาเดินขึ้นเพียงแค่ 6 นาที ทุกคนจะพบกับจุดที่จะมองเห็นวิวทะเลและธรรมชาติอันสวยงามของไต้หวันได้แบบ 360 องศา
สะพานซิกเนเจอร์ของที่นี่เป็นที่นิยมของคู่รักหลายๆ คู่สำหรับถ่าย Pre-wedding และเป็นสถานที่ถ่ายทำอันโด่งดังของหนังและซีรีย์หลายเรื่อง
ตำรวจขี่ม้า ที่มีที่นี่เพียงที่เดียว มาเดินตรวจความเรียบร้อย เท่มากๆ
ตรงสะพานนี้อากาศดีมาก แสงถ่ายรูปคือจึ้งสุดๆ มองเห็นวิวรอบๆ ได้แบบสบายตา
มุมนี้เหมือนยืนอยู่ฝั่งยุโรปแบบไม่ต้องบินไปยุโรป ฟีลดีมาก
มาเที่ยวไต้หวันทั้งทีเราพามารู้จักกับเรื่องราวในอดีตกับ Tamsui Customs Wharf ท่าเรือศุลกากรตั้นสุ่ย ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมากในตั้นสุ่ย สิ่งสวยงามมีทั้งอาคารศุลกากรสไตล์ตะวันตกที่ยังหลงเหลืออยู่และคลังสินค้าเก่า ปัจจุบันถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมทางวัฒนธรรม เราเดินเล่นริมแม่น้ำ ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ และเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ของ แม่น้ำตั้นสุ่ย และ ภูเขากวนอิน ว่ากันว่าช่วงพระอาทิตย์ตกดินจะเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด แอบเสียดายที่เราไม่ได้มาเห็นตอนพระอาทิตย์ตก
นิทรรศการข้างในน่ารักจนใจเจ็บ เหมือนย้อนวัยไปเล่นขายของกับเพื่อนสมัยวัยเด็ก
เดินมาเกือบครึ่งวันแล้วเราขอมานั่งพักชิลล์ๆ ถ่ายรูปเอ็นจอยกับบรรยากาศริมน้ำสักหน่อย
พาเพื่อนๆ มาส่องประวัติศาสตร์หาความรู้กันต่อที่ Douglas Lapraik & Co. เป็น 1 ใน 5 บริษัทต่างชาติชั้นนำที่ดำเนินกิจการในไต้หวัน ยุคปลายศตวรรษที่ 19 พื้นที่รวบรวมเรื่องราวการค้าและการเดินเรือในอดีต มีความเชี่ยวชาญในด้านการขนส่งทางเรือและการค้าทั่วไป ปัจจุบันอาคารเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของเมือง โดยได้รับการอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของภูมิภาคนี้กันเลยทีเดียว
มื้อกลางวันของเราพามาที่ Red Castle 1899 ร้านอาหารตกแต่งสไตล์วิกตอเรีย สีของอิฐแดงสุดโดดเด่นและระเบียงโค้ง เป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดใจช่างภาพและศิลปินท้องถิ่น พร้อมอาหารสไตล์ไต้หวันแบบดั้งเดิม บวกกับวิวแม่น้ำตั้นสุ่ยที่สามารถเห็นได้จากร้านอาหาร เป็นประสบการณ์ดีๆ ในการกินอาหารรสดั้งเดิมของไต้หวัน และยังมีที่ตั้งของอาคารบนเนินเขายังที่ทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำตั้นสุ่ยและภูมิทัศน์โดยรอบ ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สำคัญของเมืองอีกหนึ่งที่เลยก็ว่าได้
อาหารรสชาติกินง่ายมาก ถูกปากคนไทยอย่างเราที่สุด
อิ่มจากมื้อกลางวันเสร็จแล้ว เราก็พาทุกคนมาศึกษาสถานที่ ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของไต้หวันกับ The Former Residence of Tada Eikichi สถานที่เก่าแก่เคยเป็นบ้านของ ทาดะ เอกิจิ เป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไต้หวันสมัยที่ไต้หวันยังอยู่ภายใต้การปกครองโดยญี่ปุ่น สถานที่แห่งนี้ได้ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดีเพื่อแสดงและรำลึกถึงผลงานของ ทาดะ เอกิจิ ที่เรารู้สึกว่าเข้าไปแล้วมีกลิ่นอายความเป็นเจแปนนิสอยู่มาก
เครื่องชงชาและอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ที่ยังคงตั้งไว้อยู่ภายในบ้าน
เดินออกมาจาก The Former Residence of Tada Eikichi จะมีสะพานลอยสีสันสดใสแสบตาอยู่ตรงหน้าบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่พลาดที่จะถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆ ให้ตามไปเช็คอินกันแน่นอน !
และมาถึงสถานที่สุดท้ายของทริปก่อนเดินทางกลับ นั่นก็คือ Fort San Fomingo ป้อมแดงในตำนานที่มีประวัติยาวนานถึง 400 ปี ! ที่มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายโดยป้อมนี้เป็นฐานทัพและศูนย์กลางทางการค้าของไต้หวัน ตั้งอยู่บนเนินเขา ที่หากใครไปถึงจะมองเห็นวิวของแม่น้ำตั้นสุ่ยได้แบบชัดระดับ 4K มีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ภายในป้อม และการตกแต่งบ้านพักแบบสถาปัตยกรรมวิกตอเรีย
ก่อนเข้าเพื่อนๆ จะต้องซื้อตั๋วก่อนนะ มีค่าเข้าชมประมาณ 80 ดอลลาร์ไต้หวัน ต่อคน
และทั้งหมดนี้ก็คือ เที่ยวไต้หวัน 3 วัน 2 คืน ตะลุยนิวไทเป ฉบับไปเองครั้งแรก Part 2 ใครที่กำลังวางแพลนอยากหาเวลาไปเที่ยวต่างประเทศแบบเดินทางง่าย ไม่ชอบความวุ่นวายในการเดินทาง อาหารกินง่าย การคมนาคมสะดวกรวดเร็ว เราว่าการมาเที่ยวไต้หวัน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดีๆ ที่อยากให้ทุกคนลองมาสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ มู้ดแอนด์โทนดีๆ ที่นิวไทเป จังหวัดจีหลง เราอัปเดตแลนด์มาร์กใหม่ มุมถ่ายรูปสวยๆ ล่าสุดไม่ซ้ำใครแน่นอน
1.ไปที่ตู้ Tax Refund Kiosk สามารถตามหาได้ง่ายๆ ที่สนามบิน Taoyuan International Airport จะอยู่ Taoyuan Terminal 1 ชั้น 1
2.โดยเพื่อนๆ สามารถเลือกภาษาที่ต้องการได้เลย เพราะมีภาษาไทยด้วยสะดวกสบายมากไม่ต้องกังวลเลย
3.เลือกเมนู ใบคำขอคืนภาษี ต่อไปเลือก หนังสือเดินทาง (Passport) และนำหนังสือเดินทางหน้าที่มีรูปถ่ายสแกนได้เลย
4.สแกน QR code ที่อยู่บนแบบฟอร์มที่เราได้มาจากร้านค้าที่ซื้อของ สแกนเพียงแค่ใบเดียวก็จะแสดงยอดภาษีที่จะได้คืนทั้งหมด ทำการตรวจเช็ครายละเอียดและยอดเงิน แล้วกดยืนยัน
5.เลือกวิธีที่สะดวกรับภาษีคืน มีหลายวิธี เช่น เงินสด, เช็คธนาคาร หรือบัตร (กรณีที่เลือกคืนเงินผ่านบัตร จะต้องรอทำการ 60-70 วัน)
6.เราจะได้เป็นใบคืนภาษีเป็นใบเล็กๆ มานำไปที่เคาน์เตอร์ด้านหลัง Currency exchange ตามในรูปหากเพื่อนๆ เลือกคืนเป็นเงินสด จะได้คืนเป็นเงินดอลลาร์ไต้หวันเรทค่าเงิน ณ ปัจจุบัน เพียงเท่านี้เราก็สามารถทำได้เองแบบรวดเร็วทันใจได้เล้ย!!
สรุปค่าใช้จ่ายทริป เที่ยวไต้หวัน 3 วัน 2 คืน ตะลุยนิวไทเป ฉบับไปเองครั้งแรก Part 1 และ Part 2
แล้วเราก็จบทริป เที่ยวไต้หวัน 3 วัน 2 คืน ตะลุยนิวไทเป ฉบับไปเองครั้งแรก Part 2 ครั้งหน้าทริปเก็ทเตอร์จะพาทุกคนไปตะลุยต่างประเทศกันอีกแน่นอน เรารวบรวมมาให้แบบเน้นๆ ใครมีแพลนอยากไปเที่ยวต่างประเทศเองครั้งแรก แบบไม่ต้องกลัวหลง ต้องเก็บไต้หวันไว้ในลิสต์แล้ว และใครที่ไม่ชอบการเดินทางที่ใช้ระยะเวลานาน แต่อยากไปต่างประเทศ เราขอแนะนำ 20 จุดเช็คอินสิงคโปร์ มัดรวมแลนด์มาร์กดัง เที่ยวได้ทั้งวันไม่จำเจ! และ ทริปเวียดนามเหนือ 3 วัน 2 คืน ลุยเที่ยวจุดเช็คอินสุดฮิตในฮานอย