แวะไปอิ่มบุญ 5 วัดดังกลับมาเปิดต้อนรับสายบุญแล้ว
6,116 ครั้ง
26 พ.ค. 2563
ช่วงเวลาที่สายบุญรอคอยกลับมาถึงแล้ว! รัฐบาลได้ออกมาตรการผ่อนปรนให้เปิดบางสถานที่ แต่ยังต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด สำหรับเพื่อนๆ สายบุญที่อยากออกไปไหว้พระขอพรแนะนำให้เตรียมความพร้อมด้วยการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เว้นระยะห่าง และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ และขอพรให้สถานการณ์ดีขึ้นและกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว
1.วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว, เพชรบูรณ์
สำหรับใครที่เดินทางไปท่องเที่ยว จ.เพชรบูรณ์ จะต้องแวะไปกราบไหว้สักการะ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดสวยรายล้อมด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ ซึ่งในตำนานเล่าว่า ชาวบ้านเห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้าและหายลับเข้าไปในถ้ำบนยอดเขา มีความเชื่อว่าพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา จึงยกสถานที่แห่งนี้ให้เป็นสถานที่มงคลและมีความศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘ผาซ่อนแก้ว’ ภายในวัดยังมีสถานปฏิบัติธรรมแก่พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่มาพร้อมทิวทัศน์อันสวยงามและความเงียบสงบ เป็นสถานที่ที่สามารถมาพักผ่อนได้ทั้งกายและใจได้เป็นอย่างดี
Location: 95 บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
Open – Close: เปิดทำการเวลา 08.00 – 17.00 น.
Facebook: วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
Website: http://www.phasornkaew.org
2.วัดพระธาตุดอยสุเทพ, เชียงใหม่
วัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นอีกหนึ่งวัดดังใน จ.เชียงใหม่ ที่ใครได้มาเที่ยวเชียงใหม่แล้วไม่แวะไปที่วัดพระธาตุดอยสุเทพแห่งนี้ก็เหมือนมาไม่ถึงเชียงใหม่ วัดแห่งนี้ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเพียงไม่กี่นาทีก็ได้มาสัมผัสความสวยงามของบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน และเมื่อก้าวเท้าเข้าไปยังตัววัดก็จะได้พบกับเจดีย์ทรงเชียงแสนฐานสูงที่ก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา สำหรับใครที่ได้ขึ้นไปเยือนถึงวัดแล้ว หลังจากไปกราบไหว้พระก็สามารถเดินเที่ยวชมความสวยงามของจุดชมวิวเมืองเชียงใหม่ได้อีกด้วย
Location: 9 หมู่ที่ 9 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
Price: รถรางไฟฟ้าเปิดให้บริกการตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ในราคาขึ้น-ลง คนละ 20 บาท สำหรับชาวต่างชาติ คนละ 50 บาท
Open-Close: 06.00 – 17.00 น.
3.วัดพระธาตุลำปางหลวง, ลำปาง
วัดพระธาตุลำปางหลวง แวะกราบไหว้พระประจำปีเกิด ‘ปีฉลู’ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปางมาแต่โบราณเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้คนต่างเดินทางมาเที่ยวแล้วจะต้องแวะกราบไหว้กันสักครั้ง ภายในพระเจดีย์บรรจุพระเกศา และพระอัฐิธาตุ จากพระนลาฎข้างขวาของพระพุทธเจ้า มีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาเก่าแก่แสดงให้เห็นความงดงามตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 20 ด้วยเจดีย์กลมทรงระฆังคว่ำแบบพุกามล้านนา เริ่มสร้างขึ้นในปีฉลูและสร้างเสร็จในปีฉลูอีกเช่นกัน เป็นวัดไม้เก่าแก่ที่สวยงามแห่งหนึ่งของไทย และในปัจจุบันที่ใครหลายๆ คนเดินทางไปเที่ยวแล้วจะต้องได้เก็บภาพสวยๆ บริเวณหน้าวัด และนั่งรถม้าเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาเยือนที่แห่งนี้
Location: 271 หมู่ 2 ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง
Open-Close: เปิดทุกวัน 07.30 – 17.00 น.
Facebook: วัดพระธาตุลำปางหลวง
4.วัดโสธรวรารามวรวิหาร, ฉะเชิงเทรา
วัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือ วัดหลวงพ่อโสธร ที่เราคุ้นหูกันเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองฉะเชิงเทรา สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร พร้อมพระอุโบสถหลวงพ่อโสธรองค์จริงให้ผู้ที่มาท่องเที่ยวได้เข้าไปกราบไหว้สักการะกัน ภายในพระอุโบสถหลังใหม่มาพร้อมการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง ทั้งยังมีจิตกรรมฝาผนังที่งดงามตั้งแต่พื้นพระอุโบสถ เสา ผนัง ไปจนถึงเพดาน โดยบอกเล่าเรื่องราวของสีทันดร มหาสมุทร จตุโลกบาล พรหมโลก และดวงดาว สำหรับใครที่ได้ไปเยือนเมืองแปดริ้วแล้วจะต้องและเข้าไปสักการะบูชาองค์หลวงพ่อโสธรเพื่อเป็นสิริมงคล
Location: ถ.เทพคุณากร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน วันธรรมดา 07.00 – 16.30 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ 07.00 – 17.00 น.
Phone: 038 511 048, 038 511 666
Facebook: วัดโสธรวราราม วรวิหาร
5.วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่), พิษณุโลก
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) วัดสวยตั้งอยู่ในเมืองพิษณุโลก เป็นสถานที่สำคัญอยู่ติดริมฝั่งน้ำน่าน ภายในวัดประดิษฐาน ‘พระพุทธชินราช’ หรือที่ชาวพิษณุโลกเรียก ‘หลวงพ่อใหญ่’ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่มีลักษณะที่งดงามที่สุดในโลกหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ขัดเงาเกลี้ยง ทุกๆ ปีที่นี่จะจัดงานนมัสการพระพุทธชินราชในวันขึ้น 6 ค่ำ ถึงวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 3 (ประมาณปลายเดือนมกราคม) ชาวพิษณุโลกต่างพากันเดินทางไปยังวัดเพื่อกราบไหว้สักการะบูชาองค์พระพุทธชินราช เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตและครอบครัว ซึ่งเรียกว่า “งานวัดใหญ่” จะมีผู้คนจากต่างจังหวัดพากันเดินทางไปร่วมงานอย่างล้นหลาม
Location: 92/3 ถนนพุทธบูชา ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก
Open-Close: เวลา 06.30 – 18.00 น.
Phone: 055 258 966, 055 251 649
-
-
บทความยอดนิยมเดือนนี้
