6 น้ำพุร้อน น่าไปแช่ผ่อนคลาย รับความฟินในช่วงอากาศหนาว
6,060 ครั้ง
8 ม.ค. 2566
6,060 ครั้ง
8 ม.ค. 2566
อากาศกำลังเย็นสบายช่วงต้นปีแบบนี้ ถ้าได้ไปแช่น้ำพุร้อนเพื่อผ่อนคลายก็คงดีไม่น้อย วันนี้ทริปเก็ทเลยเลยขอรวม 6 น้ำพุร้อน น่าไปแช่ผ่อนคลาย รับความฟินในช่วงอากาศหนาว มาฝากเพื่อนๆ บอกเลยว่าต้องหาเวลาไปสักครั้ง ไม่ว่าจะไปนั่งชิลล์ๆ แช่เท้าหรือแช่ทั้งตัวเพื่อคลายความเมื่อยล้ารับรองว่าดีต่อใจและร่างกายเป็นที่สุด ไปดูกันเลยว่าทั้ง 6 น้ำพุร้อน ที่เรานำมาฝากกันในครั้งนี้มีที่ไหนบ้าง
ใครมีแพลนไปเที่ยวทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี อย่าลืมแวะเช็คอินที่ บ่อน้ำพุร้อนหินดาด บ่อน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตั้งอยู่กลางป่าภายใต้ร่มเงาไม้ ซึ่งที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อนขนาดไม่ใหญ่มากเพียง 3 บ่อ ให้แช่น้ำฟินๆ พร้อมชมวิวลำธาร ฟังเสียงน้ำไหล โดยความร้อนอยู่ที่ประมาณ 45 – 55 องศาเซลเซียส สำหรับขั้นตอนการแช่ให้เริ่มจากแช่เท้าเพื่อปรับอุณหภูมิแล้วค่อยลงไปแช่ทั้งตัว เริ่มแช่จากบ่อที่มีความร้อนน้อยที่สุดคือบ่อที่ 3 ไปตามลำดับบ่อที่ 2 และบ่อที่ 1 แนะนำให้เปลี่ยนบ่อแช่ทุก 10 นาที การแช่น้ำในอุณหภูมิที่กำลังดีแบบนี้จะทำให้ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้า กระตุ้นระบบการยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตและแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย เรียกได้ว่าบ่อน้ำพุร้อนหินดาดเป็นอีกที่เที่ยวกาญจนบุรีที่ต้องห้ามพลาดกันเลย
น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามเพราะถูกโอบล้อมไปด้วยวิวทิวเขาและความเขียวขจีของต้นไม้มากมาย ไฮไลท์ของน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนนอกจากจะมีบ่อให้แช่เท้าและแช่ตัวแล้วที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำแร่ที่ต้มไข่ออนเซ็นให้สุกภายใน 17 นาที เป็นไข่ที่สุขกำลังพอดีกินอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นที่น้ำพุร้อนแจ้ซ้อนยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม สำหรับสายที่ชื่นชอบการเที่ยวธรรมชาติบอกเลยว่าที่นี่เป็นจุดเช็คอินของจังหวัดลำปางที่ต้องมาสักครั้งในชีวิต
โป่งน้ำร้อนไทรงาม จุดเช็คอินที่ห้ามพลาดเมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่ต้องอยู่กลางป่าซึ่งห่างจากตัวเมืองปายเพียง 15 กิโลเมตรเท่านั้น นอกจากจะเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของคนไทยแล้วที่นี่ยังฮิตสุดๆ ในหมู่นักเดินท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกด้วย โป่งน้ำร้อนไทรงามมีลักษณะคล้ายน้ำตกทั่วไปคือเป็นชั้นเล็กๆ ลดลั่นกันตามธรรมชาติ และมีแอ่งน้ำขนาดไม่ใหญ่ให้นอนแช่กันได้อย่างผ่อนคลาย ที่สำคัญน้ำใสสะอาดจนเห็นพื้นหินด้านล่างกันเลยด้วย
น้ำพุร้อนสันกำแพง หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ขับรถจากตัวเมืองประมาณชั่วโมงนิดๆ ก็สามารถมาเที่ยวน้ำพุร้อนท่ามกลางธรรมชาติล้อมรอบไปด้วยภูเขาได้อย่างสบายๆ ที่นี่เป็นน้ำพุร้อนที่เกิดจากอุณหภูมิอยู่ในจุดเดือดและสร้างแรงดันจำนวนมากจนกลายเป็นน้ำพุพุ่งขึ้นมาเหนือพื้นดิน ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้น จุดไฮไลท์ของน้ำพุร้อนสันกำแพงที่นักท่องเที่ยวมาถึงแล้วต้องลองคือ การต้มไข่ในบ่อน้ำพุร้อนที่อุณหภูมิ 105 องศา มีป้ายบอกเวลาการต้มไข่เป็นระดับต่างๆ ให้เลือกตามความชอบอย่างไข่ลวก ไข่ยางมะตูม และไข่สุก ไม่เท่านั้นที่นี่ยังมีบ่อน้ำแร่ให้แช่เท้าเพื่อความผ่อนคลาย หรือใครต้องการแช่น้ำแร่แบบเต็มๆ เพื่อสุขภาพก็มีทั้งสระน้ำแร่กลางแจ้ง ห้องแช่น้ำแร่ส่วนตัว ห้องแช่น้ำแร่แบบรวม และห้องตักอาบน้ำแร่เปิดให้บริการอีกด้วย
ไปแช่น้ำพุร้อนท่ามกลางธรรมชาติอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่กันที่ น้ำพุร้อนโป่งกวาว บอกเลยว่าที่นี่ฟีลลิ่งคล้ายบ่อออนเซ็นของประเทศญี่ปุ่นแบบสุดๆ ที่สำคัญยังมีบ่อน้ำร้อนถึง 13 บ่อ แบ่งเป็นบ่อแบบส่วนตัว 8 บ่อ บ่อรวมแบบกลางแจ้ง 3 บ่อ และบ่อรวมแบบอินดอร์ 2 บ่อ ยิ่งช่วงหน้าหนาวอากาศเย็นๆ ใครมาเที่ยวเชียงใหม่บอกเลยว่าต้องแวะเช็คอินแช่น้ำเพื่อความผ่อนคลาย
ช่วงต้นปีไปเที่ยวชมความงามของดอกพญาเสือโคร่งที่ดอกอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกทั้งทีอย่าลืมแวะเช็คอินกันที่เที่ยวใกล้เคียงอย่าง บ่อน้ำพุร้อนฝาง ที่มีมากมายกว่า 50 บ่อ กระจายอยู่ทั่วบริเวณกว่า 10 ไร่ สามารถเดินเที่ยวชมบ่อน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินที่อุณหภูมิประมาณ 80 – 100 องศาเซลเซียสกันได้ หรือจะเดินไปบ่อต้มไข่ที่อุณหภูมิ 87 องศาเซลเซียส การต้มไข่ไก่อยู่ที่ 20 – 30 นาที และไข่นกอยู่ที่ 15 – 20 นาที บอกเลยว่ารสชาติกลมกล่อมอร่อยสุดๆ นอกจากนั้นที่บ่อน้ำพุร้อนฝางยังมีบริการบ่อแช่น้ำแร่แบบส่วนตัวอีกด้วย
เป็นอย่างไรบ้างกับ 6 น้ำพุร้อน น่าไปแช่ผ่อนคลาย รับความฟินในช่วงอากาศหนาว รับรองว่าแช่แล้วสบายตัวช่วยลดความเหนื่อยล้าได้แน่นอน และสำหรับใครที่ชอบเที่ยวธรรมชาติไปดูที่เที่ยวอื่นกันต่อเลยใน 10 ที่เที่ยวธรรมชาติทั่วไทย น่าไปสูดอากาศ ให้ธรรมชาติเยียวยา! และ 11 ที่เที่ยวเชียงราย ชมวิวธรรมชาติแบบสุดกรีน