7 น้ำตกน่าเที่ยวใกล้กรุง บรรยากาศชุ่มฉ่ำ ไปเช้าเย็นกลับแบบสบายๆ

น้ำตก อีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ที่ไม่ว่าจะเดือนไหนฤดูไหนก็ยังมีอากาศเย็นสบายที่รอให้เราไป พักกาย พักใจกันอยู่เสมอ แต่สำหรับคนกรุงเทพอย่างเราไม่มีน้ำตกให้เที่ยวจะทำยังไงหล่ะ! ไม่ต้องห่วงเลยจ้า…วันนี้ทริปเก็ทเตอร์มีสิ่งดีดีมาแนะนำกับอีกเช่นเคยกับ 7 น้ำตกสวยน่าเที่ยวใกล้กรุง บรรยาศชุ่มฉ่ำ ที่คัดกันมาจาก 4 จังหวัดใกล้กรุงเดินสามารถเที่ยวแบบวันเดย์ทริปไปเช้าเย็นกลับไปแบบสบายๆ จะหนีงานมาวันนธรรมดาแบบคนไม่เยอะ หรือว่าช่วงวันหยุดก็คึกคักได้เจอผู้คนอื่นๆ ว่าแล้วก็อย่ารอช้ารีบวางแผนแล้วรีบไปลุยกันดีกว่า

---

1.น้ำตกเอราวัณ, กาญจนบุรี
(Erawan Waterfall)

เริ่มต้นกันที่น้ำตกเอราวัณ น้ำตกสวยขนาดใหญ่ ที่มีทั้งหมดถึง 7 ชั้น ตั้งลดหลั่นอยู่ในป่าระยะทางรวม 1,500 เมตร ที่เส้นทางถือว่าค่อนข้างชิลล์ แต่ก็เรียกเหงื่อได้พอสมควร น้ำตกที่นี่ค่อยข้างมีความหลากหลายซึ่งชั้นแรกจะเป็นธารน้ำสำหรับนั่งปิกนิก ส่วนชั้น 2-4 จะเป็นบ่อกว้างให้ว่ายเล่นแบบสบายใจเฉิบ ส่วนชั้นที่เหลือจะเป็นผาน้ำตกเหมาะแก่การกระโดดน้ำถ่ายรูปกัน และความพิเศษของน้ำตกแห่งนี้ก็คือ น้ำในแต่ละชั้นั้นค่อนข้างใส แถมยังมีปลาน้อยใหญ่มาช่วยดูดเซลล์ที่เสียของเราอีก เรียกว่าเหมือนได้มาพักผ่อนเข้าสปาแบบธรรมชาติกันเลย 

Location: อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 08.00-17.00 น. (ใช้เวลาเดินราว 3 ชั่วโมง ช่วง 15.00 น. เจ้าหน้าที่เริ่มให้ทยอยกลับ)
Phone: 0 3457 4234, 061 652 2627
Fee: ชาวไทยผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท / ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท/ รถยนต์เริ่มต้น 50 บาท
Facebook: อุทยานแห่งชาติเอราวัณ l Erawan Waterfal

---

2.น้ำตกเกริงกระเวีย, กาญจนบุรี
(Kroeng Krawia Waterfall)

น้ำตกเกริงกระเวีย อีกหนึ่งน้ำตกสวยบรรยากาศดีๆ ที่อยู่ระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปยังสังขละบุรี เป็นส่วนหนึ่งของเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ภายในบรรยากาศร่มรื่นปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และมีทางเดินสะพานไม้ไผ่ทอดยาวพาไปยังมุมต่างๆ ส่วนตัวน้ำตกเป็นเนินหินขนาดไม่ใหญ่มาก ที่เรียงรายกันเป็นชั้น มีน้ำที่ไหลมาจากภูเขาให้เล่นกันตลอดทั้งปี มีบ่อกว้างให้นอนแช่ที่ถึงแม้จะเป็นช่วงน้ำแรงในหน้าปลายฝน ก็สามารถนอนชิลล์ได้แบบสบายๆ นอกจากนี้ด้านข้างยังมากมายด้วยร้านอาหาร ทั้งก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ อาหารตามสั่ง รวมถึงมีคาเฟ่ให้ชิลล์กันอีก เป็นอีกหนึ่งพักรถที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

Location: 323 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 08.00-16.30 น.
Phone: 034 589 027
Fee: คนละ 40 บาท

---

 3.น้ำตกไทยโยคน้อย, กาญจนบุรี
(SaiYok Noi Waterfall)

และถ้าหากใครรักการเดินทางด้วยรถไฟ ต้องเลือกมาชิลล์กันที่นี่ น้ำตกไทยโยคน้อย น้ำตกแห่งนี้อยู่บริเวณสถานนีรถไฟน้ำตก ซึ่งจะอยู่ถัดมาจากสถานีถ้ำประแซ หรือทางรถไฟสายมรณะมาไม่ไกล ตัวน้ำตกเป็นผาหินปูนทรงสวยที่มีความสูงประมาณ 15 เมตร ซึ่งจะมีเนินและถ้ำให้เราไปยืนและโพสต์ท่าถ่ายรูปกันได้แบบอิสระ ส่วนด้านล่างนั้นจะเป็นแอ่งเล็กๆ น้ำตื้นที่เหมาะสำหรับน้องหนูๆ บรรยากาศโดยรอบแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ป่าไผ่ รวมถึงมอสสีเขียวที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ มีทางเดินคอนกรีตและสะพานให้เดินเล่น พร้อมมีมุมปิกนิกให้เลือกเยอะเลยทีเดียว 

Location: ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
Open-Close: เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.
Phone: 034 686 024
Fee: ไม่เสียค่าบริการ
Facebook: อุทยานแห่งชาติไทรโยค l Sai Yok National Park

---

4.น้ำตกเจ็ดสาวน้อย, สระบุรี
(Chet Sao noi Waterfall)

มาชิลล์กันต่อที่โซนจังหวัดสระบุรีกันบ้างที่ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย น้ำสวยบนผืนป่ากว้าง 540 ไร่ ที่ยังความอุดมสมบูรณ์ในทุกมุม ตัวน้ำตกถูกแบ่งออกเป็น 7 ชั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธารน้ำที่ไหลผ่านมีผาหินต่ำๆ และเป็นแอ่งกว้างน้ำสีฟ้าใส เหมาะสำหรับเด็กๆ ซึ่งชั้นที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชิลล์กันจะเป็นชั้นที่ 5 lj;oสำหรับผู้ใหญ่หรือวัยรุ่นที่ไม่อยากเล่นน้ำ บริเวณรอบๆ ก็มีมากมายด้วยมุมสวยให้สำหรับปูเสื่อนอนเอนกาย แถมยังมีจุดถ่ายรูปทั้งขอนไม้ใหญ่ และสะพานเหล็กที่ทอดยาวข้ามน้ำตกให้โพสต์ท่า ที่รับรองว่าเรียกไลค์ได้แบบกระจาย

Location: หมู่ 9 บ้านแก่งหลุ ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
Open-Close: เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.
Phone: 036 346 586
Fee: ชาวไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท / ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
Facebook: อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย l Num Tok Chet Sao Noi National Park

---

5.น้ำตกเจ็ดคต, สระบุรี
(Chet Kod Waterfall)

น้ำตกเจ็ดคต อีกหนึ่งน้ำตกสวยในจังหวัดสระบุรี ที่เป็นน้ำตกเล็กๆ ที่ถึงแม้จะไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่ก็มีข้อดีคือจะได้การพักผ่อนแบบส่วนตัวๆ ตัวน้ำตกเป็นลำธารขนาดกว้าง ที่มีความยาวประมาณ 100-200 เมตรและลึกเข้าไปในป่า มีมุมให้เลือกนั่งชิลล์ทั้งโขดหิน สนามหญ้า และจุดเช่นน้ำที่มีทั้งลึกและตื้นเหมาะสำหรับคนทุกวัย ส่วนมุมไฮไลท์ก็คือจะมาสะพานเชือกให้ไต่ ซึ่งอีกฝั่งจะมีศาลาให้พักผ่อน และที่สำคัญยังอยู่ห่างจากศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า เพียง 15 นาทีเท่านั้นเอง น่าจะตอบโจทย์สายกรีนได้เป็นอย่างดี

Location: หมู่ 5 ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
Open-Close: เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.
Fee: ไม่มีค่าบริการ

---

6.น้ำตกสาริกา, นครนายก
(Sarika Waterfall)

ข้ามฝั่งมาชิลล์กับอีกหนึ่งจังหวัดน้ำตกสวยนครนายกที่ น้ำตกสาริกา น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตัวน้ำตกเป็นน้ำที่ไหลจากหน้าผาลงมาเป็นทอดๆ มีทั้งหมด 9 ชั้น ชั้นผาที่สูงที่สุดมีขนาดกว่า 200 เมตร และที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นน้ำตกมเนินเล็กๆ และลำธารโขดหินที่เด็กๆ สามารถเล่นได้แบบปลอดภัยไร้กังวล น้ำตกแห่งนี้มีน้ำไหลตลอดทั้งปี แต่ช่วงหน้าฝนน้ำจะเยอะแถมป่ายังอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าพ่อปลัดจ่างและเจ้าแม่สาริกา ให้กราไหว้ขอพรเพื่อความเป็นมงคลในการเดินทางอีกด้วยนะ

Location: ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
Open-Close: เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.
Phone: 037 312 282, 037 312 284
Fee: ชาวไทยผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท / ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
Facebook: น้ำตกสาริกา l Sarika Waterfall

---

7.น้ำตกพลิ้ว, จันทบุรี
(Pliw Waterfall)

ปิดท้ายกันที่จังหวัดจันทบุรีที่น้ำตกสวยอันซีนที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้อย่างดี น้ำตกพลิ้ว น้ำตกแห่งนี้เป็นตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางป่าสีเขียวที่ถึงแม้จะมีเพียงชั้นเดียว แต่ความพิเศษคือเป็นนำ้ตกที่ไหลมาจากต้นน้ำ 2 สาย ตัวน้ำตกเป็นผาสูงกว่า 20 เมตร ที่ด้านล่างเป็นแอ่งขนาดใหญ่ลึกสุดกว่า 2 เมตร ที่มากมายด้วยโขดหินน้อยใหญ่ให้นั่งผ่อนคลาย แถมยังมีลำธารยาวเป็นสายให้เด็กๆ ได้เล่นกัน และหนึ่งความพิเศษของที่นี่ที่แตกต่างจากที่อื่นๆ ก็คือ จะมีปลาพลวง ตัวใหญ่ มาว่ายคลอเคลียเล่นกับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเอง 

Location: 41 หมู่ 12 ต. พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 08.00-17.00 น.
Phone: 039 434 528
Fee: ชาวไทยผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท / ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

---