ชีวิตช้าๆ อยู่ป่า นอนบ้านต้นไม้ ที่แลนด์มาร์คใหม่ บ้านแม่แมะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งใน ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่มีชื่อว่า “บ้านแม่แมะ” ห่างจากตัว อ.เชียงดาวประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่แฝงตัวอยู่กลางหุบเขาและรายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่เป็นธรรมชาติ มีลำธารไหลผ่านหมู่บ้านเรียกว่า “แม่น้ำแมะ” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านนั่นเอง บ้านแม่แมะมีวัด มีโรงเรียน มีบ้านคนประมาณ 100 หลังคาเรือน มีชนเผ่าลาหู่อาศัยอยู่ด้วยในเขตของหมู่บ้าน อาชีพหลักของคนที่นี่คือการเก็บใบชาขาย(ยอดใบอ่อนจะเรียกใบชา ส่วนใบแก่จะเรียกใบเมี่ยง) ซึ่งใบชาที่เก็บส่วนใหญ่จะเป็นชาที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ก็มีบางส่วนที่ทางภาครัฐนำมาให้ปลูกเพื่อเป็นการส่งเสริมการเกษตร และอีกอาชีพก็คือการเลี้ยงวัว

 

การเป็นอยู่ของคนที่นี่เรียกได้ว่าเป็นการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ และนอกจากอาชีพการเกษตรแล้วชาวบ้านที่นี่ยังเปิดบ้านรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะมาสัมผัสชีวิตแบบใกล้ชิดธรรมชาติอีกด้วย ที่นี่จะมีบ้านพักแบบโฮมสเตย์เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะชอบมาแบบเป็นทัวร์มากกว่า ส่วนคนไทยจะเอารถส่วนตัวมาเป็นครอบครัว สำหรับบ้านแม่แมะมีคลื่นโทรศัพท์เฉพาะของ AIS เท่านั้น ได้ข่าวว่าทางค่ายเพิ่งมาตั้งเมื่อเดือน พฤจิกายน 2558 ที่ผ่านมานี่เอง

 

การเดินทางสำหรับบ้านแม่แมะไม่มีรถประจำทางวิ่งผ่านหมู่บ้าน ใครที่จะมาแต่ยังไม่เคยมา ก็มีหลายทางให้เลือก สำหรับคนที่ไม่ได้นำรถส่วนตัวมาเอง หรือไม่ได้มากับทัวร์ 

1.ทางเลือกแรก คือการนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ มาลงที่ บขส.อาเขต เชียงใหม่ แล้วต่อรถแดงมาที่ บขส.ช้างเผือก แล้วต่อรถประจำทางไปที่ตัว อ.เชียงดาว อีกประมาณ 60 กิโล ส่วนรถประจำทางที่ว่านี่ก็มีทั้ง รถบัส รถสองแถวสีส้ม รถตู้

2.วิธีนี้ค่อนข้างไฮโซหน่อย คือการนั่งเครื่องมาลงที่เชียงใหม่แล้วต่อรถแดงมาที่ บขส.ช้างเผือก แล้วต่อรถประจำทางไปที่ตัว อ.เชียงดาว
3.ถ้ามาจากรุงเทพฯ จะมีรถทัวร์ที่วิ่งผ่าน อ.เชียงดาว คือสาย กรุงเทพฯ – บ้านท่าตอน ให้ตีตั๋วลงที่เชียงดาวได้เลย สำหรับคนที่ไม่อยากต่อรถบ่อยก็นั่งรถสายนี้ได้เลย

ทั้ง 3 วิธีนี้ น่าจะเป็นข้อมูลสำหรับใครหลายคนไม่มากก็น้อย ซึ่งทั้ง 3 ทางเลือกนี้เมื่อเรานั่งรถมาถึง อ.เชียงดาว แล้วการเข้าไปที่หมู่บ้านนั้นถ้าไม่ได้มากับทัวร์หรือไม่มีรถส่วนตัว มีให้ 2 ทางเลือก

1.เหมารถจากตัว อ.เชียงดาวเข้าไปที่หมู่บ้าน ราคา 600 บาท (เฉพาะขาไปเที่ยวเดียว) ทางเลือกนี้ค่อนข้างแพงไม่แนะนำ
2.โทรนัดให้รถที่หมู่บ้านมารับ ปกติแล้วคนที่มารับจะเป็นพ่อหลวงวงศ์ (ผู้ใหญ่วงศ์ แก้วใจมา โทร. 085-7082648) เป็นผู้ใหญ่บ้านแม่แมะ ราคาก็ ทั้งรับและส่งรวมแล้วก็ 600 บาท ควรจะโทรนัดล่วงหน้า เพราะบางทีพ่อหลวงแกติดธุระจะได้ให้คนอื่นมารับแทนได้

 

 

 

สักพักไม่นานพ่อหลวงก็มาพร้อมกับศรีภรรยาของท่าน พ่อหลวงและภรรยาเป็นคนคุยเก่งมาก ตั้งแต่ขึ้นรถจนถึงหมู่บ้านแกอธิบายภาพที่เห็น 2 ข้างทางไม่มีหยุดเลย เรียกได้ว่าเป็นไกด์รุ่นเก๋าเลยก็ว่าได้ ทางเข้าไปหมู่บ้านแม่แมะเป็นถนนคอนกรีตไต่ไปตามไหล่เขา กว้าง 4 เมตร รถยนต์และรถกระบะสามารถสวนกันได้ แต่ลำบากหน่อย และจะมีถนนลูกรังคั้นระหว่างทางที่ก่อนจะถึงหมู่บ้านยาวประมาณ 60 เมตร พ่อหลวงเล่าให้ฟังว่างบประมาณหมดพอดีเลยทำได้แค่นี้ รองบครั้งหน้าคงจะเชื่อมถึงกันหมดพอดี

 

 

 

พอถึงหมู่บ้านพ่อหลวงก็พาเดินเลาะไปตามลำธารเพื่อพาไปที่พัก ที่จะนอนคืนนี้ก็คือ บ้านพักลองสเตย์ ตั้งอยู่ติดกับลำธารเลย เป็นบ้านพักของชุมชนที่ร่วมมือกันบริหารจัดการเพื่อสร้างรายได้ในชุมชน มีแม่บ้านทั้งหมด 11 คน คอยผลัดเปลี่ยนกันจัดเวรมาดูแล ทุกคนอัธยาศัยดี ยิ้มเก่ง คุยเก่ง มาถึงบ้านพักได้สักพักแม่ๆก็ทำอาหารให้ทาน เป็นแกงหน่อไม้ป่าใส่เห็ดครับ เรียกว่าเก็บมาสดๆเลย เพราะพึ่งบอกแกตอนมาถึงนี่เองว่าอยากทาน และอีกอย่างช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน หน่อไม้ขึ้นเองตามธรรมชาติ พ่อหลวงเล่าว่าเขตป่าของหมู่บ้านจะห้ามคนภายนอกหมู่บ้านเข้ามาหาอาหารป่าไปขาย ก็เลยทำให้คนที่นี่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารการกิน

 

 

 

พอกินข้าวเสร็จก็ออกเดินสำรวจรอบๆหมู่บ้าน ที่นี่เงียบสงบจริงๆ ได้ยินแต่เสียงน้ำไหลจากลำธาร ถ้าจะบอกว่าที่นี่คือหมู่บ้านแห่งความเงียบสงบก็คงไม่ผิด

 

 

 

 

 

 

 

 

และนี่คือนายแบบสุดหล่อ พี่แกยืนให้ถ่ายโดยที่ไม่ยอมหนีไปไหนเลย

 

 

 

น้องหมาที่นี่มีหลายตัว น่ารักทั้งนั้นเลย

 

 

 

และนี่คือพระเอกของที่นี่ พี่ปีเตอร์ ฉายา ปีเตอร์หน้ากล้อง พี่แกชอบถ่ายรูป

 

 

เย็นแล้วอากาศที่นี่เย็นและเงียบ อาบน้ำในลำธาร น้ำเย็นมาก อาบน้ำเสร็จแม่ๆก็ทำอาหารเสร็จพอดี เมนูเย็นนี้ทีเด็ดเลยก็คือผัดผักกรูดน้ำมันหอย ใครมาที่นี่แนะนำเลย ผักกรูดก็เก็บกันสดๆแถวข้างลำธาร อร่อยมาก รับประทานอาหารเสร็จก็นั่งจิบเบียร์ข้างๆลำธาร ฟังเสียงน้ำไหล ทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลย

 

 

เช้าวันนี้มีฝนตกลงมานิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับหนักมาก อากาศกำลังเย็นสบายดี อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็มีอาหารเช้าจากแม่ๆมาตั้งรอเรียบร้อยเป็นข้าวต้ม ไข่ดาว และมีเมนูทีเด็ดที่เช้านี้ขอแนะนำ ยำใบชาปลากระป๋อง เมื่อคืนนี้บอกแม่ๆว่าอยากกิน เช้านี้เลยจัดให้เลยว่างั้น

 

ทานข้าวเสร็จก็เดินทัวร์รอบๆหมู่บ้านกัน ปกติแล้วถ้าใครมาเที่ยวที่บ้านแม่แมะ ก็จะมีกิจกรรมที่นอกเหนือจากการเดินเล่นถ่ายรูปในหมู่บ้าน ได้แก่ นวดแผนไทย อาบสมุนไพรโดยเตาอบภูมิปัญญาชาวบ้าน กิจกรรมเดินป่า ศึกษาธรรมชาติ และในป่าจะมีน้ำตกอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 4 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับประมาณ 2 ชม. และช่วงนี้น่าฝนทางค่อนข้างลำบาก

 

 

 

 

 

 

และนี่คือยอดใบชาที่ชาวบ้านเก็บไปขายหารายได้และยังนำไปปรุงเป็นอาหารท้องถิ่นอีก

 

 

ดูๆไปแล้ว ภาพความเขียวขจีของที่นี่ก็สามารถบอกได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ได้เป็นอย่างดี ขนาดหลังคาบ้านยังมีมอสและพืชขึ้นบนหลังคาแบบนี้ให้เห็นหลายๆหลัง

 

 

 

 

     นี่เป็นอีกหนึ่งอาชีพของคนที่นี่ การเลี้ยงวัว และที่เห็นขับมอไซด์ นั่นแหละ พ่อหลวงวงศ์ กับมอไซด์คู่ใจของพ่อหลวง พ่อหลวงบอกซื้อตั้งแต่ปี 2532 ถ้ารับอายุตอนนี้ก็ครบ 27 ปีเต็ม ตอนนี้ยังใช้งานปกติและใช้งานทุกวัน

 

 

วัดที่นี่ปัจจุบันมีพระจำวัดอยู่รูปเดียว

 

 

 

 

 

 

 

     ส่วนที่พักอีกที่ที่วิวสวยมากๆสำหรับที่นี่คือ “บ้านต้นไม้” เป็นบ้านพักโฮมสเตย์บนต้นไม้ เป็นของลุงสุขกับปัาผง ป้าผงนี่เป็นน้องสาวแท้ๆของพ่อหลวงวงศ์ บ้านต้นไม้จะสามารถมองวิวมุมสูงได้ ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติจะชอบมาพักที่นี่หรือไม่ก็มากับทัวร์ บรรยากาศดีมาก อาหารอร่อย ที่พักราคา 350 ต่อคนต่อคืน ถ้าใครจะมาพักที่นี่แนะนำให้จองล่วงหน้าได้นานเท่าไหร่ยิ่งดีครับ ถ้าอยากจะได้ที่พักที่มุมสูงวิวสวยๆแบบนี้ เบอร์โทรติดต่อลุงสุข-ป้าผง 081-111-5154

 

 

 

 

 

 

 

บ้านต้นไม้จะมี 2 หลัง หลังใหญ่จะนอนได้หลายคนมีทั้งแบบห้องแยกและแบบห้องรวม  ส่วนนี่เป็นบ้านต้นไม้หลังเล็ก สร้างบนต้นไม้ นอนได้แค่ 2 คน ด่านล่างมีที่ให้นั่งรอบกองไฟด้วย สำหรับใครที่คิดว่าจะมาพักบ้านต้นไม้ แนะนำให้จองล่วงหน้า ใครที่ได้นอนที่นี่ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

 

และอีกที่ที่อยากแนะนำคือบ้านระเบียงชมจันทร์ อยู่ไม่ไกลจากบ้านต้นไม้ ที่นี่ก็วิวสวยไม่แพ้กัน บรรยากาศเงียบ ใกล้ลำธาร เพราะห้องพักไม่เยอะเท่ากับบ้านต้นไม้

 

สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนที่ไปเที่ยวบ้านแม่แมะ เที่ยวอยางมีความสุขและอยากให้ทุกคนที่ไปเที่ยวบ้านแม่แมะ ช่วยกันดูแลและรักษาให้หมู่บ้านแม่แมะ ให้คงธรรมชาติอย่างนี้ตลอดไป