อยู่ ๆ ที่เกาะมีน้ำกับทราย (และฝาหรั่งถอดเสื้อ)
เรื่องมีอยู่ว่า
เพื่อน1,2 : เฮ้ย ไปไหนกันดีวะ อยาก backpack หลังสอบเสร็จ
เรา : วังเวียงมะ (ไม่เอาหน้าร้อน ฝุ่นเยอะ)
เพื่อน1 : หัวหิน (โห้ หัวหินแค่นี้เอง เบื่อแล้ว)
เพื่อน2 : เอิ่ม เกาะสีชัง (ไม่เอาอะ ไม่อยากเที่ยวทะเลฝั่งนั้น)
เรา : โอ้ยงั้นจะไปไหนละอีฟลาว์เวอร์ อืม งั้นไป ชุมพร บ้านชั้นเอามะ แล้วนั่งเรือไปเกาะเต่าชิวๆ ดี
และนั้นคือที่มาของทริปเกาะเต่านี้ แต่เรื่องไม่จบแค่นี้แหละ กว่าจะได้คอนเฟิร์มว่าจะไปก็สอบเกือบจะเสร็จแล้ว เหลือเวลาอีก 2 อาทิตย์ แล้วโรงแรมจะเหลือให้จองมั๊ย เป็นไปตามคาดเจ้าค่ะ โรงแรมสวยๆ อย่างดุสิต บัญชา ทิพย์วิมาน etc. เต็ม (ร้องไห้หนักมาก)
แล้วจู่ ๆ นังเพื่อนร่วมทริปนาง2 ดันมาบอกว่าไม่แน่ก็ไม่ได้ไปนะ เอ้าหอย ทำไมทำกับเพื่อนงี้ แต่เพื่อนร่วมทริปนาง1ไม่ย่อท้อกับอะไรทั้งนั้น นางหนักแน่นมากว่าจะไปให้ได้ ต้องไป ส่วนในใจเราเองจะเทเพื่อนแหละ (เป็นอะไรที่เลว อย่าทำนะ) แต่เป็นเจ้าบ้านไง เออจะไปก็ไป
เราก็เลยเปิดกระทู้เกาะเต่าตามพันทิปไปเรื่อย ๆ ก็เจอคนตามหาโรงแรม มีคห.ที่บอกชื่อโรงแรมกับเบอร์โทรไว้ ก็โอเคกับโรงแรม เลยโทรไปจอง พี่ที่โรงแรมเลยจองเรือขาไปให้ (ดี๊ดี) แต่ 3 วันก่อนไป นังเพื่อนที่บอกว่าจะไม่ไป ดันมาบอกว่าจะไปด้วย แต่โชคเข้าข้างเรา พี่ที่โรงแรมบอกว่าพัก 3 คนได้มีเตียงเสริมให้ แต่เพิ่มเงิน
และแล้ววันเดินทางก็มาถึง นังเพื่อน 2 คน ก็นั่งรถไฟขบวน 43 จากนครปฐม – สวี (บ้านเราเอง)
วันออกเดินทาง (27 may 15)
บ้านเราอยู่ห่างจากตัวเมืองชุมพร ประมาณ 45 กิโล เราให้แม่ไปส่ง ออกจากบ้าน 11.15 น. ไปถึงตัวเมืองก็เกือบเที่ยง แต่แล้วเหตุระทึกขวัญก็เกิดขึ้น รถเสีย โอ้ย หัวใจแทบหยุดเต้น ทำไงดีฟะ จะเที่ยงแล้ว ต้องไปเช็คอินตั๋วเรือตอนเที่ยงครึ่ง เราเลยติดต่อพี่เจ้าของโรงแรมที่เกาะเต่า และพี่เปิด hostel อยู่ในตัวเมืองที่รู้จักกัน พี่บอกว่า รถรับส่งของลมพระยาที่จะไปท่าเรือจอดอยู่ที่สถานีรถไฟ จะออกตอนเที่ยง อีก 5 นาทีเที่ยง ไม่ทันแน่ ๆ พี่ ๆ เลยช่วยกันติดต่อกับรถรับส่งของเรือลมพระยาให้ มีค่าบริการคนละ 100 บาท
เราก็เดินไปรอรถ เจอรถบัสของลมพระยา ด้วยความตื่นเต้น เราเลยโบก แต่รถไม่จอดค่ะ อ้าว จอดดิไปด้วย แต่รถที่มารับเราเป็นรถตู้ พี่คนขับจะพาเราไปส่งขึ้นรถทัวร์อีกที (แล้วเมื่อกี้พวกเราโบกทำไม บ้าดี)
สรุปแล้วเราก็ไม่ตกเรือค่ะ ไปถึงท่าเรือตอน 1230 น. พอดี โล่งไป ไม่ได้ถ่ายบรรยากาศรอบ ๆ ท่าเรือมาเลย เพราะไปถึงเช็คอินตั๋วเสร็จ เค้าก็ปล่อยให้ขึ้นเรือพอดี (ไม่ต้องรอนาน) งั้นก็ Lets go to KOH TAO กันโล้ย
ขึ้นเรือได้ก็หลับกันเป็นตายไปหมดเลยค่ะ บรรยากาศบนเรือก็ไม่ได้มา (สรุปได้ไรมั่งห้ะ)
ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง และแล้วก็เห็นเกาะเต่า เกาะนางยวนอยู่ตรงหน้า มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นน้ำทะเลสีน้ำเงินเข้ม สวยมาก จนฝรั่งเบาะหลังต้องอุทานออกมาดัง ๆ SO BLUE
เรือก็แวะรับ-ส่งนักท่องเที่ยวที่เกาะนางยวนก่อน ฝนก็โปรยมาเบา ๆ พอให้กระจกเปียก พอถึงเกาะเต่าฝนก็หายไป นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ถึงเกาะเต่าแล้ว พี่เจ้าของบอกให้เราเดินไปที่ร้านมาเนีย แล้วจะมีคนมารับไปส่งที่โรงแรม พี่เจ้าของโรงแรมบอกว่า เมื่อวานฝนตกหนักและลมแรงมาก โอ้ว ขนาดฟ้าฝนเป็นใจกะเราไปอี๊กกก เราไป 2 วัน ไม่เจอฝนเลย นี้ปริ่มมาก ทำบุญมาดี
ไปถึงโรงแรมแล้ว พี่เจ้าของก็ปล่อยเราไว้กับพี่พม่า โรงแรมใหม่มาก สะอาดมาก ในห้องมีไมโครเวฟ ตู้เย็น ตู้เซฟ จาน ชาม แก้วน้ำ และผ้าเช็ดตัวให้ด้วย ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายมาก เพราะราคานี้หาร 3 ก็พอ ๆ กับ hostel บนเกาะที่เป็นห้องน้ำรวม เราว่าแบบนี้สะดวกกว่านะ ถ้าไป 2-3คน
โรงแรมชานทะเล (Chaantalay)
นอนพักเอาแรงกับสักงีบ รอให้แดดร่ม ลมตกแล้วค่อยออกไปแว๊นกัน เราเช่ามอไซค์กับพี่พม่าที่ดูแลโรงแรม ค่าเช่า 200 ไม่มีมัดจำ แต่รถเหลือแค่คันเดียว พี่พม่าก็อาสาพาไปร้านอื่น ไปเจอค่ามัดจำ 7000 (เงินที่เรามายังไม่ถึงครึ่งเลยโถ่) ตกลงเราก็ซ้อน 3 กันไป
เริ่มที่แรกที่เราจะไปคือ จุดชมวิวหินวง เพราะอยู่เลยที่พักเราขึ้นไป ไปได้ครึ่งทาง เห็นทางขึ้นแล้วแบบ เลิกเหอะ เอาจริง เรายอม เพราะชันมาก ไม่อยากเจ็บตัว ไหนจะค่าปรับอีก เลยเปลี่ยนใจไปที่อื่นแทน ขับออกมาจากที่พัก ตรงไปเรื่อย ๆ ตามถนนสายหลักของเกาะ แวะเติมน้ำมัน 1 ขวด 40 บาท แต่เลยไปอีกประมาณ 200 เมตรมีปั้ม ลิตรละ 30 บาท เฟลไปหนึ่ง
ความตั้งใจต่อไปของเราคือหาดฟรีดอม แต่ระหว่างทางมีป้ายชี้ไปอ่าวลึก อยู่ ๆ เราก็เลี้ยวเข้าไป เข้าไปไกลมาก เจอฝรั่งสวนทางมาตลอด คงสวยแหละ แต่ถนนนี้ยิ่งลึกยิ่งชัน แบบ 70 องศา ขับขึ้นเขามองไม่เห็นทางลง แถมจะสุดทางคอนกรีตแล้วเป็นถนนดินและหิน ที่เริ่มเป็นแวดิ แล้วจะกลายเป็นแคนยอนในอนาคต เราเลยไม่ไปต่อ เหตุผลเดิมคือความปลอดภัย ก็เลยขับกลับ
ถึงถนนหลักก็เลี้ยวซ้ายขับต่อไปเรื่อย ๆ เจอป้ายบอกไปหาดทรายแดง รีวิวบอกว่างานดี แล้วที่ป้ายเขียนบอกว่า 2 กิโล 2 กิโลบ้านแกสิ เข้าไปลึกมาก และชันมากกว่าทุกที่ที่ไปมา รถไม่มีแรงขึ้นเขา เพื่อน ๆ ต้องลงไปเดิน แถมยังเจอพี่พม่าที่เป็นแรงงานอีก ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย เราเลยกลับออกมา แล้วล้มเลิกการไปจุดชมวิวบนเกาะ ไปหาร้านขายทริปดำน้ำวันพรุ่งนี้ดีกว่า เราจำรูปร้านที่รีวิวในพันทิปได้ว่ามีที่ให้อาบน้ำ เราเลยตั้งใจจะไปซื้อที่นั้น เพราะเราจองโรงแรมไว้คืนเดียว หลังจากดำน้ำเสร็จเราจะกลับเรือนอน เพื่อประหยัดค่าโรงแรม
ได้ทัวร์ดำน้ำพร้อมที่อาบน้ำแล้วก็หมดกังวล ไปขับรถเล่นที่หาดทรายรี ดูพระอาทิตย์ตกดิน พร้อมหาดร้านอาหาร ด้วยการเปิด app WONGNAI ง่ายดี ตกลงว่าจะกินพิซซ่ากัน เออดี มาเกาะกินพิซซ่า อีพวกบ้า เพื่อนเราเห็นร้านพิซซ่าแถวท่าเรือ จำชื่อร้านไม่ได้ แต่อร่อยดี
แป้งบางกรอบ ถาดใหญ่มากประมาณ 8 ชิ้น กับพาสต้าอะไรสักอย่าง อร่อยดี มื้อนี้ 430 บาท
ถึงเวลาก็กลับโรงแรมนอน เก็บแรงไว้ไปดำน้ำวันพรุ่งนี้
วันสุดท้าย (28 may 15)
เราซื้อทริปดำน้ำแบบ half day ไว้ มีรถมารับที่โรงแรม ตอน 1030 น. (ฟรี) รถพร้อมเพื่อนร่วมทริปของเราคือสาวจากบราซิล 1 คน และที่ตามมาทีหลังอีก 4 คน กลายเป็นว่าทริป ดำน้ำวันนี้ของเรามีทั้งหมด 8 คน ไม่วุ่นวายดี บนเรือมีชา กาแฟ ขนม และผลไม้ตลอด
จุดแรกที่เราจะไปดำน้ำก็คือ อ่าวลึก น้ำสีฟ้า สวยมาก ใสมากมาก เนื่องจากเป็นจุดแรก กับชะนี 3 คนที่ไม่เคยดำน้ำแบบนี้มาก่อน พี่ไกด์พม่าเลยสงสาร เลยให้เราเกาะห่วงยางและพาเราไปตรงที่มีประการังสวย ๆ และน้ำตื้น แต่ความทุลักทุเล ก็เกิดเพราะทุกคนต่างมีปัญหากันหน้ากากของตัวเอง เดี๋ยวน้ำเข้า เดี๋ยวหลวมบ้าง กินน้ำทำเลไปหลายอึกอยู่ แถมล้างจมูกด้วยน้ำเค็มจนสะอาดเชี้ยว แต่น้ำเค็มมาก สงสัยมีเรือเกลือมาคว่ำแถวนี้
จุดที่สองที่เราจะไปคือ อ่าวหินวง น้ำลึกกว่าจุดแรก แต่น้ำไม่ใสเท่า พี่ไกด์กระซิปบอกว่า อ่าวต่อไปสวยกว่านี้ เราเลยว่ายกลับไปที่เรือ เพื่อถ่ายรูปกัน เหมือนน้องปลาจะรู้งาน ว่ายมาให้ถ่ายรูปเพียบเลย และพี่ไกด์ก็แจกข้าวให้กิน เป็นข้าวผัดกระเพราไข่ดาว ไม่ใส่พริก มาในกล่องพลาสติก (รักโลกดีมากให้10/10)
จุดสุดท้าย อ่าวม่วง น้ำแรงมาก จนต้องให้พี่ไกด์ลากพาไป ประการังสวยมาก มาก มาก มองเห็นชัดมาก เจอสัตว์ทะเลเยอะกว่าอ่าวอื่น บอกเลยว่ารักอ่าวนี้มาก
และจุดสุดท้าย เรือจะพาเราไปส่งที่ เกาะนางยวน และจะทิ้งเราไว้ 2 ชั่วโมง ตอนแรกก็แพลนจะไปชมวิวยอดฮิต แต่เห็นระยะทางแล้ว เอิ่ม แก๊งเราไม่มีใครไป นั่งส่องฝรั่งที่บาร์ดีกว่า
นั่งไปนั่งมาเริ่มหิว จัดการสั่งไปคนละอย่าง เราสั่งเบอร์เกอร์ไก่ 180 บาท น้ำเปล่า 30 บาท
หลังจากกลับจากเกาะนางยวนแล้วอาบน้ำเสร็จ เราก็ออกไปหาอะไรทานกัน และเนื่องจากอาการเบื่อข้าวยังหลงเหลืออยู่ เราก็เลยเลือกจะไปกินขนมเบา ๆ กัน (หรา) เลยเลือกจะไปกินกันที่ร้านของพี่เจ้าของโรงแรม ร้านคอฟฟี่มาเนีย เราสั่งวาฟเฟิล กล้วยหอม กับโกโก้ปั่น 2 อย่าง 180 บาท
เสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นแถว ๆ ท่าเรือ เพื่อดูเรือของเรากับที่เช็คอินตั๋วเรือ เสร็จแล้วก็กลับไปนอนรอที่ออฟฟิตทัวร์ (พี่พม่าอนุญาติให้เราพักตรงนั้นได้จนกว่าเรือจะออก นัลล๊าก) แต่แบบว่าแกร มาเกาะเต่าทั้งทีไม่มี อกฮ ตกถึงท้องเลยอ่ะ ไปหาร้านนั่งเล่นชิว ๆ กัน เราเห็นร้านหนึ่งสีขาว ๆ อะ สวยดี ไปกัน ๆ หาจากรีวิว ก็รู้ว่าร้านนั้นคือ ร้าน Whitening นั้นเอง (หาแผนที่ ทางไปจากรีวิวในพันทิป อีกตามเคย)
ถึงร้านแล้วจะมีหมาอ้วน กับแมวอ้วนนอนต้อนรับอยู่หน้าร้าน ชะนี 3 นาง ก็จัดกันมาคนละแก้ว กินไปชมวิวไป เก๋ ๆ อากาศดีมาก ลมเย็นมาก
พาราไดซ์ ฟิซซ์-สเมอร์นอฟ-มาลิบู โค้ก
ใกล้จะถึงเวลาเรืออกแล้ว เช็คบิลพร้อมค่าเสียหาย 490 บาท (มี FF 1 จานด้วย) ระหว่างทางเดินไปท่าเรือ ก็เจอ ฝ ขับรถสวนมา หล่อมั๊ก แบบไม่อยากกลับบ้านเลยอะยู๊ว แต่ถ้าช้ากว่านี้ เรือจะออกแล้วนะ ตามเค้าไปไม่ได้แล้ว ไป ๆ ขึ้นเรือกัน บนเรือแอร์เย็นดี แถมมุมยังดีอีก เจ๊ช๊อบชอบ
จบแล้ว
สรุปค่าใช้จ่ายค่าเรือไปกลับ 1000 บาท
ค่าโรงแรม หาร 3 คนละ 534 บาท
ค่าดำน้ำ 750 บาท
ค่าเช่ามอไซค์ หาร 3 คนละ 80 บาท
รวมค่าใช้จ่ายจำเป็น 2,364 บาท
*เพื่อนเราเสียค่ารถไฟ อีกคนละ 1000 บาท*
ค่าอาหารประมาณคนละ 700-800 บาท