เที่ยวประแส – ระยอง 2 วัน 1 คืน นอนโฮมสเตย์ริมน้ำ กิน อยู่แบบสุขใจ
16,273 ครั้ง
8 ธ.ค. 2564
16,273 ครั้ง
8 ธ.ค. 2564
เหนื่อยมาทั้งสัปดาห์ อยากหาที่พักผ่อนชิลล์ๆ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ แบบขอเดินทางไม่ไกล ไม่เหนื่อยเกินไป ทริปนี้เราเลยปักหมุดมากันที่ระยอง กินเที่ยวใช้ชีวิตช้าๆ กันที่ “ปากน้ำประแส จ.ระยอง กับทริป 2 วัน 1 คืน” ที่ได้ครบทุกอรรถรสการพักผ่อน ถ้าพร้อมแล้วก็สตาร์ทรถออกไปเที่ยวพร้อมกับเรากันเลย
เช้าวันหยุดสุดสัปดาห์เราขับรถยนต์ส่วนบุคคลมุ่งหน้าสู่จังหวัดระยอง โดยจุดหมายปลายทางทริปนี้อยู่ที่ปากน้ำประแส จ.ระยอง ซึ่งจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ เราก็มาถึงจุดเช็คอินแรกของเราในทริปนี้กันที่ ชุมชนปากน้ำประแส
ชุมชนเก่าริมน้ำที่ยังคงความคลาสสิก มีเสน่ห์ ผู้คนใช้ชีวิตเรียบง่าย มีรอยยิ้ม และทักทายคนต่างถิ่นแบบเราๆ ได้อย่างน่ารัก ตลอดการเดินเที่ยวในชุมชนจะมีคุณลุง คุณป้านั่งขายของกิน ของใช้ในบ้านหลังเล็กๆ ที่คงเสน่ห์ไว้ได้อย่างน่ารักทีเดียว
บางคนก็เรียกเข้าบ้านให้ดูของเก่าที่เก็บสะสม ชวนคุย เล่าเรื่องเก่าให้ได้ชวนยิ้ม แค่เปิดทริปวันแรกก็มีเรื่องให้ยิ้มตามอย่างมากมายกับชุมชนปากน้ำประแสกันแล้ว
มาปากน้ำประแส ต้องลองชิมขนมกะลา เป็นขนมที่ทำมาจากน้ำตาลกับกะทิ ราคาถุงละ 25 บาท หาซื้อได้ที่ร้านป้าใบ้ คุณป้าสุดใจดี หากไม่ติดสถานะการณ์โควิดคงได้เห็นรอยยิ้มคุณป้าแบบไม่มีอะไรมาบดบัง
ในชุมชนยังมีขนมของกินเล่น ให้เดินชิมเดินกินเพลินๆ หลายเมนูเลย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขนมโบราณทั้งทองม้วนสด ขนมตะไล
นอกจากบรรยากาศของผู้คนที่น่ารักแล้วภายในชุมชนยังมีภาพกราฟิตี้ตลอดทางให้เราหามุมถ่ายรูปเล่นได้แบบไม่มีเบื่อเลย
เดินเท้าลัดเลาะตามตรอกซอกซอยในชุมชนมาสักพัก จะเจอกับ บ้านพิพิธภัณฑ์ปากน้ำประแส ภายในบ้านพิพิธภัณฑ์จะเก็บรวบรวมของเก่าอย่างมากมายมีทั้งเบี้ย เงินตราต่างๆ รวมไปถึงอุปกรณ์ประมง และภาพในอดีต ประเพณีต่างๆ ของชุมชน
ภาพเก่าหาดูยากของชุมชนกับงานประเพณีทางน้ำ
และใกล้ๆ กับบ้านพิพิธภัณฑ์ปากน้ำประแส เราแวะมาหาของอร่อยกินกันที่ ร้านเจ๊หน่อง แซ่บเวอร์ ร้านอาหารรสเด็ดเจ้าดังในชุมชน เป็นร้านอาหารเล็กๆ ด้านหน้าเป็นครัวเปิด เดินลึกเข้ามาในตัวร้านจะมีโซนที่นั่งริมน้ำ มองเห็นวิวป่าโกงกาง เรียกได้ว่าบรรยากาศดีทีเดียว
เมนูอาหารครั้งนี้เราสั่งเป็น ยำผักกระชับกุ้งสด 120 บาท ข้าวผัดประแส 60 บาท จ๊อเคย 150 บาท หมึกกะตอยผัดน้ำดำ 120 บาท แกงเผ็ดปลาน้ำดอกไม้ 150 บาท และส้มตำผักกระชับ 100 บาท เรียกได้ว่าสั่งกันมาแบบล้นโต๊ะกันไปเลย
ทุกเมนูของที่นี่แซ่บเวอร์สมกับชื่อร้านจริงๆ หมึก กุ้ง คือสดเหมือนยกขึ้นมาจากทะเลกันเลย
เมื่อหนังท้องตึงจะปล่อยให้หนังตาหย่อนตามไม่ได้!! งั้นเราเดินทางกันต่อเลย กับจุดเช็คอินต่อไปกันที่ อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส ซึ่งขับรถจากชุมชนริมน้ำปากประแสมาไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงแล้ว
เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ห้ามพลาดเลย อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส ตัวแทนความกล้าหาญของราชนาวีไทย ยิ่งใหญ่และเท่ห์สุดๆ ไปเลย เรือรบหลวงประแสเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 07.00 – 18.30 น.
ขึ้นมาบนเรือแล้วก็หามุมเท่ๆ ถ่ายรูปสักหน่อย
ตอนนี้ก็ถึงเวลาเช็คอินเข้าที่พักแล้ว และทริปนี้เราเลือกพักกันที่ ชานสมุทรโฮมสเตย์ ที่พักบรรยากาศชิลล์ๆ ริมปากน้ำประแส ที่ภายในโฮมสเตย์ยังคงกลิ่นอายบ้านพักของชาวประมงได้เป็นอย่างดี
แต่ภายในห้องพักถูกรีโนเวทใหม่ให้น่านอนและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ห้องพักแบ่งพื้นที่ได้เป็นอย่างดีเลย จากบนเตียงสามารถนอนมองวิวแม่น้ำได้แบบฟินๆ ใครที่อยากเอนหลัง ทิ้งตัวให้หายเหนื่อยรับรองเลยว่าเตียงนุ่มนอนสบายมาก
บรรยากาศที่พักอยู่ติดริมน้ำ วิวตรงข้ามมองเห็นป่าชายเลน
นอนเล่นตากแอร์ช่วงบ่าย หลบอากาศร้อนๆ ประมาณ 16.00 น.ทางโฮมสเตย์มีบริการล่องแพเปียก ไปชมนกเหยี่ยวคอแดง หรือถ้าใครอยากเล่นน้ำให้ชื่นใจก็ต้องจัดสักหน่อย สำหรับแพเปียกจะมีค่าบริการคนละ 200 บาท
ไฮไลท์ของแพเปียกคือมาชมนกเหยี่ยวแดง โดยจะมีคุณลุงมาโยนอาหารให้กลางทะเล
ใช้เวลาดูนกเหยี่ยวแดง ชมบรรยากาศบนแพเปียกกันประมาณ 2 ชั่วโมงเรือก็พาเรากลับมายังที่พัก
ช่วงเย็นเราก็ขับรถไปชมวิวพระอาทิตย์ตกกันที่ ทุ่งโปรงทอง แลนด์มาร์กห้ามพลาด!! กับวิวสวยที่ธรรมชาติรังสรรค์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ภาพต้นโกงกางที่ทอดยาวสุดตา ตัดกับท้องฟ้า และแสงพระอาทิตย์อ่อนๆ เป็นอะไรที่ดีต่อใจมาก แถมจะเอาตัวเองไปยืนมุมไหน จุดไหนก็ได้รูปสวยๆ เพียบเลย
มุมไหนก็ได้รูป สวยทุกจุด!!
และมื้อเย็น เราก็ไม่พลาดของอร่อยอีกหนึ่งร้านเด็ด รสมือคนระยองแท้ๆ ที่ครัวย่าฉิม แต่ทริปนี้เราสั่งอาหารมานั่งประทานกันที่โฮมสเตย์ หรือถ้าใครอยากนั่งกินที่ร้านครัวย่าฉิมก็ได้เช่นกัน อาหารที่นี่อาจทำช้าหน่อยเนื่องจากเป็นร้านคุณย่าเป็นแม่ครัวแค่ 2 คน แต่รับรองเลยว่าอร่อยเด็ด คุ้มค่าการรอแน่นอน!!
เมนูที่สั่งในมื้อนี้มี หมูผัดกะปิ 120 บาท ไข่เจียวหมูสับ 80 บาท และต้มจืดปลาหมึกยัดไส้ 120 บาท
ก่อนนอนก็เดินมาชมบรรยากาศกันอีกรอบ
เช้านี้เราตื่นมารับอากาศดีๆ ริมน้ำ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด เดินลัดเลาะชุมชนริมน้ำมายังตลาดเช้าปากน้ำประแส ในตลาดเช้าจะมีทั้งอาหารสด อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน และที่สำคัญช่วงเช้าในตลาดจะมีอาหารทะเลสดๆ ที่เพิ่งขึ้นจากเรือให้เราเลือกซื้อด้วย
ขนมหวานชิ้นละ 10 บาท ถูกมาก!!
อาหารทะเลสดๆ
จากตลาดเช้าปากน้ำประแส เราไปต่อกันที่ สะพานประแสสิน สะพานที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำประแส เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ได้รูปสวย ฟีลลิ่งดีๆ ใครที่พอมีเวลาให้ลองแวะมาเช็คอินกันดูจะเป็นแสงเช้าหรือแสงช่วงเย็นพระอาทิตย์ตกก็สวยได้รูปแน่นอน
ได้รูปเท่ๆ เพียบ
เมื่อยืนอยู่บนสะพานจะมองเห็นวิวปากอ่าวที่ขนาบไปด้วยชุมชนริมน้ำบ้านชาวประมงทั้งสองฝั่ง
เช้านี้ได้รูปกันจนเมมเต็ม เราก็กลับเข้าที่พักรับประทานอาหารเช้าในโฮมสเตย์ ซึ่งอาหารเช้าของที่นี่จะเสิร์ฟเป็นข้าวต้ม มีเครื่องให้เลือกเป็น หมึก กุ้ง ที่เราสามารถตักท็อปปิ้งใส่ได้เองเลย และที่สำคัญอาหารเช้าจะรวมกับราคาห้องพักแล้ว
ข้าวต้มเครื่องแน่นๆ
บรรยากาศตอนเช้า
ช่วงสายๆ เราก็เตรียมเช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก จะลุยเที่ยวกันต่อที่ป่าชายบ้านหัวโขด หรือป่าชายเลนปากน้ำประแส
เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่นี่จะยาวไปถึงจุดชมวิวทุ่งโปรงทองเลย นอกจากจะเดินเท้าไปได้แล้ว ยังมีเรือรับจ้างให้บริการด้วย ใครที่อยากนั่งเรือชมวิวก็สามารถสอบถามคุณลุง ต่อรองราคากันได้เลย
แต่เช้านี้แรงยังเหลือ เราเลยเลือกวิธีเดินเท้าชมบรรยากาศกันแบบเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก มีสะพานเดินศึกษาธรรมชาติ ชมพันธุ์ไม้นานาชนิด อาทิ ต้นลำพู ต้นแสม ต้นโกงกาง ต้นตะบูนดำ โปรงแดง โปรงทอง
โดยจุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่ต้นแสมยักษ์ 100 ปี เก่าแก่ แผ่ร่มเงาเป็นวงกว้าง
จากต้นทางมาถึงแสมยักษ์ใช้เวลาพอสมควร เส้นทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร
ใช้เวลาเดินเที่ยวเก็บเกี่ยวความสุขกับธรรมชาติกันอยู่พักใหญ่ ก็เริ่มหิวอีกแล้ว เลยมาแวะกันที่โกงกางกาแฟ ร้านคาเฟ่บรรยากาศดีที่ดีไซน์ตัวร้านในสไตล์ลอฟท์เท่ๆ ไฮไลท์ของที่ร้านจะมีโซนห้องใต้หลังคาให้หลบมุม นั่งตากแอร์ กินขนม และเมื่อมองจากไปจะเห็นวิวป่าโกงกางที่ล้อมตัวร้านไว้
เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน โกงกางเฟรปเป้ 80 บาท เค้กส้มหน้านิ่ม 95 บาท ชีสเค้กบลูเบอรี่ และเค้กมะพร้าวใบเตย 95 บาท
กินกาแฟ กินขนมจนชื่นใจก็มาเดินเล่นที่มุมด้านหลังร้านกันต่อ ซึ่งโซนนี้จะมีสะพานที่ทอดยาวเข้าไปในพื้นที่ของป่าโกงกาง มีเรือนไม้ 2 ชั้นให้เราได้ขึ้นไปชมวิวสวยๆ ด้วย
เรียกได้ว่าปากน้ำประแส จ.ระยอง 2 วัน 1 คืน เป็นทริปที่เที่ยวได้ง่าย เดินทางสะดวกจากกรุงเทพฯ ขับรถแค่ 3 ชั่วโมงนิดๆ ก็ได้มาทิ้งตัวใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กันแล้ว สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาที่เที่ยวและที่พักผ่อนแบบไม่ใกล้ไม่ไกลกรุงเทพฯ ปากน้ำประแส จ.ระยองเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่เราอยากแนะนำในช่วงวันหยุดนี้เลย
สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริปปากน้ำประแส จ.ระยอง 2 วัน 1 คืน
ค่าอาหารและเครื่องดื่มร้านเจ๊หน่อง 700 บาท
ค่าที่พักชานสมุทรโฮมสเตย์ 1,200 บาท
ค่าที่จอดรถทุ่งโปรงทอง (รวมค่ารถสามล้อรับส่ง) 40 บาท
ค่าอาหารครัวย่าฉิม 320
ค่าอาหารกินจุ๊บจิ๊บ 200 บาท
ค่าอาหารและเครื่องดื่มโกงกางคาเฟ่ 270 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2,730 บาท
**ราคานี้ยังไม่รวมค่าน้ำมันรถ+ค่าทางด่วนในการเดินทาง