6 จังหวัดใกล้กรุงเทพฯ เที่ยวสบายๆ แบบวันเดย์ทริป
18,061 ครั้ง
22 มี.ค. 2565
18,061 ครั้ง
22 มี.ค. 2565
ใจมันเรียกร้องให้ออกไปพักผ่อน แต่เวลาวันหยุดก็มีน้อยเหลือเกิน แพลนก็เลยไม่รู้จะวางยังไง เชื่อว่าเป็นสิ่งที่อัดอั้นตันใจสายเที่ยวชาวกรุงเทพฯ อย่างเราๆ หลายคน แต่วันนี้ทริปเก็ทเตอร์จะมาบอกทุกคนว่าหยุดวันเดียวก็จัดทริปได้ กับ 6 จังหวัดใกล้กรุงเทพฯ เที่ยวสบายๆ แบบวันเดย์ทริป ที่แม้ว่าจะเที่ยวใกล้ๆ แต่รับรองติดใจไม่รู้ลืม ที่รวบรวมสถานที่และจังหวัดฟีลดีแถมเที่ยวแบบไม่รีบมาเอาใจชาวเมืองหลวงโดยเฉพาะ จีชะมีจังหวัดไหนและมีที่ไหนบ้างตามไปดูกันเลย
นครปฐม จังหวัดปริมณฑลที่เป็นจุดหมายปลายทางของใครหลายๆ คนที่มองหาการพักผ่อนแบบสบายๆ ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลและเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย หนึ่งในนั้นคือสถานที่ประวัติศาสตร์และถือเป็นแลนด์มาร์กของเมืองนี้เลยนั่นก็คือ องค์พระปฐมเจดีย์ พระเจดีย์ที่เป็นแสงแห่งศรัทธาของชาวนครปฐมที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง องค์เจดีย์สีเหลืองอำพันสุกปลั่งเสียดฟ้าที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาของไทยถือเป็นสถานที่ตั้งต้นของทริปนครปฐม เข้ากราบสักการะพระพุทธรูปศิลาขาวศิลปะทวารวดีและพระโรจนฤทธิ์ พระพุทธสำคัญที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัด นอกจากจะได้เสริมสิริมงคลให้กับตัวเองแล้ว ยังได้ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมและบรรยากาศสุดร่มเย็นของวัดพระปฐมเจดีย์ฯ อีกด้วย
ไปเดินเล่นชิลล์ๆ รับลมพร้อมกับชมความงามของสถาปัตยกรรมกันที่ พระราชวังสนามจันทร์ สถานที่ไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งของนครปฐม เมื่อเดินเข้าสู่รั้วพระราชวังผ่านเหล่าต้นไม้น้อยใหญ่มากมายก็จะพบกับพระตำหนักสีไข่ไก่รูปทรงสวยงามตาแบบยุโรปตั้งเด่นอยู่กลางพื้นที่ พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ เป็นพระที่นั่งที่นับได้ว่ามีความสวยงามเป็นอย่างมาก ด้วยการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบเรเนอซองส์ของฝรั่งเศสกับฮาล์ฟทิมเบอร์ของอังกฤษที่ปรับรูปแบบให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศของไทยได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ภายในองค์พระตำหนักยังมีโถงทางเดินทอดยาวข้ามสระน้ำเชื่อมไปยังพระที่นั่งอีกองค์ด้านหลังนั่นก็คือพระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ พระตำหนักสีแดงที่อยู่ริมสระ ห้อมล้อมไปด้วยเหล่าไม้ใหญ่ ให้ความรู้สึกว่าราวกับได้อยู่ต่างประเทศเป็นที่สุด นอกจากนี้ภายในเขตพระราวังยังมีพระที่นั่งและพระตำหนักองค์อื่นๆ ที่สวยงามไม่แพ้กันอีกไม่น้อย บอกเลยว่ามาเดินเล่นสบายๆ พร้อมกับชมความงาม หามุมถ่ายรูปสักหน่อย คุ้มมากๆ แล้ว
นั่งพักสบายๆ บรรยากาศดี แถมมีของหวานให้กินแบบฉ่ำๆ The Three Little Pigs Farm คาเฟ่บรรยากาศดีที่นำเสนอผ่านนิทานเรื่องลูกหมูสามตัว นิทานสุดคลาสสิกในความทรงจำวัยเด็กของใครหลายๆ คน พื้นที่ของร้านเป็นพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย อีกทั้งยังมีลำคลองเล็กๆ ไหลผ่านอีกด้วย และริมลำคอลงก็จะมีศาลาเล็กๆ ให้ได้ผู้มาเยือนนั่งชิลล์ๆ เสพบรรยากาศของความสุขได้อย่างเต็มที่
นอกจากบรรยากาศดีแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น การพายเรือในคลอง ให้อาหารปลา แถมยังมีสัตว์สุดน่ารักอย่างเจ้าเป็ด ห่าน อีกัวน่า และเต่าอยู่ในพื้นที่ของร้านด้วยนะ บอกเลยว่ามาที่นี่เหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกของนิทานยังไงอย่างงั้นเลย
ปิดท้ายทริปก่อนกลับไปกินอาหารอีสานแซ่บๆ บรรยากาศสุดชิลล์กลางท้องทุ่งกันที่แซ่บนัว ครัวบ้านนาศาลายา ร้านอาหารอีสานโลเคชั่นที่เรียกได้ว่านั่งได้ยาวๆ กันแบบสบายๆ ไปเลย เพราะนอกจากจะอยู่ท่ามกลางทุ่งนาที่มีลมพัดเบาๆ ตลอดแล้ว กลางร้านยังมีสระมรกตฉ่ำๆ ให้ได้นั่งมองกันเพลินไปเลย เมนูอาหารของที่นี่ก็มีให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกกระทะร้อน ตำเหลารวมมิตร ต้มโคล้งปลาดุกย่าง และไก่ย่าง สั่งอาหารแล้วนั่งกินชิลล์ๆ ริมน้ำ ฟีลกู๊ดมากๆ
ระหว่างรออาหารก็สามารถมานั่งเปลตาข่าย เอนตัวนอนสักหน่อยก็ได้ แล้วถ้ามาช่วงเย็นก็มองฟ้าสีพาสเทลก่อนตะวันจะลับฟ้าที่สะท้อนกับน้ำ หรือจะมองวิวทุ่งน้าสุดกว้างไกลที่กรีนแบบสุดๆ ก็ได้อีกด้วย
นครนายก เมืองในฝันที่ใกล้กรุง เป้าหมายของการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของชาวกรุง นอกจากความกรีนแบบสุดๆ แล้วยังมีถสานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีเสน่ห์และความสวยงามให้ได้ลองไปเช็คอินกันอีกมากมาย อย่างสถานที่อันซีนของนครนายก นั่นก็คือวัดมณีวงศ์ วัดเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นอย่างวังพญานาค โดยทางเข้าสู่วังพญานาคก็มีงานปูนปั้นจำลองห้วงนรกและพญานาคห้าเศียรจำแลงอีกด้วย ถือเป็นงานศิลป์ไทยชั้นครูก็ว่าได้ ซึ่งได้จำลองเป็นเมืองบาดาลที่มีพญานาคปูนปั้นนับพันตัวและมีพญานาคถึง 4 ตระกูล ได้แก่ตระกูลวิรูปักข์ (สีทอง) ตระกูลเอราปถะ (สีเขียว)
ภายในจะพบกับพระรัตนมณีมหาบาดาล พระพุทธรูปประธานของวังพญานาคสีทองอร่ามที่ประดิษฐานอยู่ท่ามกลางเหล่าพญานาค โดยต่างก็มีผู้คนแวะเวียนเข้ามากราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างสม่ำเสมอ และความอลังการของวังพญานาคที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามซึ่งได้จำลองเป็นเมืองบาดาลที่มีพญานาคปูนปั้นนับพันตัวและมีพญานาคถึง 4 ตระกูล ได้แก่ตระกูลวิรูปักข์ (สีทอง) ตระกูลเอราปถะ (สีเขียว) ตระกูลฉัพพยาปุตะ (สีรุ้ง) และตระกูลกันหาโคตะมะ (สีดำ)
อิ่มบุญไปกันแล้ว มาอิ่มเอมใจกันต่อที่น้ำตกวังตะไคร้ สถานที่คลายร้อนสุดกรีนและเย็นสบายเป็นที่สุด สายน้ำที่ไหลอย่างต่อเนื่องฟังแล้วผ่อนคลายมาก น้ำใสสะอาดเหมาะกับการลงแช่ จุ่มเท้า หรือจะนั่งชิลล์ๆ ฟังเพลงริมน้ำก็ดีสุดๆ ริมน้ำก็ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา หลับตา ปล่อยใจ แล้วสูดหายใจลึกๆ แค่นี้ก็เหมือนได้ชาร์จพลังงานความสดชื่นแล้ว
สายน้ำที่ไหลมากระทบเหล่าก้อนหินสวยมาก เป็นเส้นสายสีขาวราวกับภาพวาดยังไงอย่างงั้น
ก่อนกลับแวะมาใช้เวลาให้ความสุขทำงานกันอีกสักหน่อยที่ชมนก Cafe & Restaurant ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่สุดชิลล์ของนครนายก ภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์ทรอปิคอลที่เรียกได้ว่ามองไปมุมไหนก็กรีนและสบายตาแบบสุดๆ มีทั้งสระน้ำที่มีปลาคาร์ปนับร้อยว่ายวนอยู่ น้ำตกที่ฟังเสียงน้ำแล้วสบายใจมาก และสนามหญ้ากับเหล่าต้นไม้ที่ตกแต่งไว้ทั่วทั้งพื้นที่ของร้าน ช่วงเย็นๆ มาเดินเล่น วิ่งเล่น หรือจะนั่งเล่นรับลมเย็นๆ ก็ดีสุดๆ โซนที่นั่งของร้านก็มีให้เลือกทั้งแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์เลย
กิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่เลยก็คือการให้อาหารนกซันคอร์นัว นกตัวจิ๋วสีสันสดใสแสนน่ารัก น้องๆ แต่ละตัวเชื่องมากๆ เทเมล็ดทานตะวันไว้ในมือแล้วชูขึ้น จากนั้นไม่นานน้องๆ ก็จะบินมาเกาะเราเอง จังหวะนั้นก็โพสท่าสวยๆ แล้วถ่ายรูปไว้อัปอวดเพื่อนได้เลย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้อาหารปลาคาร์ปด้วยนะ ปลาคาร์ปแต่ละตัวสวยมากๆ ราวกับภาพวาดญี่ปุ่นเลย
เมนูของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อย่างผัดฉ่าทะเล ปลากะพงนึ่งมะนาว และสามชั้นทอดน้ำปลา ฯลฯ อาหารต่างประเทศก็มีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นซี่โครงหมูบาร์บีคิว สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าแฮม ไก่ทอดซอสครีมมะนาว และอื่นๆ อีกเพียบ เท่านั้นยังไม่พอยังมีของหวานแบบฉ่ำๆ ให้เลือกต่อกันอีก ซึ่งมีทั้งเค้กหอมๆ ละมุนลิ้น รวมทั้งเมนูเครื่องดื่มสดชื่นๆ ด้วย และที่เด็ดอีกอย่างก็คือในช่วงเย็นของทุกวันทางร้านจะมีดนตรีสดให้ฟังด้วยนะ ชิลล์มาก
เมืองที่เต็มไปด้วยความงามของอดีตสุดยิ่งใหญ่ และมีเอกลักษณ์ด้านอาหารไม่เหมือนใคร พระนครศรีอยุธยา เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของใครหลายๆ คน สถานที่แรกที่ต้องไปเยือนให้ได้นั่นก็คือวัดพนัญเชิง วัดเก่าแก่นับตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธไตรรัตนายกหรือหลวงพ่อโต พระพุทธรูปศิลปะอู่ทองที่สันนิษฐานว่าได้สร้างขึ้นนับตั้งแต่สถาปนากรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายกระจายอยู่อย่างเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก อีกทั้งพื้นที่ของวัดพนัญเชิงยังติดกับแม่น้ำสำคัญถึงสองสาย นั่นก็คือ แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก
แกรนด์เจ้าพระญา ร้านอาหารไทยริมแม่น้ำบรรยากาศสงบและสบาย บริเวณร้านร่มรื่นไปด้วยเหล่าต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา ที่นั่งที่มีทั้งโซนอินดอร์และเอาท์ดอร์ที่สามารถรองรับได้มากถึง 300 โต๊ะ โดยโซนแนะนำเลยก็คือโซนเอาท์ดอร์ติดริมแม่น้ำที่สามารถมองเห็นวิวฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบสบายๆ สายน้ำที่ไหลอย่างสงบ รวมทั้งมีลมอ่อนๆ พัดมาสัมผัสร่างกายขณะลิ้มรสชาติอาหารสุดพิถีพิถันและกลมกล่อม บอกเลยว่ายิ่งถ้าเป็นในช่วงเย็นก็สามารถเห็นฟ้าแบบวานิลาสกายได้อีกด้วย
ตำรับอาหารของที่นี่เป็นสูตรที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งการันตีได้ว่ารสชาติกลมกล่อมและประทับใจอย่างแน่นอน มาอยุธยาทั้งทีเมนูฮิตที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ กุ้งแม่น้ำเผา กุ้งแม่น้ำไซส์บิ๊ก ย่างด้วยเตาถ่านหอมกรุ่น เนื้อกุ้งเน้นๆ มันฉ่ำๆ แถมยังมีน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆ บอกเลยว่าคุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
เมนูแนะนำอื่นๆ ที่อร่อยไม่แพ้กันก็มีอีกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นปลากะพงทอดน้ำปลา เนื้อปลาขาวๆ สดใหม่ หอมน้ำปลาอ่อนๆ ต้มยำกุ้งรสจัดจ้านที่ใส่กุ้งมาเน้นๆ น้ำพริกลงเรือ อาหารตำรับชาววังที่มาพร้อมกับเครื่องเคียงกับผักนานาชนิด ผัดฉ่าปลาคลังสุดร้อนแรง อีกทั้งยังมีเมนูน้ำที่จะมอบความสดชื่นให้กับเรา อย่างน้ำเสาวรส และสายไหมสตรอว์เบอรร์รี่
กินอาหารไปแล้วก็มาต่อกันกับของหวาน แน่นอนมามาเยือนถึงกรุงเก่าก็ต้องจัดขนมไทยแบบเน้นๆ ไปเลยที่ HOMGLIN Thai Dessert Cafe คาเฟ่ขนมไทยฟิวชั่นโลเคชั่นดี เพราะตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดราชบูรณะ โบราณสถานที่สำคัญของเมืองอยุธยา ภายในร้านจะตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงินตัดกับทองให้ความรู้สึกหรูหรา ร้านจะมีที่นั่งที่มีกระจกบานใหญ่ทำหน้าที่เป็นจอฉายภาพทิวทัศน์ของโบราณสถาน อีกทั้งยังมีโซนเอาท์ดอร์ที่สามารถทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสสายลมและบรรยากาศของเมืองเก่าได้แบบเน้นๆ เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนสบายๆ เป็นที่สุด
เมนูขนมไทยจะเป็นแบบร่วมสมัยที่ผสมผสานความเป็นไทยกับความเป็นสมัยใหม่ลงไปอย่างพิถีพิถันและประณีต รสชาติกลมกล่อมและละเอียดคือความตั้งใจที่ส่งผ่านการทำในทุกขั้นตอน นอกจากขนมไทยประยุกต์แล้ว ยังมีเมนูขนมไทยโบราณ และเครื่องดื่มอีกมากมายที่ให้ผู้มาเยือนได้เลือกลิ้มลองกัน
เดินเล่นชิลล์ๆ พร้อมกับชมความยิ่งใหญ่ของกรุงศรีอยุธยากันต่อที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา บนพื้นที่นับพันไร่เป็นที่ตั้งของโบราณสถานมากมากที่กระจายกันอยู่ทั่วทั้งเกาะเมืองที่มีทั้งพระราชวังหลวง วัดราชบูรณะ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ฯลฯ โดยบรรยากาศภายในอุทยานฯ ล้วนแต่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และเย็นสบายเพราะมีสายลมพัดอ่อนๆ มาอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นบริเวณไหน มุมใดของอุทยานที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ก็สามารถถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้อัปโซเชียลได้ทั้งหมด บอกเลยว่าถ้าเพื่อนๆ ได้มีโอกาสมาเที่ยวอยุธยาต้องลองแวะมาเดินเล่นสบายๆ ในเขตโบราณสถานกันดูนะ ทั้งสวยและฟีลกู๊ดมากๆ
สมุทรสงครามและสมุทรสาคร จังหวัดที่เรียกได้ว่าใกล้กรุงเทพแบบมากๆ ขับรถเพียงไม่นานก็ถึงแล้วเหมือนกับว่ายังไม่ทันได้ออกจากเมืองหลวงเลย และแน่นอนว่าใกล้ขนาดนี้ก็ต้องจัดวันเดย์ทริปรัวไปเลย 2 จังหวัด มาเริ่มต้นทริปกันที่สมุทรสาคร ซึ่งสถานที่แรกที่เราจะไปก็คือ วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร วัดสุดร่นรื่นและบรรยากาศดีที่อยู่ติดกับคลองอัมพวา ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ก็คืออุทยานหลวงพ่อโตมหายาน พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางถ้ำจำลองที่มีน้ำตกไหลเป็นฉากอยู่ด้านหลังองค์พระ ซึ่งบรรยากาศภายในเวิ้งถ้ำจำลองเย็นสบาย สงบ และร่มรื่นเป็นที่สุด ถือเป็นอีกมุมที่ถ่ายรูปเช็คอินสวยๆ ได้เลย เหมือนอยู่ญี่ปุ่นแบบสุดๆ
หลวงพ่อโตที่ประดิษฐานอยู่ในวิหาร ขึ้นชื่อสุดๆ เรื่องของความเป็นสิริมงคลและโชคลาภ มากราบไว้ขอพรกันสักหน่อย เป็นการเปิดทริปแบบปังๆ กันไปเลย นอกจากนี้ในบริวเณวัดก็ยังมีทางเดินริมคลองและท่าน้ำให้ได้เดินรับลมเย็นๆ แบบชิลล์ๆ อีกด้วยแหละ
หนีร้อนไปพักผ่อนกันต่อแบบสบายใจกลางบรรยากาศกรีนๆ กันที่บ้านสวนพาฝัน (The Story of Coconut at Baan Phaeo) คาเฟ่ที่อยู่ท่ามกลางสวนมะพร้าวสุดสงบและร่มรื่นในอ.บ้านแพ้ว สมุทรสาคร โซนที่นั่งมีให้เลือกทั้งโซนใต้ร่มเงาของสวนมะพร้าวที่ได้นั่งกันแบบชิลล์ๆ และโซนริมน้ำ ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งโซนไหนก็เป็นมุมถ่ายรูปได้หมดเลย
เมนูของทางร้านก็มีให้เลือกอยู่อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะเมนูกาแฟที่ครีเอทโดยใช้มะพร้าวเป็นส่วนปะกอบ กาแฟเข้มๆ ตัดกับมะพร้าวหอมๆ บอกเลยว่ากลมกล่อมเป็นที่สุด นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งที่เป็นเมนูแนะนำเลยก็คือพิซซ่า เพราะพิซซ่าของที่นี่จะใช้วิธีการอบด้วยเตาถ่าน พิซซ่ารสกลมกล่อมที่อบมาหอมๆ ไม่ว่าใครก็อดใจไม่ไหวแน่นอน
อันซีนของเมืองสมุทรสงครามที่เรียกได้ว่าอเมซิ่งสุดๆ เลยก็คือโบสถ์เก่าแก่ที่ปกคลุมไปด้วยรากของต้นไม้ถึง 4 ชนิด คือ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และต้นกร่างของวัดบางกุ้ง วัดโบราณที่มีอายุมากกว่า 200 ปีนับตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของไทย เพราะวัดบางกุ้งแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของค่ายป้องกันกองทัพพม่าในครั้งกรุงศรีอยุธยา วิหารเก่าแก่ที่ประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณีอยู่ภายใน เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ควรค่าแก่การมาเช็คอินสุดๆ
ช่วงเวลาเย็นๆ ท้องฟ้าเป็น vanilla sky แบบนี้ก็ต้องหาอะไรกินรับบรรยากาศชิลล์ๆ กัน ที่แนะนำเลยก็คือร้านเรือนวารี ร้านอาหารซีฟู้ดที่บรรยากาศสบายมาก เพราะตั้งอยู่ริมน้ำแม่กลอง และการันตีความอร่อยด้วยความเก่าแก่ของร้านที่เปิดมานานถึง 30 ปี ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟก็นั่งชมวิวริมฝั่งน้ำ รับลมอ่อนๆ มองฟ้าไปพร้อมกัน บอกเลยว่าเป็นสถานที่พักผ่อนก่อนกลับที่ดีต่อใจมาก
เรื่องความสดของซีฟู้ดที่ร้านไม่ต้องกังวัลเลย เพราะว่าสดมาๆ เรียกได้ว่าทั้งปลา กุ้ง เนื้อกรุบ หวานอร่อยสุดๆ เมนูที่มาแล้วต้องห้ามพลาดเลยก็คือกุ้งแม่น้ำเผา เสิร์ฟมาเน้นๆ แบบ 1 กิโลกรัมเต็มๆ เนื้อกุ้งกรึบๆ มันกุ้งฉ่ำๆ เยิ้มๆ กินพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ บอกเลยว่าฟินเว่อร์ และแน่นอนว่ามาแม่กลองทั้งทีจะพลาดเมนูขึ้นชื่ออยากปลาทูไปได้ยังไง ปลาทูซาเตี๊ยะ เมนูต้นตำรับของชาวแม่กลอง ปลาทูตัวเป้ง 5 ตัวราดด้วยน้ำซอสขลุกขลิกรสเปรี้ยวหวานโรยด้วยกระเทียมเจียว ใบมะกรูดทอด และพริกสด หอมกรุ่นมากๆ
อีกหนึ่งจังหวัดใกล้กรุงเทพฯที่บรรยากาศดีและมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อยนั่นก็คือปทุมธานี เมืองฟีลดีที่มีทั้งคาเฟ่ชิลล์ๆ วัดที่โดดเด่น หรือแม้แต่สถานที่ที่เรียกได้ว่าสวยแบบสุดๆ ขับรถออกจากรุงแล้วมุ่งไปวัดปัญญานันทาราม สถานที่แรกของทริปเราในวันนี้ พุทธคยาจำลองที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางพื้นที่โล่ง ลวดลามและรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เรียกได้ว่าสวยงามแบบสุดๆ ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็อัปลงโซเชียลได้แบบรัวๆ ด้านหน้าจะมีรูปจำลองของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุให้ได้กราบสักการะ ซึ่งภายในองค์พุทธคยานี้ยังมีพระพุทธรูปศิลปะอินเดียประดิษฐานอยู่พร้อมทั้งมีพิพิธภัณฑ์ภาพสามมิติที่แฝงธรรมะให้ได้เยี่ยมชมอีกด้วย
อิ่มบุญและสบายใจไปกันแล้ว มาต่อกันกับเปรมคาเฟ่ สถานที่สุดกรีน คาเฟ่กลางสวนที่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ ที่บอกเลยว่าแค่เดินเข้าด้านหน้าร้านก็รู้สึกสดชื่นแล้ว ภายในร้านเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ฟีลกู๊ดแบบสุดๆ โซนที่นั่งมีให้เลือกอย่างหลากหลาย รวมทั้งที่นั่งใต้เงาไม้ นั่งเล่นสบายๆ ในสวย พร้อมกับเครื่องดื่มสักแก้ว แค่นี้พลังงานร่างกายก็กลับมาเต็มขั้นแล้ว นอกจากนี้เมนูอาหารของที่นี่ก็มีใเห้ลือกทั้งของหวานและของคาวอีกด้วย เรียกได้ว่ามาเปรมคาเฟ่ ทั้งอิ่มบรรยากาศและอิ่มท้องมากๆ สายคาเฟ่และสายกรีนต้องห้ามพลาดเลย
เที่ยวสายธรรมชาติกันไปยาวๆ กันที่กระท่อมลุงจรณ์ แหล่งรวมแคคตัสนานาพันธุ์ที่สุดตระการตา เรือนกระจกที่เป็นโถงหลากหลายไปด้วยสีสันของเหล่าแคคตัส บางต้นก็มีดอกแสนน่ารัก บางต้นก็มีปุยสีขาวปกคลุม บอกเลยว่าถ้าใครกำลังมองหาต้นไม้เล็กๆ ไปวางหน้าโต๊ะทำงานต้องแวะมาที่นี่เลย มีให้เลือกเยอะมากจนจุใจกันเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีมุมถ่ายรูปชิคๆ อย่างกำแพงอิฐสีน้ำตาลแดงตัดด้วยต้นกระบองเพชรสีเขียวเข้ม ยืนสวยๆ แล้วถ่ายรูป รับรองได้ภาพสวยๆ อัปลงโซเชียลแน่นอน
มาท่องโลกนิทานกันต่อที่ นิทานคาเฟ่ ความสุขที่ฟุ้งเต็มทั่วพื้นที่กว้าง มุมต่างๆ ที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็น่ารักไปหมด ไม่ว่าจะเป็นลานกว้างที่มีรูปปั้นเป็ด เก้าอี้หวายริมน้ำสุดชิลล์ หรือจะเป็นซุ้มประตูอิฐสไตล์ยุโรปที่ตั้งตระหง่านกลางสวน เหมาะกับการมาพักผ่อน ใช้เวลากับตัวเอง เพื่อน คนรู้ใจ หรือครอบครัวก่อนเดินทางกลับ ดื่มด่ำกับนานาเมนูที่สร้างสรรค์มาเป็นอย่างดี แนะนำเลยว่าทุกๆ คนที่มาเยือนที่นี่จะต้องได้รับความสุขเหมือนกับหลุดเข้าไปในโลกนิทานเหมือนชื่อร้านเลยทีเดียว
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 6 จังหวัดใกล้กรุงเทพฯ เที่ยวสบายๆ แบบวันเดย์ทริป บอกเลยว่าแต่ละที่และทุกจังหวัดสวยน่าเที่ยวและมีเสน่ห์ที่ถ้าได้ลองไปแล้วต้องหลงรักแน่นอน และถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากเที่ยวในเมืองหลวงของเราแบบชิลล์ๆ เราขอแนะนำ One Day Trip | เที่ยวเกาะรัตนโกสินทร์ เช็คอิน 5 ท่าเรือ และ 10 จุดเช็คอินกรุงเทพฯ ความสวยขั้นเทพในเมืองหลวง