ร้านกลมดิ๊ก จุดเช็คอินศาลายา นครปฐม อิ่มอร่อยสบายกระเป๋า บรรยากาศดีกลางสวน

ช่วงนี้ใครๆ ก็มาเที่ยว จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหาร ให้ได้เลือกมากมาย และเป็นหนึ่งในจังหวัดยอดฮิตของคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศความวุ่นวายของเมืองใหญ่มาเป็นบรรยากาศบ้านๆ เน้นมาพักผ่อนสบายๆ ในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ แต่ทุกวันนี้ร้านอาหารเปิดใหม่มีอยู่เต็มไปหมด จะเข้าร้านไหนก็ต้องมีเงื่อนไขมากมายทั้งรสชาติอร่อย บรรยากาศดี ราคาต้องไม่แพง แถมต้องมีมุมถ่ายรูปอีกด้วย วันนี้ทริปเก็ทเตอร์มีมาแนะนำอยู่ร้านหนึ่งที่ตอบโจทย์ รีบขับรถมาศาลายาและไปเช็คอินชิลล์ๆ กลางธรรมชาติกับ ร้านกลมดิ๊ก จุดเช็คอินศาลายา นครปฐม อิ่มอร่อยสบายกระเป๋า บรรยากาศดีกลางสวน มาดูกันดีกว่าว่าร้านนี้จะเด็ดขนาดไหน~

---

ร้านกลมดิ๊ก จุดเช็คอินศาลายา นครปฐม อิ่มอร่อยสบายกระเป๋า
บรรยากาศดีกลางสวน

---

กลมดิ๊ก ร้านอาหารบรรยากาศบ้านสวนที่มีธรรมชาติโอบล้อมและสระน้ำที่เพิ่มความรู้สึกสดชื่น การเดินทางมาร้านก็ง่ายมากๆ อยู่แค่ศาลายา นครปฐมนี้เอง ขับเข้ามาในซอยเลียบคลองมหาสวัสดิ์​ จุดสังเกตง่ายๆ ก่อนถึงร้านจะเห็นวัดสุวรรณอยู่ตรงข้าม สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้านและในร้าน เมื่อเดินเข้ามาในร้านก็พบกับความร่มรื่นและบรรยากาศสุดชิลล์ มีลมพัดเย็นสบายตลอด ส่วนตัวร้านมีการออกแบบอย่างเรียบง่าย เน้นใช้วัสดุธรรมชาติในการตกแต่งที่ดูกลมกลืนเข้ากับบรรยากาศบ้านสวนมาก เมนูอาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารไทยที่มีให้เลือกหลากหลาย ครบทั้งของกินเล่น ส้มตำ ยำ ก๋วยเตี๋ยว กับข้าว ขนมหวาน และเครื่องดื่ม

บรรยากาศบ้านสวนคือแบบนี้เลย มองไปทางไหนก็เจอแต่ความกรีน

ภายในร้านมีเรือนไทยที่มีอายุกว่า 100 ปีตั้งโดดเด่นอยู่กลางร้าน บอกเลยว่าเรือนไทยหลังนี้คือจุดเช็คอินที่ไม่เหมือนร้านไหน ใครมาต้องถ่ายรูปคู่กับเรือนหลังนี้ให้ได้ เพราะปัจจุบันนี้ยากมากที่จะเห็นเรือนไทยสมัยก่อนในสภาพสมบูรณ์ และยิ่งมาอยู่ในร้านอาหารแบบนี้อาจจะดูแปลกใหม่ไปบ้าง แต่ก็มีกลิ่นอายย้อนวันวาน เป็นเสน่ห์ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมาก ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนมาพักผ่อนบ้านญาติที่ต่างจังหวัด บวกกับเพลงที่ร้านเปิดยุค 90 เข้ากับบรรยากาศสุดๆ

ภายในร้านมีมุมเช็คอินให้ได้ถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ตั้งแต่ทางเข้าร้านที่เป็นทางเดินไม้ไผ่ ตรงเรือนไทยก็เป็นมุมที่ถ่ายรูปออกมาดูดีมากๆ หรือจะมุมถ่ายรูปหลังร้านก็มีให้เลือกมากมาย

ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้เปิดให้ลูกค้าขึ้นไปถ่ายบนบ้านได้ แต่ในอนาคตทางร้านมีแพลนที่จะทำให้เรือนไทยหลังนี้เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์สะสมของเก่า ถึงตอนนั้นห้ามพลาดมาถ่ายรูปเช็คอินตรงนี้ด้วยนะ

เดินตรงผ่านใต้ถุนบ้านและบึงบัวจะเป็นลานกว้าง มีพร็อพให้ได้แชะภาพกันรัวๆ

ในพื้นที่กว่า 29 ไร่ที่มีการจัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัว ที่นั่งของทางร้านจะเป็นแบบโอเพ่นแอร์ เน้นรับลมธรรมชาติ อากาศโล่งโปร่ง และเป็นซุ้มนั่งแบบส่วนตัว เรียกได้ว่าไม่ต้องไปนั่งปนกับใครเลย สำหรับโซนที่นั่งแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน เริ่มจากโซนแรกที่อยู่หน้าร้าน ตั้งแต่เดินเข้ามาจะเห็นซุ้มไม้ไผ่อยู่รอบสระน้ำ ซึ่งตรงนี้สามารถนั่งห้อยขาและฟังเสียงน้ำพุได้แบบชิลล์ๆ

ข้อดีของที่นี่คือที่นั่งซุ้มแบบไพรเวทสุดๆ

เดินเข้ามาอีกหน่อยจะเจอกับเรือนไทยและที่นั่งใต้ถุนบ้านซึ่งตรงนี้เป็นที่นั่งแบบอินดอร์

อีกมุมถ่ายรูปน่ารักๆ กับของตกแต่งแบบบ้านๆ

และโซนสุดท้ายเป็นที่นั่งริมบึงบัว บรรยากาศตรงนี้ธรรมชาติมาก เป็นพื้นที่กว้างโล่งปลอดโปร่ง ทำให้มีลมพัดมาตลอดเวลา เมื่อมองไปในบึงบัวจะเห็นความกรีนของแหนสีเขียวสดภายในสระ อีกทั้งนั่งกินอาหารบางครั้งอาจจะเจอน้องเต่าโผล่ออกมาจากสระน้ำ ทักทายลูกค้าทุกคนด้วย

ทางเดินกลางบึงบัวเป็นอีกมุมที่ต้องถ่ายรูปเช็คอินกัน เป็นทางเดินกลางธรรมชาติโอบล้อม

ที่นั่งในร้านมีให้เลือกมากมายขนาดนี้ใครชอบมุมไหนก็เลือกนั่งและเตรียมสั่งอาหารกันดีกว่า โดยอาหารของทางร้านมีให้เลือกเยอะมาก แต่ละเมนูมาแบบจัดเต็ม เครื่องแน่นสุดๆ ปริมาณอาหารแต่ละจานก็ให้เยอะ แต่เห็นเยอะๆ แบบนี้ราคาไม่แพงเลย เรียกได้ว่าราคาคุ้มค่ามาก มาดูกันดีกว่าว่ามีเมนูไหนเด็ดๆ ที่มาแล้วต้องสั่งบ้าง

เริ่มจากของกินเล่นซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของทอด แต่ละเมนูกินง่าย กินเพลินแน่นอน เมนูแรกคือ เฟรนด์ฟรายเขย่า ราคา 49 บาท มีให้เลือกมากถึง 7 รสชาติด้วยกัน ได้แก่ ชีส บาร์บีคิว วิ้งแซ่บ พิซซ่า สไปซี่ ปาปิก้า และต้มยำ อีกทั้งถ้าชอบราดชีสเยิ้มๆ ก็สามารถสั่งเพิ่มได้ โดยจ่ายเพิ่มเพียง 10 บาทเท่านั้น

ปอเปี๊ยะโรลกุ้ง ลักษณะเป็นแท่งยาวๆ ข้างนอกกรอบ ข้างในเป็นเนื้อกุ้งแน่นๆ จิ้มคู่กับซอสพริกหรือซอสบ๊วยก็อร่อย ราคา 59 บาท

นอกจากนี้ยังมีเมนูของทอดอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไก่จ้อ ชิ้นใหญ่พอดีคำ เนื้อไก่ข้างในกลมกล่อม 79 บาท เต้าหู้ปลาทอด เนื้อแน่นเด้งๆ 35 บาท นักเก็ตข้าวโพด เป็นอีกเมนูกินเล่นที่กินเพลินมากและหยิบกินง่าย เนื้อแน่นๆ ของไก่และข้าวโพดเข้ากันดีราคา 35 บาท ยังมี ไส้กรอกทอด 35 บาท น่าจะเป็นเมนูกินง่ายของโปรดหลายคน

ปีกไก่ทอดเกลือ 79 บาท รสออกเค็มนิดๆ กินเปล่าๆ ก็ได้หรือกินคู่กับข้าวสวยสักคำก็ดีมาก แค่เมนูกินเล่นก็จัดเต็มแล้ว เน้นกินเรียกน้ำย่อยระหว่างรออาหารจานหลัก

เมนูหลักจานแรกเป็นไฮไลท์ของทางร้านที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย ใครมาล้วนแต่ต้องสั่งก็คือ ผัดไทยถาด ที่เสิร์ฟมาในถาดใหญ่และไม่เหมือนกับที่อื่น โดยผัดไทยของที่ร้านจะไม่ได้ใส่แค่กุ้ง แต่ยังมีหมูกรอบและปีกไก่ทอด ตัวเส้นผัดไทยผัดมาดีไม่แฉะเกินไป เครื่องก็แน่นครบทั้งเต้าหู้ ถั่วลิสง ซอสผัดไทยกลมกล่อมดี และเห็นเสิร์ฟมาถาดใหญ่ๆ แบบนี้ราคาแค่ 299 บาท

ต่อมาเป็นเมนูส้มตำคือ ตำไข่เค็มคอหมู เมนูที่คนชอบกินส้มตำไข่เค็มห้ามพลาด มีรสเปรี้ยว หวาน เค็มลงตัว รสแซ่บจัดจ้าน  อาจจะเผ็ดไปบ้างสำหรับคนไม่กินเผ็ด แต่พอกินรวมๆ กันแล้วเข้ากันมาก ยิ่งกินคู่กับคอหมูที่หั่นมาชิ้นหนาๆ ไข่ต้ม หมูยอ ขนมจีน ราคาคุ้มสุดๆ เพียงแค่ 179 บาทเท่านั้น

มากินเบาๆ แต่รสชาติไม่เบากับ ยำถั่วพู แซ่บถึงเครื่องและจัดเต็มเนื้อกุ้งที่สดมาก เนื้อเด้งๆ กินคู่กับไข่ต้ม ซดน้ำยำเล็กน้อย รสนัวกลมกล่อมสุดๆ อัดแน่นแบบนี้ราคา 129 บาทเท่านั้น

อีกเมนูยำที่กินง่าย แถมอร่อยอย่าง เมี่ยงกลมดิ๊ก กินเมี่ยงต้องเด็ดที่น้ำจิ้มซึ่งน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ร้านก็แซ่บมาก ราดใส่เส้นหมี่ จิ้มกินกับกุ้งหรือหมูสามชั้น และนำมาห่อด้วยผัดสด บอกเลยว่าฉ่ำและแซ่บสุดๆ สำหรับเมนูเมี่ยงกลมดิ๊กจะมี 2 แบบ คือ ชุดเล็กและชุดใหญ่ ซึ่งชุดใหญ่จะต่างจากชุดเล็กตรงที่มีเพิ่มปูม้า 1 ตัว โดยชุดเล็กราคา 219 บาทและชุดใหญ่ราคา 329 บาท

สำหรับใครชอบกินเส้น ทางร้านก็มีเมนูเส้นให้เลือกมากมาย อยากซดน้ำก๋วยเตี๋ยวต้องสั่ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล เป็นต้มยำน้ำข้นที่เข้มข้นจัดจ้านในราคา 80 บาท

คั่วไก่ ผัดมากำลังดี หอมกลิ่นกระทะ เนื้อไก่ชิ้นใหญ่ๆ คุ้มค่ากับราคา 79 บาทมาก

และอีกเมนูเส้นที่แนะนำคือ หมี่กระเฉดกุ้งสด เป็นเส้นหมี่ขาวที่คลุกเคล้ากับซอสเข้มข้น ใส่ผักกระเฉดกรุบๆ และกุ้งเนื้อเด้งๆ รสชาติทุกอย่างเข้ากันได้ดีและราคาไม่แพงเพียง 89 บาท

นอกจากนี้ยังมีเมนูข้าวที่สามารถสั่งแบบจานเดียวหรือกินกับข้าวได้ ส่วนเมนูที่หลายคนชอบสั่งคือ ข้าวผัดปลาสลิด ข้าวผัดหอมๆ โปะด้วยปลาสลิดชิ้นโต ตัวปลารสเค็มนิดๆ กินกับข้าวผัดเข้ากันมาก ราคาจานละ 79 บาทเท่านั้น

มาปิดท้ายกับเมนูของหวานที่มีให้เลือกมากมายทั้งขนมไทย พุดดิ้ง ไอศกรีมโฮมเมด และเมนูเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ แถมได้ประโยชน์อย่างเมนูน้ำสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็น โอเชียนบลู อัญชัญฮันนี่เลมอน กระเจี๊ยบพุทราจีน ซึ่งทุกแก้วราคาเพียงแก้วละ 30 บาท แต่ถ้าใครสายชาหรือกาแฟ ที่ร้านก็มีเครื่องดื่มกาแฟ โกโก้ ชาเขียว และชาไทยที่เลือกได้ตามใจชอบ

 

กลมดิ๊ก เป็นร้านอาหารที่มีความเรียบง่ายในบรรยากาศของบ้านสวนที่อยากให้ทุกคนลองมาสัมผัสความชิลล์และลิ้มรสอาหารอร่อยในราคาย่อมเยา เป็นร้านที่เหมาะกับการมานั่งกินอาหารชิลล์ๆ พูดคุยสังสรรค์กัน มากับครอบครัวหรือกับเพื่อนก็ล้วนเป็นช่วงเวลาที่ดี นอกจากนี้ที่ร้านยังจะมีการปรับปรุงและพัฒนาร้านต่อไปอีกในอนาคต อย่างเรือนไทยก็กำลังทำเป็นพิพิธภัณฑ์สะสมของเก่า หรือพื้นที่หลังร้านที่เป็นสวนมะพร้าวหอมก็อาจจะเป็นร้านคาเฟ่ ทิศทางร้านในอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไปก็น่าติดตามมากๆ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือเสน่ห์อันเก่าแก่และบรรยากาศบ้านสวนที่จะคงอยู่กับร้านตลอดไป

• Location: เลียบคลองมหาสวัสดิ์​ 98 ม.1 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
• Google Map: ร้านกลมดิ๊ก จุดเช็คอินศาลายา
• Open-Close: เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)
• Phone: 062 635 2647
• Facebook: ร้านกลมดิ๊ก จุดเช็คอินศาลายา
• Recommend: ผัดไทยถาด 299 บาท, ตำไข่เค็มคอหมู (จาน/ถาด) 129/179 บาท, เมี่ยงกลมกิ๊ก (ชุดเล็ก/ชุดใหญ่) 219/329 บาท, คั่วไก่ 79 บาท, ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล 80 บาท, ยำถั่วพลู 129 บาท, หมี่กะเฉดกุ้งสด 89 บาท, ข้าวผัดปลาสลิด (จานเล็ก/จานใหญ่) 79/299 บาท, นักเก็ตข้าวโพด 35 บาท, ไก่จ้อ 35 บาท, ปีกไก่ทอดเกลือ 79 บาท, เฟรนด์ฟรายเขย่า 49 บาท (เพิ่มชีส 10 บาท), ปอเปี๊ยะโรลกุ้ง 59 บาท, เต้าหู้ปลาทอด 35 บาท, โอเชียนบลู 30 บาท, อัญชัญฮันนี่เลมอน 30 บาท, กระเจี๊ยบพุทราจีน 30 บาท

---

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ ร้านกลมดิ๊ก จุดเช็คอินศาลายา นครปฐม อิ่มอร่อยสบายกระเป๋า บรรยากาศดีกลางสวน ไปนครปฐมก็อย่าลืมแวะไปกินอาหารอร่อยๆ ถือว่าเป็นอีกจุดเช็คกินร้านอาหารศาลายาที่ห้ามพลาดเด็ดขาด ใครชอบสไตล์บ้านสวนของร้านกลมดิ๊กแล้วคิดถึงบรรยากาศชิลล์ๆ ของธรรมชาติลองมาดูกันที่ 5 ที่เที่ยวสายธรรมชาติ น่าหนีไปฮีลใจใกล้กรุงเทพฯ และ 15 ที่กินเที่ยวนครนายก-สระบุรี พาเช็คอินชิลล์ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ

---