นั่งรถไฟ แต่งชุดไทย เที่ยวงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก
4,408 ครั้ง
27 ม.ค. 2566
4,408 ครั้ง
27 ม.ค. 2566
พระนครศรีอยุธยา เมืองประวัติศาสตร์ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ถือเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งในช่วงต้นปี ประมาณปลาเดืนอมกราคมของทุกปี ทางจังหวัดก็จะจัดงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลกขึ้น นับว่าเป็นงานยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปีเลยทีเดียว วันนี้ทริปเก็ทเตอร์จะพาเพื่อนๆ นั่งรถไฟ แต่งชุดไทย เที่ยวงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลกกัน รับรองว่าไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถแน่นอน ว่าแล้วไม่รอช้าตามไปดูกันดีกว่า
เริ่มต้นการเดินทางกันที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) เข้าทางออก 4 แล้วเดินเข้าช่องจำหน่ายตั๋วได้เลย ซึ่งเราเดินทางรอบ 14.15 น. เป็นรถเร็วขบวนที่ 109
ใช้เวลาเดินทางเพียงชั่วโมงเดียวก็ถึงอยุธยาแล้ว
หลังจากนั้นเราก็เดินออกจากตัวสถานีรถไฟ ตรงมาเรื่อยๆ ตามซอยตรงข้าม ก็จะเจอกับท่าเรือเทียบเรือสถานีรถไฟอยุธยา ค่าบริการคนละ 10 บาทเท่านั้น ใช้เวลาข้ามฟากประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเอง
พอเทียบฝั่งขึ้นเรือที่ท่าตลาดเจ้าพรหมแล้ว ก็เหมารถตุ๊กตุ๊กไปหน้าวัดราชบูรณะกันเลย (เราได้ราคา 80 บาทนะ)
เมื่อถึงแล้วสามารถเดินเข้างานได้จากด้านข้างของวัดราชบูรณะและวัดมหาธาตุได้เลย งานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลกนับเป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นงานเฉลิมฉลองการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งปี 2566 นี้ นับเป็นปีที่ 31 แล้ว
งานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลกจะจัดอยู่ทั่วในพื้นที่ของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มาเดินงานบรรยากาศเมืองเก่าทั้งที ก็ต้องเปลี่ยนเป็นใส่ชุดไทยให้เข้ากับบรรยากาศกันสักหน่อย โดยร้านที่ให้เช่าชุดจะมีอยู่ทั่วทั้งงาน ราคาจะอยู่ที่ 200 – 300 บาท ใส่ได้ทั้งวันเลย
เปลี่ยนชุดเรียบร้อยก็มาเดินลุยกัน! ภายในงานมีหลากหลายโซนให้ได้เลือกเดินกันเลย ซึ่งโซนแรกที่เป็นไฮไลท์ของงานเลยก็คือโซนตลาดย้อนยุค ซึ่งจะอยู่ติดกับเวทีการแสดงแสง สี เสียง โซนนี้ก็จะมีกิมมิกเก๋ๆ ให้เราได้ลอง นั่นก็คือ การแลกเงินสดเป็นเงินพดด้วง เพื่อเอาไปใช้จ่ายของกินภายในตลาดย้อนยุค ขั้นต่ำของการแลกอยู่ที่ 100 บาท โดย 1 พดด้วง จะเท่ากับ 10 บาท แลกแล้วก็ใช้ให้เต็มที่ไปเลย เพราะในงานไม่มีบริการแลกคืนน้า
บอกเลยว่าร้านขายอาหารตื่นตาตื่นใจแบบสุดๆ เพราะมีทั้งอาหารไทยอร่อยๆ เพียบ ไม่ว่าจะเป็นหมูสร่ง เมนูอาหารอยุธยาชื่อดัง ไก่พันตะไคร้ ที่ย่างร้อนๆ หอมตะไคร้อ่อนๆ รวมทั้งเมนูอื่นๆ อีกมากมาย
อาหารแต่ละอย่างในงานมีเยอะมาก ตื่นตาตื่นใจสุดๆ
ขนมไทยและเครื่องดื่มก็จัดเต็มไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นขนมไทยมงคลตระกูลทอง บัวลอยเสียบไม้ น้ำแข็งกดราดน้ำหวาน เดินจ่ายพดด้วงกันรัวๆ เลยจ้า
มุมนี้สวยมากๆ บรรยากาศดี ได้กลิ่นอายความเป็นเมืองเก่าแบบเต็มร้อย
พอได้ของกินแล้ว ด้านข้างของตลาดจะมีที่นั่งที่เป็นแคร่เล็กๆ ไว้ให้นั่งกินชิลล์ๆ อีกทั้งยังมีการแสดงให้ดูอีกด้วย
แถมพอเดินข้ามสะพานมาฝั่งหน้าเวทีแสง สี เสียง ยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ ซึ่งจะเน้นเป็นการจัดแสดงไฟสุดอลังการ หรือจะถ่ายรูปสวยๆ กลางสะพานก็ปังไม่แพ้กัน
มุมโคมไฟหลากสีก็สวยมากๆ บอกเลยว่าได้รูปไว้อัปลงโซเชียลรัวๆ เลย
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะจะมีเหล่าน้องช้างแต่งชุดยุทธหัตถีมาให้ได้ถ่ายรูปคู่และป้อนอาหารด้วย น่ารักสุดๆ
เดินจากโซนตลาดย้อนยุคมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับมุมไฮไลท์สุดอลังการที่สุด! อีกมุมหนึ่งของงาน นั่นก็คืออุโมงค์ไฟ บอกเลยวว่าคำว่าอลังการไฟล้านดวงไม่เกินจริง เพราะสวยมาก สวยจนอดเก็บรูปไว้ไม่ได้เลย
ลอดอุโมงค์มาก็เจอมุมถ่ายรูปสวยๆ แบบรัวเลย ทั้งมุมทุ่งดอกไม้ประดับไฟ และถนนที่ประดับไฟสว่างไสว ซึ่งจะอยู่ในโซนของสินค้าการเกษตร
เดินผ่านโซนสินค้าการเกษตรมาเรื่อยๆ ก็ต้องแวะถ่ายรูปเลยเพราะเราจะเจอกับสระบัวที่มีเรือไฟตกแต่งเอาไว้ สวยมากๆ
ด้านข้างก็จะเป็นลานพระบรมราชานุเสาวรีย์ของพระเจ้าอู่ทอง ซึ่งด้านหน้าเป็นส่วนจัดแสดง Flowers Festival หรือสวนดอกไม้ และด้านในรอบๆ พระบรมราชานุเสาวรีย์ จะมีการประดับตกแต่งไฟไว้อย่างสวยงาม แถมยังมองเห็นวัดพระศรีสรรเพชญ์ในยามค่ำคืนอีกด้วย
ถัดมาก็จะเป็นอีกหนึ่งโซน นั่นก็คือ ถนนกินเส้น – กินกุ้ง ซึ่งเป็นโซนที่รวมร้านอาหารของอำเภอต่างๆ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว กุ้งเผา ผัดไทย และอื่นๆ อีกเพียบ
อีกโซนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กับถนนกินเส้น – กินกุ้ง คือโซนร้านค้าของภาคเอกชน ไฮไลท์ของโซนนี้นอกจากจะเป็นโซนที่มีของกินมากมายแล้ว ยังเป็นโซนที่สามารถมองวิวของพระปรางค์วัดพระรามและบึงพระรามได้แบบ HD บอกเลยว่าสวยมากๆ
นอกจากร้านอาหารและมุมถ่ายรูปแล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมให้ทำเพียบ ไม่ว่าจะเป็นการพายเรือในบึงพระราม ได้ทั้งรูป ได้ทั้งบรรยากาศ หรือจะเป็นการเข้าชมการแสดง แสง สี เสียง ซึ่งในปีนี้ได้จัดแสดงเรื่องพระสุริโยไท อีกด้วย
นอกจากนี้ภายในงานยังมีรถรางให้บริการอีกด้วยนะ
เดิน ชิม ช้อป ได้รูปสวยๆ กันจนจุใจแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับ บอกเลยว่าจากในงานไปสถานีรถไฟง่ายนิดเดียว เพียงเดินออกมาที่บริเวณถนนสายต่างๆ รอบๆ งานก็มีรถตุ๊กตุ๊กพร้อมบริการให้เรียกเพียบ นั่งกลับยกแก๊งค์ได้แบบสบายๆ ส่วนเวลาของขบวนรถไฟกลับกรุงเทพก็มีรองรับจนถึงช่วงกลางคืนกันเลย ซึ่งรอบดึกสุดก็คือรอบ 21.42 น.
รีบไปกันเลยนะ เสาร์ อาทิตย์นี้ยังทันเพราะงานเค้าจัดวันสุดท้ายวันที่ 29 มกราคมนี้ ไปบ่ายกลับตอนมืดได้แบบชิลล์ๆ เอาเป็นว่าวัดหยุดสุดสัปดาห์ใครไม่รู้จะไป ลองไปเดินเล่นในงาน รับบรรยากาศแบบย้อนยุคกันดู ไม่มีผิดหวังแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ นั่งรถไฟ แต่งชุดไทย เที่ยวงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก เสาร์ อาทิตย์นี้ยังทันนะ ถ้าใครสนใจรีบไปด่วนๆ เลย และสำหรับใครที่ชอบการเที่ยวแบบนั่งรถไฟ เราก็มีทริปมาแนะนำเพียบกับ One Day Trip เที่ยวนครปฐม นั่งรถไฟฟีดเดอร์ไหว้องค์พระฯ งบคนละไม่ถึง 500 และ กาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน นั่งรถไฟสุดชิลล์ งบ 3,000 คนเดียวก็เที่ยวได้!