ทริปราชบุรี 2 วัน 1 คืน ลองอะไรใหม่ๆ เปิดพิกัดที่เที่ยวสุดว้าวที่ต้องมาตาม!
6,971 ครั้ง
7 ก.พ. 2567
6,971 ครั้ง
7 ก.พ. 2567
มุ่งหน้าสู่ จ.ราชบุรี จังหวัดที่มีธรรมชาติสวยอุดมสมบูร์ มีแหล่งท่องเที่ยวกลางขุนเขา และมีจุดแคมป์ปิ้งสวยๆ พร้อมกับวิวสายน้ำและต้นสน ภาพสวยฟีลต่างประเทศแบบนี้ ขับรถจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น และครั้งนี้ทริปเก็ทเตอร์เอาใจสายแคมป์ปิ้ง พาจัดทริปไปนอนแคมป์ชิลล์ๆ ริมอ่างเก็บน้ำ และไม่พลาดเช็คอินคาเฟ่สุดชิลล์ พร้อมพาเที่ยวอันซีนของราชบุรีกับ ทริปราชบุรี 2 วัน 1 คืน ลองอะไรใหม่ๆ เปิดพิกัดที่เที่ยวสุดว้าวที่ต้องมาตาม!
ถ้าพูดถึงภาพจำของจ.ราชบุรีก็คงหนีไม่พ้นโอ่งมังกร ของขึ้นชื่อและอยู่ในคำขวัญของจังหวัดว่าเป็นเมืองโอ่งมังกร ดังนั้นมาถึงราชบุรีก็ห้ามพลาดเช็คอินแลนด์มาร์กใหม่อย่าง มังกรพันโอ่งพ่นน้ำ ตั้งอยู่ใกล้เขื่อนรัฐประชาพัฒนา เลียบแม่น้ำแม่กลอง มาถึงแล้วจะได้ตื่นตากับโอ่งมังกรขนาดใหญ่ที่มีมังกรคู่พันโอ่งอย่างเหมือนจริง และยังมีไฮไลท์ คือ การพ่นน้ำของมังกรคู่ ซึ่งการพ่นน้ำนี้ไม่ได้มีตลอดทั้งวัน แต่จะแบ่งเป็นรอบเช้าประมาณ 06.00 – 09.00 น. ละช่วงเย็นประมาณ 16.00 – 18.00 น.
มังกรพันโอ่งนี้ของจริงยิ่งใหญ่มาก ให้ฟีลเหมือน Merlion ที่สิงค์โปร์สุดๆ
นอกจากมาดูมังกรพ่นน้ำแล้ว ยังสามารถมานั่งเล่น รับลมชิลล์ๆ ได้ โดยบริเวณนี้ถูกปรับภูมิทัศน์ให้ดูสวยงาม เหมาะแก่การมาพักผ่อน บวกกับติดอยู่ริมน้ำ ทำให้มีลมพัดโกรกตลอด นอกจากนี้ใกล้ๆ กันก็มีตลาดโคยกี๊ ให้ได้เดินช้อปของกินอร่อยๆ มีครบทั้งของคาว ของหวาน และของใช้ให้เลือกละลานตา
สำหรับตลาดโคยกี๊ช่วงคึกคักสุดจะเป็นช่วงเย็นที่จะมีร้านค้ามาตั้งมากมาย โดยจัดเป็นโซนถนนคนเดิน มีของกิน ของใช้ เสื้อผ้า ของฝาก งานศิลปะ แถมราคายังเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์สุดๆ แต่ถนนคนเดินนี้จะเปิดแค่วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00 – 22.00 น.
มังกรพันโอ่งพ่นน้ำ
เดินเล่นตลาด หาของกินจุกจิกไปแล้วก็แวะมานั่งพักผ่อนใน คาเฟ่ตู่ตูน เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของต้นไม้ การออกแบบโดดเด่นและมีสไตล์ด้วยการนำเอาอิฐบล็อกมาเป็นกำแพง บวกกับเฟอร์นิเจอร์โต๊ะ เก้าอี้จากไม้ กลายเป็นการผสมความเท่และธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำกลางร้าน เหล่าปลาคาร์ป และน้องเป็ดคอลดั๊กที่ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับร้าน
ที่นั่งในร้านเป็นแบบเอาท์ดอร์ในสวนทั้งหมด ทำให้เราได้นั่งรับลมสบายๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่แสนจะเป็นกันเอง และมุมที่เราชอบเลยก็คือที่นั่งกลางน้ำ มุมนี้ความชิลล์เต็ม 10 ไม่หัก
เมนูของทางร้านจะเป็นอาหารฮาลาล มาแล้วก็แนะนำโรตีที่เป็นแป้งนวดสดใหม่ เนื้อแป้งหนานุ่มกำลังดี จะกินคู่กับแกงเขียวหวานไก่ก็ลงตัวหรือจะราดน้ำข้มหวานก็อร่อยยกนิ้ว นอกจากนี้ยังมีข้าวหมกไก่ ราคา 60 บาท ข้าวสีเหลืองโรยหอมเจียวและเนื้อไก่ชิ้นใหญ่ ราดด้วยน้ำจิ้มรสเปรี้ยวหวาน นี่แหละคือรสชาติที่ชอบ ส่วนเมนูกินเล่นก็ต้องเนื้อสะเต๊ะ ราคา 75 บาท เนื้อนุ่มและหอมมาก ปรุงมาอย่างดี กินแต่ละคำฟินสุดๆ
โรตี + แกงเขียวหวานไก่ ราคา 100 บาท ตัวแกงหอมกลิ่นเครื่องแกง รสเข้มข้นกลมกล่อม แถมให้เนื้อไก่มาเยอะมาก กินกับโรตีหนานุ่มเข้ากันสุดๆ
จบของคาวแล้วก็มาต่อของหวาน แน่นอนว่าไม่พลาดที่จะสั่งโรตี ซึ่งเมนูที่เราสั่งก็มี โรตีมะพร้าวอ่อน ราคา 60 บาท และโรตีฝอยทอง ราคา 60 บาท สำหรับตัวโรตตีไม่ต้องพูดถึง หนานุ่มดีอยู่แล้ว แต่เมื่อมารวมกับมะพร้าวหรือฝอยทอง ยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก และรสชาติก็หวานกำลังดี ส่วนเครื่องดื่มมีทั้งกาแฟ ชา และอีกมากมาย
คาเฟ่ตู่ตูน
เติมพลังกันเรียบร้อยก็ได้เวลามาใช้แรง ปีนเขาขึ้นไปดูจุดเที่ยวสุดอันซีนของราชบุรีที่ เขาทุะลุมิติ เป็นที่เที่ยวสายแอดเวนเจอร์ที่ต้องปีนเขา ไต่เชือกขึ้นไปดูวิวธรรมชาติแบบพาโนรามา ถึงแม้จะบอกว่าแอดเวนเจอร์ แต่จริงๆ แล้วเดินไม่ยาก ระยะทางเพียงแค่ 200 เมตร ระวังลื่นเล็กน้อย เดินเรียกเหงื่อได้แป๊บเดียว พอขึ้นมาถึงก็รู้สึกคุ้มค่าและหายเหนื่อย วิวที่ได้จากข้างบนสวยเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลย
การมาเขาทะลุมิติ แนะนำให้ใส่ชุดที่ทะมัดทะแมงและรองเท้าผ้าใบ
สำหรับข้างบนของเขาทะลุมิติจะมีโพรงใหญ่ๆ อยู่ 2 จุดด้วยกัน คือ โพรงหน้าถ้ำที่เห็นความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและแนวภูเขาได้แบบใกล้ชิดและอีกจุดคือโพรงด้านบน เห็นวิวท้องฟ้ากว้างๆ และเป็นช่องให้แส่งส่องเข้ามา นอกจากนี้ยังมีมุมให้ได้ถ่ายรูปหลายจุด ส่วนใหญ่จะปีนไปนั่งบนหินกัน จุดนี้ต้องปีนระวังกันด้วยนะ! และช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเขาทะลุมิติก็คือช่วงเย็นประมาณ 16.00 น.เป็นต้นไป เป็นช่วงที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน สาดแสงอ่อนๆ รำไรๆ เข้ามาในถ้ำ บอกเลยว่าสายถ่ายรูปได้ภาพสวยๆ กลับไปแน่
ของจริงสวยจึ้งมาก! อยากให้ทุกคนได้มาดูด้วยตัวเองเลย
เขาทะลุมิติ
สำหรับคืนนี้เราจะมาตั้งแคมป์ชิลล์ๆ กันที่ มะหาด-ไทธารา โฮมสเตย์ ลานกางเต็นท์ที่มาพร้อมกับวิวที่สวยเหมือนอยู่ต่างประเทศ ติดกับริมอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย มีทิวเขาขนาดใหญ่และแนวสนเรียงราย บอกเลยว่าบรรยากาศชิลล์ เหมาะกับการมาแคมป์ปิ้งมาก ซึ่งลานกางเต็นท์ที่นี่จะแบ่งเป็นล็อกๆ ราคา 200 บาท/คน/คืน ราคานี้รวมกิจกรรมต่างๆ ทั้งพายเรือคายัค พายซับบอร์ด ตกปลา
ในที่พักมีคาเฟ่ฟีลดี ดีไซน์เก๋ๆ เหมือนเรือที่ลอยอยู่บนน้ำ
มาถึงที่พักก็เป็นช่วงเย็นแล้ว เรารีบกางเต็นท์ให้เสร็จเรียบร้อย แล้วมาตั้งกระทะ เตรียมอุปกรณ์สำหรับปิ้งย่างในคืนนี้ ใครที่มาพักสามารถซื้อของมาทำแบบเราได้เลย สามารถจุดเตาแก๊สและประกอบอาหารง่ายๆ ได้ แต่ห้ามก่อกองไฟ หรือถ้าไม่สะดวกก็สามารถสั่งอาหารตามสั่งหรือสั่งเซ็ตหมูกระทะกับที่พักได้
การมาตั้งแคมป์กับเพื่อนถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราได้รู้จักกันมากขึ้น ได้มาใช้เวลาผ่านความเหนื่อยล้าและความสนุกด้วยกัน บวกกับอากาศเย็นสบาย มานั่งรับลม ฟังเรื่องราวกันและกัน บอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก และถ้าช่วงฟ้าเปิดที่มะหาด-ไทธารา โฮมสเตย์ เป็นจุดดูดาวที่สวยมากเลย
มะหาด-ไทธารา โฮมสเตย์
Good Morning เช้าวันที่ 2~ ตื่นมาพร้อมกับชาร์จพลังแบบเต็ม 100 เริ่มแรกในช่วงที่ยังไม่ร้อน เรามาพายเรือคายัคกันก่อน ซึ่งเรือนี้จะอยู่ริมน้ำ ใครที่เข้าพักสามารถเดินไปหยิบไม้พายและลากเรือลงน้ำได้เลย บรรยากาศดีมากๆ เห็นแนวทิวสนอย่างใกล้ชิด นึกว่าอยู่ต่างประเทศจริง
ออกกำลังกายยามเช้าแล้ว เราก็มานั่งทำอาหารง่ายๆ สำหรับสายแคมป์ได้แซนวิชและกาแฟร้อนๆ สักแก้วก็คอมพรีทแล้ว นอกจากนี้เรายังทำไข่กระทะด้วย เป็นเมนูทำง่าย อร่อย และใช้เวลาไม่นาน
ขับรถจากบ้านคามาเที่ยวต่อในโซนสวนผึ้ง แวะมาเช็คอินคาเฟ่น้องใหม่อย่างOliva View De’ Cafe คาเฟ่สวนผึ้งกับบรรยากาศที่เหมือนหลุดไปอยู่ต่างประเทศ มองเห็นขุนเขาแบบพาโนรามา วิวสวยไม่ธรรมดาจริงๆ ส่วนดีไซน์ร้านเป็นหมู่บ้านฝรั่งเศส เน้นใช้โทนสีอ่อนและคุมโทนไปในทางเดียวกัน ทำให้ถ่ายรูปออกมาสวยสุดๆ และทางร้านยังเซ็ตมุมถ่ายรูปไว้หลายจุดมาก เรียกได้ว่าเอาใจสายโซเชียลสุดๆ
มุมถ่ายรูปในร้านที่เป็นไฮไลท์ก็คือ Sky Wak ที่มีฉากหลังเป็นภาพแนวเขาเขียวสลับซับซ้อน บอกเลยว่าสวยจนต้องเช็คอิน! นอกจากนี้ยังมีที่นั่งบาร์ เปียโน ทางม้าลาย ม้าหมุน และอีกเพียบ ใครที่มาร้านนี้รับรองได้รูปกลับไปลงโซเชียลยาวๆ
อีกหนึ่งไฮไทล์ของทางร้าน คือ ต้นโอลีฟยักษ์ที่อายุกว่า 500 ปี ตั้งโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน
พื้นที่ในร้านกว้างมาก แบ่งเป็นโซนคาเฟ่ห้องแอร์และโซนร้านอาหาร เมนูในร้านมีทั้งอาหารไทย อิตาเลียน และฟิวชั่น ทุกจานปรุงมาอย่างพิถีพิถันและคัดสรรมาแต่วัตถุดิบคุณภาพ ถ้ามาแล้วอยากให้ลองไส้กรอกรวม ราคา 380 บาท มีทั้งไส้กรอกไก่ เนื้อ หมู สั่งมากินเล่นอร่อยเลย และที่แนะนำนำเลยก็คือตำหมี่กุ้งกรอบ ราคา 180 บาท เส้นหมี่กรอบทอดมาอย่างดี กรุบกรอบ ราดคู่กับน้ำยำแซ่บๆ เข้ากันที่สุด และข้าวอบสับปะรด ราคา 200 บาท เม็ดข้าวร่วนสวยผัดกับไข่และปรุงรสมาได้กลมกล่อม พร้อมอัดแน่นด้วยเครื่อง ต้องบอกเลยว่าอาหารของที่นี่รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องมาก
พิซซ่าฮาวายเอี้ยน ราคา 420 บาท ความพิเศษของเมนูนี้คือเป็นพิซซ่าโฮมเมดที่แป้งนำเข้าจากอิตาลี มีความหอมเตาถ่าน แป้งกรอบนอกนุ่มใน รวมถึงมีชีสเยิ้มๆ เพิ่มความฟินขั้นสุด
Oliva View De’ Cafe
มาดื่มด่ำความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติใน แก่งส้มแมว หรือสวนป่าสิริกิตต์ เป็นพื้นที่อนุรักษณ์ของกรมอุทยานแห่งชาติ ภายในมีต้นไม่ใหญ่นานาพันธุ์ รวมถึงเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้น (ประมาณ 1 กิโลเมตร) เอาใจคนรักธรรมชาติได้เสพความกรีนของป่าไม้ สูดอากาศบริสุทธิ์ และยังมีลำน้ำภาชีไหลผ่านโขดหิน ซึ่งจะมีลักษณะเป็นแก่ง ทำให้น้ำไม่แรงมาก สามารถลงเล่นได้
เป็นจุดเล่นน้ำคลายร้อนที่เด็กสามารถลงเล่นได้และเหมาะกับการมานั่งปิกนิกในวันหยุด
บรรยากาศร่มรื่นมาก โอบล้อมอยู่กลางธรรมชาติอย่างแท้จริง
พูดถึงไฮไลท์ของที่นี่ก็ต้องนกยูง เป็นอะไรที่ว้าวมากๆ เดินเล่นอยู่ดีๆ ก็ได้เจอนกยูงเดินอวดโฉมกันไปมา แล้วที่สำคัญน้องทุกตัวเป็นมิตร ไม่กลัวคน แต่เราก็ไม่ควรไปรบกวนน้องมากเกินไป ถ้าอยากถ่ายรูปก็อาจจะเว้นระยะห่างหน่อยและไม่ส่งเสียงดังเกินไป แต่แอบเสียดายตรงที่ครั้งนี้ไม่ได้เห็นนกยูงรำแพน ใครที่มาแล้วเจอนกยูงกำลังรำแพน ถือว่าโชคดีมากจริงๆ
นกยูงที่นี่มีเยอะมาก รวมถึงมีผีเสื้อหลากสายพันธุ์ แสดงให้เห็นถึงระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์
แก่งส้มแมว
มาปิดท้ายทริปที่ Camping Hill&Cafe คาเฟ่สวนผึ้งที่ตั้งอยู่บนเนินเขา มาพร้อมกับวิวแนวเขาสลับซับซ้อนและแนวทิวสนเขียวขจี ความอุดมสมบูรณ์และความสวยของที่นี่ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองสะปัน ราชบุรี” และในช่วงที่เรามาคือตอนเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน อากาศเริ่มเย็นสบาย และท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเป็น Vanilla Sky บรรยากาศดีมากจริงๆ ส่วนคาเฟ่เป็นแบบโอเพ่นแอร์ เปิดโล่งให้เห็นวิวแบบพาโนรามา
การตกแต่งร้านสไตล์มินิมอล เน้นโทนสีขาว ดูสบายตาสุดๆ
เมนูทางร้านมีทั้งของคาวและเครื่องดื่ม สำหรับเมนูอาหารจะเป็นสไตล์อิตาเลี่ยน ถ้ามาแล้วต้องสั่ง ซี่โครงหมูบาร์บีคิว ราคา 279 บาท เนื้อนุ่มร่อนกำลังดี รสชาติของซอสบาร์บีคิวซึมเข้าไปในเนื้อ มีความหวานและเผ็ดปลาย ส่วนสายเฮลตี้ต้องห้ามพลาด สลัดทูน่า ราคา 139 บาท ความพิเศษของเมนูนี้คือน้ำสลัดที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน มี 3 รสชาติทั้ง หวาน เปรี้ยว เผ็ด ราดใส่ผักกรอบๆ บอกเลยว่าอร่อยยกนิ้วเลย
นอกจากของคาวก็มีเครื่องดื่มให้เลือกมากมายทั้งกาแฟ ชา และโซดา
ชอบบรรยากาศของที่นี่มาก มองไปทางไหนก็เจอความกรีนของธรรมชาติ แถมยังเงียบสงบมากๆ
นอกจากส่วนของคาเฟ่ก็ยังมีที่พักสไตล์แคมป์ปิ้งด้วยนะ มีทั้งลานกางเตนท์และบ้านพัก สำหรับบ้านพักจะมีเพียงแค่ 2 หลังเท่านั้น บ้านทุกหลังหันหน้าเข้าหาธรรมชาติ วิวสวยมาก ส่วนลานกางเต็นท์จะอยู่บนเนินสูงให้วิวธรรมชาติแบบกว้างๆ แนะนำว่าถ้ามีเวลาให้ลองมานอนค้างสักคืน ให้ธรรมชาติช่วยดีท็อกซ์ความเหนื่อยล้า
Camping Hill&Cafe
จบไปแล้วกับ ทริปราชบุรี 2 วัน 1 คืน ลองอะไรใหม่ๆ เปิดพิกัดที่เที่ยวสุดว้าวที่ต้องมาตาม! สำหรับทริปนี้เราเน้นเที่ยวชิลล์ๆ ไปให้ธรรมชาติบำบัด และเอาใจสายแคมป์ปิ้งด้วยการกางเต็นท์พร้อมวิวของสายน้ำและเทือกเขา ตอบโจทย์พาเพื่อน ครอบครัว คนรักมาพักผ่อน ฟังเสียงป่าไม้ นอกจากนี้ยังไปเช็คอินจุดอันซีนของราชบุรีอีกหลายแห่ง และแวะคาเฟ่สวย บรรยากาศดี อิ่มอร่อยกับเมนูต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นทริปที่สามารถมาเที่ยวตามได้จริงและระยะเวลาเพียง 2 วัน 1 คืน ไม่ต้องลางาน วันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ก็มาเที่ยวราชบุรีให้ใจฟูได้ ~
สรุปค่าใช้จ่ายทริปราชบุรี 2 วัน 1 คืน ลองอะไรใหม่ๆ เปิดพิกัดที่เที่ยวสุดว้าวที่ต้องมาตาม!
Day : 1
Day : 2
รวมค่าใช้จ่ายต่อคน = 1,362 บาท (ค่าใช้จ่ายยังไม่รวมค่าน้ำมันและของฝาก)
เที่ยวสนุกกันเต็มอิ่มใน ทริปราชบุรี 2 วัน 1 คืน ลองอะไรใหม่ๆ เปิดพิกัดที่เที่ยวสุดว้าวที่ต้องมาตาม! นอกจากนี้ราชบุรียังมีจุดเช็คอินสวยๆ อีกมากมายให้มาตามที่ 10 ที่กิน ที่เที่ยวราชบุรี อัปเดตครึ่งปีหลัง 2022 ต้องไปเช็คอิน และแจกพิกัดร้านสวย บรรยากาศดีของราชบุรีกับ 10 ร้านอาหาร – คาเฟ่ราชบุรี อัปเดตใหม่รับปี 2024 ยื่นหนึ่งความชิลล์