Kaffa Bistro Ayutthaya ร้านอาหารอยุธยา เติมความสุขกับเมนูระดับห้าดาว
3,290 ครั้ง
6 มี.ค. 2567
3,290 ครั้ง
6 มี.ค. 2567
อยุธยา เมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางด้านการท่องเที่ยว ที่มีสถานที่ชื่อดังระดับโลก วัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มเชื้อชาติ และอาหารการกิน รวมทั้งวัตถุดิบที่แตกต่างกัน และแน่นอนว่าการมาเที่ยวอยุธยาหนึ่งในกิจกรรมที่นอกจากการเที่ยวแล้ว ก็คือการหาร้านอาหารดีๆ และถ้าให้พูดถึงร้านอาหารที่ตอบโจทย์ความเป็นอยุธยาผ่านการนำเสนอที่แปลกใหม่แตกต่างจากเดิม ด้วยเมนูอาหารที่มีให้เลือกถึง 200 เมนู ทริปเก็ทเตอร์ต้องขอแนะนำ Kaffa Bistro Ayutthaya ร้านอาหารอยุธยา เติมความสุขกับเมนูระดับห้าดาว ที่รับรองเลยว่า ร้านนี้จะมอบประสบการณ์พิเศษให้กับทุกๆ คนที่มาเยือนแน่นอน
Kaffa Bistro Ayutthaya ร้านอาหารอยุธยาคุณภาพเต็มร้อย ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง วัดใหญ่ชัยมงคล การันตีความอร่อยและความสร้างสรรค์ด้วยเชฟมากฝีมือ ประสบการณ์ 24 ปี ในห้องอาหารของโรงแรมระดับ 5 ดาว อีกทั้งร้านยังได้รับรางวัลระดับโลกในปีล่าสุดที่เรียกได้ว่าครบทุกด้านทั้ง Best Serveice, Best Atmosphere, Recommended, Exelent Pizza, Exelent Dessert และยังติด 1 ใน 10 Best Restaurant รวมทั้งได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 ใน Tripadvisor อีกด้วย (เข้าสู่ปีที่ 8 ด้วยรางวัลระดับโลกร่วม 30 รางวัล)
ความโดดเด่นที่เป็นไฮไลท์ของร้าน Kaffa Bistro Ayutthaya คือเมนูอาหารที่มีให้เลือกอยู่อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารนานาชาติ อาหารเจ รวมทั้งอาหารฟิวชั่น ซึ่งรวมแล้วมีกว่า 200 เมนู
มาเริ่มกันที่เมนูแรกกันอย่าง Black Pepper Pasta & Grilled Pork Loin เมนูเส้นสุดฮิตที่เป็นเส้นพาสต้าผัดด้วยพริกไทยดำที่มีความหอมและรสจัดจ้านที่เป็นเอกลักษณ์ เพิ่มความหอมด้วยเห็ดหอม เสิร์ฟคู่กับสะโพกหมูย่างที่นุ่มและรักษาความฉ่ำไว้ได้อย่างดี พร้อมเพิ่มความกลมกล่อมและนุ่มนวลในแต่ละคำด้วยชีสพาร์เมซาร์นที่ทางร้านจะขูดท็อปลงบนจานกันแบบสดๆ จานนี้ราคาเพียง 239 บาท
Juicy Pork Shoulder Steak & Grilled Pineapple + Sour Cream’n Onion Sauce สเต็กสันคอหมูที่มีรสสัมผัสลงตัวด้วยความกรอบนอกนุ่มในของส่วนมันที่ติดมากับสันคอหมูที่ผ่านการย่างจนกรอบ พร้อมเพิ่มความสดชื่นและตัดเลี่ยนด้วยสับปะรดย่างที่หวานฉ่ำ เสิร์ฟคู่กับซอสซาวน์ครีม & หัวหอมสุดกลมกล่อม ราคาอยู่ที่ 299 บาท
อีกหนึ่งเมนูสเต็กที่แนะนำให้ลอง อย่าง Kaffa Styled Cafe de Paris Pork Chop + Caramelized Apple & Citrus Green Apple’n Lime Sauce ที่ใช้เนื้อส่วนพอร์คช็อปชิ้นใหญ่ เพิ่มความหอมแสนละมุนที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยเนยคาเฟท์เดอร์ปารีส เนยระดับคุณภาพที่มีทั้งกลิ่นหอมของเนยผสมผสานกับกลิ่นของสมุนไพรหลากชนิด เสิร์ฟคู่กับซอสแอปเปิ้ลไลม์ที่ให้รสสัมผัสเปรี้ยวสดชื่น พร้อมด้วยชิ้นแอปเปิ้ลที่ผ่านการคาราเมลไลซ์ให้ออกรสชาติขมผสมกับหวานอย่างลงตัว จานนี้ราคาเพียง 333 บาทเท่านั้น
อีกหนึ่งเมนูพาสต้าที่อยากให้ลองเลยก็คือ พาสต้าชีส ที่เสิร์ฟคู่กับไข่กุ้งและไข่ปลาคาเวียร์ ซึ่งก่อนเสิร์ฟทางร้านจะนำเส้นพาสต้าไปผัดคลุกกับชีสก่อน เพื่อเพิ่มความกลมกล่อมและความหอม และก่อนกินให้เอาไข่กุ้งและไข่ปลาคาเวียร์ไปคลุกเคล้ากับพาสต้าในจาน ก่อนบีบเลม่อนเพื่อตัดรสชาติ บอกเลยว่าเมนูนี้นอกจากจะได้กินของอร่อยแล้ว ยังได้เห็นกรรมวิธีการปรุงอาหารเท่ๆ อีกด้วย
มาต่อกันกับเมนูอาหารที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของดีกรุงศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็น Prawn Thermidor กุ้งแม่น้ำสุดขึ้นชื่อที่นำมาสร้างสรรค์รสชาติและวิธีการปรุงให้มีกลิ่นอายความเป็นฝรั่งเศส เสิร์ฟคู่กับสลัดผักที่ใช้ผักคุณภาพปลอดสารพิษจากโครงการหลวง ราดน้ำสลัดงาญี่ปุ่น พร้อมกับขนมปังกระเทียม เลม่อน สับปะรดย่าง และมันฝรั่งทอด ราคาเมนูนี้เริ่มต้นที่ 550 บาท (ตามน้ำหนักของกุ้ง)
อีกหนึ่งวัตถุดิบของดีของอยุธยาที่มาแล้วต้องแนะนำให้ลองเลยก็คือ เนื้อแพะกรุงศรี ซึ่งทางร้าน Kaffa Bistro Ayutthaya ได้ใช้เนื้อแพะคุณภาพมาปรับสูตรเป็นเมนูอาหารสมัยใหม่เพื่อให้กินง่ายและมีความหลากหลาย อีกทั้งยังเป็นการชูวัตถุดิบที่มีคุณค่า
เมนู พิซซ่า 4 หน้า ที่ทางร้านปรุงสดและอบให้เห็นกันบนรถฟู้ดทรัคสุดคลาสสิกที่จอดอยู่ด้านหน้า พิซซ่าถาดยักษ์ที่มีเอกลักษณ์ของรสชาติที่แตกต่างกันถึง 4 สไตล์ (จากทั้งหมด 50 หน้า) ทั้ง พิซซ่าหน้า yes! เป็ด ซึ่งเป็นรสชาติสุดสร้างสรรค์ที่คิดค้นขึ้นโดยเจ้าของร้านและเชฟบอล เชฟจากมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ (และเชฟระดับประเทศอีกหลายท่าน) ต่อด้วยหน้าซาวน์ครีมแฮมเบคอนชีสที่ทั้งหอมและกลมกล่อม และอีก 2 หน้าที่ใช้เนื้อแพะกรุงศรี อย่าง หน้าโบโลเนสแพะกรุงศรีและหน้ายี่หร่าพริกทอดแพะกรุงศรี
เอาใจชาวแก๊งค์ด้วยเมนูเบอร์เกอร์ ซอส Cafe’ de Paris แพะกรุงศรี ที่เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา เพราะที่นี่เสิร์ฟมาแบบชิ้นใหญ่ท็อป 3 ชั้น ที่สามารถกินได้ 3 – 4 คนเลยทีเดียว เสิร์ฟคู่กับเฟรนซ์ฟรายทอดร้อนๆ บอกเลยว่าฟิน
ข้าวราดยี่หร่าแพะกรุงศรี เนื้อแพะสับที่เพิ่มความจัดจ้านด้วยรสชาติของยี่หร่า ท็อปด้วยไข่ดาวออนเซ็น โรยด้วยสาหร่ายและงาเพื่อเพิ่มความหอมและรสสัมผัสในการกิน
ต่อด้วย Aussie Tuna Salad เมนูสลัดทูน่าที่ใช้ซอสค็อกเทล โดยลูกค้าสามารถเลือกเครื่องเคียงหรือวัตถุดิบที่อยากใส่ในสลัดเพิ่มเติมได้เอง นอกจากนี้ทางร้านจะคลุกสลัดสดๆ เสิร์ฟแบบจานต่อจานอีกด้วย ราคาอยู่ที่ 105 บาท
นอกจากนี้ยังมีบุฟเฟ่ต์สลัดที่มีผักหลากหลายชนิดให้เลือก เอาใจสายรักสุขภาพอีกด้วย ที่สามารถตักและเติมได้แบบไม่อั้น
จัดเต็มเมนูอาหารกันไปแล้ว มาต่อกันกับเมนูของหวานที่มีให้เลือกกันแบบหลากหลายไม่แพ้กัน ซึ่งทางร้านมีเมนูขนมที่เวียนกันอยู่เสมอๆ ในแต่ละวัน รวมแล้ววันละกว่า 30 เมนู ทั้งครัวซองต์สี่เหลี่ยมที่ใช้เนยเกรด AOP จากนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส เค้ก ไอศกรีม มูสเค้ก ขนมไทยโบราณ ขนมไทยร่วมสมัย ไปจนถึงโยเกิร์ตเนื้อคัสตาร์ดละมุน
เริ่มเมนูของหวานกันด้วย East meet West เมนูฟิวชั่นที่ผสมผสานความหอมหวานอย่างไทยเข้ากับความละมุนละไมของขนมแบบตะวันตก อย่างขนมอาลัว ขนมไทยโบราณกรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นควันเทียนเสิร์ฟคู่กับบราวนี่ ราคา 119 บาท
Dark Choc Tiramisu เมนูขนมดั้งเดิมตามตำรับขนมโบราณของอิตาลี ซึ่งทางร้านเพิ่มความอร่อยเข้มข้นด้วยช็อกโกแลตพรีเมียมที่ส่งตรงจากเบลเยี่ยม ผสมผสานกับรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเหล้าคาลัว รวมทั้งชีสมัสคาโปน ชีสสุดละมุนของอิตาลีที่มีไม่รสชาติเปรี้ยวหรือเค็ม แต่จะได้ความกลมกล่อมจากนมแบบเต็มๆ ราคา 199 บาท
มาฟินกันต่อกับเมนูไอศกรีมสุดสดชื่น อย่าง วานิลลาพาฝัน ไอศกรีมวานิลลาที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Pafait เมนูขนมไอศกรีมเก่าแก่ของฝรั่งเศส ซึ่งทางร้านได้นำมาปรับเป็นสูตรตามสไตล์ของทางร้านเอง ท็อปด้วยบราวนี่ที่ใช้ช็อกโกแลตพรีเมียมจากเบลเยี่ยม พร้อมกับเครื่องเคียงที่หลากหลาย ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่โคนไอศกรีมจิ๋วที่ลูกค้าสามารถ D.I.Y. ตักไอศกรีมใส่ท็อปปิ้งได้อย่างเป็นตัวเอง และโคนไอศกรีมยังสามารถเติมได้เรื่อยๆ จนกว่าไอศกรีมจะหมดอีกด้วย ราคาอยู่ที่ชุดละ 99 บาทเท่านั้น
Trio Liquer เมนูไอศกรีมที่จะได้รสชาติกลมกล่อมและกลิ่นเฉพาะตัวจากเหล้า สามรถเลือกได้ 3 แบบ จากรสชาติที่มีอยู่มากถึง 10 แบบ ราคาอยู่ที่ 199 บาท
ปิดท้ายกันด้วยเมนูเครื่องดื่มเอาใจสายกาแฟกันก่อน ซึ่งกาแฟที่ Kaffa Bistro Ayutthaya ใช้เป็นกาแฟแบบอาราบิก้า 100% โดยปกติทางร้านจะใช้เมล็ดคั่วกลางเป็นหลักและมีเมล็ดแบบพิเศษมาหมุนเวียนเพื่อสร้างความแปลกใหม่ไม่จำเจ อีกทั้งชนิดของกาแฟยังมีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ออริจินอลอิตาเลียน แบบพิเศษเฉพาะของทางร้าน และ “Coffee’s World” กาแฟที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการรวบรวมเสน่ห์ของกาแฟแบบออริจินอลของแต่ละท้องถิ่นมารวมไว้
มาเริ่มกันที่ Coffee’s World เมนูแรกกันกับ Cañaranjaa เมนูกาแฟที่มีต้นแบบมาจากประเทศคิวบา ผ่านการนำเอสเปรสโซ่มาผสมกับความหวานที่มีเอกลักษณ์ของน้ำอ้อย ตัดด้วยความเปรี้ยวสดชื่นของน้ำส้มจี๊ด ราคาแก้วละ 79 บาท
เมนู 달고나 커피 (Dalgona Coffee) จากประเทศเกาหลี เป็นกาแฟลาเต้กลมกล่อมที่มีลูกเล่นสนุกๆ ด้วยแผ่นขนมน้ำตาลดัลโกนา ที่อยู่ในซีรีส์ดัง อย่าง Squid Game ที่ก่อนดื่มต้องใช้ช้อนตีให้แผ่นน้ำตาลแตกลงในแก้ว ราคา 89 บาท
เมนูสุดโดดเด่นจากเวียดนาม อย่าง Cà phê cốt dừa ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากซาปา เป็นการนำมะพร้าวมาปั่นยกลูก แล้วเพิ่มความเข้มด้วยฟองกาแฟเอสเปรสโซ่ลงไปในลูกมะพร้าว ราคา 135 บาท
นอกจากกาแฟแล้ว Kaffa Bistro Ayutthaya ยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเบียร์จากประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านที่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายจากผู้ผลิต ทำให้สามารถดื่มเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ในภาชนะที่เหมาะกับการสัมผัสรสชาติ อย่าง Kwak เบียร์หมวด Amber ที่ดังที่สุดในโลก หรือจะเป็น La Corne Dark เบียร์ดังจากเบลเยี่ยมที่มีหลายขนาน แต่ทางร้านได้เลือกเฉพาะเบียร์ดำมา เพราะรสสัมผัสของเบียร์ดำเข้ากับรสชาติของเมนูอาหารจากทางร้านมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีเบียร์ชนิดอื่นๆ ที่มีนับ 20 ชนิดให้เลือกกันอีกด้วย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 59 บาท
ในส่วนของไวน์ก็มีให้เลือกแบบจัดเต็ม ไม่ต่ำกว่าร้อยแบบ ซึ่งไฮไลท์ของ Kaffa Bistro Ayutthaya อีกหนึ่งอย่างก็คือบุฟเฟ่ต์ไวน์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นเพียงร้านเดียวในอยุธยาเลยก็ว่าได้ โดยบุฟเฟ่ต์ไวน์จะมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ ซึ่งแบบแรกคือบุฟเฟ่ต์แบบระยะเวลา 1.30 ชั่วโมง สามารถดื่มได้ทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง ราคาอยู่ที่ 699 บาท และแบบที่ 2 คือดื่มได้แบบยาวๆ ตั้งแต่ร้านเปิดจนร้านปิด ซึ่งราคาบุฟเฟ่ต์แบบที่ 2 นี้ไม่ถึงหนึ่งพันบาท หรือถ้าใครอยากดื่มสบายๆ ก็สามารถสั่งเป็นแก้วได้ในราคา 179 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ทางร้านยังมีเสิร์ฟ Vokda Short ที่เป็นการเสิร์ฟแบบที่รับรองว่าอาจจะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนแน่นอน เพราะจะมีพนักงานมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ ด้วยขั้นตอนสุดคลาสสิกด้วยการเอาอุปกรณ์ทุกอย่างเก็บไว้ที่สายคาด จากนั้นก็จะนำแก้วช็อตออกมา แล้วถูขอบแก้วด้วยมะนาวก่อนนำลงไปชุบเกลือ ตามด้วยเท Vokda ก่อนเสิร์ฟ ราคาอยู่ที่ช็อตละ 99 บาท
ดูเมนูอาหารและเครื่องดื่มกันไปแล้ว มาต่อกันกับบรรยากาศภายในร้าน ต้องบอกว่าถึงตัวร้านจะขนาดกำลังดี แต่ก็ได้บรรยากาศความคลาสสิกแบบเต็มร้อยด้วยการตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่ผสมผสานระหว่างความวินเทจเข้าด้วยกันแอนทีค ผนังด้านหน้าที่ติดกับถนนเป็นกระจกใสบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นด้านนอกได้แบบชัดเจน แถมยังทำให้ภายในร้านมีแสงสว่างและดูโปร่งอีกด้วย
ที่นั่งของร้านจะตั้งเรียงกันอยู่ในโถง แต่จะมีโซนเล็กๆ ที่ให้ความเป็นส่วนตัวแยกออกมา อย่าง โซนโซฟายาวที่มีฉากหลังเป็นวัตถุดิบประเภทเส้นต่างๆ บอกเลยว่ามุมนี้เหมาะกับการมานั่งกินของอร่อยๆ กันกับแก๊งค์เพื่อนหรือครอบครัวมากๆ
นอกจากส่วนของร้านอาหารแล้ว ถัดมาด้านข้างยังเป็นส่วนของร้านขายของเล็กๆ อย่าง Kaffa 100 un 1000 Yang ที่วางขายสินค้า เครื่องดื่ม และของใช้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถใช้ส่วนลดจากใบเสร็จค่าอาหารมาใช้เป็นส่วนลดได้
อีกทั้งรถฟู้ดทรัค Chill & Grill bu Kaffa ที่จอดอยู่ด้านหน้าร้าน ยังสามารถให้บริการถึงหน้าประตูบ้านของใครที่สนใจไม่ว่าจะเป็นการเหมาหรือขายหน้าร้าน โดยราคาอาหารจะถูกกว่ากินที่ร้านประมาณ 15% อีกด้วย
Kaffa Bistro Ayutthaya นับว่าเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารอยุธยาที่ควรค่ากับการมาใช้เวลาในมื้อพิเศษ เพราะนอกจากจะได้ลิ้มรสชาติความอร่อยของนานาเมนูอาหารแล้ว ยังสัมผัสและได้ชื่นชมความสวยงามบนจานอาหารผ่านการปรุงและการสร้างสรรค์ของแต่ละเมนู อีกทั้งการบริการของที่นี่ก็เรียกได้ว่าน่าประทับใจเป็นที่สุด ใครที่มีแพลนมาเที่ยวอยุธยาแล้วกำลังมองหาร้านอาหารระหว่างทริป ต้องไม่พลาดที่จะมาเช็คอิน Kaffa Bistro Ayutthaya เลย รับรองไม่มีผิดหวัง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ Kaffa Bistro Ayutthaya ร้านอาหารอยุธยา เติมความสุขกับเมนูระดับห้าดาว ใครมีแพลนมาเที่ยวอยุธยา ต้องรีบมาเช็คอินแล้วนะ สำหรับใครที่ยังไม่เริ่มวางแพลนที่เที่ยว เรามีทริปไหว้พระดีๆ มาฝากกันด้วย 10 วัดอยุธยา เที่ยวไหว้พระใกล้กรุงเทพ อิ่มบุญเสริมสิริมงคลช่วงปลายปี! หรือถ้าใครไม่มีรถส่วนตัวแต่อยากมาเที่ยวอยุธยาเหมือนกัน เราขอแนะนำ รีวิวนั่งรถไฟไปอยุธยา ด้วยราคา 20 บาท!