One Day Trip อ่างทอง สิงห์บุรี เที่ยวเมืองรองแสนสุขใจ แปะจุดเช็คสวยที่ต้องมา!!
2,949 ครั้ง
17 ส.ค. 2567
2,949 ครั้ง
17 ส.ค. 2567
วันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวชิลล์ๆ คนน้อยๆ ไม่วุ่นวาย ทริปเก็ทเตอร์ขอแนะนำให้ไปลองเช็คอิน เที่ยวเมืองรอง ใกล้กรุงเทพ อย่าง One Day Trip อ่างทอง สิงห์บุรี เที่ยวเมืองรองแสนสุขใจ แปะจุดเช็คสวยที่ต้องมา!! บรรยากาศเรียบง่าย แต่มากไปด้วยเสน่ห์ บอกเลยว่าได้รับความประทับใจกลับมาเต็มเปี่ยม ตามไปดูกันเลย
ออกเดินทางกัน!! ปักหมุด GPS มายัง อ่างทอง จังหวัดเล็กๆ ใกล้กรุงเทพที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่จริงๆ แล้วจังหวัดแห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยวัดวาอารามที่สวยงามและมาพร้อมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งกลิ่นอายของมนต์เสน่ห์วิถีชีวิตของชาวอ่างทองที่ผูกพันยึดโยงกับแม่น้ำ รอคอยให้เราเดินทางไปสัมผัส
สำหรับโลเคชั่นแรกใน One Day Trip อ่างทอง สิงห์บุรี ก็คือ วัดม่วง วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับ จ.อ่างทอง มาอย่างยาวนานตั้งอยู่ที่ ต.หัวสะพาน อ.วิเศษชัยชาญ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่สุดอลังการ วัดแห่งนี้จึงได้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายที่เราเดินทางมาชมความงามและกราบไหว้ขอพรกันในทริปนี้
หลวงพ่อใหญ่ หรือ พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ ก่ออิฐถือปูนฉาบทาสีทองตลอดทั้งองค์ ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 16 ปีเลยล่ะ!! มีขนาดหน้าตักกว้าง 62 เมตร สูงถึง 93 เมตร รูปลักษณ์งดงามสีทองอร่าม สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลๆ
เชื่อกันว่าหากได้มาสัมผัสที่ปลายพระหัตถ์ขององค์พระใหญ่ ท่านจะประทานพรให้เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน
จากการศึกษาประวัติความเป็นมาคร่าวๆ ว่ากันว่าเดิมทีวัดม่วงนั้นเคยเป็นวัดร้างที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แต่เมื่อครั้งเสียกรุง พม่าได้เผาทำลายไปเป็นจำนวนมาก วัดม่วงเลยเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง จนเมื่อ พระครูวิบูลอาจารคุณ (หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ) ได้ธุดงค์มาปฏิบัติธรรมที่นี่ และในระหว่างนั่งสมาธินั้น ท่านก็ได้นิมิตเห็นองค์หลวงปู่ขาวและหลวงปู่แดง มาบอกให้ช่วยบูรณะวัดขึ้นใหม่ หลังจากนั้นท่านก็ได้เริ่มการปฏิสังขรณ์มาเรื่อยๆ
พาทุกคนมาดูในส่วนของวิหารวัดม่วงกันบ้าง บอกเลยว่ามีความงดงามตระการตาสุดๆ มีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยกระจกที่ราวกับว่าสร้างด้วยเพชรพลอย งดงามมาก ใครมาเที่ยวอ่างทองก็อย่าลืมตามมาไหว้พระขอพร เพิ่มความเป็นสิริมงคลกันนะ
ไปนั่งจิบเครื่องดื่มชิลล์ๆ ชมวิวทุ่งนาเมืองอ่างทองกันที่ มะขามคาเฟ่ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับวัดม่วงเลย ที่นี่เป็นคาเฟ่เล็กๆ ริมทุ่งนามีมะขามต้นใหญ่อยู่กลางร้านคอยให้ร่มเงา บรรยากาศดีมาก มีสะพานไม้ทอดยาวลงไปกลางทุ่งนาให้เราได้ไปเดินเล่น แชะภาพสวยๆ กันอีกด้วย
ได้เห็นวิวทุ่งนาสวยๆ แบบนี้แล้วรู้สึกผ่อนคลายมากๆ ฟีลดีเว่อร์
ตัวร้านเป็นไม้ ตกแต่งสไตล์วินเทจ มีสองชั้นเปิดโล่งรับลมเย็นๆ ไฮไลท์สำคัญของคือวิวทุ่งนาสวยๆ ที่สีสันจะผันเปลี่ยนไปตามฤดูกาลการทำนา ด้านหลังวิวทุ่งนาก็จะเป็นหลวงพ่อใหญ่สีทองอร่ามที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดม่วงที่เราพึ่งไปไหว้ขอพรกันมานั่นเอง
ส่วนเมนูของที่นี่จะเน้นเป็นเครื่องดื่ม ก็จะมีทั้งกาแฟสด ชาต่างๆ รวมถึงเมนูอิตาเลียนโซดาซ่าๆ เย็นชื่นใจ
ได้จิบกาแฟนั่งชิลล์ฮีลใจ ชมวิวทุ่งนาแล้วรู้สึกเฟรชขึ้นมามากๆ เราขับรถจากอ่างทองมุ่งหน้าสู่ สิงห์บุรี ถิ่นวีรชนคนกล้า! ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงอีกหนึ่งโลเคชั่นในแพลน One Day Trip อ่างทอง สิงห์บุรี นั่นก็คือ ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน
ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ตั้งอยู่ภายใน วัดโพธิ์เก้าต้น ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน เรียกได้ว่ามาที่นี่ได้เที่ยวแบบครบรส ทั้งไหว้พระทำบุญ กินชิมช้อป ทั้งยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนอีกด้วยนะ ภายในตลาดจะมีทั้ง ร้านอาหาร ขนมไทยโบราณ เครื่องดื่ม ของแฮนด์เมด รวมไปถึงพืชผักและผลไม้สดๆ จากไร่ของชาวบ้าน ที่สำคัญคือพ่อค้าแม่ค้าต่างพากันแต่งตัวตามธีมย้อนยุคเป็นชาวบ้านบางระจัน ทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์และน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว
เหมือนได้ข้ามเวลาไปอยู่ในตลาดย้อนยุคโบราณจริงๆ เลย
ที่ตลาดก็มีร้านให้เช่าชุดไทยด้วยนะ ใส่มาถ่ายรูปแบบเก๋ๆ
นอกจากนี้ยังมีการแสดงต่างๆอีกด้วย เช่น การละเล่นพื้นบ้าน การแสดงเพลงฉ่อย การแสดงวีรกรรมชาวบ้านบางระจัน จากเด็กๆ ในชุมชน ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต้องปักหมุดมาที่นี่เลย นอกจากจะตะลุยกินอิ่มอร่อยแล้ว ยังได้รอยยิ้มกลับไปด้วยนะ สุดจะแฮปปี้~
หลังจากช้อปิ้งอิ่มหนำสำราญใจเป็นเรียบร้อยแล้ว ก่อนกลับกรุงเทพเราไปสักการะ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง วัดสวยสิงห์บุรี เป็นการปิด One Day Trip อ่างทอง สิงห์บุรี โดยวัดพิกุลทองตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน้อย อันเป็นสาขาของแม่น้ำเจ้าพระยา
ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร นั่นก็คือ พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี ขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก 7 นิ้ว สูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้ว ตั้งสูงเด่นสง่าสามารถมองเห็นจากที่ไกลๆ ได้เลย
สำหรับวัดพิกุลทองนั้นเรียกได้ว่าว่าเป็นวัดที่เป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในชุมชนอย่างมากเลยล่ะ ชาวบ้านมักจะเรียกวัดแห่งนี้อีกชื่อหนึ่งว่า วัดหลวงพ่อแพ หลวงพ่อแพ คือ อดีตเจ้าอาวาสที่ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธามาก เพราะหลวงพ่อแพท่านได้ทำประโยชน์แก่พุทธศาสนาไว้มากมาย และมีส่วนสำคัญในการช่วยให้วัดพิกุลทองสวยงามและไม่ชำรุดทรุดโทรมมาจนถึงทุกวันนี้
เข้ามากราบสักการะขอพร หลวงพ่อแพองค์ใหญ่ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหาร
และทั้งหมดนี้ก็คือ One Day Trip อ่างทอง สิงห์บุรี เที่ยวเมืองรองแสนสุขใจ แปะจุดเช็คสวยที่ต้องมา!! เป็นทริปเที่ยวแบบง่ายๆ สบายๆ ชวนเพื่อนไปด้วยก็ชิลล์ หรือไปคนเดียวก็คล่องตัวสุดๆ เดินทางง่าย ใกล้กรุงเทพขับรถไม่กี่ชั่วโมงก็ได้พบกับความสุข ความสโลว์ไลฟ์ และธรรมชาติที่สวยงาม แถมยังได้ไหว้พระเติมแต้มบุญกันอีกด้วย เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหาทริปสั้นๆ เสพบรรยากาศท่ามกลางความเงียบสงบ แต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหน ทริปเก็ทเตอร์ขอแนะนำ One Day Trip อ่างทอง สิงห์บุรี เที่ยวเมืองรองแสนสุขใจ เลยจ้า
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ One Day Trip อ่างทอง สิงห์บุรี เที่ยวเมืองรองแสนสุขใจ แปะจุดเช็คสวยที่ต้องมา!! เที่ยวเติมพลังก่อนไกลับไปทำงาน และสำหรับใครที่ตกหลุมรักบรรยากาศย้อนยุคๆ ทริปเก็ทเตอร์ขอแนะนำ 8 ตลาดบรรยากาศย้อนยุค ข้ามเวลาสัมผัสเสน่ห์พื้นเมือง เอาใจสายบุญด้วย 13 วัดพระองค์โต มโหฬาร ไหว้พระขอพรให้ชีวิตปัง