25 จุดเช็คอินจาก 5 จังหวัดโซนปริมณฑล เที่ยวง่ายเดินทางสะดวก เหมาะกับคนทั้งครอบครัว
55,141 ครั้ง
2 ม.ค. 2562
“อยู่กรุงเทพมานานหลายสิบปี เที่ยวจนครบเก็บหมดทุกที่ เสาร์อาทิตย์ทั้งทีก็คิดไม่ออกว่าจะไปไหน” ไม่ต้องกังวลไปจ้า!!! บอกเลยว่าโซนใกล้กรุงอย่าง 5 จังหวัดปริมณฑลก็มีที่เที่ยวสวยบรรยากาศดี ให้เลือกไปชิลล์กันมากมาย ที่สำคัญยังเดินทางแป๊ปเดียวเหมือนเที่ยวโซนในกรุงเทพนั่นแหละ วันนี้ทริปเก็ทเตอร์เลยมี 25 จุดเช็คอินโซนปริมณฑล เที่ยวได้ทั้งครอบครัวมาฝากกัน คัดมาแบบเด็ดๆ จังหวัดละ 5 จุด น่ามาเก็บให้หมดทุกสุดสัปดาห์กันเลย…
l สมุทรปราการ l
1.บางกระเจ้า, สมุทรปราการ
( Bangkrajao )
เริ่มต้นกันแบบกรีนๆ ที่ บางกระเจ้า พื้นที่สีเขียวใกล้กรุงที่ถูกขนานนามให้เป็น ปอดของเมือง ที่นี่แวดล้อมด้วยป่าสีเขียวกว่า 12,000 ไร่ แถมยังอยู่เลียบกับแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ด้านหลังเป็นฉากตึกสูงสุดเฟื่องฟู และได้ถูกยกใ้ห้เป็นป่ากลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ส่วนกิจกรรมก็มีมากมายให้ชิลล์ ทั้งการเดินชมธรรมชาติ ปั่นจักรยาน และนั่งกินเมนูอร่อย บรรยากาศชิลล์ๆ จากคาเฟ่และร้านอาหาร นอกจากนี้ยังมีที่พักให้เลือกมาพักผ่อนค้างคืนกันอีกมากมาย
Location: ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 8.00 – 17.00 น.
Fee: ไม่เสียค่าบริการ
2.บางปู, สมุทรปราการ
( BangPu )
บางปู สถานตากอากาศขวัญใจชาวกรุงเทพ เดินทางง่ายสะดวกสบายสามารถลงรถไฟฟ้าแล้วต่อแท็กซี่มาได้ไม่ไกล ที่นี่เป็นพื้นที่ป่าชายเลนและทะเล มีสะพานคอนกรีตทอดยาวไปกลางน้ำและมีอาคารต่างๆ ซึ่งเป็นร้านอาหารมากมายให้ผู้คนได้มานัดพบกัน คนส่วนใหญ่นิยมมาที่นี่เพื่อมากินบรรยากาศรับลมยามเย็น ชมแสงพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติก และอีกหนึ่งกิจกรรมก็คือการป้อนอาหารนกนางนวลที่อพยพหนีความหนาวมา ซึ่งจะมีเฉพาะเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์เท่านั้น
ขอบคุณรูปภาพ : สถานตากอากาศบางปู
Location: ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 5.00 – 20.00 น.
Fee: ไม่เสียค่าบริการ
3.สะพานภูมิพล, สมุทรปราการ
( Bhumibol Bridge )
สะพานภูมิพล อีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ใครหลายคนมักจะมาชมความงามของแสงพระอาทิตย์ตกยามเย็น สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ 2538 เพื่อต้องการให้ผู้คนเดินทางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เชื่อมต่อจังหวัดกรุงเทพและสมุทรปราการเข้าด้วยกัน และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2549 บริเวณใต้สะพานถูกออกแบบให้เห็นสวนสาธารณะ มากมายด้วยต้นไม้ และมุมออกกำลังกาย ช่วงเย็นบรรยากาศดีมาก ตัวสะพานจะเปิดไฟสวยสะท้อนกับผืนน้ำ ถูกยกให้เป็นสะพานที่สวยที่สุดในไทยอีกแห่งหนึ่ง
Location: อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 5.00 – 21.00 น.
Fee: ไม่เสียค่าบริการ
4.เมืองโบราณ, สมุทรปราการ
( Muang Boran – The Acient City)
ขอพาย้อนเวลามาเรียนรู้ชมบรรยากาศเก่าๆ ที่ เมืองโบราณ กันบ้าง ที่นี่เป็นที่ท่องเที่ยวที่จำลองสถานที่สำคัญต่างๆ ของไทยจากทั่วประเทศมารวบรวมไว้ เกิดขึ้นเป็นอีกเมืองได้อย่างสมจริง ส่วนบรรยกาศก็ดีไม่เบา แวดล้อมด้วยสวนและบ่อน้ำที่เป็นสายยาวเชื่อมกันทั้งบริเวณ แถมยังมีตลาดน้ำซึ่งเคยใช้ถ่ายละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ให้เราช้อปปิ้งและกินเมนูโบราณอร่อยๆ ซึ่งเราจะเลือกเดิน ปั่นจักรยาน หรือนั่งรถรางไปชมก็ชิลล์ไม่แพ้กัน ช่วงเย็นอากาศดีมากเที่ยวได้ทั้งครอบครัวกันเลย
Location: 296 1 หมู่ 7 ถ.สุขุมวิท ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 9.00 – 19.00 น.
Fee: ผู้ใหญ่ 350 บาท / เด็ก 6-14 ปี 175 บาท
Phone: 02 323 4094-9
Facebook: เมืองโบราณ l The Ancient City
5.ฟาร์มจรเข้, สมุทรปราการ
( Samut Prakarn Crocodile Farm and Zoo )
และถ้าหากพูดถึงที่พักผ่อนของสมุทรปราการจะลืมที่นี่ไปไม่ได้ ฟาร์มจรเข้ ที่นี่เป็นสวนสัตว์ที่เปิดบริการมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 เป็นสถานที่เพาะเลี้ยงจรเข้กว่า 40,000 ตัว และถูกจัดอันดับให้เป็นฟาร์มจรเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังมีสัตว์อื่นๆ ให้ชมมากมายทั้ง เสือ ช้าง ฮิปโป และสัตว์เลื้อยคลานอีกหลายชนิด และสิ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่ก็คือการชมโชว์ระหว่างคนและจรเข้ ที่สร้างทั้งความหวาดเสียวและเสียงหัวเราะในเวลาเดียวกัน รับรองว่ามีความสุขกันทั้งครอบครัวอย่างแน่นอน
ขอบคุณรูปภาพ : สมุทรปราการเมืองน่าอยู่
Location: 555 ต.ปากน้ํา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 07.00-18.00 น.
Fee: ผู้ใหญ่ 80 บาท / เด็ก 40 บาท
Phone: 02 703 4891
l ปทุมธานี l
6.ตลาดระแหง 100 ปี, ปทุมธานี
( Raheang 100 years market )
ตลาดระแหง ตลาดสุดคลาสสิกที่มีอายุยาวนานมากว่า 100 ปี ที่นี่ตั้งอยู่บริเวณชายคลองระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว โดดเด่นในเรื่องบรรยากาศที่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่ายและดั้งเดิม สองฝั่งทางมากมายด้วยร้านของกิน ของที่ระลึก และวิถีชีวิตที่ยังคงไว้ได้อย่างอันซีน มีทั้งร้านตัดผม ร้านยาจีน และร้านอุปกรณ์การเกษตรแบบพื้นบ้าน ที่ค่อนข้างจะหาชมได้ยากในสมัยนี้ ที่สำคัญยังมีสะพานไม้สวยๆ ให้ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันอีกหลายมุมเลยนะ
Location: อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 06.00-15.00 น.
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม
7.สวนสนุกดรีมเวิลด์, ปทุมธานี
( DreamWorld Amusement Park)
ดรีมเวิลด์ ชื่อนี้แค่ได้ยินความสุขก็กระจายออกมาแล้ว สวนสนุกแห่งนี้เปิดให้บริการมากว่า 25 ปี ตั้งอยู่บนถนนสายรังสิต-นครนายกเดินทางง่าย บนพื้นที่สุดกว้างขวางกว่า 160 ไร่ บรรยากาศร่มรื่นแวดล้อมด้วยสวนดอกไม้และบ่อน้ำขนาดใหญ่ในใจกลาง มากมายด้วยเครื่องเล่นที่ได้มาตรฐานกว่า 30 ชนิด ทีเด็ดต้องยกให้ไวกิ้ง ทอร์นาโด และฮอริเคน และนอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ และบ้านหิมะให้มาคลายร้อน แถมยังมีการแสดงแอ็คชั่นและพาเหรดให้ตื่นเต้นกันทุกวัน
Location: 62 หมู่ 1 ถ.รังสิต-องค์รักษ์ กม.7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน จ-ศ 10.00 – 17.00 น. / ส-อา และวันหยุดราชการ 10.00 – 19.00 น.
Fee: ราคาเริ่มต้น 200 – 600 บาท
Phone: 02 577 8666
Website: สวนสนุกดรีมเวิลด์ l DreamWorld Amusement Park
8.กระท่อมลุงจรณ์, ปทุมธานี
( Uncle Chorn’s Cabin )
ต่อกันที่ กระท่อมลุงจรณ์ จุดเช็คอินสไตล์กรีนๆ เอาใจคนรักแคคตัส ที่นี่เป็นฟาร์มกระบอกเพชรขนาดใหญ่ ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 จนถึงตอนนี้ก็ร่วมกว่า 40 ปี ที่นี่รวบรวมกระบอกเพชรมากกว่า 2,000 สายพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะน้ำเข้าจากต่างประเทศทั้งสิ้น ซึ่งเปิดให้ทุกคนเข้ามาชม ศึกษา หรือจะมาถ่ายรูปก็ได้อย่างอัธยาศัย ที่สำคัญยังโซนจำหน่ายสามารถซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเลี้ยงดูได้อีกด้วย
Location: 81/6 หมู่ 2 ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
Open-Close: เปิดบ้าน อา-อ 08.00-17.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม
Phone: 086 525 6874 (ต้องโทรแจ้งล่วงหน้า)
Website: กระท่อมลุงจรณ์ l Uncle Chorn’s Cabin
9.บ้าน ๑,๐๐๐ ไม้ คาเฟ่ แอนด์ ฟาร์ม, ปทุมธานี
( BaanPunMai Cafe and Farm )
บ้าน ๑,๐๐๐ ไม้ คาเฟ่ แอนด์ ฟาร์ม ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินบรรยกาศสีเขียวสไตล์ธรรมชาติ ที่นอกจากจะเป็นคาเฟ่ให้มานั่งจิบกาแฟสูดโอโซนกันแล้วนั้น ยังเป็นพื้นที่ให้เด็กๆ มาเรียนรู้วิถีชีวิตแบบเกษตรกรรม ใช้ชีวิตเรียบง่ายตามแนวเศรษฐกินพอเพียงของในหลวง ส่วนกิจกรรมก็มีให้สนุกสนานมากมาย ทั้งการดำนา เกี่ยวข้าว เก็บไข่ ต้อนเป็ดเข้าเล้า ที่เด็กๆ จะได้สนุกกันแบบอิสระสร้างความรู้และจินตนากรกันอย่างเต็มที่ ส่วนคาเฟ่ก็เด็ดไม่เบามีมุมสวยๆ ให้เลือกเยอะ เรียกว่าถูกใจทั้งครบครัวอย่างแน่นอน
Location: 48/8 หมู่ 6ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
Open-Close: เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ 9.00 – 17.00 น.
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม
Phone: 091 998 2466
Facebook: บ้าน ๑,๐๐๐ ไม้ คาเฟ่ แอนด์ ฟาร์ม l BaanPunMai Cafe and Farm
10.บ้านศาลาแดงเหนือ, ปทุมธานี
( Baan Saladeangnuar )
บ้านศาลาแดงเหนือ ชุมชนสุดอบอุ่นที่มากด้วยมนต์เสน่ห์ ที่เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสวีถีชีวิตในดั้งเดิม ชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นชุมชนที่รวมเอาสองวัฒนธรรมระหว่างไทยและมอญมาอยู่ด้วยกันจนเป็นเอกลักษณ์ มากมายด้วยวัฒนธรรม ประเพณี อาหารพื้นถิ่น และความพิเศษอย่างภาษาที่คนในชุมชนบางส่วนก็ยังพูดภาษามอญกันอยู่ ส่วนกิจกรรมสนุกๆ ก็มีมากมายทั้งการปั่นจักรยานชมชุมชน ซื้อผลิตภัณฑ์ของฝากต่างๆ และที่ต้องไม่พลาดกับการนั่งเรือชมวิววัดสวยเลียบแม่น้ำ มาที่นี่ได้ทั้งความสนุกและความรู้กลับไปกันแบบเต็มๆ
Location: ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม
Facebook: ท่องเที่ยววัฒนธรรมวิถีชีวิตไทย-มอญ
l นครปฐม l
11.หอภาพยนตร์ เมืองมายา, นครปฐม
( Thai Film Archive )
หอภาพยนต์ เมืองมายา หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ พิพิธภัณฑ์ภาพยนต์ไทย ที่นี่ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 5 เดินทางง่าย ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นจุดเช็คอินที่ให้ความรู้ในเรื่องของภาพยนต์ไทย ดีไซน์พื้นที่และสถาปัตยกรรมเหมือนพาเราย้อนยุคไปในอดีต ภายในมากมายด้วยโซนต่างๆ มีทั้งหอภาพยนต์ นิทรรศการ ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ทุกอย่างของหนังไทยให้เรียนรู้ แถมยังมีการจำลองโรงหนังระดับโลกและมุมสวยต่างๆ ให้เราถ่ายรูปกับเพียบ ที่สำคัญยังมีหนังดีๆ มาฉายให้ชมอีกด้วยนะ
Location: 94 หมู่ 3 ถนนพุทธมณฑล สาย 5 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 17.00 น.
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม
Phone: 02 482 2013 -14
Facebook: หอภาพยนตร์ l Thai Film Archive
12.พระราชวังสนามจันทร์, นครปฐม
( Sanam Chan Palace )
พระราชวังสนามจันทร์ สถานที่ท่องเที่ยวสุดสวยมากด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่นี่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 ตั้งอยู่ในเขตของมหาวิทยาลัยศิลปากร ภายในบรรยากาศร่มรื่นประดับตกแต่งด้วยสวนหย่อม และตึกที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น ทั้งพระที่นั่ง พระตำหนัก และมุมภาพจำอย่าง พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ ปราสาทสีเหลืองที่ผสมผสานศิลปะระหว่างเรอเนซองส์และแบบฮาลฟ์ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีมุมให้เดินเล่นปิคนิกและโซนออกกำลังกาย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินปอดใกล้กรุงที่ไม่ควรพลาด
Location: ถ.ราชมรรคาใน ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 9.00 – 16.00 น.
Fee: ผู้ใหญ่ 30 บาท / นักเรียน-นักศึกษา 10 บาท / ชาวต่างชาติ 50 บาท
Phone: 03 424 4236 ,03 424 4238-9
13.สวนสามพราน, นครปฐม
( Sampran Riverside )
สวนสามพราน หรือ สามพรานริเวอร์ไซด์ แหล่งท่องเที่ยสไตล์กรีนๆ มากด้วยกิจกรรมสนุก ที่ตั้งอยู่ในโลเคชั่นสวนสวยริมแม่น้ำท่าจีน บรรยากาศสุดแสนจะธรรมชาติ ที่นี่มากมายด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีทั้งเวิร์คชอป ร้อยมาลัย ปั้นดิน จักสานใบมะพร้าว และสำหรับสายกินก็ต้องไม่พลาดชมสวนออร์แกนิกและคอร์สเรียนทำอาหารไทย หรือสำหรับสายชิลล์ก็มีจักรยานและเรือให้ชมวิวธรรมชาติและบ้านเรือนไทย และปิดท้ายด้วยการช้อปสินค้าผักปลอดสารกลับไปปรุงกันที่บ้าน เรียกว่าได้ทั้งความรู้ ความสนุกสนาน ถูกใจทุกคนในครอบครัวอย่างแน่นอน
Location: กม. 32 ถ.เพชรเกษม อ.สามพราน จ.นครปฐม
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 8.00 – 18.00 น.
Fee: คนละ 200 บาท
Phone: 081 359 5976, 03 432 2588-93
Facebook: สวนสามพราน l Sampran Riverside
14.ตลาดน้ำดอนหวาย, นครปฐม
( Don Wai Floating Market )
และอีกหนึ่งจุดเช็คอินบรรยากาศเย็นๆ ริมแม่น้ำท่าจีน ตลาดน้ำดอนหวาย ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดเก่าที่ยังคงบรรยากาศสมัยรัชกาลที่ 6 ได้อย่างมีเสน่ห์ ภายในมากมายด้วยอาคารทรงวินเทจให้เราถ่ายรูป และของเด็ดที่แน่นอนว่าต้องเป็น อาหาร ของฝาก และผลไม้ขึ้นนชื่ออย่าง ส้มโอนครปฐม ที่ชาวบ้านนำมาสดๆ จากสวนโดยตรง นอกจากนี้ยังมุมท่าน้ำให้มานั่งชมวิถีชีวิตชาวเรือ ให้อาหารปลาชิลล์ๆ ที่สำคัญยังมีวัดให้มานั่งทำสมาธิพักผ่อนกันอีกด้วย
Location: วัดดอนหวาย ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 7.00 – 18.00 น.
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม
15.อุทยานแมลงเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, นครปฐม
( His Majesty The King Insect Park )
อุทยานแมลงเฉลิมพระเกียรติ จุดเช็คอินบรรยากาศสีเขียว ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ภายในถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่โซนพิพิธภัณฑ์ ที่มีการจัดแสดงแมลงสตัฟฟ์พันธ์หายากจากทั่วทุกมุมโลก และโซนที่สอง จะเป็นโดมแมลงขนาดใหญ่ ที่ได้รับรองว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในจำลองบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างสมจริง มีต้นไม้ใหญ้ สวนดอก บ่อน้ำ และแมลง ที่จะโบยบินกันอย่างอิสระ ให้เราศึกษาและเก็บภาพได้อย่างเต็มอิ่ม
Location: 1 ม.6 ถ.มาลัยแมน ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
Open-Close: เปิดบริการ จ-ศ 8.30 – 16.30 น. (ช่วงนี้เสาร์-อาทิตย์ กำลังปรับปรุง)
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม
Phone: 02 942 8010-9
Facebook: อุทยานแมลงเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว l His Majesty The King Insect Park
l นนทบุรี l
16.เกาะเกร็ด, นนทบุรี
( Koh Kred )
เกาะเกร็ด ชุมชนขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มากมายด้วยเอกลักษณ์และมนต์เสน่ห์ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน ภายในบรรยากาศเย็นสบาย มากมายด้วยร้านค้า ของกิน ของใช้แบบพื้นถิ่นให้เลือกจับจ่าย ส่วนเมนูเด็ดที่มาเยือนแล้วต้องลองชิมก็คือทอดมันหน่อกะลาและดอกไม้ทอดหลากสายพันธ์ุ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีชุมชนเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งเราสามารถมาลองปั้นขึ้นรูป และซื้อกลับบ้านได้ด้วย ส่วนกิจกรรมชิลล์ก็มีเยอะ ทั้งปั่นจักรยาน หรือจะนั่งคาเฟ่ริมน้ำชิลล์ๆ ก็มีให้เลือกเยอะ เรียกว่าอยู่ได้ตั้งเช้ายันเย็นกันเลย
Location: ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นครปฐม
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 9.00 – 17.30 น.
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม (มีค่าเรือข้ามฝากคนละ 2 บาท)
17.ชมเฌย, นนทบุรี
( Chomchei )
ต่อกันที่จุดเช็คอินสไตล์วินเทจเอาใจสาวๆ กันบ้าง ชมเฌย ที่นี่เป็นสตูดิโอชุมชนถ่ายภาพย้อนยุคบนเนื้อที่ 6 ไร่ ที่จำลองให้เป็นเมืองเล็กๆ ในยุค 80s สุดแปลกตา ภายในถูกแบ่งออกเป็นหลายโซน มีทั้งร้านตัดเสื้อ โรงหนัง และปั๊มน้ำมัน ซึ่งแต่ละจุดก็เคยเป็นโลเคชั่นในการถ่ายหนังมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีมุมริมน้ำและสะพานให้โพสต์อีกหลายจุด ที่สำคัญยังมีร้านคาเฟ่ให้นั่งตากแอร์ จิบเมนูอร่อยๆ แก้เหนื่อยกันอีกด้วย เป็นที่เที่ยวที่สายเซลฟี่ไม่ควรพลาด เมมเต็มกันอย่างแน่นอน
Location: 68 หมู่ 4 ซ.กำนันทินกร ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
Open-Close: เปิดบริการ อ-ศ 10.00 – 18.00 น. / ส-อา 10.00 – 19.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์ )
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม
Phone: 089 415 2038
Facebook: ชมเฌย l Chomchei
18.อุทยานมกุฏรมยสราญ, นนทบุรี
( Makut Rommayasaran Park )
ขอมาพักผ่อนแบบชิลล์ๆ กันบ้าง อุทยานมกุฏรมยสราญ ที่นี่เป็นสวนสุขภาพเพื่อนการอนุรักษร์ธรรมชาติ ที่ปลีกตัวจากความวุ่นวายหลักบริเวณศาลหลักเมืองนนทบุรี ภายในแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่เขียวจากทุกมุม มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ ช่วงเย็นอากาศเย็นสบายสุดๆ มากมายด้วยจุดออกกำลังกาย มีทั้งลู่วิ่ง เครื่องเล่นสำหรับเด็ก และลานกว้างสำหรับทำกิจกรรม นอกจากนี้ยังมากมายด้วยพันธุ์ไม้ ที่เราสามารถไปทำความรู้จักและศึกษาได้อีกด้วย หากเสาร์อาทิตย์ไม่รู้จะไปไหนอยากมาปิกนิคชิลล์ๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย
Location: ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี
Open-Close: เปิดบริการทุกวันตามเวลาราชการ
Fee: ไม่เสียค่าบริการ
19.ตลาดน้ำบางคูเวียง, นนทบุรี
( Bang Khu Wiang Float Market )
และมาเมืองนนทั้งทีจะลืมตลาแห่งนี้ไปไม่ได้ ตลาดนน้ำบางคูเวียง ที่นี่เป็นตลาดเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณปากคลองบางคูเวียง ระหว่างวัดโบสถ์บนและวัดโพธิ์เอน ภายในให้ความรู้สึกเรียบง่าย อาจไม่คึกคัดมากมายนัก แต่ได้เห็นถึงเสน่ห์และวีถีชีวิตแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้และพืชผัก ที่ชาวบ้านจะนำวางขายกันโดยตรง นอกจากนี้ในทุกวันยังมีพระสงฆ์ที่ออกมาบิณบาตให้เราใส่บาตรทำบุณกันยามเช้า ที่นับเป็นอีกหนึ่งความคลาสสิกและค่อนข้างเห็นได้ยากในสังคมปัจจุบัน
Location: ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 6.00 – 8.00 น. (หลังจากนี้ตลาดจะเริ่มวาย)
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม
20.ตูนนีย์ ทอย มิวเซียม, นนทบุรี
( Tooney Toy Museum )
ตูนนีย์ ทอย มิวเซียม พิพิธภัณฑ์ของเล่นสุดน่ารัก ที่รวบรวมของเล่นจากทั่วมุมโลกมาไว้ยังที่แห่งนี้ ตัวอาคารมาในทรงสีขาวแบบเรียบง่าย ด้านหน้ามีสนามเด็กลเ่นให้น้องๆ ได้ประเดิมกันก่อน ส่วนภายในแบ่งออกเป็นหลายโซน มากมายด้วยตุ๊กตุ๋นตัวเล็กตัวใหญ่จากการ์ตูนในเรื่องต่างๆ ทั้งค่ายดิสนีย์ มาเวล และการ์ตูนญี่ปุ่น ที่เจ้าของร่วมกันสะสมมากกว่า 20 ปี ที่สำคัญยังมีโมเดลลิมิเต็ดอิดิชั่นอย่างเจ้า มิกกี้เมาส์พินอคโอ ตัวใหญ่ที่มีเพียง 10 ตัวบนโลกให้ยลโฉมถ่ายรูปกันอีกด้วย
Location: ซ.ศรีสมาน 8 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 11.00 – 22.00 น.
Fee: ผู้ใหญ่ 150 บาท / เด็ก 100 บาท / ชาวต่างชาติ 300 บาท
Phone: 089 103 6303
Facebook: ตูนนีย์ ทอย มิวเซียม l Tooney Toy Museum
l สมุทรสาคร l
21.ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์, สมุทรสาคร
( Phanthai Norasing Floating Market )
ใครจะคิดว่าเมืองสมุทรสาคมแห่งนี้ ก็มีตลาดน้ำให้มาพักผ่อนกันด้วย ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์ ตลาดแห่งนี้ถึงจะอยู่ริมน้ำแต่ให้บรรยากาศและสเหน่จากที่อื่น เพราะรอบด้านเป็นคลองและป่าชายเลน ภายในตลาดมากมายด้วยของฝากจากชุมชน ของกินพื้นถิ่นอร่อยๆ ที่มีทั้งร้านค้าและร้านบนเรือให้เลือกชิม มากมายด้วยมุมนั่งพักผ่อนหรือหากว่าใครเมื่อยๆ ก็มีบริการนวดสมุนไพรให้ผ่อนคลายกันด้วย
ขอบคุณรูปภาพ : คู่มือท่องเที่ยวตำบลพันท้ายนรสิงห์
Location: ม.3 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
Open-Close: เปิดบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 8.00น. – 17.00 น.
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม
22.ป่าชายเลนพันท้ายนรสิงห์, สมุทรสาคร
( Phanthai Norasing Mangrove forest )
ป่าชายเลนพันท้ายนรสิงห์ ป่าชายเลนใกล้กรุงที่ไม่ไกลจากตลาดริมคลองพันท้ายมากนัก ที่นี่ตั้งอยู่บริเวณหลังศาลพัรท้ายนรสิงห์ ส้รางขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ โดยมีทางเดินเป็นเส้นยาวพาเราไปหาความรู้ในมุมต่างๆ บรรยากาศสองฝั่งหนาแน่ด้วยไม้โกงกาง อากาศเย็นสบาย ส่วนมุมชายเลนก็มีปูแสมและปลาตีนคอยอวดโฉมอย่างน่ารัก นอกจากนี้ยังมีศาลาให้นั่งพักผ่อน และที่พลาดไม่ได้ก็ต้องแวะถ่ายรุปกับถ่ายเดินสวยๆ และสะพานแขวนกันเป็นที่ระลึก
Location: ม.3 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
Open-Close: เปิดบริการทุกวันตามเวลาราชการ
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม
23.สะพานแดง, สมุทรสาคร
( Sapan Deang )
อีกหนึ่งจุดเช็คอินป่าชายเลนบรรยากาศสีเขียว สะพานแดง หรือที่เราเรียกกันว่าจุดชมวิวปลาโลมา ที่นี่ตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าพ่อมัจฉานุ เป็นสะพานไม้สีแดงบนเสาปูนที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นแนวชะลอคลื่น ตัวสะพานทอดยาวออกไปกลางทะเลมีความยาวกว่า 700 เมตร ด้านหลังเป็นป่าชายเลนสีเขียว ช่วงเย็นคนนิยมมาชมแสงพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติก และอีกหนึ่งไฮไลท์ในช่วงเดือนพฤศจิกายจนถึงมกราคม จะมีฝูงปลาโลมาว่ายมาแวะเวียนนักท่องเที่ยวอีกด้วย อันซีนสุดๆ
Location: ม.8 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
Open-Close: เปิดบริการทุกวันตามเวลาราชการ
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม
24.สวนน้ำพันท้ายนรสิงห์, สมุทรสาคร
( Phanthai Norasing Waterpark )
และใครจะรู้ว่าเมืองน้ำกร่อยแห่งนี้ ก็มีสวนน้ำให้มาพักผ่อนกันด้วย สวนน้ำพันท้ายนรสิงห์ สวนน้ำขนาดใหญ่บนพื้นกว่า 80 ไร่ที่มาในตีมไดโนเสาร์แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ภายในแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่โซนของเด็กและโซนสำหรับผู้ใหญ่ มากมายด้วยสระที่หลากหลายและเครื่องเล่น ทั้งสไลเดอร์ บ้านลม และโซนน้ำพุ ที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสำหรับครอบครัว ที่เหมาะกับอากาศของไทยเป็นที่สุด
Location: 9/9 ม.3 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง สมุทรสาคร
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน จ-ศ 11.00 – 19.00 น. / ส-อา 9.00 – 20.00 น.
Fee: ผู้ใหญ่ 400 บาท / เด็ก 300 บาท / เด็กสูงไม่เกิน 90 ซม. และผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป เข้าฟรี
Phone: 085 177 7277
Facebook: สวนน้ำพันท้ายนรสิงห์ l Phanthai Norasing Waterpark
25.พระกลางน้ำ, สมุทรสาคร
( Phra Klang Nam )
ปิดท้ายกันด้วยความอันซีนอีกสักหนึ่งที่ พระกลางน้ำ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ศาลาพระกลางน้ำ ศาลาแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2541 ซึ่งเมื่อก่อนเป็นเพียงหอสังเกตุคุณภาพน้ำและเอาไว้เผ้าหอยแมลงภู่ จนเกิดการพังทลายและได้สร้างใหม่เลยนำ พระพุทธมหาสมุทร มาประดิษฐานและสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือไปสักการะ และชมวิวชมธรรมชาติยามเย็นกันได้ด้วย โดยต้องสั่งอาหารกินที่ร้าน ครัวชายทะเลแล้วทางร้านจะพาไปชิลล์กันแบบฟรีๆ
Location: ม.8 คลองตรง หมู่บ้านประมง ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 8.00 – 21.00 น.
Fee: ไม่เสียค่าบริการ
Facebook: ร้านเจ๋ง ครัวชายทะเล
