9 จุดเช็คอินเวียดนามใต้ฟินๆ โฮจิมินห์ ดาลัด มุยเน่ ที่ไปแล้วต้องห้ามพลาด!
12,134 ครั้ง
21 มี.ค. 2562
12,134 ครั้ง
21 มี.ค. 2562
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวที่สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ง่ายๆ และที่สำคัญใช้งบไม่เยอะ ทั้งตั๋วเครื่องบินท่ีราคาไม่สูงจนเกินไปและค่าครองชีพยังถูกกว่าเมืองไทย ทำให้หลายๆ คนที่เลือกเดินทางไปเที่ยวต่างไปเทศเป็นครั้งแรกจึงเลือกประเทศเวียดนามไว้เป็นอันดับต้นๆ แต่จะเลือกไปสัมผัสธรรมชาติที่เวียดนามเหนือหรือจะไปตามรอยประวัติศาสตร์ที่เวียดนามกลาง แต่ในวันนี้ทริปเก็ทเตอร์ไปเวียดนามใต้กับสามเมืองยอดฮิตอย่าง โฮจิมินห์ ดาลัด และมุยเน่ ที่นักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวเป็นรูทเดียวกัน ลองตามมาดูกันว่า 9 จุดเช็คอินที่เป็นไฮไลท์ของ โฮจิมินห์ ดาลัต และมุยเน่ จะมีอะไรบ้าง เตรียมแคปหน้าจอมือถือให้พร้อมแล้วไปลุยกัน!
นครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City) ถ้าหากเดินทางมาเวียดนามใต้ โฮจิมินห์ เป็นเมืองแรกที่เราจะมาถึงเพราะที่นี่มีสนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต เรียกได้ว่าเป็นจุดแรกที่เราจะได้สัมผัสความเป็นเวียดนาม และโฮจิมินห์ยังเป็นเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนามที่มีทั้งความยิ่งใหญ่และความเจริญ และยังเป็นเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางคนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลือกเดินทางมาเยือน
มาเริ่มกันที่ เดอะ คาเฟ่ อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นที่มีคาเฟ่ต่างสไตล์ตั้งอยู่บนตึกจนที่นี่กลายเป็นหนึ่งไฮไลท์ที่ใครมาถึงโฮจิมินห์แล้วก็ต้องมารัวชัตเตอร์กันที่ด้านหน้าตัวตึก ถ้าหากมองจากด้านหน้าตัวตึกแบบผิวเผินก็จะเห็นสีสันของแต่ละห้องที่เปิดเป็นคาเฟ่แต่จริงๆ แล้ว ด้าานมีคาเฟ่ให้เลือกนั่งมากมายและมีถึง 9 ชั้น ถ้าหากใครที่ยังพอมีกำลังเหลือลองขึ้นบรรไดขึ้นไปทีละชั้นแล้วจะได้เห็นคาเฟ่เก๋ๆ และมุมถ่ายรูปชิคๆ ภายในตึกเพียบ
Location: Nguyen Hue, Ben Nghe, เขต 1
Open – Close: ตัวอาคารเปิดตั้งแต่ 08.00 – 22.00 น.
Price: คิดค่าบริการขึ้นลิฟต์ 3,000 VND หรือประมาน 5 บาทไทย
โบถส์นอร์ธเทรอดาม โบถส์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ โบถส์แห่งนี้เปรียบเสมือนเครื่องหมายเตือนใจชาวเวียดนามว่าครั้งหนึ่งประเทศเวียดนามเคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝรั่งเศส ชาวฝรั่งเศสจึงเอาศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกมาเผยแพร่และสร้างโบสถ์แห่งนี้เอาไว้ ด้านหน้าจะมีสวนสาธารณะเล็กๆ ซึ่งเป็นมุมที่สวยที่สุดในการดูตัวโบถส์และยังมีรูปปั้นพระแม่มารีอยู่ด้านหน้าอีกด้วย ด้วยความสวยงามและความแปลกตาทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มานครโฮจอมินห์แล้วต้องไม่พลาด
Location: ตั้งอยู่กลางเมืองโฮจิมินห์ บนถนน Han Thuyen
Open – Close: เปิดเวลา 06.00 – 20.00 น.
Fee: เข้าชมฟรี
มาต่อกันที่ วอล์คกิ้งสตรีทฟามงูเหลา แหล่งรวมความบันเทิงยามค่ำคืนที่ไม่ควรพลาดเพราะที่นี่ต้องจากจะมีบาร์และร้านแฮงค์เอ้าท์ต่างๆ แล้วยังเป็นแหล่งรวมอาหารสตรีทฟู้ดมากมายและยังเป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวนครโฮจิมินห์ในยามค่ำคืนอีกด้วย ด้วยบรรยากาศที่แสนคึกคักทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดเช็คอินยอดนิยมของวัยรุ่นโฮจิมินห์มาเที่ยวถึงที่นี่แล้วต้องห้ามผ่านที่จะชิมเบียร์ไซง่อนสักครั้ง รับรองว่าอร่อยถูกใจไม่แพ้ช้างไทยเลยล่ะ
Location: ถนน Bui Vien ฟามงูเหลา นครโฮจิมินห์
Open – Close: เริ่มเปิดตั้งแต่เวลา 18.00 – 00.00 น.
ดาลัด (DaLat) หรือ ด่าหลัต เมืองตากอากาศที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวเป็นรูทเดียวกันกับนครโฮจิมินห์ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีและมีความแตกต่างจากนครโฮจิมินห์โดยสิ้นเชิง ถ้าเปรียบเทียบเหมือนนครโฮจิมินห์คือกรุงเทพฯ ดาลัดคือเชียงใหม่เพราะที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงาม ด้วยความที่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสทำให้บ้านเรือนที่นี่มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรปทั้งบ้านเรือน อาหารและร้านต่างๆ รวมไปถึง ถนนหนทางก็ให้ความรู้สึกถึงความเป็นยุโรปอยู่ไม่น้อย
ทุ่งไฮเดรนเยีย หลายคนอาจสงสัยว่ามาถึงเวียดนามทำไมต้องมาดูทุ่งไฮเดรนเยีย วันนี้ทริปเก็ทเตอร์มีคำตอบมาให้ เพราะว่าทุ่งไฮเดรนเยียที่ดาลัดเป็นทุ่งไฮเดรนเยียที่ตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้สามารถมองวิวได้แบบ 360 องศาและมีดอกไฮเดรนเยียช่อใหญ่สะใจ ด้วยความที่ตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้ถ่ายรูปออกมาสวยงามนเป็นอีกหนึ่งที่ที่ไม่ควรพลาด
Open – Close: เปิดตั้งแต่ 07.30 – 18.00 น.
Price: ค่าเข้า 30,000 VND หรือประมาน 45 บาทไทย
โบสถ์ โดเมน เดอมารี หรือที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเรียกกันว่าโบสถ์สีชมพู โบสถ์แห่งนี้ตั้งเด่นอยู่บนเนินเขาและมีสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสฝสมผสานกับรูปแบบอาคารของเวียดนาม ด้วยความที่สีโบสถ์เป็นสีชมพูทำให้สีตัดกับท้องฟ้าซึ่งเป็นภาพที่สวยงามมากๆ บรรยากาศรอบๆ ก็เต็มไปด้วยความร่มรื่น และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบทั้งมุมบันไดและมุมประตูหน้าโบสถ์โดเมนเดอมารี รับรองเลยว่าบรรยากาศดีและได้รูปสวยๆ ไปอวดเพื่อนมอย่างแน่นอน
Open – Close: เปิดให้เข้าชม 06.00 – 17.00 น.
Fee: เข้าชมฟรี
จัตุรัสสาธารณะดาลัด Lam Vien Square พื้นที่พบปะของวัยรุ่นในดาลัดในช่วงตอนเย็นและยังเป็นพื้นที่ที่วัยรุ่นนัดทำกิจกรรมอย่างเล่นสเก็ตบอร์ด ด้วยบรรยากาศที่มีลมพัดตลอดเวลาแถมยังมีทะเลสาปซวนฮวง และยังมีโดมดอกทานตะวัน สถาปัตยกรรมรูปร่างแปลกตาและยังมี Doha Cafe คาเฟ่ก้นหอยที่ตั้งโดดเด่นที่ใครไปแล้วก็ต้องไปถ่ายรูปด้านหน้า ใครที่มาดาลัดแล้วช่วงเย็นๆ ต้องมานั่งรับลมชิลล์ๆ ที่นี่สักครั้ง
มุยเน่ (Muine) เป็นอีกหนึ่งเมืองตากอากาศที่มีบรรยากาศแตกต่างจากดาลัต เพราะมุยเน่เป็นเมืองชายทะเลที่มีบรรยากาศแบบที่หาไม่ได้ในเมืองไทยและยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่รับรองเลยว่ามาแล้วคุ้มอย่างแน่นอน
ทะเลทรายสีแดง ใครที่บอกว่าอยากเห็นทะเลทรายต้องไปเที่ยวถึงดูไบแต่จริงๆ แล้วใกล้ๆ เมืองไทยก็มีทะเลทรายอย่าง Red Sand Dune ทะเลทรายสุดยิ่งใหญ่ที่จะมีรถจีปพาเราไปตะลุยกันถึงบนทะเลทราย และนอกจากจะมีทะเลทรายสีแดงแล้ว ยังมีทะเลทรายขาวอีกด้วย ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่ที่ต้องมาให้ได้เพราะเป็นบรรยากาศที่หาไม่ได้ในเมืองไทย
Time: สำหรับรถไปทะเลทรายจะมีสองรอบเวลา 05.00 น. และ 13.00 น.
Price: เหมารถเที่ยวกับบริษัทชินทัวร์ราคา 300 บาท/คน และค่ารถจีปที่ทะเลทรายราคา 250 บาท/คน
มาต่อกันที่ แฟรี่ สตรีม หรือในภาษาเวียดนามเรียกว่า ซู่ยเทียน ทางน้ำไหลที่เกิดขึ้นบนภูเขาทรายเองตามธรรมชาติและถูกกัดเซาะเป็นเวลานานจนเกิดเป็นชั้นหินทรายที่สวยงาม ระหว่างทางจะมีของฝากที่ระลึกขายอยู่ด้วย ก่อนลงจะต้องถอดรองเท้าถ้าใครขี้เกียจถือรองเท้าติดไปด้วยด้านบนก็มีบริการฝากรองเท้า 5,000 ดอง หรือประมาน 5 บาทไทย
Price: เหมารถเที่ยวกับบริษัทชินทัวร์ราคา 300 บาท
มาปิดท้ายกันที่ หมู่บ้านชาวประมง จุดจอดพักเรือริมทะเลที่เราจะได้เห็นเรือประมงไกลสุดสายตา สำหรับไฮไลท์ของที่นี่คือเรือกระด้งทรงกลมที่เป็นเรือพื้นบ้านของเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลสดๆ และล็อบสเตอร์ราคาไม่แพงอยู่ด้วย อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดถ้ามาถึงมุยเน่ก็คือต้องมากินอาหารทะเลสดๆ ให้ได้
Price: เหมารถเที่ยวกับบริษัทชินทัวร์ราคา 300 บาท