สบายดีหลวงพระบาง! 4 วัน 3 คืน ตะลุยเมืองมรดกโลกสุดฮิป เที่ยวสบาย สไตล์ชิคๆ l Part 2

ทำความรู้จักกับหลวงพระบางกันแบบหอมปากหอมคอ ถึงเวลาเจาะลึกโอบกอดเสน่ห์ของเมืองมรดกโลกกันต่อ แต่สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน Part 1 คลิ๊ก

---

l Day 3 l

ตื่นเช้าในวันที่ 3 ณ หลวงพระบาง ทำภารกิจเสร็จจิบกาแฟสักแก้วให้ไม่ง่วง เพราะวันนี้เราจะออกไปทางนอกเมืองสักเล็กน้อยที่ Laos Buffalo Dairy ฟาร์มควายแห่งแรกของประเทศลาว ที่เป็นทั้งศูนย์ดูแล เพาะพันธ์ุ และจำหน่ายสินค้าแปรรูปจากนมควาย

ลาว บัฟฟาโล เดรี่ ตั้งอยู่เนื้อที่กว่า 22 เฮกตาร์ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติ ซึ่งภายในยังมีฟาร์มหมู กระต่าย และไก่ ให้เพลิดเพลิน ส่วนตัวชูโรงอย่างเจ้าควาย ที่นี่ก็มีถึง 2 สายพันธ์ุ ทั้งควายพื้นเมืองลาวและควายมูร่าห์ ซึ่งควายส่วนใหญ่จะเป็นควายจากชาวบ้านที่เข้าร่วมและนำมารีดนม รวมแล้วกว่า 100 ตัว

สำหรับฟาร์มทัวร์ จะมีกิจกรรมให้สนุกทั้งป้อนอาหารสัตว์ รีดนม อาบน้ำ ป้อนนมควาย ทดลองเป็นฟาร์มเมอร์กันแบบครบสูตร

รวมถึงยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนมควายให้ชิม ทั้งชีสชนิดต่างๆ โยเกิร์ต และไอศกรีม ที่ให้ไขมันที่ดีกว่านมวัว แถมคนที่แพ้นมวัวยังทานได้อีกด้วย

Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 10.00 – 17.30 น.
Price: บริการทัวร์ฟาร์มราคาเริ่มต้น 50,000 กีบ / 200 บาท เด็กต่ำกว่า 3 ขวบเข้าฟรี
Facebook: Laos Buffalo Dairy

—

จากนั้นไปฟินกันต่อแบบคลายร้อนกับอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ประจำหลวงพระบางที่ ตาดกวางสี หรือ น้ำตกกวางสี น้ำตกหินปูนขนาดกลาง สีมรกตที่ถูกยกให้เป็นน้ำตกสวยที่สุดในหลวงพระบาง แต่ก่อนอื่นบริเวณทางเข้ายังมีอีกหนึ่งความน่ารักที่อยากให้ทุกคนมาสัมผัสกันคือ ศูนย์อนุรักษ์หมีควาย องค์กรดูแลหมีซึ่งกระจายไปในแถบเอเชียกว่า 5 แห่ง เพื่ออนุรักษ์ เพาะพันธ์ุ และให้ความรู้เพื่อยับยั้งการล่าและค้า ซึ่งมีทั้งหมีควายและหมีคน ชนิดละกว่า 60 ตัว

มีกิจกรรมให้สนุกโดยการนำอาหารใส่ภาชนะและโยนให้น้องหมีกิน เป็นการฝึกทักษะและเราจะได้เห็นแบบใกล้ชิด

ส่วนน้ำตกมีด้วยกันทั้งหมด 4 ชั้น ซึ่งสามารถเล่นได้เฉพาะที่ชั้น 1 และ 2 ซึ่งเหมาะแก่การมาปิกนิกยามบ่าย

ชั้นที่ 3 เป็นน้ำตกแนวยาวราวกับผืนม่านสีขาว 

ส่วนชั้นสุดท้ายที่ได้รับฉายาว่าเป็นสวรรค์กลางป่า ผาน้ำตกความสูง 70 เมตร ที่มีสะพานทอดยาวบอกเลยว่าห้ามพลาดเซลฟี่กันเด็ดขาด

Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 8.00 – 17.30 น.
Price: ค่าเข้าชมคนละ 20,000 กีบ /40 บาท (เด็กต่ำกว่า 8 ปีเข้าฟรี)

—

เพลินจนลืมเวลาปาเข้าสู่ช่วงบ่าย เราแวะกินมื้อเที่ยงกันที่ร้าน Carpe Diem ร้านอาหารบรรยากาศดีกลางน้ำตกที่ไหลมาจากตาดกวางสี ซึ่งอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว

ที่นี่จะเสริฟอาหารลาวแบบพื้นบ้าน ที่จะตัดทอนรสชาติให้ถูกปากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทีเด็ดต้องยกให้ อั่วสีไคร้หมู หมกปลา และลาบเป็ด

Open-Close: ร้านเปิดให้บริการทุกวัน 09.00 – 19.00 น. 
Facebook: Carpe Diem Restaurant

—

อีกหนึ่งลิสต์ความงามอันเป็นที่หลงไหล สร้างเสน่ห์ให้เมืองหลวงพระบางเป็นที่สนใจก็คือเครื่องนุ่งห่มและผ้าทอ ซึ่งก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้หลวงพระบางได้รับเลือกเป็นเมืองมรดกโลก และเราจะมาทำความรู้จักวัฒนธรรมการทอผ้ากันที่ Ock Pop Tok Living Craft Centre

ออกพบตก มีที่มาจากคำว่า ตะวันออกพบตะวันตก ซึ่งผู้ก่อตั้งเป็นช่างภาพชาวอังกฤษที่มาพบกับช่างทอผ้าสาวชาวลาว และสร้างเป็น Living Museum ที่ภายในมากมายด้วยมุมความรู้เกี่ยวกับผ้าทอตั้งแต่ขึ้นตอนการเลี้ยงหม่อน จนถึงขั้นผลิต แถมยังมีสตูดิโอทอผ้า และเวิร์คช็อปให้สนุกกัน

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารบนต้นไม้และคาเฟ่ให้ถ่ายรูป รวมถึงร้านผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งผลผลิตก็มาจากทั้งที่นี่และชุมชน

Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 08.00 – 20.00 น.
Facebook: Ock Pop Tok

—

เข้าสู่บรรยากาศอัสดงก็คงไม่พลาดมาชมพระอาทิตย์ตกกันที่ วัดพูสี อีกหนึ่งแหล่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวหลวงพระบาง ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาระหว่างแม่น้ำ 2 สาย ผ่านขั้นบันได 328 ขั้น ซึ่งด้านบนประดิษฐานองค์พระธาตุสีทอง แลนด์มาร์คสำคัญของหลวงพระบางที่ไม่ว่าจะยืนจากจุดไหนก็จะเห็นเด่นสง่า

ฝั่งด้านทิศตะวันออกจะเห็นวิวเมืองและแม่น้ำคาน

ส่วนฝั่งทิศตะวันตกจะเห็นวิวแม่โขงและขุนเขา ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมมาจับจองมุมเหมาะๆ กันตั้งแต่เย็น ถือเป็นการอาบแดดไปในตัว

Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 05.30 – 18.00 น.
Price: ค่าเข้าชมคนละ 20,000 กีบ / 80 บาท

—

และสำหรับมื้อเย็นในค่ำนี้ลัดเลาะตามเส้นถนนคนเดินไปไม่ไกล จะพบกับที่พักสวยสไตล์โคโลเนียล ซึ่งในอดีตเป็นร้านไอศกรีมแห่งแรกประจำหลวงพระบาง ซึ่งนอกจากบริการที่พักแล้วยังมีร้านอาหาร บาร์ รวมถึงลาวไนท์ที่จัดขึ้นทุกสุดค่ำคืนสุดสัปดาห์ 3 Nagas luang prabang MGallery by Sofitel

สำหรับเมนูในค่ำนี้จะเป็นแนวลาวโลคอลสไตล์พื้นบ้าน เริ่มต้นที่ หมี่พันก้วย อาหารชาววังคล้ายเมี่ยงรสชาติกลมกล่อม ส้มตำถาด และเซ็ตขันโตก ที่ประกอบด้วย ต้มส้มปลา พะแนงไก่ คั่วซิ้นงัวใส่กระเทียม และหมกเห็ด เป็นหนึ่งมื้อที่ประทับใจที่สุดในหลวงพระบาง

และมาถึงร้านไอติมแห่งแรกของหลวงพระบางทั้งทีก็ต้องไม่พลาดของหวานอย่าง สาคู ที่เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมโฮมเมด 10 คะแนนเต็ม

Open-Close: ห้องอาหารและบาร์เปิดบริการทุกวัน ส่วน Laos Night มีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เร่ิมตั่งแต่ 18.00 -20.00 น. 
Price: ค่าบริการคนละ 35 USD (ราคาไม่รวมเครื่องดื่ม)
Facebook: 3 Nagas luang prabang MGallery by Sofitel

เติมพลังกันเรียบร้อย..พร้อมปิดท้ายกันที่อีกวัดไฮไลท์ ที่บอกได้เลยว่าถ้าไม่มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงหลวงพระบาง 

—

วัดเชียงทอง อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมล้านช้าง ที่เรียกว่าเป็นวัดคู่บ้านของเมืองหลวงพระบางเลยก็ว่าได้ โดดเด่นด้วยอุโบสถหลังใหญ่หลังคาแอ่นโค้ง 3 ชั้น ที่ยอดประดับด้วยช่อฟ้า 17 ช่อ เป็นหมายว่าเป็นวัดที่สร้างโดยพระมหากษัตริย์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2102 – 2103 ส่วนความงามที่เรียกว่าได้เป็นอัญมณีก็คือลวดลายนิทานพื้นบ้าน ที่ถ่ายทอดผ่านกระจกสีแบบสกุลช่างหลวงพระบาง ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ซึ่งมีทั้งบนพระอุโบสถ หอไหว้สีกุหลาบ และวิหารน้อย ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระม่านที่ปกติจะเก็บไว้ในหีบและให้มองผ่านเพียงรูเล็กๆ เท่านั้น

ซึ่งทริปนี้ถือว่าโชคดีมากเพราะช่วงหลังปีใหม่ลาวหรือสงกรานต์ พระม่านจะถูกอันเชิญมาให้ชาวหลวงพระบางได้สรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล ปิดค่ำคืนสุดท้ายในหลวงพระบางได้อย่างน่าประทับใจ

l DAY4 l

เข้าสู่วันสุดท้ายของทริป การตักบาตรเช้าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรรมที่ไม่ควรพลาด ซึ่งที่หลวงพระบางจะมีเอกลักษณ์ที่ต่างออกไป เพราะจะตักบาตรเฉพาะข้าวเหนียว ซึ่งพระท่านจะเริ่มเดินราว 5.30 น. จำนวน 200 องค์ตลอดเส้นหน้าโรงแรม 3 Nagas – MGallery by Sofitel และริมโขง สำหรับข้าวเหนียวสามารถหาซื้อได้ตามถนนย่านนั้นได้เลย

เสร็จแล้วก็ต้องไม่พลาดมาแวะเดินเล่นที่ตลาดเช้า ซึ่งเป็นตรอกเล็กๆ ที่เชื่อมกันถนนคนเดิน

ปิดท้ายกันแบบสุด Exclusive ซึ่งเดิมที่ประเทศลาวถูกเรียกว่าอาณาจักรล้านช้าง ซึ่งก็แปลตรงตัวเพราะในอดีตที่ลาว มีช้างอยู่มากนับล้านเชือก ช้างจึงเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของที่นี่ไม่ต่างจากไทย และเราจะมาทำความรู้จักกับช้างในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครกันที่ MandaLao Elephant Conservation

แมนดาลาว จะให้ความรู้ต่างจากที่อื่นๆ เพราะที่นี่ให้นักท่องเที่ยวคลุกคลีกับช้างในรูปแบบอิสระ ไม่มีการขี่ การบังคับ หรือแม้กระทั่งอาวุธ ทำให้ช้างจะค่อนข้างอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด กิจกรรมจะเน้นเป็นการสังเกตธรรมชาติของช้าง ทั้งการกิน อาบน้ำ และเดินในป่า ซึ่งต้องนั่งเรือข้ามน้ำไปเป็นอีกความอันซีนที่หาไม่ได้จากที่ไหน

ความสุขมันก็จะประมาณนี้…

ส่วนช่วงมื้อเที่ยงเราก็ฝากท้องไว้ที่นี่เลย เพราะโปรแกรมจะมีทั้งแบบครึ่งวันและเต็มวัน ซึ่งรวมอาหารกลางวันไว้แล้ว

Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 08.00 – 21.00 น. (จองล่วงหน้าเท่านั้น)
Facebook: MandaLao Elephant Conservation

— 

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สำหรับเที่ยวบินขากลับ หลวงพระบาง-กรุงเทพ(ดอนเมือง) จะให้บริการวันละ 1 เที่ยวในรอบเย็น 16.30-17.55 ซึ่งยังพอมีเวลาเหลือสำหรับ 1 คาเฟ่ เลยขอปิดท้ายของกาแฟหมอๆ อีกหนึ่งร้านขวัญใจชาวลาวที่ โจมา คอฟฟี่ สาขาริมน้ำคาน บ้านเก่าหลังสวยที่มีบริการทั้งของคาว หวาน เครื่องดื่ม

Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 07.00 – 21.00 น.
Facebook: Joma Bakery Café

—

มีเวลาเหลือแนะนำให้ไปเก็บภาพสวยๆ กับสะพานไม้ที่ทอดยามข้ามลำน้ำคาน หรือจะกลับไปเก็บกระเป๋าพร้อมบินกลับก็เวลาเหลือเฟือ บินกลับกรุงเทพด้วยความประทับใจ

เป็นยังไงกันบ้างกับบรรยากาศเมืองมรดกโลก อีกหนึ่งคุณค่าและงดงาน อีกหนึ่ง Destination เมืองพี่น้องของไทย ที่เชื่อว่าหลายคนคงอยากมาสัมผัสกันสักครั้ง ทริปนี้บอกเลยว่าประทับใจสุดๆ ทั้งด้านศิลปะที่ถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรม วัดวาอาราม ได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ และวิถีชีวิตอันเรียบง่ายเป็นกันเอง ที่ลงตัวเข้ากับความทันสมัยได้อย่างครบถ้วนดั้งเดิม สมกับที่ได้รับให้เป็นเมืองมรดกโลกอย่างแท้จริง….หลวงพระบาง

 

---