15 ของกินสิงคโปร์ เอาใจสายหวาน ไปแล้วต้องลองทานแบบกรุบกริบ

ถ้าพูดถึงของกินสไตล์ สิงคโปร์ หลายๆ คนคงนึกถึง ลอดช่องสิงค์โปร์ คุกกี้สิงคโปร์ หรือขนมครกสิงคโปร์อยู่แน่ๆ แต่แท้ที่จริงแล้วของกินเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสิงคโปร์!!! แต่ก็ไม่ต้องเสียใจไปเพราะว่าวันนี้เรารวบรวมของกินเอาใจสายหวานมาให้ และที่สำคัญหากินได้และมีขายอยู่ในสิงคโปร์จริงๆ สายกิน สายหวานคนไหนที่กำลังมีแพลนจะไปสิงคโปร์ หรือใครที่จะไปสิงคโปร์แต่ยังไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี บอกเลยว่าเตรียมลิสต์ชื่อร้านเหล่านี้ไว้ รับรองเลยว่าเติมความหวานได้ตลอดทริปอย่างแน่นอน

และแน่นอนว่าก่อนที่เราจะได้ไปเติมความหวานด้วยของอร่อยๆ สไตล์สิงคโปร์นั้น เราก็ต้องเตรียมตัวให้ดีเริ่มต้นด้วยการจองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka ที่มั่นใจได้เลยว่าจะไม่ทำให้แพลนทริปดีๆ ของเพื่อนๆ ล่ม ไม่ว่าจะจองผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านแอปพลิเคชั่นก็ง่ายดาย แถมยังได้ตั๋วราคาโดนใจแบบไม่ต้องมานั่งเทียบราคาให้วุ่นวาย เพราะเขาจะช่วยเราเลือก และคัดตั๋วที่ถูกที่สุดมาให้เพื่อนๆ และที่สำคัญยังจองง่ายสุดๆ ซึ่งถ้าจองช่วง 25-29 กันยายนนี้ Travaloka เค้าจัด Campaign EPiC SALE ซึ่งมอบส่วนลดสูงสุดถึง 80% แถมยังเดินทางได้ถึงปีหน้ากันเลย

#EPICSALEดีลดีแห่งชาติ

ช่วง 25-29 ก.ย. 2019 นี้ เริ่ม 8 โมงเช้า ของวันที่ 25 เป็นต้นไป

 

เช็คราคา จองตั๋วเครื่องบินไปสิงคโปร์กับ Traveloka คลิก

https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Singapore.SINA/1

 

---

1.Kaya Toast

เริ่มต้นความหวานด้วย ขนมปังคายา หรือขนมปังไส้แยมมะพร้าว ของหวานยอดฮิตที่มาสิงโปร์แล้วต้องห้ามพลาด ซึ่งขนมปังคายานิยมทานคู่กับไข่ลวกพร้อมชาหรือกาแฟดำสูตรโบราณเพื่อต้อนรับเช้าวันใหม่ ซึ่งนอกจากไส้แยมมะพร้าวแล้วยังมีไส้อื่นๆ ให้เลือกอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น เนยน้ำตาลและเนยถั่ว โดยเพื่อนๆ จะเลือกกินเฉพาะขนมปังกรอบรสชาติสุดละมุนด้วยไส้ต่างๆ ตามธรรมดา หรือจะนำไปจิ้มไข่ลวกก็อร่อยไปอีกแบบ รับรองว่าใครที่ได้กินมื้อเช้าแสนอร่อยอย่าง ขนมปังคายา ก็เหมือนเป็นการเริ่มต้นวันที่ดีในสิงคโปร์เลยล่ะ

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: ร้าน Ya Kun Kaya Toast

---

2.Ah Balling

มาต่อกันที่ขนมหวานลูกกลมๆ ที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับบัวลอยบ้านเรา แต่ขนมลูกกลมๆ ที่สิงคโปร์ทำมาจากข้าวเหนียวซึ่งผ่านกรรมวิธีต่างๆ จนมีความอ่อนนุ่มละมุนลิ้นพร้อมกับความเหนียวเล็กน้อยที่รับรองว่าอร่อยเคี้ยวเพลินอย่างแน่นอน แถมยังมีหลากหลายไส้ให้เราได้เลือกกินตามใจชอบทั้ง ถั่วลิสง ถั่วแดง มันเทศ และงา ที่จะเสิร์ฟพร้อมน้ำซุปหอมหวานรสชาติละมุนลิ้น ซึ่งตัวน้ำซุปก็มีให้เลือกระหว่าง น้ำซุปถั่วลิสง และน้ำซุปขิง ใครที่มาสิงคโปร์แล้วต้องลองมากินสิ่งนี้ให้ได้

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: 75 Ah Balling Peanut Soup

---

3.Ice Kachang

สำหรับใครที่เดินเที่ยวมาทั้งวันแนะนำเลยว่าต้องมาดับความร้อนเพิ่มความหวานด้วยน้ำแข็งใสสุดฮิตของชาวสิงคโปร์ ซึ่งแน่นอนเลยว่าแตกต่างจากน้ำแข็งใสในเมืองไทยตรงที่ตัวน้ำแข็งจะเป็นเหมือนไอศกรีมรสชาติต่างๆ ที่ป่นและละเอียดมากกว่า และยังมีท็อปปิ้งให้เราเลือกได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็น ลูกชิด ถั่วแดง ข้าวโพด เยลลี่ และเฉาก๊วย รับรองเลยว่าเมนูนี้จะช่วยดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี จนอยากแวะไปกินทุกครั้งเมื่อไปสิงคโปร์เลยล่ะ

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: ร้าน Mei Heong Yuen Dessert

---

4.Cheng Teng

ของหวานในน้ำใสสีทองแค่มองแล้วรับว่าว่าต้องร้องว้าว!! กับ Cheng Teng ของหวานที่ไม่ได้มีแค่ความอร่อยแต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยส่วนประกอบและวัตถุดิบต่างๆ เป็นวัตถุดิบที่ได้มาจากสมุนไพรจีน มีทั้ง แป๊ะก๊วย เมล็ดบัว ลำไย พุทราจีน และเห็ดสีขาว ซึ่งสมุนไพรแต่ละชนิดมีสรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยมีให้เลือกทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ใครที่ชอบสไตล์ไหนก็สามารถเลือกกันได้ตามใจชอบ

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: ร้าน 88 Shan Ren Cold& Hot Dessert (ตั้งอยู่ภายใน Newton Food Centre)

---

5.Bubur Cha Cha

ต่อกันที่ของหวานเชื้อสายเปอรานากันซึ่งเป็นของหวานที่รู้จักกันดีในสิงคโปร์ มีรูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับของหวานอย่างแกงบวดในบ้านเรา แต่ Bubur Cha Cha จะมีสีสันสดใสด้วยเยลลี่มันสำปะหลัง และส่วนผสมอื่นๆ ที่ใส่เข้าไว้ด้วยกันอย่าง เผือก ถั่วแดง ขนุน และสาคู ซึ่งจะเสิร์ฟมาในน้ำกะทิสดหอมๆ ที่ผ่านการเคี่ยวอย่างกลมกล่อม โดยสามารถเลือกกินได้ทั้งแบบร้อนและเย็นตามใจชอบ พร้อมรสชาติ หวาน มัน เค็ม ที่อร่อยถูกปาก ถูกใจ คนไทยอย่างเราอย่างแน่นอน

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: ร้าน PeraMakan

---

6.Tu Tu Kueh

ตูตูกูเอห์ ขนมหวานสิงคโปร์ที่เรียกได้ว่าเริ่มหาทานได้ยาก เพราะปัจจุบันขนมตูตูกูเอห์เหลือรอดให้ทานอยู่เพียงไม่กี่ร้าน ซึ่ง ตูตูกูเอห์ จะเป็นเค้กชิ้นเล็กพอดีคำที่ทำขึ้นมาจากแป้งข้าวหอมมะลิ สอดไส้ความอร่อยด้วยวัตถุดิบรสชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ถั่ว มะพร้าว และช็อคโกแลต โดยจะนึ่งให้กินกันแบบสดๆ ร้อนๆ วางอยู่บนใบตอง ก่อนที่จะนำมาเสิร์ฟให้เราได้สัมผัสความนุ่มละมุน และความหอมที่อบอวลชวนให้หลงไหล

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: ร้าน Tan’s Tu Tu Coconut Cake

---

7.Tissue Prata

มาต่อที่เมนูอร่อยๆ ที่เอาใจสายโรตีอย่าง Tissue Prata โรตีพีระมิดที่ทำมาจากแป้งโรตีกรอบๆ เคลือบด้วยน้ำตาลที่จะมอบความเพลิดเพลินใจให้เพื่อนๆ ระหว่างเคี้ยว และถ้ายิ่งราดนมหรือน้ำเชื่อมรสชาติต่างๆ ละก็รับลองว่าจะยิ่งฟินสุดๆ โดยในบางร้านเพื่อนๆ อาจจะได้พบพีระมิดสูงๆ รูปทรงแปลกตาจนอดใจไม่ไหวที่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปพร้อมอัปลงโซเชี่ยลให้เพื่อนๆ น้ำลายไหลไปตามๆ กัน

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: ร้าน R K Eating House

---

8.Pulut Hitam

Pulut Hitam หรือบางร้านจะเรียกว่า Bubur Pulut ของหวานที่สายรักสุขภาพสามารถทานได้อย่างแฮปปี้ เพราะขนมชนิดนี้ทำมาจากข้าวเหนียวดำซึ่งมีคุณค่าทางสารอาหารและผ่านขบวนการทำอย่างพิถีพิถัน พร้อมทั้งราดด้วยน้ำกะทิเข้มข้นหอมมันให้ความกลมกล่อมเข้ากันดีสุดๆ กับตัวข้าวเหนียว โดยบางที่อาจจะเสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมวานิลลาซึ่งจะช่วยเพิ่มรสชาติความละมุน จนคุณต้องค่อยๆ ละเมียดทานทีละคำไปพร้อมกับความฟิน

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: ร้าน Hajjah Fatimah

---

9.Cendol

ของหวานที่หน้าตาคล้ายกับลอดช่องสิงคโปร์บ้านเรา แต่เพื่อนๆ หลายคนคงกำลังสงสัยกันอยู่แน่ๆ ว่าลอดช่องสิงคโปร์ ทำไมไม่มีอยู่ในสิงคโปร์ เพราะจริงๆ แล้ว ลอดช่องสิงคโปร์มีต้นกำเนิดมาจากเมืองไทย ส่วนเจ้า Cendol ของสิงคโปร์จริงๆ ถึงแม้ว่าจะมีหน้าตาคล้ายคลึงกับลอดช่องของบ้านเรา แต่ความแตกต่างและความอร่อยอยู่ตรงที่ Cendol เป็นเหมือนน้ำแข็งใสราดน้ำกะทิหอมๆ และมีท็อปปิ้งเป็นลอดช่องมากกว่า ซึ่งนอกจากนี้แล้วยังมี ถั่วแดงและน้ำตาลทรายแดง มาเพิ่มรสชาติความหวานกำลังดี รับรองว่าทานแล้วสดชื่นพร้อมลุยเที่ยวต่ออย่างแน่นอน

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: ร้าน Old Amoy Chendol

---

10.Ice Cream Waffle

หนึ่งในไอศกรีมในตำนานของสิงคโปร์ที่สายหวานไม่ควรพลาด กับไอศกรีมแซนวิชที่มาพร้อมกับหน้าตาน่ารักและน่าทาน จากการนำวาฟเฟิลแผ่นบางๆ หรือขนมปังมาประกบกับไอศกรีมแท่งยักษ์ ซึ่งสามารถซื้อแล้วถือเดินกินกันได้แบบเก๋ๆ ซึ่งจะช่วยคลายความร้อนได้เป็นอย่างดี แถมความหวานยังช่วยผ่อนคลายอารมณ์ได้อีกด้วย ที่สำคัญราคาไม่แพง และยังหาทานได้ง่ายๆ ด้วยล่ะ

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: รถเข็น Wall’s Ice cream ทั่วไป

---

11.Durian Sago

สายหวาน สายทุเรียนต้องร้องว้าวไปกับ สาคูสีเหลืองพร้อมเนื้อทุเรียนที่มาในรูปแบบของเนื้อไอศกรีม โดยเฉพาะยิ่งถ้าได้กินเข้าไปแล้วยังให้ความรู้สึกเหมือนเนื้อทุเรียนที่กำลังละลายอยู่ในปาก แล้วยังมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ที่สายรักทุเรียนคงเข้าใจกันดี และยังนำมาเสิร์ฟพร้อมกับนมที่ช่วยเพิ่มความสมูทหอมหวานและกลมกล่อม ผสมกับสาคูที่ช่วยให้การเคี้ยวสนุกยิ่งขึ้น

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: ร้าน Ah Chew Desserts

---

12.Gulab Jamun

หวานกันต่อแบบไม่ยั้งไปกับ Gulab Jamun ขนมหวานที่ได้รับมาจากอินเดียโบราณ ทำขึ้นมาจากแป้งผสมกับนม จากนั้นนำมาปั้นเป็นก้อนๆ ก่อนที่จะทอดลงไปในน้ำมันที่ร้อนจัดจนเนื้อขนมหอมกรุ่น และนำขึ้นไปใส่ในไซรัปหอมหวานซึ่งมีกลิ่นคล้ายกุหลาบ เพียงแค่กัดไปคำแรกก็จะได้รู้ถึงความหอมหวานที่และเป็นรสชาติที่หาทานไม่ได้ในเมืองไทย รับรองเลยว่าอร่อยติดใจจนไม่อยากแบ่งใคร

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: ร้าน Moghul Sweet Shop

---

13.Sugee Cake

ขนมจากแป้งเซโมลินา ซึ่งเป็นขนมยูเรเชียนโบราณส่งต่อความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน โดยการนำแป้งมาผสมกับเนยซึ่งทำให้ขนมชนิดนี้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มฟูและละมุนลิ้นสุดๆ และนอกจากนี้บางร้านยังมีการเพิ่มส่วนผสมอย่างอื่นลงไปเพื่อเพิ่มความอร่อยและเป็นทางเลือกให้เราได้เลือกทานมากขึ้น อย่างเช่นการนำอัลมอนด์ลงไปผสมเพื่อเพิ่มความหอม และยังได้เนื้อสัมผัสที่ทำให้กินได้เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น สายชอบกินเค้กคนไหนมาถึงสิงค์โปร์แล้ว Sugee Cake เป็นอีกหนึ่งเมนูของหวานที่ไม่ควรพลาด

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: ร้าน Quentin’s Eurasian Restaurant

---

14.Soya Beancurd

จัดหนักกับของหวานกันไปหลายเมนูแล้ว เรามาต่อกันที่ของหวานเบาๆ แถมสบายท้องอย่าง Soya Beancurd หรือที่คนไทยเรียกกันว่า เต้าฮวย ซึ่งไม่ใช่เต้าฮวยเหมือนที่บ้านเรานะ แต่ที่นี่เป็นเต้าฮวยแบบเต้าฮวยจริงๆ โดยทำมาจากถั่วเหลืองแท้ๆ ซึ่งให้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มละมุนลิ้นพร้อมรสชาติหวานกลมกล่อม และมีกลิ่นหอมขึ้นจมูก ยิ่งถ้ากินคู่กับปาท่องโก๋บอกเลยว่าเข้ากันได้เป็นอย่างดี หรือใครที่ไม่ชอบทานหวานมากก็สามารถเลือกใส่น้ำเชื่อมน้อยลงได้อีกด้วย

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: ร้าน Rochor Original Beancurd

---

15.Cocktail

มาปิดท้ายกันแบบยั่วๆ ด้วย ค็อกเทลสีชมพู ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมนู Signature ของสิงคโปร์ ซึ่งเมนูค็อกเทลชนิดนี้ได้ถูกคิดค้นโดยบาร์เทนเดอร์ของโรงแรมราฟเฟิ้ลส์ โดยจะมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำสับปะรด ผสมให้เข้ากันกับเหล้ายินบรั่นดีเชอร์รี่ เบเนดิกทีน และเลมอน ซึ่งมีกิมมิคที่เป็นเอกลักษณ์คือสีและฟองที่อยู่ด้านบน รวมไปถึงรสชาติที่ดื่มไปแล้วสดชื่นจนวางแก้วไม่ลง

สถานที่ขาย/ร้านที่แนะนำ: Raffles Hotel

---

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 15 ของหวานสิงคโปร์ ที่สายหวานเห็นแล้วจะต้องรู้สึกน้ำลายสอ จนอยากจะบินไปเช็คอินเติมความหวานกันถึงสิงคโปร์กันตอนนี้เลย แต่ไม่ว่าเพื่อนๆ จะบินไปกันเมื่อไหร่ก็อย่าลืมเช็คดูราคาตั๋วเดินทางที่คุ้มที่สุด ซึ่งสามารถเช็คดูได้ง่ายๆ ผ่านทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่น Traveloka แถมวิธีการจองก็ง่ายดาย และใช้เวลาทำการจองแค่แป๊ปเดียว สำหรับใครที่กำลังมีแพลนหรือกำลังวางแพลนไปเที่ยวสิงคโปร์ก็อย่าลืมลิสต์รายชื่อ 15 ร้านของหวานอร่อยๆ ในสิงคโปร์แล้วบินไปเติมความหวานกัน

---