10 เมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2020 ตั้งเป้าไว้ต้องไปให้ได้สักครั้ง!
4,027 ครั้ง
29 เม.ย. 2563
4,027 ครั้ง
29 เม.ย. 2563
โหยหาการท่องเที่ยวรอบโลกแล้ว! ก่อนจะมีโควิด-19 หลายคนคงตั้งเป้าว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ก็ต้องพับโครงการไว้ก่อน วันนี้เรามาสะกิดต่อมความอยากให้กับคุณอีกครั้ง กับ 10 เมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2020 ที่จัดอันดับโดย Lonely Planet เว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก แต่ละที่นั้นก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงการจัดการเกี่ยวกับระบบการท่องเที่ยวที่ดีของแต่ละประเทศ ทำให้อยากไปสัมผัสสักครั้ง แล้วสายเที่ยวอย่างคุณจะพลาดได้อย่างไร!
ประเทศเล็กๆ ในอ้อมกอดหิมาลัย กับความสวยงามของธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์และแทบไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยการจัดระบบด้านการท่องเที่ยวที่เข้มข้นและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เสน่ห์ของ ภูฏาน นั้นมีเหลือล้น ทั้งอากาศที่แสนจะบริสุทธิ์ จนถูกยกให้เป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่ใช่เพียงแค่โลว์คาร์บอน แต่ว่ามีค่าคาร์บอนเป็นลบเลยทีเดียว รวมทั้งมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ตามวิถีแห่งพุทธศาสนาที่คนในท้องถิ่นรักษาไว้อย่างเหนียวแน่น
ที่ อังกฤษ ในปี 2020 นี้ มีการเปิดเส้นทางใหม่ England Coast Path เส้นทางท่องเที่ยวที่มีระยะทางยาวกว่า 3,000 ไมล์ ไปตามแนวชายฝั่ง โดยระหว่างทางคุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ร่องรอยทางประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ วิถีชีวิตของผู้คน และร้าน Fish and Chips อาหารสุดฮิตของชาวอังกฤษในแบบต้นตำรับ เรียกได้ว่านี่คือเส้นทางที่เป็นสวรรค์สำหรับสายเที่ยวแบบ Road Trip อย่างแท้จริง
มาซิโดเนียเหนือ ประเทศเล็กๆ ในแถบคาบสมุทรบอลข่าน ที่เพิ่งลงนามข้อตกลงเพื่อแก้ปัญหาเรื่องพรมแดนกับกรีซไป และได้เปิดประเทศรับการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ซึ่งถือเป้นเรื่องที่ดีมาก เพราะที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากมาย อย่างเช่นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ High Scardus Trail ที่ทอดยาวไปตามแนวเขา อีกทั้งยังมีแพลนเปิดเส้นทางการบินไปยังทะเลสาบ Ohrid แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของประเทศ
อารูบา เกาะขนาดเล็กในทะเลแคริบเบียนที่นี่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการท่องเที่ยวที่จริงจังมาก นั่นคือ การรณรงค์ให้ที่นี่เป็นเกาะปลอดพลาสติก และการห้ามใช้ครีมกันแดดที่มีสารเคมีทำลายปะการัง นอกจากอารูบาจะมีทัศนียภาพที่สวยงาม ทั้งจากหาดทรายขาวและน้ำทะเลใสแล้ว ยังมีสีสันของอาคารบ้านเรือนต่างๆ ที่แต่งแต้มด้วยงานศิลปะจากฝีมือของศิลปินทั้งในและต่างประเทศที่มาร่วมกันสร้างสีสันให้เกาะแห่งนี้
เอสวาตินี หรือที่รู้จักกันในนาม ประเทศสวาซิแลนด์ เป็นประเทศในแอฟริกาตอนใต้ที่โดดเด่นเรื่องการท่องเที่ยวแนวซาฟารี เน้นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ซึ่งไม่นานมานี้เอสวาตินีได้เปิดสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ อีกทั้งยังมีการพัฒนาสาธารณูปโภค รวมถึงถนนหนทางต่างๆ เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ซึ่งน่าจะหลั่งไหลกันมาเยือนดินแดนแห่งนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
อีกหนึ่งประเทศที่เให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และสร้างผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ที่ คอสตาริกา เป็นประเทศที่อุดมไปด้วยป่าเขตร้อน มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งป่าเขา น้ำตก ภูเขาไฟ และทะเล รวมไปถึงมีความหลากหลายของสัตว์ป่า เป็นหนึ่งในประเทศที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวแบบผจญภัยมากๆ งานนี้สายลุยห้ามพลาด รีบจดใส่ลิสท์เอาไว้เลย!
เนเธอร์แลนด์ เป็นเอกราชมาได้ 75 ปีแล้ว นับตั้งแต่จากสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีการเตรียมงานเพื่อฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม ทั่วปนระเทศ ซึ่งเราสามารถไปร่วมฉลองในเมืองต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายผ่านระบบรถไฟที่ดีเยี่ยม มนต์เสน่ห์ของที่นี่อยู่ที่ตึกรามบ้านช่องที่เรียงรายสลับสี เหมาะแก่การปั่นจักรยานซอกแซกไปตามซอกซอยต่างๆ เพื่อชมความงดงามแบบใกล้ชิด ซึ่งเนเธอร์แลนด์เองก็ได้ขยายเส้นทางรองรับการปั่นจักรยานอย่างเต็มที่ รวมกว่า 35,000 กิโลเมตร เรียกว่านักปั่นทั้งหลายฟังแล้วจะต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน
เมืองเล็กๆ ในแอฟริกาตะวันตกที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แต่หารู้ไม่ว่า ไลบีเรีย มีความโดดเด่นในเรื่องท่องเที่ยวอยู่หลายด้านเลยทีเดียว โดยเฉพาะชายหาดต่างๆ ที่เหล่านักเซิร์ฟจะต้องชื่นชอบกันอย่างแน่นอน เพราะเป็นแหล่งโต้คลื่นชั้นยอดเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีความตื่นตาตื่นตาใจรออยู่ในอุทยานแห่งชาติ Sapo ที่เต็มไปด้วยป่าที่อุดมสมบูรณ์ คุณจะได้เจอกับชิมแปนซี ช้างแอฟริกา ฮิปโป และสัตว์อีกหลากหลายชนิด
หากพูดถึง โมร็อคโค หลายคนคงจะนึกถึงภาพเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบแอฟริกาเหนือ แต่ที่นี่ยังมีความหลากหลายทางภูมิประเทศด้วย ตั้งแต่ทะเลทราย ชายฝั่งทะเล ไปจนถึงเทือกเขาสูง เรียกว่าทั้งหมดรวมอยู่ในประเทศเดียวนี้ทั้งสิ้น ส่วนเรื่องความสะดวกสบายของการเดินทางก็เพิ่มมากขึ้น ด้วยรถไฟความเร็วสูง ที่เชื่อมต่อทุกเมืองทางเหนือ รวมถึงถนนหนทางต่างๆ อีกทั้งยังมีเรื่องน่ายินดี ที่ในปีหน้า มาร์ราเกซ เมืองท่องเที่ยวชื่อดัง กำลังจะได้เป็นเมืองหลวงของวัฒนธรรมแอฟริกันเป็นครั้งแรกอีกด้วย
ประเทศเล็กๆ ที่แฝงไปเสน่ห์ที่น่าค้นหามากมาย อุรุกวัย ขึ้นชื่อเรื่องผู้คนที่เป็นมิตร และเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพในหลายๆ ด้าน อย่างเรื่องการสนับสนุนสิทธิของกลุ่มเพศ LGBTQ, กฎหมายเรื่องกัญชาเสรี และอื่นๆ ส่วนเรื่องธรรมชาติก็เป็นจุดเด่นของที่นี่อยู่แล้ว รวมถึงทัศนียภาพที่เอื้อต่อการเที่ยว อย่างการเดินทางตามเส้นทางกว่า 600 กิโลเมตรที่ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเลของประเทศ แค่นึกภาพก็ฟินแล้ว!