เตรียมเฮ! เปิดกลุ่มจังหวัดปลดล็อกดาวน์ เริ่มผ่อนปรนต้นเดือน พ.ค.นี้
10,623 ครั้ง
22 เม.ย. 2563
10,623 ครั้ง
22 เม.ย. 2563
กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอแผนต่อศูนย์บริการสถานการณ์การแพร่ระบาดโคโรนาไวรัส 2019 (ศบค.) เพื่อผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ โดยจะเริ่มที่ 32 จังหวัดในต้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยจะให้ภาคธุรกิจบางส่วนกลับมาเปิดทำการ แต่อำนาจตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะเป็นกลุ่มสุดท้ายของการปลดมาตรการล็อกดาวน์ เนื่องจากเป็นกลุ่มพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง
การดำเนินการปลดมาตรการล็อกดาวน์นี้ ประชาชนจะยังคงปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่ ต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะยห่างตามหลัก Social Distancing งดการชุมนุมสังสรรค์ เพื่อไม่ให้เกิดการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด
สำหรับกิจการที่มีความเสี่ยงสูงต้องหยุดดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นคือ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คลับ คาราโอเกะ อาบอบนวด สถานบริการทางเพศ สนามมวย ที่มีการพนันแข่งขัน ร้อง ตะโกน ซึ่งเป็นผลมาจากข้อมูลการแพร่ระบาดของโรค เป็นต้นตอของการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้ออีกด้วย
ในส่วนของกิจการที่มีความเสี่ยงกลาง สามารถจัดการความเสี่ยงให้ลดลง จะทยอยเปิดได้ เช่น ร้านตัดผม, ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า โดยจะต้องไม่มีการจัดโปรโมชั่น นาทีทอง และจะต้องปรับพื้นที่รองรับผู้เข้าใช้บริการ เช่น ใน 1 ชั่วโมงสามารถเข้าได้กี่คน, การเข้าห้องน้ำจะต้องไม่ให้เข้าคิวรอเป็นจำนวนมาก และต้องมีแอปพลิเคชันคัดกรองผู้เข้าใช้บริการ บันทึกข้อมูลก่อนเข้าและออกห้างสรรพสินค้า เพื่อการติดตามได้รวดเร็วหากเกิดปัญหา
โดยกรอบแนวคิดรูปแบบต่างๆ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขจะนำเสนอต่อศูนย์บริการสถานการณ์การแพร่ระบาดโคโรนาไวรัส 2019 (ศบค.) มีรายละเอียดกลุ่มจังหวัดที่จะได้รับการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ดังนี้
เป็นจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในช่วง 14 วัน โดยแบ่งเป็นภูมิภาคได้ดังนี้
เป็นจังหวัดที่พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในช่วง 14 วัน แบบประปรายในวงจำกัด ไม่เกิน 5 รายต่อสัปดาห์ โดยแบ่งเป็นภูมิภาคได้ดังนี้
เป็นจังหวัดที่พบผู้ป่วยในช่วง 14 วันย้อนหลัง แบบมีการแพร่เชื้อต่อเนื่องมากกว่า 5 รายต่อสัปดาห์ และไม่สามารถหาความเชื่อมโยงผู้ป่วยได้ โดยแบ่งตามภูมิภาคได้ดังนี้