7 เมนูไทย มีสมุนไพรต้านทานไวรัส อร่อยดีมีประโยชน์ด้วย!

ช่วงอยู่บ้านยาวๆ แบบนี้ หลายๆ คนคงมีเวลาว่าง พอเลื่อนฟีดหน้าเฟซบุ๊กก็เจอสูตรอาหารและขนมมากมายที่เหมาะสมกับช่วงเวลาแบบนี้เหลือเกิน วันนี้ทริปเก็ทเตอร์ก็เลยเอารายชื่อเมนูอาหารไทย ที่เรียกได้ว่าเสริมภูมิคุ้มกันใหแก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี พร้อมวิธีการทำของแต่ลพะเมนูด้วย ลองตามมาดูกันเลยว่าจะมีเมนูอะไรบ้าง

---

ผัก ผลไม้ สมุนไพร 3 กลุ่ม ที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อไวรัส

กลุ่มที่ 1 มีสารสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส

-กะเพรา
-หอมแดง
-หอมหัวใหญ่
-มะรุม
-พลูคาวหรือผักคาวตอง
-ใบหม่อน
-แอปเปิ้ล 
-เปลือกของพืชตะกูลส้ม (ส้ม, มะนาว, มะกรูด, ส้มซ่า)

กลุ่มที่ 2 เสริมภูมิคุ้มกัน

-คะน้า
-ใบเหลียง
-ยอดสะเดา
-มะระขี้นก
-ดอกขี้เหล็ก
-ผักแพว
-มะขามป้อม
-ลูกหม่อน และผักผลไม้หลากสี

กลุ่มที่ 3 กลุ่มต้านอนุมูลอิสระสูง

-เห็ดต่างๆ 
-พลูคาวหรือผักคาวตอง
-ตรีผลา (สมอไทย, สมอพิเภก, มะขามป้อม)

อ้างอิงข้อมูลจาก: กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก

---

เมนูไทย มีสมุนไพรต้านทานไวรัส

1.ผัดกะเพรา

ผัดกะเพรา เมนูอาหารไทยง่ายๆ ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน เหนือ ใต้ กลาง ออก ตก ก็ล้วนแล้วแต่มีเมนูนี้อยู่ทุกหนทุกแห่ง ซึ่งแต่ละท้องที่ก็จะมีเอกลักษณ์และรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ถ้าต้มยำกุ้งเป็นอาหารประจำชาติ ผัดกะเพราก็คงเป็นเบอร์สองรองจากต้มยำกุ้งเลยล่ะ แต่หารู้ไม่ว่าเมนูหาทานได้ง่ายอย่างผัดกะเพรา จะมีประโยชน์มหาศาลที่สามารถช่วยต้านทานเชื้อไวรัสได้ เพราะใบกะเพรามีสารโอเรียนทิน (Orientin) ที่ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อของเซลล์ ช่วยป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยจากเชื้อไวรัส แถมยังมีสารสำคัญที่มีศักยภาพในการป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ด้วย รู้แล้วจะรออะไร มื้อเย็นนี้ต้องจัดผัดกะเพราซักจานแล้วล่ะ

วิธีการทำผัดกะเพรา
1.เทน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ตามด้วยกระเทียมสับและพริกตามชอบ ผัดจนมีกลิ่นฉุน
2.ใส่หมูบดลงไปผัดให้พอสุก ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำปลา น้ำตาลทราย และซีอิ๊วดำ ผัดจนเข้ากัน
3.ใส่ใบกะเพราลงไปผัด ผัดจนใบกะเพราะสลด แล้วตักราดข้าวหรือใส่จานเป็นกับก็ได้

---

2.แกงส้มมะรุม 

แกงส้ม เมนูอาหารไทยที่หลายๆ คนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี แต่ถ้าพูดถึง แกงส้มมะรุม เชื่อว่าเด็กๆ รุ่นใหม่อาจจะยังไม่รู้จัก แถมหลายๆ คนทานมะรุมไม่เป็นอีกด้วย ความจริงแล้วมะรุมเป็นผักที่มีคุณประโยชน์สูง ทั้งช่วยลดคอเลสเตอรอล รักษาโรคโลหิตจาง บำรุงหัวใจ ลดน้ำตาล ลดไข้ แก้หวัด บรรเทาอาการไอ และมีสารเคอร์ซีติน (Quercetin) ที่มีศักยภาพในการป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ร่างกาย ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย เห็นไหมว่าสมุนไพรแบบไทยๆ ก็สามารถเอาชนะเจ้าไวรัสตัวร้ายได้ด้วยนะ

 

วิธีทำแกงส้มมะรุมกุ้ง
1.นำพริกขี้หนูแห้งไปแช่น้ำให้พอนิ่ม จากนั้นโขลกพริกขี้หนูแห้งที่แช่น้ำไว้ ตามด้วยหอมแดง และกะปิ ให้พอละเอียด พักไว้
2.ต้มน้ำเปล่า แล้วใส่พริกแกงส้มที่โขลกไว้ รอให้น้ำพอเดือดค่อยใส่มะรุมลงไป พอมะรุมเริ่มสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย คนให้ทุกอย่างเข้ากัน ใส่กุ้งตามลงไป รอให้กุ้งพอสุก ปิดไฟ
3.จะเสิร์ฟใส่ถ้วยหรือจะตักราดข้าวสวยร้อนๆ ก็รับรองว่าอร่อยชัวร์

---

3.ยอดคะน้าผัดน้ำมันหอย

คะน้า ผักใบเขียวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารและประโยชน์มากมาย สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ผัดซีอิ้ว, ราดหน้า, ข้าวผัด และอีกมากมาย และอีกเมนูที่อยากแนะนำเลยก็คือ ยอดคะน้าผัดน้ำมันหอย เพราะส่วนยอดของคะน้าอุดมไปด้วยวิตามินซีและเกลือแร่ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน สร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ทำให้สุขภาพแข็งแรง เมนูง่ายๆ แถมมีวิตามินซีสูงอย่างนี้ต้องทำเลย

ขอบคุณภาพจาก: https://www.maggi.co.th

วิธีทำยอดคะน้าผัดน้ำมันหอย
1.ต้มน้ำให้เดือด นำยอดคะน้าไปลวก ประมาณ 2 – 3 นาที
2.เมื่อลวกเสร็จแล้วนำผักขึ้น จากนั้นนำไปแช่ในน้ำเย็น พอหายเย็นนำไปจัดใส่จานเตรียมไว้
3.นำกระเทียมมาปลอกเปลือก จากนั้นซอยบางๆ แล้วนำกระเทียมไปเจียว ใช้ไฟอ่อน ค่อยๆ เจียวจนเหลืองกรอบ นำขึ้นมาพักไว้
4.หลังจากเจียวกระเทียมเสร็จ ใส่น้ำมันนิดหน่อย ใส่น้ำหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ใช้ไฟอ่อน ค่อยๆ คนจนเข้ากัน ชิมรสชาติ ถ้าเค็มไปให้เติมน้ำเปล่าทีละนิดๆ
5.นำซอสไปราดผักที่เราเตรียมไว้ โรยด้วยกระเทียมเจียวเป็นอันเสร็จ

---

4.แกงเลียง 

พอพูดถึง แกงเลียง หลายๆ คนคงคิดว่าเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับแม่ลูกอ่อน แต่จริงๆ แล้วแกงเลียงมีประโยชน์สำหรับทุกคน เพราะส่วนประกอบมีผักและสมุนไพรมากมาย ทั้งบวบเหลี่ยม, ตำลึง, ใบแมงลัก, ฟักทอง, เห็ดฟาง ที่เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย มีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคหวัด แถมยังใส่พริกไทยที่ช่วยย่อยอาหาร และแน่นอนว่าต้องมีสมุนไพรอย่าง หอมแดง ที่ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ร่างกายได้ ช่วยให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้น ลองทำหรือหาซื้อแกงเลียงร้อนๆ มาสักชาม ก็ได้สารอาหารมากมาย แถมช่วยเสริมภูมิคุ้มกันอีกต่างหาก

ขอบคุณภาพจาก: https://www.knorr.com/th/home.html 

วิธีทำแกงเลียง
1.โขลกเครื่องแกงเลียงในครกให้เข้ากัน ทั้งกุ้งแห้ง, พริกไทยเม็ด, หอมแดง และกะปิ
2.นำบรรดาผักมาล้างน้ำให้สะอาด หั่น และเด็ดเตรียมไว้ สำหรับกุ้ง ต้องล้างให้สะอาด แกะหัว แกะเปลือกออก อย่าลืมผ่ากุ้งเอาเส้นสีดำกลางหลังออกด้วย
3.นำน้ำสะอาดใส่หม้อ ตั้งไฟแรง จนกระทั่งน้ำเดือด ใส่กุ้งลงไปลวก พอกุ้งเปลี่ยนสีก็ตักขึ้นได้เลย พักกุ้งไว้ก่อน
4.จากนั้นใส่เครื่องแกงลงไป ละลายให้เข้ากันกับน้ำซุป
5.เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งจึงใส่ผักลงไป โดยเรียงจากผักเนื้อแข็งที่ใช้เวลาสุกนานหน่อย ไล่เวลาไปถึงผักจำพวกที่สุกง่ายๆ และพวกผักใบ 
6.ปรุงรสด้วยน้ำปลา ให้ชูกลิ่นหอมขึ้นมาเล็กน้อย
7.เมื่อผักทุกชนิดสุกได้ที่แล้ว เราก็จะใส่ใบแมงลักซึ่งเป็นพระเอกที่ขาดไม่ได้ของแกงเลียงลงไปเป็นลำดับสุดท้าย ใช้ทัพพีกดใบแมงลักให้จมในน้ำแกง จากนั้น ก็ปิดเตาได้เลย

---

5.สะเดาน้ำปลาหวาน ปลาดุกย่าง

สะเดา แค่ได้ยินชื่อนก็รับรู้ได้ถึงความขมของผักชนิดนี้แล้ว แต่อย่างที่โบราณว่าเอาไว้ว่า “หวานเป็นลมขมเป็นยา” เพราะยอดสะเดาอุดมไปด้วยสารกลุ่มแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง และมีวิตามินซีสูงด้วย ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย แก้ไข้ตัวร้อน ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล นับเป็นเมนูอาหารไทยที่อร่อยแถมยังดีต่อสุขภาพ เพียงแค่นำยอดสะเดามาต้มและกินกับน้ำปลาหวาน เป็นเมนูง่ายๆ ที่มากมายไปด้วยประโยชน์จริงๆ 

วิธีทำน้ำปลาหวานทานคู่กับสะเดา
1.ลวกสะเดาในน้ำเดือดแล้วเอาออกมาแช่น้ำเย็น พักใส่จานเตรียมไว้
2.ผัดหอมแดงกับน้ำมันให้หอม ลดไฟลง ใส่น้ำตาล 5 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 2 – 3 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน และ น้ำตาลละลายดี
3.เติมพริกแห้งทอดบุบหยาบๆ ลงไป ตักเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยหอมแดงเจียวกรอบๆ 
4.เสิร์ฟพร้อมคู่กับปลาดุกย่าง และข้าวสวยร้อนๆ รับรองฟินอย่างแน่นอน

---

6.เมี่ยงคำ

เมี่ยงคำ เมนูทานเล่นของไทย ที่มีส่วนผสมหลักๆ เลยคือ หอมแดงสด มะนาวหั่นพร้อมเปลือก และอีกมากมาย เปรียบเสมือนการกินผักและสมุนไพรสดๆ โดยไม่ผ่านความร้อน ทำให้คุณค่าทางอาหารยังมีอยู่ครบถ้วน และที่สำคัญ มะนาวและหอมแดง ยังเป็นสมุนไพรที่มีสารเฮสเพอริดิน สารรูติน และวิตามินซี ช่วยป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ของร่างกาย และช่วยลดโอกาสการติดเชื้อในอวัยวะต่างๆ ได้

วิธีทำน้ำจิ้มเมี่ยงคำ
1.เคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวกับน้ำด้วยไฟกลาง หมั่นคน ระวังไหม้
2.เคี่ยวน้ำตาล เอาให้ได้ที่แต่อย่าให้เหนียวมาก เพราะตอนน้ำตาลเย็นแล้วจะเหนียวขึ้นอีก
3.ใส่กะปิ น้ำปลา ชิมรสตามชอบ 
4.ใส่ ข่าคั่วโขลก ถั่วลิสงคั่วโขลก มะพร้าวคั่วโขลก คนให้เข้ากัน พักให้เย็น จะข้นขึ้นอีก
5.ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟพร้อมชุดเมี่ยงคำที่เตรียมไว้

---

7.ต้มโคล้ง 

ต้มโคล้ง อีกหนึ่งเมนูไทยๆ ที่มีรสชาติจัดจ้านไม่แพ้เมนูไหนๆ ในต้มโคล้งยังอุดมไปด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น หอมแดง เห็ดชนิดต่างๆ และมะนาว ซึ่งมีสารสำคัญ เช่น สารเคอร์ซีทิน เบต้ากลูแคน และวิตามินซี ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ไม่ป่วยง่าย รวมทั้งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน คุณค่ามหาศาลขนาดนี้ เย็นนี้ต้องเข้าครัวทำเมนูต้มโคล้งแล้วล่ะ 

 

วิธีทำต้มโคล้งปลากรอบ
1.ตั้งหม้อแล้วใส่ ข่า ตะไคร้ หอมแดง และใบมะกรูด เมื่อน้ำเริ่มเดือดก็ใส่ปลากรอบลงไป ตามด้วยมะเขือเทศ
2.ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และเกลือ
3.ใส่พริกแห้งและพริกขี้หนุสวนลงไป แล้วแต่ว่าจะชอบเผ็ดมากหรือเผ็ดน้อย
4.เพิ่มความหอมให้ต้มโคล้งด้วยผักชีฝรั่ง ใบกะเพรา และใบมะขามอ่อน ต้มไปเรื่อยๆ จนส่งกลิ่นหอม แค่นี้ก็ปิดไฟ เทใส่ชามเสิร์ฟได้แล้ว

---

จะเห็นได้ว่าเมนูอาหารไทยแต่ละเมนูอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร ประกอบไปด้วยสมุนไพร ทั้งหอมแดง หอมใหญ่ กะเพรา ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เป็นต้น ที่มีสารในการป้องกันไวรัส ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย อย่างไรก็ตาม อาหารที่กล่าวมาไม่ได้เป็นวิธีป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยตรง วิธีป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดคือการไม่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง พื้นที่ที่มีคนเยอะ และหมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ที่สำคัญต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพียงเท่านี้เราก็ห่างไกลจากเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว

---