10 จุดเช็คอินน่าเที่ยวหน้าฝน สำหรับคนรักธรรมชาติ
29,107 ครั้ง
28 พ.ค. 2563
ฤดูร้อนกำลังจะผ่านพ้นไป ฤดูฝนกำลังจะเข้ามาแทนที่ธรรมชาติเริ่มกลายเป็นสีเขียวชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนที่ตกลงมา ถึงแม้ฤดูฝนจะเป็นฤดูที่หลายๆ คนไม่อยากเที่ยว ไม่อยากเดินทาง แต่รู้หรือไม่ว่า ธรรมชาติจะสวยงามที่สุดในช่วงหน้าฝน วันนี้ทริปเก็ทเตอร์เลยเอาจุดเช็คอินชุ่มฉ่ำในช่วงหน้าฝนมาฝากเพื่อนๆ ลองตามมาดูเลยว่า จะมีที่ไหนบ้าง
1.สังขละบุรี, กาญจนบุรี
สังขละบุรี อีกหนึ่งสถานท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศในช่วงฤดูฝนเพราะเป็นช่วงที่น้ำในแม่น้ำซองกาเรียจะเพิ่มสูงขึ้น และธรรมชาติจะเป็นสีเขียวชุ่มฉ่ำแถมยังมีสายหมอกที่มักล่องลอยให้เราได้ชมหลังฝนตก และอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่นี่ก็คือวิถีชีวิตของผู้คนที่ใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่ายและดั้งเดิมระหว่าง 2 วัฒนธรรมไทย – มอญ ที่มีสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยเป็นตัวเชื่อม 2 วัฒนธรรมนี้ให้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างลงตัว
Location: สังขละบุรี จ.กาญนบุรี
ฤดูท่องเที่ยว: ช่วงเดือนรมีนาคม – เมษายน เป็นช่วงหน้าแล้ง น้ำน้อยสามารถไปเยี่ยมชมวัดจมน้ำได้ ช่วงเดือนตุลาคมจะเป็นช่วงน้ำเยอะ สามารถนั่งเรือชมโบสถ์กลางน้ำได้
ไฮไลท์: สะพานมอญ, วัดจมน้ำ, เจดีย์พุทธคยา
อ่านรีวิวทริปเพิ่มเติมคลิ๊ก>> ทริปสังขละบุรี 2 วัน 1 คืน เที่ยวดินแดนสองวัฒนธรรมไทย-มอญ
อ่านรีวิวที่พักสังขละบุรีคลิ๊ก>> 5 ที่พักสังขละบุรีใกล้สะพานมอญ
2.ภูทับเบิก, เพชรบูรณ์
ภูทับเบิก อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชมทะเลหมอกในฤดูฝนที่เรียกได้ว่าถูกใจสายเดินทางท่องเที่ยวสุดๆ ด้วยความที่เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงและสามารถมองเห็นวิวได้แบบ 180 องศา นั่งท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวกันในฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งจะได้บรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีที่พักและลานกางเต็นท์มากมายให้เพื่อนๆ เลือกพักได้อย่างสบายใจ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวฤดูฝนที่ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง
Location: ภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์
ฤดูท่องเที่ยว: ฤดูที่สวยที่สุด ช่วงปลายฝนต้นหนาว ช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน
ไฮไลท์: ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
อ่านรีวิวทริปเพิ่มเติมคลิ๊ก>> คัดมาแล้ว!! 7 ที่พักภูทับเบิก เน้นเห็นวิวทะเลหมอก
อ่านรีวิวที่พักภูทับเบิกคลิ๊ก>> ทริปล่าหมอก 3 วัน 2 คืน ภูทับเบิก – เขาค้อ
3.เขื่อนรัชชปะภา, สุราษฎ์ธานี
เขื่อนเชียวหลาน หรือ เขื่อนรัชชปะภา เมือง 2 ฤดู ที่มีเฉพาะหน้าร้อนและหน้าฝน แต่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ Unseen ระดับโลก ที่ถูกนิตยสารชื่อดังอย่าง Vogue ยกให้เป็นหนึ่งในแปดอุทยานแห่งชาติที่สวยที่สุดในโลก มีบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม จนได้รับสมญานามว่า กุ้ยหลินเมืองไทย และธรรมชาติจะชุ่มฉ่ำสุดๆ ในช่วงฤดูฝน ลองมาเที่ยวกันสักครั้งแล้วจะรู้ว่าเมืองไทยก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ไม่แพ้ชาติใดในโลก
Location: ต.พะแสง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี
ฤดูท่องเที่ยว: ช่วงต้นเดือนมิถุนายน – ปลายเดือนตุลาคม จะเป็นช่วงที่ฝนตกชุกอากาศไม่ร้อน
ไฮไลท์: หินสามเกลอ หรือกุ้ยหลินเมืองไทย
อ่านรีวิวที่พักเขื่อนรัชชปะภาคลิ๊ก>> 7 แพที่พักเขื่อนเชี่ยวหลาน ดื่มด่ำธรรมชาติให้ชื่นหัวใจ
4.โรงเรียนการเมืองการทหาร อุทยานฯ ภูหินร่องกล้า, พิษณุโลก
โรงเรียนการเมืองการทหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องประวัติศซาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองของไทย ในอดีตเคยเป็นสถานที่สำหรับให้การศึกษาตามแนวทางของลัทธิคอมมิวนิสต์ ในบริเวณโรงเรียนการเมืองการทหาร จะประกอบไปด้วยบ้านฝ่ายพลเรือน ฝ่ายพลาธิการ ฝ่ายสื่อสาร และสถานพยาบาล ส่วนเหล่านี้มีทั้งหมด 31 หลัง เป็นบ้านหลังเล็กๆ กระจายอยู่อย่างเป็นระเบียบ บรรยากาศรอบๆ เป็นป่าที่แน่นไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ และที่สำคัญเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสี
Location: ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
ฤดูท่องเที่ยว: ช่วงปลายฝนต้นหนาว ปลายเดือนตุลาคม – เดือนธันวาคม
ไฮไลท์: ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสี
5.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, นครราชสีมา
แน่นอนว่าช่วงเข้าใกล้ฤดูกรีนซีซั่นแบบน้ี เขาใหญ่ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ใครๆ ก็อยากเดินทางไม่สัมผัสบรรยากาศและพักผ่อนกันสักครั้ง และอุทยานแห่งชาติเชาใหญ่เป็นหนึ่งอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ที่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีโอกาสได้ชมสัตว์ป่าอีกด้วย นอกจากนี้ภายในอุทยานยังมีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอีกด้วย
Location: อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
Price: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ฤดูท่องเที่ยว: สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ในฤดูฝนธรรมชาติจะอุดมสมบูรณ์ที่สุด
ไฮไลท์: น้ำตกเหวนรก, น้ำตกผากล้วยไม้, น้ำตกเหวสุวัต, จุดชมวิวผาเดียวดาย, จุดชมวิวผาตรอมใจ, ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
อ่านรีวิวที่พักเขาใหญ่คลิ๊ก>> 10 ที่พักปากช่อง-เขาใหญ่บรรยากาศดี
อ่านรีวิวร้านน่านั่งเขาใหญ่คลิ๊ก>> 7 ร้านอาหาร+คาเฟ่ริมน้ำน่านั่งเขาใหญ่
อ่านรีวิวจุดเช็คอินเขาใหญ่คลิ๊ก>> 10 ที่เที่ยวเขาใหญ่น่าไปเช็คอิน เที่ยวง่าย เสาร์-อาทิตย์ ก็ไปได้
6.ภูลังกา, พะเยา
ภูลังกา ที่เที่ยวสุดอันซีนแห่งจังหวัดพะเยา ที่สายนักเดินทางท่องเที่ยวคงรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะที่นี่มีไฮไลท์พิเศษคือ ภูเขาหินสูงใหญ่ที่ตั้งโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางทุ่งนาและรายล้อมไปด้วยวิวภูเขา ยิ่งถ้าวันไหนมีหมอกล่องลอยมาก็จะได้เห็นทะเลหมอกล้อมรอบภูเขาหินเอาไว้และจะได้เห็นยอดของภูเขาหินโผล่ขึ้นมาท่ามกลางทะเลหมอกซี่งถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Unseen เมืองไทยอีกด้วย
Location: ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา
ฤดูท่องเที่ยว: ช่วงปลายฝนต้นหน้า เดือนตุลาคม – มกราคม
ไฮไลท์: ทะเลหมอกล้อมรอบภูเขาหิน
อ่านรีวิวที่พักภูลังกาคลิ๊ก>> 6 ที่พักพะเยา ภูลังกา มองเห็นวิวภูเขาสุดอันซีนได้จากบนเตียง
อ่านรีวิวคาเฟ่ภูลังกาคลิ๊ก>> 5 คาเฟ่พะเยา ภูลังกา จิบกาแฟ แลวิวสวยสุด Unseen
7.บ้านป่าบงเปียง, เชียงใหม่
ป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนสุดอันซีนในช่วงฤดูฝน เพราะจะเป็นช่วงที่ชาวบ้านป่าบงเปียง ทำการเพาะปลูกนาข้าวและต้นข้าวกำลังขึ้นเป็นสีเขียวขจีเต็มไปทั่วทุ่งนาขั้นบันได และยังมีที่พักสไตล์โฮมสเตย์ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่อยากปลีกวิเวกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อน เพราะที่นี่ไร้ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกและไฟฟ้า เอาเป็นว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรมาให้ได้สักครั้ง
Location: หมู่13 ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
ฤดูท่องเที่ยว: ช่วงเดือน ก.ค. – ส.ค. จะเห็นน้ำสะท้อนพระอาทิตย์ตก ช่วงเดือน ก.ย. – ต.ค. นาข้าวสีเขียว และช่วงลปายเดือน ต.ค. นาข้าวเป็นสีทอง
ไฮไลท์: ทุ่งนาขั้นบันไดสีเขียวช่วงเดือน ก.ย. – ต.ค.
อ่านรีวิวที่พักบ้านป่าบงเปียงคลิ๊ก>> 7 โฮมสเตย์บ้านป่าบงเปียง เชียงใหม่
8.ภูชี้ฟ้า, เชียงราย
วนอุทยานภูชี้ฟ้า สถานที่ยอดฮิตในช่วงฤดูหนาวที่คนจะมากันแต่เช้าเดินขึ้นไปยังยอดของภูชี้ฟ้าเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเป็นส่วนหนึ่งของดอยผาหม่นพรมแดนไทย-ลาวด้านจังหวัดเชียงราย-พะเยา ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,628 เมตร โดยจุดที่ผู้คนมักจะขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นคือ ด้านทิศตะวันออก และประชากรในหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผาม้ง และชาวจีนยูนนาน
Location: บ้านร่มฟ้าไทย ม.10 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
ฤดูท่องเที่ยว: ช่วงปลายฝนต้นหนาว เดือนตุลาคม และช่วงฤดูหนาวเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
ไฮไลท์: ยอดภูเขาที่ชี้ขึ้นไปบนฟ้าและจุดชมวิวทะหมอกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย
9.ดอยอินทนนท์, เชียงใหม่
ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาสัมผัสบรรยากาศกันในช่วงฤดูหนาวแต่รู้หรือไม่ว่าฤดูฝนของดอยอินทนนท์เป็นฤดูที่ธรรมชาติชุ่มฉ่ำที่สุด อีกทั้งดอยอินทยนนท์ยังเป็นที่ที่เรียกได้ว่าเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ระหว่างทางขึ้นดอยอินทนนท์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว จุดเช็คอินมากมายให้แวะได้ตลอดทั้งเส้นทาง ทั้งหมู่บ้านแม่กลางหลวง, พระธาตุพระมหาธาตุนภเมทนีดล – นภพลภูมิสิริ, น้ำตกวชิรธาร, กิ่วแม่ปาน และจุดสูงสุดแดนสยาม
Location: ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
ฤดูท่องเที่ยว: ช่วงปลายฝนต้นหนาว เดือนตุลาคม และช่วงฤดูหนาวเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
ไฮไลท์: พระธาตุพระมหาธาตุนภเมทนีดล – นภพลภูมิสิริ, น้ำตกวชิรธาร, กิ่วแม่ปาน, จุดสูงสุดแดนสยาม
อ่านรีวิวที่พักดอยอินทนนท์คลิ๊ก>> อัพเดต 7 ที่พักดอยอินทนนท์ สัมผัสความหนาว
อ่านรีวิวจุดเช็คอินดอยอินทนนท์คลิ๊ก>> 5 จุดเช็คอินระหว่างทางขึ้น ก่อนถึงยอดดอยอินทนนท์
10.เขาค้อ, เพชรบูรณ์
ปิดท้ายกันที่ เขาค้อ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักตากอากาศที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสวิซเซอร์แลนด์ของเมืองไทย ด้วยบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้อันอุดมสมบูรณ์ทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่พบโอโซนอันแสนบริสุทธิ์ และนอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกหน้าที่จะเกิดขึ้นมากที่สุดในฤดูฝน กับอากาศที่เย็นสบายทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางลิสต์ไว้
Location: ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
ฤดูท่องเที่ยว: ช่วงฤดูฝนเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
ไฮไลท์: จุดชมวิวไปษณีย์เขาค้อ, จุดชมวิวกังหันลม
อ่านรีวิวที่พักเพิ่มเติมคลิ๊ก>> 9 ที่พักเขาค้อ จัดเต็มครบทุกวิว ชิลล์ครบทุกบรรยากาศ
อ่านรีวิวที่เที่ยวเขาค้อคลิ๊ก>> เปิดวาร์ป 5 จุดเช็คอินใหม่เขาค้อ
อ่านรีวิวร้านน่านั่งเขาค้อคลิ๊ก>> 9 ร้านน่านั่งเขาค้อ เมนูอร่อยแบบจัดเต็ม
-
-
บทความยอดนิยมเดือนนี้
