20 ก.ค. นี้ กลุ่มเปราะบางเตรียมรับเงินเยียวยา 3,000 บาท

คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินโครงการเยียวยาช่วยเหลือและชดเชยให้ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแกร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 

---

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า มาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จะได้รับเงินเยียวยา 3,000 บาท ได้รับการยืนยันจากกรมบัญชีกลางแล้วว่าจะดำเนินการจ่ายเงินให้ภายในวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ที่จะถึงนี้

เนื่องจากมีความล่าช้าจากกำหนดเดิมที่จะต้องแบ่งจ่ายเป็นเดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน คือระหว่างเดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฎาคมนั้น ทำให้การจ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางที่ผ่านการอนุมัติแล้วจะนำเงินเข้าบัญชีผู้ได้รับสิทธิครั้งเดียว 3,000 บาท

3 กลุ่มที่ได้รับการเยียวยา 3,000 บาท

1.เด็กที่ได้รับสิทธิโครงการเงินอุดหนุน เพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวน 1,394,756 ราย
2.ผู้สูงอายุ ที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จำนวน 4,056,596 ราย
3.คนพิการ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จำนวน 1,330,529 ราย

กลุ่มเปราะบางทั้ง 3 กลุ่ม เป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยและอยู่ในครอบครัวที่ประสบภาวะทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับผลกระทบการว่างงานของสมาชิกในครอบครัว

หลักเกณฑ์การรับสิทธิเยียวยา 3,000 บาท

1.ต้องเป็นผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิการช่วยเหลือเยียวยา จากมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของกระทรวงการคลัง การทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ และกระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม)
2.เป็นกลุ่มที่อยู่ในฐานข้อมูลของกระทรวงฯ ได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องมีการลงทะเบียนในการขอรับสิทธิอีก
3.กลุ่มเด็กแรกเกิดที่จะได้รับสิทธิเงินเยียวยา 3,000 บาทนั้น จะต้องอยู่ในกลุ่มที่ได้รับเงินอุดหนุน เพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดในงวดเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วย ถ้าหากยังไม่ได้รับเงินในงวดดังกล่าว หรืออยู่ในขั้นตอนของการลงทะเบียนก็จะไม่ได้รับเงินในส่วนนี้
4.ผู้สูงวัย ที่ได้ลงทะเบียนใช้สิทธิในโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” รับเงินเยียวยา 5,000 บาท 3 งวดไปแล้วนั้น จะไม่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยา 3,000 บาทแต่อย่างใด

ช่องทางการจ่ายเงินเยียวยา 3,000 บาท

ช่องทางที่ 1 กรมบัญชีกลางโอนเงินช่วยเหลือเข้าไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มเป้าหมายที่เคยได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนผ่านบัญชีธนาคารที่มีอยู่เดิม
ช่องทางที่ 2 กรมบัญชีกลางโอนเงินไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะนำจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนเป็นเงินสด

ขอบคุณข้อมูลจาก: จุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมฯ

---