tripgether.com

ทริปไอซ์แลนด์ไปให้สุด นอนบนเตียงดูแสงเหนือ เที่ยวเองรอบเกาะและไปเที่ยวในที่ที่คนยังไปไม่เยอะแต่สวยมาก

22,733 ครั้ง
16 พ.ค. 2560


หลังจากที่ได้เห็นรีวิวหลายๆคนเพื่อมาแพลนทริปไปเอง ผมก็ไปทำการบ้านเพิ่มเพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวเองที่ไอซ์แลนด์และได้เจอที่ๆยังไม่ค่อยมีคนไป ซึ่งส่วนมากที่พวกนี้มักจะสวยมากและนักท่องเที่ยวไม่เยอะ หลายๆที่ที่ไปหาเจอได้ง่าย แต่ก็มีบางที่ที่ต้องจอดรถแล้วเดินตามรอยเท้าคนอื่นเข้าไปเพราะไม่มีทางบอกหรือต้องเปียกเดินเข้าหลืบไปเจอ ผมจึงมาแชร์ข้อมูลวิธีการไปให้ถึงที่เที่ยวอย่างละเอียด ทั้งที่เที่ยวนักท่องเที่ยวไปกันและที่เที่ยวที่ยังไม่ค่อยมีคนไป พิกัดทุกที่ใน Google My Map ที่ผมทำไว้ก่อนไปเที่ยว เพื่อเวลาไปถึงแค่จิ้มพิกัดใน Map กันการเสียเวลาหลงได้ดีมากครับ รวมถึงวิธีการล่าแสงเหนือ ดูข้อมูลพยากรณ์ล่วงหน้าอย่างละเอียด เที่ยวเองรอบเกาะง่ายมากครับ ไม่ต้องนอนรถบ้านก็ราคาต่างกันไม่มากครับ เผื่อคนที่อยากไปในอนาคตครับ

ถ้าคนที่จะไปเร็วๆนี้คงจะเคยหาข้อมูลแล้วรู้ว่าแสงเหนือในปีหน้าๆนี้ไปอีก 10-11 ปี จะเห็นได้ยากขึ้น ซึ่งเท่าที่หาข้อมูลมาเข้าใจว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง

จาก http://dereklow.co/best-chance-to-see-the-northern-lights-for-a-decade/ จะเห็นว่าค่า Solar Activity จะตกลง (เป็นเรื่องของนักวิทยาศาสตร์ เราคงไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามันทำงานยังไงอย่างละเอียด) ทริปนี้ผมจะเรียกว่าโชคดีด้วยก็ได้ที่ได้เห็นแสงเหนือแค่วันเดียวแต่เป็นแสงเหนือ KP7 และเป็นวันที่อยากเห็นที่สุดเพราะเราได้ไปพักที่กลางธรรมชาติ เป็นที่พักโปร่งแสงกลางทุ่งที่สามารถมองเห็นข้างนอกรอบด้านแม้กระทั่งนอนอยู่ในห้องนอน พอเราเหนื่อยกับการกระทำชำเราของลมหนาว เราก็นอนพักในห้องแล้วดูแสงเหนือได้รอบด้านใน 5 Million Star Hotel ที่นี่คือ Buubble Hotel พิกัด 64.172819, -20.504351 จะมีห้องให้เลือกหลายแบบ และบางห้องดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดแต่ราคาเท่ากัน มีครัวกับห้องน้ำกลางให้ครับ ถ้าจะจองแนะนำให้จองให้เร็วที่สุด ในห้องจะมีระบบถ่ายเทอากาศ heater ผ้าห่มไฟฟ้า ถุงนอน เตียงอุ่น เข้าเรื่องการล่าแสงเหนือกันเลยดีกว่า


การล่าแสงเหนือ ประเทศเราไกลและไม่สามารถที่จะรู้ว่าแสงเหนือมาช่วงนี้แล้วจองตั๋วบินไปดูได้เลยจึงต้องแพลนล่วงหน้า แสงเหนือจะมีโอกาสเห็นได้สูงถ้าไปช่วงหน้าหนาวแต่ไม่ได้แปลว่าหน้าร้อนจะไม่มีโอกาสเห็นแต่เห็นยากครับ ถ้าเป็นที่ไอซ์แลนด์ช่วงที่โอกาสเห็นแสงเหนือสูงคือช่วงกันยายนถึงกลางเมษายน ถ้าจะล่าแสงเหนืออย่างเดียวช่วงธันวาคมจะเป็นเดือนที่มืด 20 ชม https://www.timeanddate.com/sun/iceland/reykjavik?month=12&year=2016 ซึ่งเหมาะกับการรอแสงเหนือมาก ข้อเสียคือหนาวและไปเที่ยวอย่างอื่นแทบไม่ได้เลย ส่วนตัวไม่แนะนำเลยครับ ถ้าเห็นก็ดีไป ถ้าไม่เห็นขึ้นมาทั้งทริปเสียตังไปฟรีเลย เพราะความน่าจะเป็นจะประมาณ 4 วัน เห็น 1 วันแต่ปกติมันจะมาติดๆกันหลายวันแล้วหายไปหลายวันเช่นกัน ซึ่งถ้าอยากไปเที่ยวอย่างอื่นด้วยและแนะนำมากเพราะสวยจริงๆ ช่วงกันยายนถึงตุลาคมและกุมภาพันธ์ถึงต้นเมษายนจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดเพราะสว่างนานพอที่จะเที่ยวที่อื่นได้และมีทั้งที่ๆขาวโพลนหิมะและที่ๆไม่มีหิมะไปรอบเดียวได้หลายlandscape การจะรู้ว่าแสงเหนือจะมีคืนนี้ไหม ปกติถ้าให้แม่นๆคือล่วงหน้าก่อนฟ้ามืดประมาณ 2 ชม ถ้ามีเราถึงออกล่าครับ


วิธีการล่าคือ

1.ค่า KP Index จะเป็นค่าที่บ่งบอกว่าแสงเหนือมีโอกาสเกิดไหม จะมีตั้งแต่ 0-9 ซึ่งในไอซ์แลนด์ค่า KP 2 ขึ้นไปมีโอกาสเห็นได้ในไอซ์แลนด์ และคุ้มค่าที่จะออกไปเสี่ยงหาในคืนนั้น สามารถดูได้จาก http://en.vedur.is/weather/forecasts/aurora/ มุมขวาบนที่มี scale 0-9
2.เมฆจะต้องไม่เยอะครับ ถ้าเมฆเยอะฟ้าปิด จะเห็นแสงเหนือได้ยาก วิธีดูคือดูในเว็ปเดิม ในแผนที่ พื้นที่สีเขียวไม่ได้แปลว่าเห็นแสงเหนือ แต่มันคือเมฆครับ ยิ่งเขียวมากเท่าไหร่ยิ่งฟ้าปิดมากเท่านั้น ถ้าพื้นที่ๆเราอยู่หรือพื้นที่ๆเราสามารถขับไปได้ตอนกลางคืนสีขาวออกไปได้เลยครับ
3.ดวงจันทร์ ยิ่งดวงจันทร์สว่างเท่าไหร่ก็ยิ่งรบกวนให้เราเห็นแสงเหนือได้ยากขึ้น รวมถึงแสงในเมืองด้วยครับ
4.การเตรียมตัวออกล่า ควรใส่เสื้อผ้าที่กันหนาวได้มากๆรวมถึงหูและมือเพราะเราต้องยืนตากลมอย่างแรงของไอซ์แลนด์ประเทศที่หาต้นไม้ได้ยากมากกับอุณหภูมิติดลบ ถึงไอซ์แลนด์จะไม่ได้ติดลบเยอะนักแต่ลมที่นี่ดูถูกไม่ได้ครับ
5.มองไปทางเหนือ นั่นคือสิ่งที่เค้าบอกกัน แต่พอผมหันหลังไปทางใต้กลับเจอก่อน เพราะฉะนั้นมองมันทั่วฟ้ารอบๆแหละครับ ช่วงแรกๆถ้าไม่เคยเห็นเราจะเข้าใจว่าเมฆเล็กๆบางก้อนคือแสงเหนือ แนะนำให้เอากล้องถ่ายครับจะได้รู้ว่าไม่ใช่ และบางทีถ้าแสงเหนืออ่อนๆอาจจะไม่เห็นด้วยตาแต่กล้องสามารถถ่ายติดได้ครับ เห็นฟ้าแปลกๆบิดเบือนอะไรถ่ายๆไปก่อนเผื่อใช่ ส่วนที่ผมเจอมันเป็นสีขาวๆฟ้าๆขึ้นมา แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยๆมาเต็มรอบท้องฟ้าเคลื่อนไหวไปมาครับ
6.กล้อง ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่คนถ่ายรูปเก่งแต่ก็อยากเก็บรูปกับแสงเหนือไว้ให้ได้จึงทำการบ้าน สิ่งที่ห้ามลืมคือขาตั้งกล้อง มืดๆไม่มีขาตั้งกล้องถ่ายยังไงก็เบลอ กล้องทุกอย่างที่มีเอาไปให้หมดเพราะเราไม่รู้ว่าแบตกล้องไหนจะหมดบ้าง เวลาหนาวมากๆ แบตจะไม่ทำงานตามที่ควรจะเป็น อยู่ๆแบตก็หมด อยู่ๆก็มีถ้าแบตกลับมาอุ่น การทำแบตให้อุ่นก่อนใช้งาน สำคัญมากครับ เลนกว้างยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดีเพราะถ้ามันมาทั้งฟ้าเราถ่ายเห็นเส้นเดียวคงจะนอยไม่ใช่น้อย การตั้งค่ากล้องจากชาวบ้านที่ถ่ายรูปไม่เก่งจึงต้องหาข้อมูล และการถ่ายวีดีโอเป็นไปได้ยากมากที่จะเห็นแสงเหนือ ไม่แน่ใจว่าถ้ากล้องดีจริงๆจะติดไหม แต่ถ้าถ่ายเป็น timelapse แล้วมาทำวีดีโอสามารถทำได้ครับ ซึ่งจะเห็นวีดีโอตาม youtube บ่อยๆ ตั้งไว้เลยนานๆ การเซ็ทกล้องควรเริ่มที่ค่าประมาณนี้ แล้วปรับตามสถานการณ์ความมืดและแสงเหนือที่เห็นครับ (ND Filter เอาออกให้หมดนะครับ ไม่ใส่หรือใส่แค่ UV Filter ถ้าเป็นโดรน)


กล้อง DSLR
Manual Mode:
ISO: 800 – 3,200
Aperture: f/2.8 shutter speed 10-20 or f/4 – f/5.6 shutter speed 15-30
White Balance: Auto
Color: Off or Vivid or Green
Focus: Infinity
Long Shutter

กล้อง Gopro

Mode: Night Lapse
Shutter = 30 sec
Interval = Continuous
MP = 12MP Wide
Spot Meter = OFF
Protune = ON
White Balance = 3000K
ISO Limit = 800
Sharpness = High

กล้อง DJI Drone
ISO: 400+
Running Light: Off
Frame: Lowest
Shutter Speed: Lowest

กล้องมือถือ

– ใช้แอพถ่ายรูปที่มีให้ปรับ ISO, Shutter Speed แล้วจัด ISO ให้สูงๆ Shutter Speed ต่ำ iPhone 6 ก็ถ่ายติดได้ครับแต่ Noise เยอะ
– iPhone 7 สามารถถ่ายเห็นโดยถ่ายปกติถ้าแสงเหนือแรงจริงๆ เน้นนะครับว่าเห็นไม่ได้แปลว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด

นี่คือรูปที่ถ่ายจาก (แสงสว่างกลมๆ ที่พื้นนั่นคือที่นอนเราครับ) DSLR เลน wide ที่มียัง wide ไม่พอครับ

Gopro Hero 4 Silver

iPhone 6

ซึ่งสิ่งที่ผมไม่รู้ก่อนไปทริปนี้คือแสงเหนือไม่ได้มีแค่สีเขียว จนกระทั่งผมได้ไปเห็นกับตาแล้วจึงสงสัยกลับมาหาข้อมูล แสงเหนือมีหลายสีครับ แค่สีที่เห็นง่ายที่สุดคือสีเขียว จาก https://www.theaurorazone.com/about-the-aurora/the-science-of-the-northern-lights/the-northern-lights-colours ผมโชคดีคืนที่เห็น KP7 ฟ้าโปร่ง ไร้ดวงจันทร์ เห็นสีฟ้า สีม่วงด้วยแต่ไม่ถึงสีแดง

พิกัดของทั้งทริปที่ผมไปมา สามารถจิ้มจุดได้เลยตอนไป ดูได้ที่นี่ https://drive.google.com/open?id=1TtTPYsirOt5da_bp6MgY8khWas4&usp=sharing เข้าเรื่องแพลนทริปที่ผมไปมาเลยดีกว่า พร้อมกับที่ๆน่าไปเป็นทางเลือกถ้าจะแก้ทริปจากของผม 


วันแรก วันที่ 25 มีนาคม 2560

ผมถึงไอซ์แลนด์ในเวลาบ่ายสามครึ่งแล้วก็รีบแลกเงินส่วนนึงเพื่อใช้ยามฉุกเฉินแต่จริงๆแล้วทุกที่ที่ไปทั้งทริปรูดบัตรได้ และซื้อซิมเผื่อ pocket wifi ไม่มีสัญญาณและ GPS ในรถดันหาที่ไม่เจอ กันไว้ทุกทางครับ เดินไปรับรถของ Blue Car Rentalประมาณไม่กี่ร้อยเมตร จริงๆมีรถไปส่งแต่ขี้เกียจรอ เช่ารถ Landrover Discovery 4WD Diesel Automatic Winter Tyre ไว้ แถมได้ Pocket Wifi กับ GPS ฟรีมาให้ด้วยและเพิ่ม Roof Box กับประกันทุกชนิดเพราะกันพลาดครับ สุดท้ายขับไม่ชนอะไรแต่ซื้อความสบายใจไม่ต้องจ่ายหนักถ้าชน ที่โน่นต่อให้มีประกันก็ต้องจ่ายนะครับแต่จำกัดเงินที่ต้องจ่ายถ้าชนหรือรถเป็นรอยจากทราย เลือกคันนี้เพราะเราไปกัน 5 คน ผู้หญิงเยอะ ของเยอะครับและมีผู้ใหญ่ไปด้วย เราย้ายที่ทุกวันเลยเอาคันที่นั่งสบายหน่อยเพราะขับรถไกล มั่นใจเวลาขึ้นเขา ถนนหิมะและถนนเหว พอได้รถเราก็ไปรับคนอื่นที่รออยู่หน้าสนามบิน ขนของขึ้นรถรีบไป Blue Lagoon พักผ่อนหลังนั่งเครื่องมานานและทานข้าวที่นั่นเลยในร้านอาหาร Lava อร่อยดีครับแต่แพงมากเป็นมื้อที่แพงที่สุดในทริป จบจากทานข้าวก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว เราจองที่พัก Airbnb ไว้ที Reykjavik ที่พักที่เราจองขั้นต่ำต้องจองสองคืน เราอยู่พอดีสองคืนเพราะอีกวันจะเป็นวันเที่ยวเมืองและสต็อกอาหารทั้งทริป ที่พักดีมากครับ สามารถดูได้ที่ https://www.airbnb.com/rooms/8590163 ตกคืนละพันนิดๆต่อคน มีครัว ที่จอดรถหน้าบ้าน ห้องนอนสองห้อง วันนี้เมฆเยอะและ KP2 เราจึงตัดสินใจไม่ล่าแสงเหนือครับ พักดีกว่า

Blue Lagoon

พิกัดใน Google Map 63.87917, -22.44538
ระดับความสวย 4/5 
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 3/5 
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 5/5

ไปตาม Google Map ก็ถึงครับ ที่นี่ควรจองมาก่อนนะครับในเว็ปของมันเลยครับ สวยดี relax มากแต่นักท่องเที่ยวเรียกได้ว่ามหาศาล แก้ผ้าเต็มห้องแต่งตัว ผ้าเช็ดตัวที่วางตอนเราลงแช่น้ำมั่วกันไปหมด น้ำไม่ร้อนมากครับไม่เกิน 40 องศา ต้องใส่ชุดว่ายน้ำลง


วันที่สอง 26 มีนาคม 2560

วันนี้ค่อนข้างชิวๆครับ ออกจากที่พักประมาณ 11 โมงเช้า ไปดูโบสถ์ Hallgrimskirkja ประมาณสิบกว่านาทีก็ถึงโบสถ์ครับ ตอนไปถึงฝนตก ไม่มีแดด ถ่ายรูปยังไงก็ไม่สวย เราจึงตัดสินใจเดินไปชิวๆ แถวๆโบสถ์หาร้านกินข้าวเที่ยงและเดินไปที่ Sun Voyager เพราะไม่ไกลมากประมาณ 1 กม เดินเอาบรรยากาศในเมือง ผ่านร้าน 66 North เสื้อหนาวของบ้านเค้า สวยมากและแพงมากทำใจซื้อไม่ลง พอไปถึง Sun Voyager ถ่ายรูปเสร็จเราก็เดินกลับมาที่รถครับ ขากลับผ่านโบสถ์อีกทีตอนนี้มีแสงมาบ้างจึงได้ถ่ายรูปก่อนขึ้นรถไปซื้อของ เราตัดสินใจข้าม 2 ที่ไป Tjörnin Pond กับ Perlan เพราะดูๆ 2 ที่ๆเราไปแล้ว ไม่รู้สึกมันสวยอย่างที่รูปถ่าย ไปซื้อของที่ Bonus ที่นี่ถูก เพื่อเตรียมอาหารทั้งทริปเวลาที่หาร้านอาหารไม่เจอหรือไม่มีเวลาไม่ทันกินครับ พอเสร็จแล้วเราก็กลับมาที่พักที่เดิม รีบทำอาหาร เพราะพยากรณ์บอกเราว่าคืนนี้ KP 4 แต่พอเรากินเสร็จดูอีกทีตอนทุ่มนึง มันกลายเป็น 0 เราจึงนอยและนอนไปครับ


วันที่สาม 27 มีนาคม 2560 วันที่รอคอย ได้ออกนอกเมืองซักที

วันนี้ออกแต่เช้าเพราะต้องไปเช็คอินที่พักก่อน 6 โมงเย็นแต่พอไปถึงจริงๆมีคนเช็คอิน 5 ทุ่มแต่ต้องแจ้งเค้าก่อน เช้ามาออกไปกินข้าวแถวๆน้ำตกแรกที่จะไป พิกัด 64.24282, -20.55039 มีนกสองตัวให้ดูในร้านที่เค้าเลี้ยงแต่ดันร้องเสียงเป็นแมว แล้วก็แวะน้ำตก Bruarfoss งงอยู่ว่าจอดรถไหนเพราะเข้าไปต่อไม่ได้แล้วจากจุดที่เรามาร์คไว้ สุดท้ายก็ถามคนแถวนั้นแล้วจอดรถเดินลุยเข้าไป 20 นาทีกับโคลน แต่พอถึงแล้วสวยมากน้ำฟ้าเหมือนรูปเป๊ะ หายเหนื่อยเลย จากนั้นเราก็ไปต่อที่ น้ำพุ Strokkur เราเห็นมันพุ่งรอบนึงแล้วก็รู้ฉึกเฉยๆ ถ้าใครเคยเห็นน้ำพุแล้วมันก็เหมือนๆกัน คนเยอะ อากาศหนาว ลมแรง ขี้เกียจรออีกรอบเลยกลับไปที่รถแล้วไปน้ำตก Gullfoss ค่อนข้างเป็นน้ำตกที่ใหญ่มากครับ และก็รีบเข้าที่พักไปทำกับข้าว ซึ่งคืนนี้เราเช็ค KP ของช่วงสามทุ่มเรื่อยๆและเห็นว่ามันแรงขึ้นเรื่อยจนถึง KP 7 ตอนเวลาที่เช็คทุ่มนึง พอสามทุ่มเรารอมันมา แล้วครึ่งชมเท่านั้นแหละ ระเบิดมันทั่วฟ้า ฟินไปจนถึงเที่ยงคืนก็ยังไม่หมด แต่พอหายตื่นเต้น มันก็หนาวจนทนไม่ไหวแล้วไปนอนดูในห้องนอนต่อถึงตีสองก็ยังไม่หมด เลยต้องยอมนอน

Bruarfoss

พิกัดใน Google Map 64.26425, -20.5157
ระดับความสวย 5/5
ความยากในการหา 4/5
ความลำบาก 4/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 1/5

น้ำตกที่ป้องกันนักท่องเที่ยวเข้าถึง ตอนขับรถไปถึงจะมีที่จอดรถอยู่ประปรายใกล้ๆกัน สามารถจอดจุดไหนก็ได้ที่มองจาก map แล้วใกล้ตัวน้ำตก ลงมาให้เดินข้ามรั้วเล็กๆและเดินตามรอยเท้าคน ตอนผมไปเป็นดินโคลนหมดเลยและบางจุดเท้าจมโคลนเละทั้งเท้าได้ง่ายมากครับ เดินระวังจะได้ไม่เละแบบผม เดินไปประมาณ 20 นาทีจะถึงสะพานที่สามารถดูน้ำตกนี้ได้ น้ำฟ้าแบบในรูปเลยครับ ตอนแรกที่ผมเห็นก็คิดว่าแต่งรูป พอเจอของจริงเท่านั้นหายเหนื่อยเลย

Strokkur Geysir

พิกัดใน Google Map 64.31038, -20.30231
ระดับความสวย 3/5
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 1/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 4/5

สถานที่ท่องเที่ยวที่หาง่ายตาม Google Map มีขายของชำร่วยตามสูตรสถานที่ท่องเที่ยวของทัวร์ น้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นทุก 6-10 นาที และสูงประมาณ 15-20 เมตร สามารถสูงสุดได้ถึง 40 เมตร ถ้าใครเคยไปดูน้ำพุร้อนที่อื่นมาแล้วจะไม่มาก็คงไม่เสียดายอะไรครับเหมือนๆกัน

Gullfoss

พิกัดใน Google Map 64.32513, -20.12521
ระดับความสวย 3/5
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 2/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 4/5

อีกที่ที่หาง่ายตาม Google Map และมีขายของชำร่วย เป็นน้ำตกที่ใหญ่และระหว่างทางเดินไปจะเจอละอองน้ำจากน้ำตกบ้าง


วันที่สี่ 28 มีนาคม 2560

วันนี้เป็นวันที่ค่อนข้างเที่ยวหลายที่เพราะเราถูก fix location ที่พัก จาก Buubble Hotel ไป Hali Hotel เพื่อไปพักใกล้ๆจุดนัดเจอไกด์ถ้ำน้ำแข็งวันถัดไป แต่เราเจอข่าวร้ายว่าเค้ายกเลิกเพราะถ้ำน้ำแข็งละลายแล้ว วันนี้เลยต้องเที่ยวอัดโดยไม่จำเป็น เช้ามาเราออกจากที่พักไป Seljalandsfoss Waterfall ที่สามารถเดินไปข้างหลัวน้ำตกได้และสวยกว่าข้างหน้ามาก จากนั้นเดินไป เลาะน้ำตกไปสองสามอันจะเจอน้ำตก Gljúfrabúi สามารถปีนขึ้นไปดูข้างบนได้ทางโหดอยู่หรือเข้าหลืบไป ซึ่งต้องลุยน้ำแต่สวยมาก กลับมาที่รถขับไปที่ Skógafoss waterfall น้ำตกที่เมื่อไหร่มีแสงแดดจะมีรุ้ง ถ้าโชคดีอาจจะได้เจอรุ้งสองเส้นเลย สามารถเดินขึ้นบันไดโคตรสูงไปข้างบนได้แต่บอกเลยว่าไม่ค่อยคุ้มค่าเหนื่อย พอจบจากที่นี่ จากเวลาที่มีเราตัดสินใจตัด Kvernufoss ไปเพราะคาดว่าไม่งั้นจะดึกมาก เราจึงไปทะเล ทรายสีดำต่อ แปลกดีครับดูทมึนๆและกินข้าวเที่ยงที่นี่ เสร็จแล้วเราขับไปหุบเขา Fjadrargijufur บอกเลยว่าสวยมาก จากนั้นเราแวะกินข้าวเย็นแถวนั้นแล้วขับไป Hali Country Hotel ซึ่งเริ่มมืดจนแสงหมดไป ไม่มีไฟถนนใดๆทั้งสิ้นและทางเลี้ยวเยอะ ผมขับเองมาทุกวันจนวันนี้ จากที่คึกๆพอเพ่งมากๆเริ่มง่วง อันตรายมากครับ ต้องให้คนในรถช่วยคุยตลอด จะหลับ ครั้นจะให้น้องที่เป็นคนขับขี่เสริมตอนจองรถมาลองขับตอนมืดเลยเราก็ไม่กล้า จนกระทั่งถึงที่พัก ตัดสินใจว่าพรุ่งนี้ให้น้องมันขับตอนเช้า เวลาเหนื่อยจะได้ช่วยกันได้ คืนนี้ KP 4 แต่เมฆบังมิดเช่นเคย

Seljalandsfoss

พิกัดใน Google Map 63.616, -19.99275
ระดับความสวย 3/5 ข้างหน้า 4/5 ข้างหลังน้ำตก
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 1/5 ข้างหน้า 3/5 ข้างหลังน้ำตก
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 3/5

เป็นน้ำตกที่หาง่ายมากครับ ตาม Google Map ไปจอดรถลงเดินไม่กี่ก้าวถึงแล้ว เป็นน้ำตกที่สูงและเป็นที่ๆผมรีบและพลาดทำโดรนตกในน้ำตกนี้ จุดเด็ดไม่ได้อยู่ที่ข้างหน้าน้ำตก แต่ความสวยมันอยู่ที่เวลาเราเดินไปข้างหลังน้ำตก เตรียมเปียกกับละอองน้ำจากน้ำตกได้เลยครับแต่คุ้มค้ามาก

Gljúfrabúi

พิกัดใน Google Map 63.61981, -19.98966
ระดับความสวย 5/5
ความยากในการหา 2/5
ความลำบาก 3/5 ลุยถ้ำ 4/5 ปีน
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 1/5

น้ำตกที่เดินถึงจาก Seljalandsfoss (หนึ่งในที่เที่ยวยอดนิยม) พอขับรถไปถึง Seljalandsfoss เราจะเห็นน้ำตกข้าง Seljalandsfoss เรียงกันอีก 2-3 อันให้เดินไปจนสุดทางประมาณ 700 เมตรจะมีหลืบถ้ำเล็กๆที่ต้องเดินลุยน้ำเข้าไป ข้างในจะมีละอองน้ำเยอะมาก แนะนำให้ใส่ชุดที่เหมาะกับการเปือกละอองน้ำและอุปกรณ์รวมถึงกล้องที่กันน้ำได้ละดับนึงเข้าไป คนเข้าไปไม่เยอะถ่ายรูปหรือมองด้วยตาก็สวยมากครับ ซึ่งมีอีกทางที่ไม่เปียกคือการปีนขึ้นไปดูยอดข้างบนน้ำตกครับ ทางค่อนข้างหวิวๆแต่ขึ้นไปสุดแล้วไม่สวยเท่าลุยน้ำเข้าไปข้างล่างครับ

Skógafoss

พิกัดใน Google Map 63.5295, -19.51316
ระดับความสวย 3/5 
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 1/5 ดูบนพื้น 4/5 ดูข้างบน
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 4/5

น้ำตกที่หาง่ายเช่นกันอีกที่ครับ ตาม Google Map ไปจอดรถเดินซัก 100 เมตรก็ถึงหน้าน้ำตกแล้วครับ ทีเด็ดของมันอยู่ที่เวลามีแดดออกมันจะสร้างสายรุ้ง 2 วงและสามารถขึ้นไปดูน้ำตกมุมสูงได้โดยเดินขึ้นบันไดไปครับ ไม่ค่อยแนะนำเพราะสูงพอสมควรและข้างบนไม่ได้สวยกว่าข้างล่าง มุมมองส่วนตัวนะครับ

Reynisdrangar

พิกัดใน Google Map 63.40428, -19.0448
ระดับความสวย 3/5
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 2/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 4/5

หาง่ายเช่นเคย ตาม Google Map นักท่องเที่ยวเยอะครับ เป็นทะเลที่แปลกครับทะเลที่ทรายสีดำ ถ่ายรูปสวย มีหินที่คนชอบไปถ่ายรูปกัน

Fjadrargijufur

พิกัดใน Google Map 63.77127, -18.17181
ระดับความสวย 5/5
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 2/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 2/5

ตาม Google Map ไปถึงที่จอดรถได้เลยครับ ทางเดินสบายเดิน 10 กว่านาทีก็ถึงสุดทางแล้วครับถ้าไม่รวมเวลาถ่ายรูป สวยมากครับเป็นเหวหลืบลงไป ทั้งมองด้วยตาและถ่ายรูปสวยครับ

Kvernufoss

พิกัดใน Google Map 63.52868, -19.48045
ระดับความสวย 3/5 
ความยากในการหา 3/5
ความลำบาก 3/5 
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 1/5

จากที่ได้ดูรีวิวมา จะเป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้ๆ Skógafoss ขับรถไม่ไกลแต่ต้องเดินต่อไป 20 นาที ถ้าทางมีหิมะเยอะและไม่ได้เตรียมชุดและรองเท้าดีๆมาไม่แนะนำให้ไปครับ วิธีไป ขับผ่าน Skógafoss แล้วตรงไปจนถึง Skógar museum จอดรถหลัง museum ดูให้ดีว่าจอดได้ไหมนะครับ เดินไปจนถึงแม่น้ำข้างหลังของ museum แล้วข้ามรั้วเมื่อเจอแม่น้ำให้เดินเลียบไปที่หุบเขาใช้เวลาประมาณ 20 นาที

Sólheimasandur Plane Crash 

พิกัดใน Google Map 63.45952, -19.36461
ระดับความสวย 2/5 
ความยากในการหา 2/5
ความลำบาก 4/5 
ความแน่นของนักท่องเที่ยว NA

เมื่อก่อนมันเคยสามารถนำรถไปจอดใกล้ๆได้เลยแต่เดี๋ยวนี้เห็นจากรีวิวอื่นจะบอกว่ามันเป็นที่ส่วนบุคคลและต้องจอดรถไกลจากซากเครื่องบินถึง 4 กิโลเมตรแล้วเดินไป เสียเวลากับแค่ซากเครื่องบินตกผมเลยตัดสินใจไม่ไปครับ ใครเวลาเหลือก็สามารถไปดูได้ครับ


วันที่ห้า 29 มีนาคม 2560

หลังจากที่เราถูกยกเลิกถ้ำน้ำแข็ง เช้ามาเราก็กินอาหารเช้าที่โรงแรมเพราะมีให้และขับไปดู Glacier กับทะเลที่มีใครยกเอาน้ำแข็งมาตั้งไว้ทำไมไม่รู้ (ฮื้ออ) ทรายสีดำเช่นกันครับ มองด้วยตาสวยดีแต่ความสามารถในการถ่ายรูปของเรา ทำให้ได้ภาพมาแบบนี้ เสร็จแล้วเราก็ขับไป Vesturhorn พอถึงก็พักกินข้าวและจ่ายค่าผ่านทางลุงเจ้าของที่ ที่นี่เงียบดีมีแค่พวกเราตอนนั้น จากนั้นเราก็ไปเมืองแถวๆที่พักเพื่อไปกินข้าว ดันไปเจอที่แถมสวยดีครับน้ำตก Folaldafoss สามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆได้ประมาณ 5 นาที หาใน Google Map ไม่เจอครับแต่เป็นทางผ่านพอดี จากนั้นเข้าที่พักครับ บ้านน่ารักมากให้ผู้พักวาดรูปไปแปะผนังได้ ป้าเจ้าของก็ต้อนรับดีมาก ราคาต่อคนต่อคืนเกือบพันบาทเท่านั้น https://www.airbnb.com/rooms/2611203 มีครัวและเช่นเคยคืนนี้ KP 4 แต่เมฆหนา

Jökulsárlón Glacier

พิกัดใน Google Map 64.04804, -16.18068
ระดับความสวย 4/5
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 1/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 2/5

หาง่ายจอดรถสะดวกตาม Google Map เช่นเคย ฝั่งตรงข้ามของทะเลน้ำแข็ง Ice Beach เลยครับ สีของ Glacier สวยมากครับ

 

Jökulsárlón Ice Beach

พิกัดใน Google Map 64.04237, -16.18231
ระดับความสวย 4/5
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 2/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 2/5

หาง่ายจอดรถสะดวกตาม Google Map เช่นเคย ไปถึงเดินไปดูทะเลบ้าอะไรก็ไม่รู้มีน้ำแข็งสีฟ้าๆเต็มไปหมด สวยครับ และจะเห็นตากล้องเยอะมากเอาขาตั้งกล้องไปพยายามถ่ายรูปดีๆอยู่ แนะนำให้ถ่าย slow shutter เอารูปเวลาคลื่นซัดเข้าฝั่งครับ

Vesturhorn

พิกัดใน Google Map 64.27259, -14.94464
ระดับความสวย 4/5
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 1/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 1/5

เรียกว่าไกลหน่อยแต่ไปตามทาง Google Map ไปถึงจะมี Café เล็กๆอยู่ที่มีคุณลุงคนนึงเป็นเจ้าของพื้นที่ เราสามารถเดินไปรอบพื้นที่เค้าได้โดยเสียตังหรือจ่ายค่าผ่านทางเพื่อไปจุดถ่ายรูปของ Vesturhorn จะลองขับเข้าไปเลยก็ได้นะครับแต่มันเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลและคุณลุงคนนั้นมีกล้องส่องทางไกลไว้มองรถเข้าออกและส่องจริงด้วยเพราะผมพักกินแซนวิชที่นั่นแล้วเห็นคุณลุงส่องอยู่ ผมไปแค่จุดถ่ายรูป สวยมากเงียบมากครับ มีแค่พวกผมเท่านั้น และพอดีชอบปีนเขาก็ซนตามภาษานักปีนเขา

Folaldafoss

ระดับความสวย 3/5
ความยากในการหา 3/5
ความลำบาก 3/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 1/5

เป็นระหว่างทางที่ไปจาก Vesturhorn มุ่งหน้าสู่เมือง Egilsstaðir พอเจอแล้วผมลงไปถึงน้ำตกขึ้นมาถ่ายรูปที่อ่านไม่รู้เรื่องมาหาข้อมูลว่ามันคือน้ำตกอะไร แต่ไปใส่ใน Google Map ก็หาไม่เจอครับ สวยดี ถ้าเจอควรแวะครับ

 

 

Crystal Cave – ไม่ได้ไปเพราะต้องใช้ไกด์พาเข้าเพื่อความปลอดภัยกันถ้ำถล่ม จองไว้แล้วแต่ถูกยกเลิกเพราะน้ำแข็งเริ่มละลายแล้วครับ เสียดายมากๆ รีวิวจากที่ทำการบ้านในเน็ทมาครับ ช่วงเวลาที่ไปได้ พฤศจิกายนถึงมีนาคม ถ้าให้เห็นชัวร์เลี่ยงเดือนแรกกับเดือนสุดท้ายกันพลาดเหมือนผมครับ

Link guide tour

พิกัดใน Google Map จุดนัดเจอ 64.04839, -16.17944
ระดับความสวย 5/5
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 2/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว NA

ถ้าจะไปง่ายมากครับจองไกด์คนละประมาณ 19,990 ISK หรือประมาณ 6 พันกว่าบาท ไปเจอไกด์ที่ Jökulsárlón glacier lagoon boat tour ใน Google Map หาง่ายครับตอนไปผมไปก็ผ่านครับ แล้วเค้าจะขับรถ 4WD ของเค้าพาไปถึงถ้ำน้ำแข็งประมาณครึ่งชมครับ ใช้เวลา 2-3 ชม รวมทั้งการเดินทางและเวลาที่อยู่ในถ้ำน้ำแข็ง ถ้าไปแค่ดูถ้ำน้ำแข็ง จากรูปมันสวยมากครับ ควรไม่พลาดอย่างยิ่ง

Gufufoss

พิกัดใน Google Map 65.23989, -14.05757
ระดับความสวย 3/5
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 1/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว NA

ถ้าจะไปจะวิ่งจาก Vesturhorn ไปเมือง Seyðisfjörður ก็จะน่าจะผ่านอยู่แล้ว


วันที่หก 30 มีนาคม 2560

เช้าวันนี้เราก็ขับออกไป Dettifoss น้ำตกที่แรงที่สุดในยุโรป พอถึงแล้วก็พักกินแซนวิชที่ทำมาแล้วก็เดินพื้นหิมะเข้าไปดูทั้ง 3 จุดชมวิว พอเสร็จแล้วเราก็ขับไปที่ Godafoss ถึงแล้วจอดรถเดินใกล้ๆเลยครับ พอดูเวลาจึงคิดว่าไม่ไป Aldeyjarfoss แล้วเพราะกว่าจะขับไปถึงกว่าจะเดินไปกลับรวมๆแล้วหลายชม เราจึงขับไปเมือง Akureyri เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ แวะซื้อของเล็กน้อยเข้าที่พักจองจาก Airbnb เช่นเคย ห้องพักสวยมีสมุด Guestbook ให้เขียน https://www.airbnb.com/rooms/9523451 คนละไม่ถึงสองพัน ทำอาหารกิน คืนนี้ KP2 เมฆเต็มฟ้า เช่นเคยครับนอน

Dettifoss

ช่วงเวลาที่ไปได้ ไม่ใช่หน้าหนาวเพราะถนนถูกปิด พิกัดใน Google Map 65.81514, -16.38563
ระดับความสวย 4/5
ความยากในการหา 2/5
ความลำบาก 3/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 3/5

เป็นที่ๆอาจจะต้องแลกกับ Ice Cave ถ้าหิมะละลายเยอะถนนก็เปิดแต่ Ice Cave ก็มีสิทธ์ที่จะละลายสูง เป็นน้ำตกที่แรงที่สุดในยุโรปครับ สามารถเข้าได้ 4 ทาง ทางที่มักจะเปิดเร็วที่สุดหลังหน้าหนาวคือทางถนน Tarmac ซ้ายล่างของน้ำตกซึ่งผมได้เข้าทางนั้นพอดี ตอนเห็นว่าไปได้ก่อนเดินทางไม่ถึงสองวัน ดีใจมากแต่ก็แลกกับ Ice Cave ไปเรียบร้อย ผมค้นใน Google Map ทางเข้าทางนี้ไม่เจอและใน GPS ของรถด้วย แต่เราสามารถเทียบ Map แล้วหาทางเข้าได้ไม่ยากครับ เข้าไปจนสุดทางที่ไปได้จะเห็นที่จอดรถ จอดแล้วเดินประมาณไม่ถึงกิโลในทางเดินหิมะ เดินไม่ยากครับถ้ารองเท้าดีหน่อย ถึงจุดชมวิวจะมี 3 จุด 2 จุดจะเป็นสำหรับ Dettifoss ใหญ่และแรงมาก ละอองน้ำเยอะเช่นเคยถึงจะอยู่ไกลจากน้ำตก อีกจุดจะเป็น Selfoss (ชื่อเดียวกับเมืองในไอซ์แลนด์ด้านล่างเกาะ) น้ำตกเล็กแต่สำหรับผมสวยกว่าครับ รูปสุดท้าย

รูปด้านล่างนี้คือ Selfoss ครับ

Goðafoss: Waterfall of the Gods

พิกัดใน Google Map 65.68277, -17.55019
ระดับความสวย 4/5
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 2/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 3/5

เรียกว่าตาม Google Map ก็ถึงอีกแล้ว มีจุดจอดรถสองที่คนละวิว เดินไม่ไกลก็เจอน้ำตกครับ ตอนช่วงผมไปก็ยังเป็นพื้นหิมะอยู่ สวยครับแต่มีความคล้าย Selfoss อยู่เล็กน้อย ส่วนจุดที่ไกลน้ำตกกว่าจะสามารถเห็น Geitafoss ด้วยเค้าเรียกกันว่าน้องสาวของ Goðafoss 

 

Aldeyjarfoss

พิกัดใน Google Map 65.36646, -17.33694
ระดับความสวย 3-4/5 
ความยากในการหา 4/5
ความลำบาก 5/5 
ความแน่นของนักท่องเที่ยว NA

น้ำตกนี้อยู่ในหุบเขา Bárðardalur จากรีวิวบอกว่าสวยมากครับแต่เดินชมนึง เวลาเราไม่พอ จริงๆอยากลองเดินไปดูแต่ไม่มีเวลาครับ วิธีไปให้ขับแยกระหว่าง Goðafoss กับ Akureyri ไปทางถนนหมายเลข F26 นอก Ring Road จะเป็นถนนภูเขา F26 ขับไปจนสุดทางหรือเห็นฟาร์มชื่อ Mýri คือใกล้ถึงแล้ว ถึงแล้วจอดรถ เดิน hiking ตามแม่น้ำ Skjalfandafljot เป็นเวลา 1-2 ชม แล้วแต่อากาศ


วันที่เจ็ด 31 มีนาคม 2560

 

วันนี้เที่ยวที่เดียวและขับไกลมาก เช้ามาขับไป Kirkjufell ผ่านถนนลูกรัง และขับไปที่พักที่ Reykjavik จอง Airbnb คนละไม่ถึงสองพันบาท https://www.airbnb.com/rooms/13159452 มีครัวดีๆ เช่นเคย ระหว่างทางกลับเจออุโมงลอดใต้น้ำข้ามฟากให้ขับด้วยเจ๋งดี เสียค่าผ่านทางเล็กน้อยจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ และวันนี้ก็ไม่มีแววจะได้เห็นแสงเหนือเหมือนกันครับ

Kirkjufell สถานที่ถ่ายทำของ Game of Thrones

พิกัดใน Google Map 64.94166, -23.30694
ระดับความสวย 4/5 ด้วยรูป 3/5 ด้วยตา
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 1/5
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 3/5

เป็นที่ๆไปง่ายแต่ถ้าหา Kirkjufell ใน Google Map มันจะพาไปถึงจนเราเห็นน้ำตกที่ไว้เป็นมุมยอดฮิตในการถ่าย แต่มันจะพาเราลึกไปต่อจนเข้าที่ส่วนบุคคลครับ ผมเข้าไปแล้ว GPS ขึ้นเป็น F Road หรือบ้านเราคือ Offroad ครับ เลยต้องกลับรถแล้วไปที่น้ำตก ง่ายๆคือเจอน้ำตกวิ่งไปจอดเลยครับ สวยมุมเดียวตามรูปถ่ายครับ 555 จะเจอนักท่องเที่ยวและขาตั้งกล้องวางเรียงถ่ายเพื่อรูปมุมยอดฮิตมุมนั้นเยอะมาก มุมนั้นสวยจริงครับแต่ต้องเพิ่งแสงหรือแสงเหนือมันจะสวยมากครับ

ระหว่างทางทั้งทริป

ระดับความสวย 4/5 
ความยากในการหา 1/5
ความลำบาก 1/5 
ความแน่นของนักท่องเที่ยว 1/5

คุณจะเสียเวลากับการแวะระหว่างทางเยอะมากเพราะมันสวยมากในหลายจุด แต่ละวันที่เราขับรอบเกาะจะเจอกับหลายๆ feel มากๆ เพราะบ้านเค้าเป็น landscape ที่มีภูเขาไฟ สีของภูเขา ดิน การที่ไม่มีต้นไม้บังอะไรทำให้เรามองเห็นสุดลูกหูลูกตา ช่วงผมไปเป็นเดือนมีนาคมปลายๆ ทำให้ทางตั้งแต่สนามบินถึงทางใต้เป็น landscape ที่ไม่มีหิมะสวยไปแบบนึง ทางกลางวนถึงเหนือเป็นทางขึ้นเขาถนนหิมะ landscape หิมะ สวยไปอีกแบบ เรียกว่าในแต่ละวันแทบไม่มีวันไหนไม่ตื่นเต้นกับข้างทางเลย ทริปนี้ใครหลับในรถแพ้

ที่อื่นๆที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลมามากนัก แต่เผื่อใครสนใจอยากไป

Man-Made Ice Cave

ระดับความสวย 3/5 
ความยากในการหา NA
ความลำบาก 1/5 
ความแน่นของนักท่องเที่ยว NA

ที่นี่เป็นถ้ำน้ำแข็งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยรวมสวยดีครับแต่คิดว่าไม่น่าจะสู้แบบธรรมชาติได้ ทีเด็ดที่นี่มีโบสถ์ข้างในครับ สามารถแต่งงานได้จริง

Hvitserkur พิกัดใน Google Map 65.60631, -20.63567

Viti Crater พิกัดใน Google Map 65.71757, -16.75492

 

นั่งเรือดูวาฬที่ Húsavík

Hallmundarhraun lava field พิกัดใน Google Map N64° 44 45.953″ W20° 49 58.888″

 

กิจกรรม Extreme ที่นี่ก็มีนะ FFF Skydiving ช่วงเวลาที่เปิด กลางเมษายนถึงกันยายน

พิกัดใน Google Map 63.83396, -20.38058 ไม่ไกลจาก Reykjavik

คงเป็นหนึ่งในที่น่าโดดร่มมากครับเพราะประเทศนี้วิวสวยมาก ถ้าใครคิดจะลองซักครั้งในชีวิต ที่นี่คงเป็นที่ๆน่าสนใจมากครับ ส่วนผมไปก่อนเค้าเปิดเลยอดไป แฟนผมจะโดด ส่วนผมเคยโดดที่นิวซีแลนด์แล้ว พอแล้ว ใจกล้ารอบเดียว

ปีนเขา ที่นี่ไม่ได้มีแค่ปีนเขาเมืองร้อนอย่างบ้านเราอย่างเดียว แต่มีปีนน้ำแข็งด้วย

Diving ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่คนดำน้ำ แต่ถ้าใครทนหนาวได้ใน vest suit และชอบดำน้ำ ที่นี่คงเป็นอีกที่ที่น่าดำน้ำ รายละเอียดว่าสวยแค่ไหน เจอสัตว์อะไรบ้างผมคงไม่กล้าฟันธง

เช่ารถอะไรดี จริงๆถ้าเราขับ Ring Road อย่างเดียว ถนนค่อนข้างดี จะมีแค่ตอนขึ้นเขาฝั่งขวาถึงบนของเกาะถนนค่อนข้างน่ากลัวใช้ได้และระหว่างทางจากซ้ายบนของเกาะไป Kirkjufell ที่เป็นถนนลูกรัง แต่ถ้าไปหน้าหนาวแนะนำให้เช่า SUV 4WD และใส่ยาง Winter Tyre ดอกยางมันจะมีอะไรเงินๆทิ่มออกมาเพื่อตะกรุยหิมะนี่แหละครับ กันลื่นครับให้เรามั่นใจในการขับเพราะผมเชื่อว่าคนไทยส่วนมากคงไม่ได้ขับรถบนถนนหิมะบ่อยๆ ขับบนหิมะต้องระวังเรื่องเบรกลื่นและเวลาขึ้นเนินใช้แรงส่งข้างล่างหน่อยครับ รวมถึงเวลาจอดรถบนหิมะระวังรถไหลครับ ระวังการขับรถตอนดึกนอกเมืองไกลๆแล้วทางไม่มีไฟซักดวง ขับยากพอสมควรครับ และควรเช็คสภาพถนนทุกเช้าครับว่ามีถนนไหนปิดบ้าง 

รถ พวงมาลัยซ้าย ขับเลนขวา ตรงข้ามบ้านเราหมดครับ 

Speed Limit 
90 km/hr นอกเมือง 
80 km/hr ตามถนนที่ไม่ได้ดีนอกเมือง
30-50 km/hr ในเมืองและเขตชุมชน

นอกนั้นดูตามป้ายครับ พวกผมขับเร็วก็โดนตำรวจเล่นไป 16,000 กว่าบาทครับ เรียกได้ว่าร้องเป็นแมวเลยครับ เค้ามีให้รูดบัตรจ่ายด้วย

เช็คสภาพถนนได้ที่ http://www.road.is/travel-info/road-conditions-and-weather/
เบอร์ฉุกเฉิน 112 มีแอพด้วยชื่อ 112 Iceland แจ้ง location เราได้เลย
มีรูปถนนให้ดูครับ

งบกับบินไปลงไหน ไป 5 คน งบคนละ 70,000 – 80,000 บาท ไม่รวมค่าอาหาร ทำกินเองก็ไม่เกิน 10,000 นึงต่อคนทั้งทริปครับ ค่าตั๋วเครื่องบินถ้าจองช่วงที่มันถูกหน่อย การบินไทย จากกทม ไปกลับ โคเปนฮาเกน Icelandair จากโคเปนฮาเกน ไปกลับ ไอซ์แลนด์ รวมแล้วอยู่ที่ 30,000 บาท ค่าเช่ารถ Landrover Discovery 4WD Diesel Automatic Winter Tyre 7 วันกับ Blue Car Rental รถดีไม่มีปัญหาอะไรเลยแถมได้ Pocket Wifi กับ GPS มาให้ด้วยและเพิ่ม Roof Box กับประกันทุกชนิดเพราะกันพลาดครับ ราคาตกคนละ 15,000 บาทต่อ 7 วัน รถมันถ่ายกับอะไรก็สวย

ค่าน้ำมัน ประมาณ 3,000-4,000 บาทต่อคนทั้งทริป ผมมีทำพลาดที่ใช้ Debit ของแฟนที่เรียนอยู่ที่อังกฤษรูดเพราะมี PIN บัตรเครดิตที่ไทยไม่มี PIN หรือบางธนาคารถ้ามี PIN ก็ต้องขอบัตรใหม่ ผมขอไปแล้วแต่ได้มาไม่ทัน แล้วพอรูดแล้วไม่รู้ว่ามันตัดแพงถึง 5 เท่าหรือมันผมไปกด Full Tank แล้วปิดไม่เป็นจึงทำให้รถที่มาเติมต่อตัดบัตรแฟนผมก็ไม่แน่ใจโดนทุกรอบ 180 กว่าปอนด์ไปครึ่งทริปทั้งๆที่จริงๆแล้วถูกกว่านั้น 5 เท่า ก็ไม่อยากให้ใครพลาดแบบผมนะครับ ซื้อบัตรน้ำมันเอาก็ได้ครับตามปั๊มที่มีคนเพื่อใช้เวลาปั๊มที่ไม่มีคนเราจะได้รูดได้

ค่าโรงแรม Airbnb 5 คืน รวม 7,500 บาท ต่อคนบ้านพักดีมาก ครัวเต็ม scale ทุกหลัง

Buubble Hotel 1 คืน 3,600 บาท ต่อคน มีห้องครัว เพื่อแสงเหนือแล้วโชคดีได้เห็นคืนนี้จริงๆ
Hali Country Hotel  1 คืน 2,900 บาท

ค่าทำวีซ่าบวกประกันเดินทาง 4,283 บาท 
ค่าทำใบขับขี่สากล 505 บาท
ค่าเข้า Blue Lagoon 1,700 บาท
ค่าไกด์ Ice Cave แต่ได้คืนเพราะไม่ได้ไป 6,400 บาท
ค่าอาหาร กินข้างนอกมื้อละพัน ทำกินเองก็ถูกไปเยอะ อันนี้ขอไม่รวมนะครับแล้วแต่คนไป นี่รูปอาหารที่เราทำที่บ้านครับ

ปั๊มน้ำมัน N1 มีตลอดทางครับ จะมีปั๊มที่เปิด 24 ชมครับแต่ไม่คนอยู่ ต้องใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตที่มี PIN ไม่งั้นก็ซื้อบัตรน้ำมันในปั๊มที่มีคนใช้ได้ครับ ซักครึ่งถังก็เติมได้ครับ

อุณหภูมิช่วงที่ไป -3 ถึง 8 องศาเซลเซียส ชั่วโมงที่สว่าง 10 – 13 ชม ไม่มีสัตว์อันตรายใดๆในไอซ์แลนด์ สิบปีจะเจอหมีขาวซักข่าวนึง ฝากกดไลค์ fanpage ผมด้วยครับ ถ้าใครชอบรีวิวและอยากติดตามเพิ่มเติมในทริปนี้และถัดๆไป ได้ที่ https://www.facebook.com/outof9to5/ กำลังทยอยอัพเดทข้อมูลให้อยู่ครับ


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ