tripgether.com

อันยองทริป 3 วัน 4 คืน บินเดี่ยวเที่ยวเกาหลี ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้แบบชิลล์ๆ

41,637 ครั้ง
6 ก.พ. 2563

อันยองฮาเซโย~ ทักทายกันเป็นภาษาเกาหลีกันสักหน่อย ช่วงนี้กำลังอินกับซีรี่ย์เกาหลีอย่างหนักหน่วง เรียกได้ว่ามีเพื่อนเป็นซีรี่ย์เกาหลีในยามเหงาเลยก็ว่าได้ และเจ้าซีรี่ย์เกาหลีนี่แหละที่เป็นต้นเหตุให้ทริปเกาหลีครั้งนี้เกิดขึ้น แต่การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางไปเองคนเดียว เน้นเที่ยวแบบชิลล์ๆ สูดบรรยากาศความเป็นเกาหลีจริงๆ และแน่นอนว่าจะไปแอบส่องโอปป้าเกาหลีด้วยแหละ ลองตามาดูเลยกับทริป 4 วัน 3 คืน เที่ยวเกาหลี ฉบับผู้หญิงเที่ยวคนเดียว


Day1

สำหรับการเดินทางไปเกาหลีครั้งนี้เราเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไฟล์ทประมาน 23.00 น. เพื่อที่จะอยากไปให้ถึงเกาหลีในตอนเช้าเพราะจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ ซึ่งจะต้องใช้เวลาเดินทางประมาน 6 ชั่วโมง พอขึ้นเครื่องเสร็จก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร หลับเท่านั้นค่ะ รู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงประกาศว่าเครื่องกำลังแลนด์ดิ้งสู่สนามบินนานาชาติอินชอน และมาถึงเกาหลีประมาน 06.30 น.สำหรับการเดินทางไปเกาหลีครั้งนี้เราจองตั๋วเครื่องบินผ่านเว็บไซต์ https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-south-korea ซึ่งรวมราคาที่ดีที่สุดให้กับเราแล้ว เหมาะมากกับการเที่ยวแบบเซฟงบอย่างเรา

Tripkorea1

Tripkorea1


Day2

มาเกาหลีช่วงต้นปีแบบนี้ก็จะได้ฟินไปกับอากาศหนาวๆ และหิมะโปรยปราย ทำเอาคนไทยเมืองร้อนอย่างเราตื่นเต้นจนหยิบมือถือมาถ่ายรูปไม่หยุด จุดหมายแรกที่จะปักหมุดไปก็คือที่พักที่เราจองไว้สำหรับทริปนี้ซึ่งตั้งอยู่ในย่านฮงแด ย่านที่เรียกได้ว่าคึกคักตลอดเวลา มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า เครื่องสำอาง คาเฟ่ ผับ บาร์เพียบ!! สำหรับการเดินทางจากสนามบินอินชอนก็ง่ายมาก นั่ง Airport Railroad Express (AREX) จากสนามบินมาลงที่สถานี Hongik ทางออก 1 และเดินมาอีกแป๊บเดียวก็ถึงที่พักแล้ว

Tripkorea1

Tripkorea1

และที่พักของเราก็คือ House 740 เป็นที่พักสไตล์เกสต์เฮ้าส์แบบชิลล์ๆ มีห้องพักให้เลือกถึง 9 แบบพักได้ตั้งแต่ 2 – 7 คน แต่ทริปนี้มาคนเดียวเลยจองเป็นห้อง Deluxe Double ภายในห้องตกแต่งได้อย่างน่ารักให้อารมณ์โคซี่ๆ เน้นสีขาวและที่สำคัญครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก

Tripkorea1

Tripkorea1

Location: 203 – 48 Donggyo-dong, Mapo-gu, Seoul, Korea // How to go: รถไฟใต้ดินสถานีฮงแด ทางออก 1 

ลืมบอกไปว่าทางที่พักให้เช็คอินตอนบ่ายโมง เราเลยขอฝากกระเป๋าและสัมภาระต่างๆ ไว้ก่อน เจ้าของที่พักก็น่ารักและใจดีมาก ให้เราฝากกระเป๋า แถมยังแนะนำที่เที่ยวให้อีกด้วย และปักหมุดไปต่อที่ ย่านอินซาดง

Tripkorea1

Tripkorea1

อินซาดง (Insa-dong) เป็นย่านเก่าแก่ที่อยู่ใจกลางเมืองโซล สายช็อปต้องห้ามพลาดเพราะที่นี่มีร้านขายของเก่าคลาสสิคๆ อีกทั้งยังมีร้านอาหารแบบดั้งเดิม คาเฟ่ และแกลลอรี่มากมายกว่า 100 แกลลอรี่ หรือใครที่ชอบดูผลงานศิลปะก็ต้องไม่พลาดเช่นเดียวกัน

Tripkorea1

Tripkorea1

Tripkorea1

เดินทางมาเหนื่อยๆ ก็ต้องหาของอร่อยๆ ลงท้องกันบ้างเราเดินมาเรื่อยๆ จนเจอกับร้านสตรีทฟู้ดมากมายซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของย่านอินซาดง และประเดิมกับของกินเล่นเมนูแรกอย่าง Hotteok (Sugar Filled Pancake) ขนมแป้งกลมๆ แบนๆ ใส่ถั่วกับน้ำตาลแดง ทอดในน้ำมันร้อนๆ เมนูนี้คลายความหนาวได้เป็นอย่างดี 

Tripkorea1

Tripkorea1

Tripkorea1

และยังมี ไก่ทอดซอสเกาหลี (Yangnyeom-Tongdak) รสชาติอร่อย เมนูนี้ถูกใจสุดๆ ค่ะ 

Tripkorea1

Tripkorea1

กินของคาวกันไปแล้วก็มาปิดท้ายด้วยเมนูของหวานอย่าง ไอศกรีมขนมปังปลาและสตรอว์เบอร์รี่เคลือบน้ำตาล 

Tripkorea1

Tripkorea1

Tripkorea1

และเมนูโปรดของคนเกาหลีอย่างเกาลัดที่ได้กลิ่นคั่วหอมๆ มาแต่ไกล

Tripkorea1

Tripkorea1

หรือใครที่อยากเอาความอร่อยกลับไปฝากเพื่อนๆ ที่เมืองไทยแนะนำให้ซื้อของกินเล่นพวกลูกอมสไตล์เกาหลี ซึ่งมีหลายรสชาติให้เลือก

Tripkorea22

ความคึกคักของที่นี่ทำเอาเราเดินชมบรรยากาศอย่างเพลิดเพลินใจเลยทีเดียว

Tripkorea1

Tripkorea1

สำหรับวิธีการเดินทางไปยังย่านอินซาดง ให้รถไฟใต้ดินสาย 3 สถานี Anguk Station ทางออก 6 เดินตรงไป 100 เมตรแล้วเลี้ยวซ้าย

ช็อปจนเพลิดเพลินใจถึงช่วงค่ำก็ได้เวลานั่งรถไฟใต้ดินกลับมายังที่พัก คืนนี้ต้องขอนอนพักผ่อนเอาแรงหลังจากเดินทางและเที่ยวมาเหนื่อยๆ ทั้งวัน 


Day 3

วันนี้เราตื่นช่วงสายๆ เพราะด้วยความที่อากาศหนาวมากๆ บวกกับด้านนอกมีหิมะตกเบาๆ อย่างที่บอกว่าทริปนี้เน้นเที่ยวแบบชิลล์ๆ เราเลยไม่ได้รีบร้อนอะไรมากมาย เช้านี้เราหามื้อเช้าทานเบาๆ ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตแถวๆ ที่พัก และออกเดินทางต่อตามแพลนที่เราวางไว้คือ หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village)

Tripkorea1

Tripkorea1

หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village) หมู่บ้านโบราณของเกาหลีที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องที่ทันสมัยของกรุงโซล เพียงแค่เดินเข้าไปก็ได้สัมผัสกลิ่นอายของความเป็นเกาหลีแบบโบราณทำให้นึกถึงซีรี่ย์เกาหลีแนวพีเรียด

Tripkorea1

Tripkorea1

และหมู่บ้านบุกชอนฮันอกยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เมื่อมาเที่ยวแล้วจะได้พบกับบ้านของขุนนางระดับสูงของเกาหลีในสมัยก่อน ภายในหมู่บ้านมีอาคารแบบดั้งเดิมกว่า 100 หลัง ซึ่งเป็นรูปแบบบ้านที่ชาวเกาหลีเรียกกันว่า ฮันอก (Hanok) ที่ยังคงอนุรักษ์เอาไว้มาตั้งแต่สมัยโชซ็อน

Tripkorea1

Tripkorea1

ในปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นศูนย์วัฒนธรรม เกสต์เฮ้าส์ ร้านอาหาร โรงน้ำชา และคาเฟ่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสบรรยากาศและเรียนรู้วัฒนนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม และที่สำคัญหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่มีคนเกาหลีอยู่กันจริงๆ

Tripkorea1

Tripkorea1

Tripkorea1

หมู่บ้านบุกชอนฮันอกยังถูกล้อมรอบด้วยสถานที่เชิงประวัติศาสตร์มากมายซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่าง พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านบุกชอนฮันอกไม่ไกลมากนัก

Tripkorea1

มาถึงกรุงโซลของประเทศเกาหลีแล้ว ก็ต้องไม่พลาดที่จะไปชม พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) ที่เป็นแลนด์มาร์คยอดฮิตของกรุงโซล ซึ่งที่นี่เป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี 1394 ราชวงศ์โชซ็อน

Tripkorea1

Tripkorea1

หนึ่งจุดถ่ายรูปที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ประตูควังฮามุน (Gwanghwamun Gate) ซึ่งเป็นประตูหลักทางทิศใต้ของพระราชวัง บริเวณด้านหน้าประตูเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวเกาหลีเองและชาวต่างชาติที่มาชมความยิ่งใหญ่และงดงามของที่นี่

Tripkorea1

และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือพิธีเปลี่ยนเวรยามพระราชวังเคียงบกกุงซึ่งจัดแสดงทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) และที่สำคัญมีการแสดงเพียงวันละ 3 รอบเท่านั้น

Tripkorea1

Tripkorea1

ตรงนี้ตื่นเต้นมากๆ เพราะพิธีเปลี่ยนเวรยามทำเอาเราคิดว่าตัวเราหลุดเข้าไปในซีรี่ย์เกาหลีอย่างไงอย่างงั้น ทั้งเครื่องแต่งกายแบบโบราณและบรรยากาศโดยรอบทำให้รู้สึกว้าวสุดๆ

Tripkorea1

Tripkorea1

หรือใครที่อยากได้รูปสวยๆ สไตล์สาวเกาหลี บริเวณรอบๆ พระราชวังยังมีร้านเช่าชุดฮันบกให้ใส่เข้ามาถ่ายรูปด้านในพระราชวังอีกด้วย

Tripkorea1

Tripkorea1

Tripkorea1

เมื่อเดินเข้ามาก็จะเจอกับ ประตูฮึงรเยมุน (Heungryemun) ซึ่งเป็นประตูที่สองที่อยู่ตรงกลางระหว่างประตูควังฮวามุน ตรงจุดนี้สวยงามและยิ่งใหญ่สุดๆ มาถ่ายรูปตรงนี้รับรองว่าได้รูปสวยๆ ไปเปลี่ยนโปรไฟล์อย่างแน่นอน

Tripkorea1

Tripkorea1

Tripkorea1

เที่ยวชมความงดงามของวัฒนธรรมเกาหลีกันเต็มอิ่มแล้ว ก่อนเดินทางกลับที่พักเรามาเจอมุมถ่ายรูปสุดชิคที่อยู่ระหว่างทางเดินรถไฟฟ้าใต้ดินที่เรียกว่า ผนังกระจก (Gyeongbokgung) สถานีรถไฟใต้ดิน Gyeongbokgung เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปเท่ๆ ที่ต้องตามไปถ่ายกันให้ได้ 

Tripkorea1

ก่อนที่เดินทางกลับที่พักในช่วงเย็น เราแวะไปกินมื้อเย็นที่ร้าน Cheese That Love Jjimdak ร้านที่มีเมนูจิมดักชื่อดังแห่งย่านชินชนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรามากนัก สำหรับการเดินทางมาร้านให้นั่งรถไฟฟ้ามาที่สถานีชินชนทางออก 1 และเดินตรงมาเรื่อยๆ ทางมหาวิทยาลัยยอนเซ ตัวร้านจะตั้งอยู่บนตึกชั้น 2 

Tripkorea1

Tripkorea1

Tripkorea1


Day 4 

วันสุดท้ายของทริปเกาหลี วันนี้หลังจากที่เก็บของเตรียมเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักและเดินทางไปเที่ยวกันต่อ ซึ่งวันนี้เราเช็คเอ้าท์และเอากระเป๋าฝากไว้กับที่พักอีกเช่นเคยและปักหมุดไปกันที่ อุทยานประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดงแดมุน (Dongdaemun History & Culture Park) หรือที่คนเกาหลีเรียกกันว่า ทงแดมุนย็อกซามุนฮวากงว็อน 

Tripkorea1

Tripkorea1

ที่นี่แบ่งออกเป็นหลายโซนไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นที่จัดแสดง รวบรวมและเก็บรักษาสิ่งของทางประวัติศาสตร์ และยังมีในส่วนของ ทงแดมุนดีไซน์พลาซ่า (Dongdaemun Design Plaza) หรือเรียกสั้นๆ ว่า DDP ตึกดีไซน์สุดล้ำที่ภายในรวมรวมงานดีไซน์เจ๋งๆ ไว้มากมาย แถมยังมีพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะและงานออกแบบต่างๆ รวมไปถึงร้านอาหารและร้านค้าไว้ภายใน

Tripkorea1

Tripkorea1

ความยิ่งใหญ่และสวยงามของตึก DDP

Tripkorea1

Tripkorea1

ไม่ว่าจะหันกล้องไปตรงไหนก็มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ

Tripkorea1

Tripkorea1

อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่นอกจากตัวตึกสุดแนวอย่าง DDP แล้ว ยังมีทุ่งดอกกุหลาบ LED ดอกกุหลาบที่ยามเช้าจะเป็นสีขาว แต่ถ้าใครที่มาในช่วงค่ำดอกกุหลาบทุกดอกก็จะมีไฟติดขึ้นมา เป็นภาพที่สวยและบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ

Tripkorea1

Tripkorea1

Tripkorea1

Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 21:00 น. // เข้าชมฟรี // How to go: รถไฟสาย 2 สีเขียว, สาย 4 สีฟ้า และสาย 5 สีม่วง ลงสถานี Dondaemun history & Culture Park ทางออกที่ 1 เดินตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ จนเจอประตูทางออก

ก่อนเดินทางกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่ที่พัก เราเลยแวะเที่ยวที่ มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha Womens University) ที่นี่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ต้องมาถ่ายรูปและเที่ยวชมบรรยากาศให้ได้สักครั้ง และยังได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยหญิงที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย 

Tripkorea1

Tripkorea1

บรรยากาศรอบๆ มหาวิทยาลัยอีฮวา เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียวและอากาศดีสุดๆ ดีจนแอบอิจฉาเด็กมหาลัยที่นี่เลยล่ะ

Tripkorea1

Tripkorea1

สำหรับจุดเด่นจะอยู่ที่อาคาร Ewha Campus Center (EEC) ซึ่งเป็นอาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมงดงามสุดๆ 

Tripkorea1

เที่ยวตามแพลนจนครบหมดแล้วเราเลยเดินทางกลับไปที่พักเพื่อไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ ก่อนที่จะไปสนามบินนานาชาติอินชอนเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย 


เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับทริปเที่ยวเกาหลีแบบผู้หญิงเที่ยวเองคนเดียว บอกได้เลยว่าไม่ยากอย่างที่คิดเอาไว้เพราะการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ในเกาหลีสะดวกสบายและที่ยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับทริปนี้คือเราจองทั้งตั๋วเครื่องบินและจองที่พักผ่าน ทราเวลโลก้า (Traveloka) ซึ่งมีทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่สะดวกต่อการใช้งาน ที่สำคัญทราเวลโลก้ายังรวมราคาที่ดีที่สุดให้กับเราแล้ว เอาเป็นว่าใครที่กำลังมีแพลนจะไปเที่ยวเกาหลีลองเอาแพลนทริปนี้เป็นตัวอย่างรับรองว่าฟินจนไม่อยากกลับไทยเลยล่ะ

 


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ