เปิดแมพ! 11 จุดเช็คน่าเที่ยวหลวงพระบาง มรดกโลกใกลบ้าน เที่ยวง่ายสบายกระเป๋า
7,549 ครั้ง
23 พ.ค. 2562
7,549 ครั้ง
23 พ.ค. 2562
หลวงพระบาง อีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวที่เชื่อว่าหลายคน คงเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามและความสำคัญเกี่ยวกับความเป็นเมืองมรดกโลกกันมากมายหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาศมีเยือนสัมผัสนมต์เสน่ห์กันจริงจังสักที ก่อนจองตั๋ววางแพลนมาพัก..วันนี้ทริปเก็ทเตอร์ก็มี 11 จุดเช็คอินน่าเที่ยวหลวงพระบาง มาให้ทำความรู้จักกันก่อน มีครบทั้งแนวคัลเจอร์ เนเจอร์ รวมถึงสายช้อปปิ้งก็จัดมาให้แบบครบๆ ..แต่ถ้าให้ดีบอกเลยว่าต้องเก็บให้หมด
เริ่มต้นกันด้วยวัดสวยทรงคุณค่า อันเป็นซิกเนเจอร์ประจำหลวงพระบาง..ที่ขนาดมีคำกล่าวว่า หากไม่ได้มาไหว้พระที่วัดนี้ก็เหมือนมาไม่ถึงหลวงพระบาง วัดเชียงทอง วัดแห่งนี้โดดเด่นในศิลปะแบบดั้งเดิม ที่ถ่ายทอดผ่านพระอุโบสถอันมีหลังคาแอ่นโค้งกว่า 3 ชั้น ที่ด้านบนมียอดช่อฟ้าที่หมายความว่าเป็นวัดที่สร้างโดยพระมากษัตริย์ แถมยังระยิบระยับด้วยกระจกสีเล็กๆ ที่เรียงเป็นเรื่องราวพื้นบ้าน ส่วนอีกไฮไลท์ที่ควรพลาดก็คือการมายลความงามของพระม่าน พระคู่บ้านหลวงพระบางที่ปกติแล้วจะบรรจุไว้ในหีบ แต่ในช่วงหลังวันปีใหม่หรือสงกรานต์ จะนำออกมาให้ชาวลาวได้สักการะกัน
Location: ถ.ศักรินทร์ หลวงพระบาง
Open-Close: เปิดให้เข้าชมทุกวัน 06.00 น. – 17.30 น.
Fee: ค่าเข้าชมคนละ 20,000 กีบ/ 80 บาท
วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือ วัดใหม่ อีกหนึ่งวัดสวยอันวิจิตรแห่งหนึ่งในย่านถนนคนเดิน ที่ไม่ว่าใครผ่านยังเส้นนี้ก็ต้องสะดุดตากับสิม(อุโบสถ) หลังใหญ่กับหลังคาหน้าจั่วสีแดงสด 5 ชั้นในแบบฉบับหลวงพระบาง ที่ดูลงตัวกับลวดลายรดน้ำปิดทองรอบกำแพง ส่วนภายในประดิษฐานพระพุทธรูปแกะไม้โบราณที่ถือว่าเป็นองค์ที่งดงามที่สุดในเขตเหมือง นอกจากนี้ยังมีพระแก้วมรกตจำลอง และพระในปางห้ามญาติกว่าหมื่นองค์ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ ทำบุญ และขอพรโดยการลูบเบาๆ ที่ฆ้องชัย ถ้ามีเสียงได้เชื่อว่าพรจะสำเร็จ
Location: ถ.ศรีสว่างวงศ์ ใกล้กับพระราชวังหลวงพระบาง
Open-Close: เปิดให้เข้าชมทุกวัน 08.00 น. – 17.00 น.
Fee: ค่าเข้าชมคนละ 10,000 กีบ/ 20 บาท
ต่อกันที่วัดสวยทรงคุณค่า ที่ตั้งอยู่ในจุดที่สูงที่สุดในหลวงพระบาง วัดพระธาตุพูสี วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีความสูงกว่า 150 เมตร เลียบแม่น้ำคาน ที่ตั้งลัดเลาะตามบันใดสีขาวขึ้นไปกว่า 328 ขั้น ซึ่งด้านบนจะมีพระธาตุองค์สีทองอร่ามรับแสงแดด และมากมายด้วยพระพุทธรูปให้สักการะ นอกจากเป็นศาสนสถานอันงดงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม ที่ฝั่งทิศตะวันออกจะเป็นผังเมืองและแม่น้ำคาน ส่วนตะวันตกจะเป็นวิวโขง ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาชมแสงอัสดงยามเย็น จับจองที่ตั้งแต่บ่าย แถมยังมีโขดหินให้โพสต์ท่าแบบอลังการกันอีกด้วย
Location: ทางขึ้นมี 2 จุดตรงข้ามพระราชวังหลวงพระบางและริมแม่น้ำคาน
Open-Close: เปิดให้เข้าชมทุกวัน 06.30 น. – 18.30 น.
Fee: ค่าเข้าชมคนละ 20,000 กีบ/ 80 บาท
ลุยกันต่อทำความรู้จักคัลเจอร์สไตล์ลาวกันให้มากขึ้นอีกที่ ศูนย์ศิลปะและชนเผ่าวิทยา พิพิธภัณฑ์น่าเดินที่ภายในรวบรวมความรู้เกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ของลาวไว้กว่า 50 เผ่า โดยหลักๆ จะมี อาข่า ม้ง ไทดำ และขมุ ผานเรื่องราวอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ผ่านเครื่องแต่งกาย วิถีชีวิต ที่อยู่อาศัย ซึ่งมีทั้งแบบนิทรรศการถาวรและหมุนเวียน แถมยังมีมุมเวิร์คชอปให้ปะลองฝีมือประดิษฐ์ประดอยกัน ส่วนสายแฟชั่นบอกเลยว่าต้องไม่พลาดช้อปไอเทมน่ารัก จากกลุ่มชาวเผ่าไว้เป็นพรอบ สวยงามปราณีตสมราคากันทุกชิ้น
Location: ถนนกิตสะลาต หลวงพระบาง
Open-Close: เปิดบริการอังคาร-อาทิตย์ 9.00 – 16.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
Price: คนละ 25,000 กีบ (100 บาท) ชาวลาวและเด็กต่ำกว่า 12 ปี เข้าฟรี
Facebook: Traditional Arts and Ethnology Centre
อีกหนึ่งคุณค่าที่ทำให้หลวงพระบางได้รับเป็นเลือกเป็นเมืองมรดกโลกก็คือ ธรรมชาติ ซึ่งยังคงไว้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ตาดกวางสี ก็เป็นอีกจุดหมายปลายทางประจำทริปที่ทุกคนต้องปลีกเวลามาเห็นให้ได้กันตา น้ำตกแห่งนี้มีขนาด 4 ชั้น เป็นผาและธารน้ำในสีเขียวมรกตเห็นฝูงปลาที่แหวกว่าย ซึ่งไฮไลท์จะอยู่บริเวณชั้น 5 ที่เป็นน้ำตกจากผาสูงกว่า 70 เมตร ที่ได้รับฉายาว่าเป็น สวรรค์กลางป่าแห่งหลวงพระบาง ซึ่งมีสะพานทอดยาวข้ามลำน้ำให้ทุกคนได้ถ่ายรูปเช็คอิน หรือหากใครมีเวลาเหลือก็มีเส้นทางให้เดินเล่น ขึ้นไปเหนือน้ำตกอีกด้วย
Location: ห่างจากกลางเมืองไป 32 กิโลเมตร (ใช้ GPS นำทางได้)
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 8.00 – 17.30 น.
Price: ค่าเข้าชมคนละ 20,000 กีบ /40 บาท (เด็กต่ำกว่า 8 ปีเข้าฟรี)
นอกจากงดงามน้ำตกแล้ว ในพื้นที่เดียวกันยังมีมุมน่ารักๆ อย่าง ศูนย์อนุรักษ์หมี ให้เพลิดเพลินกัน ภายในประกอบด้วยกรงหมีขนาดใหญ่ ที่รวบรวบทั้งหมีควายและหมีคนไว้สายพันธ์ละกว่า 60 ตัว ซึ่งที่นี่เป็น 1 ใน 5 แห่งของศูนย์ทั้งหมดในเอเชีย กิจกรรมนอกจากการเดินชมวิถีชีวิตของน้องหมีแล้ว ยังมีมุมให้ความรู้เกี่ยวกับประชากรหมีและปัญหาต่างๆ รวมถึงยังมีเวิร์คชอปให้สนุก โดยการอัดเมล็ดธันพืชเข้าไปในลูกบอล แล้วโยนให้น้องมีได้ออกกำลังกายแถมยังได้เห็นแบบใกล้ชิด หรือถ้าใครอยากสนับสนุนมูลนิธิก็มีเสื้อสวยๆ รองเท้าเท่ๆ ให้ซื้อเป็นของฝากหรือจะเปลี่ยนหลังเล่นน้ำตกก็ชิคสุด
Location: ห่างจากกลางเมืองไป 32 กิโลเมตร (ใช้ GPS นำทางได้)
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 8.00 – 17.30 น.
Price: ค่าเข้าชมคนละ 20,000 กีบ /40 บาท (ราคารวมกับค่าเข้าน้ำตก)
Facebook: ศูนย์อนุรักษ์หมี หลวงพระบาง l Free the Bears
ถัดจากน้องน้องหมีไม่ไกล แวะมาฟินกับน้องควยสุดน่ารัก ไม่ได้ทะลึ่งนะ เพราะ ควาย ที่นี่เค้าออกเสียงกันแบบนั้นจริง ลาว บัฟฟาโล่ เดรี่ ศูนย์ผลิตนมควายรายใหญ่แห่งเดียวในหลวงพระบาง ที่จากแปรรูปนมวัวไปเป็นเมนูต่างๆ เพื่อจำหน่ายแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์ดูแลควาย พัฒนาสายพันธุ์ รวมถึงเพาะพันธ์และกระจายต่อชาวบ้าน ภายในมากมายด้วยมุมให้เรียนรู้ ทั้งฐานรีดนมวัว อาบน้ำ ป้อนนม ที่ควายทุกตัวดูแฮปปี้เป็นอิสระ เพราะที่นี่มีพื้นที่กว่า 130 ไร่ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนมควายที่นี่ถึงอร่อย เป็นหนึ่งจุดเช็คอินแนะนำที่ต้องมาชิลล์และชิมให้ได้
Location: อยู่ระหว่างเส้นทางไปน้ำตกกวางสี (ใช้ GPS นำทางได้)
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 10.00 – 17.30 น.
Price: บริการทัวร์ฟาร์มราคาเริ่มต้น 50,000 กีบ / 200 บาท เด็กต่ำกว่า 3 ขวบเข้าฟรี
Facebook: ลาว บัฟฟาโล่ เดรี่ l Laos Buffalo Dairy
ตกดึกนอกจากการแฮงเอาท์ยามค่ำคืนแล้ว ก็คงไม่มีอะไรจะเหมาะไม่กว่าการมาเดินเล่นกันที่ ตลาดมืด หรือที่คนไทยติดปากกันว่า ถนนคนเดิน ที่นี่มากมายด้วยร้านค้าเป็นทางยาวกว่า 100-200 เมตร มากมายด้วยร้านเสื้อผ้า ของฝาก ที่ส่วนใหญ่จะมาในสไตล์แบบโลคอลพื้นถิ่นและดีต่อธรรมชาติ ซึ่งแต่ละซุ้มมาในสีแบบคลุมโทนเช่นเดียวกับธงชาติ ส่วนสายกินบอกเลยว่าต้องไม่พลาดที่ตรอกเล็กๆ บริเวณทางเข้า ที่มีอาหารพื้นบ้านแบบต้นตำหรับให้เลือกทานกับแบบบุฟเฟ่ต์ราคาเบาๆ อีกหนึ่งจุดเชคอินอร่อยที่ต้องมาลิ้มกันให้ได้
Location: ถ.ศรีสว่างวงศ์ ระหว่างวัดใหม่สุวรรภูมารามและพระราชวังหลวงพระบาง
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 17.00 – 22.00 น.
ลุยตลาดมืดไปแล้ว จะไม่ตื่นมาสูดอากษสดียามเช้าของหลวงพระบางกันก็กะไร นอกจากการตักบาตรยามเช้าอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ตลาดเช้า ก็เป็นอีกกิจกรรมในเช้าตรู่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่น ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดสดเล็กๆ แบบแบกะดิน ที่ชาวก็จะนำผลผลิตสดๆ มาวางขายอย่างเรียบง่าย มีทั้งผัก ผลไม้ และวัตถุดิบแปลกตาอย่างสัตว์ป่า ที่เป้นวิถีชีวิตแถมยังบอกได้ว่าที่นี่ยังคงสมบูรณ์ ส่วนเมนูอาหารเช้าก็ต้องไม่พลาดมากินที่ร้าน ประชานิยม ริมแม่น้ำโขง ที่เสริฟทั้งโจ๊ะ กาแฟ ขนมปัง หรือใครอยากจัดเต็มกับปิ้งย่างก็ลุบเริ่มต้นกวันกันได้เลย
Location: ถ.ศรีสว่างวงศ์ ตรอกข้างวัดใหม่สุวรรภูมาราม
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 5.00 – 10.00 น.
ออกพบตก อีกหนึ่งมุมพักผ่อนทางวัฒนธรรมที่อยากให้ทุกคนมาลอง ที่นี่เป็นเหมือน Living Museum ที่ให้ความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับสิ่งทอและผ้าพื้นเมืองของลาว คำว่าออกพบตกมีที่มาจากช่างภาพชาวอังกฤษมาพบกับสาวทอผ้าชาวลาว มีอุดมการณ์เดียวกันคืออยากให้ผ้าทอเป็นที่รู้จัก ภายในประกอบด้วยสตูดิโอทอผ้า มุมเวิร์คชอป ให้ได้สนุกทอดลองเป็นสาวทอผ้า แถมยังมีร้านให้ช้อปกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ก็มาจากทั้งที่นี่และชุมชนต่างๆ เป็นการกระจายรายได้สู่ชาบ้านอีกทาง นอกจากนี้ยังมีห้องอาหาร ทั้งโซนวิวโขง และบ้านต้นไม้ให้อิ่มหน่ำกัน แถมช่วงเย็นยังมีวิวอาทิตย์ตกดินล่ำรากันถึงที่
Location: 125/10 บ้านสายลม หลวงพระบาง
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 08.00 – 20.00 น.
Facebook: Ock Pop Tok
ปิดท้ายด้วยความอลังการ ขึ้นชื่อว่าอาณาจักรล้านช้างทั้งทีก็ต้องมาเยือนถิ่นช้างกันสักหน่อย ค่ายอนุรักษ์ช้างมันดาลาว ค่ายอนุรักษ์สุดพิเศษที่นอกจากจะตั้งอยู่กลางธรรมชาติสุดกรีนท่ามกลางป่าและริมน้ำแล้ว การดูแลของที่นี่ยังประทับใจไม่เหมือนที่ไหน ที่แมนดาลาวมีช้างทั้งหมดราว 10 เชือก ซึ่งช้างส่วนใหญ่จะเป็นช้างบาดเจ็บที่เกิดจากการขี่ ทำให้ร่ายกายผิดรูป ที่นี่จึงเป็นศูนย์ที่จะช่วยอนุรักษ์ ฟื้นฟู และเปิดให้ทุกคนได้มาสัมผัสวิถีชีวิตของช้างอย่างแท้จริง ทั้งการกิน อาบน้ำ ซึ่งจะไม่มีการบังคับและขี่ช้าง ส่วนกิจกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดก็คือ Walking with Elephant เดินป่าไปกับช้างซึ่งเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าช้างจะทำอะไร
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 08.00 – 21.00 น. (จองล่วงหน้าเท่านั้น)
Price: ค่าเข้าชมคนละ 20,000 กีบ /40 บาท (ราคารวมกับค่าเข้าน้ำตก)
Facebook: MandaLao Elephant Conservation