แบกเป้ เที่ยววังเวียง แบบ NoPlan กันเถอะ
12,718 ครั้ง
26 มี.ค. 2560
LAOSDERKA ทริปที่เกิดจากการรวมตัวของเพื่อนๆกลุ่มใหญ่ (10คน) ที่เที่ยวกันแบบไม่ต้องมีแพลน เพราะความสุข และความสนุก คือเรื่องราวระหว่างทาง
สี่วันห้าคืนกับความสนุก 19 ชั่วโมงกับการเดินทางไปวังเวียง ขับมอเตอร์ไซค์หาที่เล่นน้ำกินเบียร์ ส้มตำปูปลาร้าเข้มข้นกับร้านข้างทาง ดำนากับชาวนา มิตรภาพดีๆ จากเด็กน้อยที่โบกมือทักทายตลอดทาง น้ำตกสุดพีคกับลูกชิ้นยักษ์ ลอยห่วงยาง (ที่ผูกกันเป็นแพ) กินเบียร์ที่แม่น้ำซอง เที่ยวผับบาร์ทุกค่ำคืน ของฝากเป็นผิวไหม้เกรียมจากการไม่ทาครีมกันแดด https://www.facebook.com/noplanhavefun/ รถทัวร์กรุงเทพ-หนองคาย (คนละ 475 บาท)
ทุกอย่างเป็นเรื่องยากในการจอง กับการที่เที่ยวกันเป็นกลุ่มใหญ่ แถมยังเป็นช่วงเทศกาล เป็นช่วงหยุดยาวของคนไทย.. จากที่วางกันไว้ว่าจะนั่งรถทัวร์ไปลงอุดรธานี ก็ต้องเปลี่ยนไปลงที่หนองคายแทน แม้ว่าเราจะจองกันล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนแล้วก็ตาม… 22.15 น. ของวันที่ 15 ก.ค. เป็นเวลาที่รถออก และที่คิดไว้คือถึงที่หนองคายเวลาประมาณ 6.30 น. ของวันที่ 16 ก.ค. เพื่อต่อรถบัสไปในเวลา 7.45 น. ไปวังเวียง.. แต่!! (ตัวใหญ่ๆ ) เราถึงหนองคายตอน 10 โมงกว่าๆ นั่นเป็นจุดเริ่มของการเที่ยวแบบไม่มีแพลนของเรา… ต่อที่สอง… นั่งรถกระป้อไปด่านตรวจคนเข้าเมือง (ราคาคนละ 40 บาท)
รถตู้จากด่านตรวจคนเข้าเมืองไปวังเวียง (ราคาเหมา 4000 บาท /10คน)
ด้วยความโอ้เอ้ ตามที่ต่างๆ บวกกับการแวะแลกเงินกีบ แวะร้านสะดวกซื้อซิมมือถือ แถมพี่เตี้ยพี่คนขับรถตู้ยังพาเราไปแวะศูนย์สมุนไพร (คิดในใจนี่ไม่ได้มาทัวร์นะ!!) จากทั้งหมด 19 ชั่วโมงที่ผ่านมาในที่สุดเราก็ถึงวังเวียง… การเดินทางที่แสนยาวนาน..
วินัดดา เป็นที่พักที่เราเลือกในครั้งนี้ มีทั้งแบบพัก 3 คนเป็นเตียงใหญ่ 1เตียงกับเตียงเล็ก 1 เตียง ส่วนห้อง 2 คน มีทั้งแบบเตียงคู่ และเตียงเดี่ยวให้เลือก แถมมีระเบียงให้นั่งชิวดูบรรยากาศโดยรอบ.. การเดินสำรวจรอบๆ ตัวเมือง..
วังเวียงเป็นเมืองเล็กๆ เดินได้ไม่ไกล ที่พักของเราห่างจากแม่น้ำซองนิดเดียว แถมเดินไปไม่กี่แยกก็ถึงที่เที่ยวสุดฮิตอย่างซากุระบาร์ ส่วนร้านอาหารมีให้เลือกมากมายระหว่างทางเดิน มีทั้งอาหารไทยเทศมากมาย แต่มาถึงที่นี่ทั้งทีก็ต้องส้มตำลาวสิ.. วิวยามเช้าจากห้องพักชั้นสองของโรมแรม ใช่ย่อยที่ไหนละ (ที่นี่สว่างเร็วมากเพราะตอนถ่ายรูปนี้น่าจะประมาน 6.39น)
หน้าตาสมาชิกทั้งหมด 10 คน ของเราในทริปนี้… ได้ความเอื้อเฟื้อจากพี่พนักงานปั๊ม
วันที่สองในวังเวียง.. กับร่างกายที่สดชื่นพร้อมเดินทาง เป้าหมายของเราวันนี้คงมีแค่เล่นน้ำเย็นๆ ที่ไหนก็ได้ ขี่มอเตอร์ไซดค์อาบแดดไปเรื่อยๆ ที่ไหนถูกใจเราจอดที่ไหนไม่ถูกใจเราไปต่อ.. เริ่มค่าาา…
บรรยากาศตลอดทาง.. คือของแถมที่มีค่ามากที่สุด เราไปทุกที่ที่เค้าไปกันมา ถ้ำจังเอย บลูลากูน 1 2 3 เอย เราไปมาหมดนะ ไม่มีรูปถ้าอยากเห็นสถานที่จริง รีวิวคนอี่นเพียบ..
หลังจากที่ไม่ถูกใจที่ไหน คงเพราะช่วงเทศกาลคนเยอะมาก มีคนไทย คนเกาหลีเป็นส่วนใหญ่.. แต่ความที่ขับรถไปเรื่อยๆ เราได้พบกับมิตรภาพดีดีมากมาย เด็กๆ ที่นั่นน่ารักมาก เกือบ 100 % ที่เราขับรถผ่าน เด็กๆ จะโบกมือทักทายเราตลอดทาง
การที่แวะถ่ายรูปชาวนากลุ่มนึงที่กำลังดำนากันอยู่กลับเป็นสิ่งที่น่าประทับใจ และเกินความคาดหมายเพราะ.. เค้าชวนเราลงไปดำนา!!! (มันเป็นความโชคดีของเรา) หือ.. ดำนาหรอพวกเราตอบตกลงแบบไม่คิด พร้อมถอดรองเท้า และเดินลงไปช่วยเค้าดำนาทันที (ช่วยหรือว่าทำลายไม่รู้ ข้าวจะขึ้นรึป่าวไม่รู้ แต่เราก็ทำเต็มที่นะ)
ประทับใจสุดๆ ทุกคนเป็นมิตรยิ้มแย้ม และกล่าวขอบคุณเราที่ลงไปช่วย.. แม้ว่าตอนเรากลับออกมาเค้าจะต้องเข้าไปแก้ที่เราดำนากันไว้ก็เถอะ แต่เป้าหมายของเราวันนี้คือ เล่นน้ำ!!! ยังไม่บรรลุเป้าหมายนะ..
ขี่รถต่อไปเรื่อยๆ ผ่านธารน้ำเล็กๆ ข้างทางที่มีเด็กน้อยสองสามคนกำลังเล่นน้ำอยู่ ในใจก็คิดที่นี่แหละเป้าหมายที่หามาทั้งวัน ที่ที่คนน้อย น้ำไหลผ่าน นั่งเล่น นอนเล่นได้โดดน้ำได้แบบเพลินๆ แบบส่วนตัวสุดๆ (น้ำอาจดูไม่ใสเท่าไหร่เพราะชาวบ้านบอกว่าวันนี้ฝนไม่ตกน้ำเลยค่อยข้างขุ่น แต่มันโอเคนะ พวกเราชอบ) mission complete สำหรับวันนี้.. ในส่วนของค่ำคืนนี้..
ปิดท้ายของวันนี้ด้วยวังเวียงยามค่ำคืน.. ไม่ว่าจะเป็น kangaroo bar สำหรับ คนชอบแดนซ์
หรือจะเป็น Earth bar สำหรับคนชอบฟังเพลง หรือนั่งชิวคุยกัน (ไม่แปลกที่จะมีหลายที่ในค่ำคืนเดียว เพราะเรามากันหลายคน ต่างคนต่างเที่ยวทุกคนชอบไม่เหมือนกันเราไม่บังคับกัน)
ปิดท้ายด้วยโรตีก่อนนอนที่เรียงรายอยู่ให้เห็นเต็มข้างทาง…
วันที่สามในวังเวียง..
ตื่นเช้ามากลับสภาพที่ไม่พร้อมกันเท่าไหร่ขุดกันมาจากเตียง เพื่อเป้าหมายของวันนี้ turbing ที่แม่น้ำซอง..
คนอื่นลอยยังไงไม่เราไม่รู้แต่เราลอยเปนทีมผูกห่วงยางของทุกคนเข้าด้วยกัน ลอยกันเป็นแพ ลอยไปกินเบียร์ลาวไป กับมุกของพี่ใจคนพายเรือนำ ตลอดทาง 1 ขั่วโมงครึ่งของการ tubing จึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว.. (tubing ครั้งนี้ใช้เวลาน้อยเพราะเป็นช่วงหน้าฝนน้ำเยอะและค่อนข้างแรง)
กับพี่ใจ ที่หน้าคล้ายเมสซี่ เจย์บ้านเรา // พี่ใจเป็นไกด์พาล่องห่วงยางผู้ปล่อยมุขได้ตลอดเวลา ทำให้ความสนุกในการล่องห่วงยาง สนุกไปอีกกก หลังจาก turbing …
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เช่นเคยขี่รถตามหาร้านข้าว เจอตลาดเราแวะตลาด กะว่าจะซื้อของไปปิ้งย่างที่น้ำตก แต่!!ไม่เป็นไปตามแผนที่ไว้ ทำไมนะหรอก็ร้านร้านส้มตำปูปลาร้าเข้มข้นหน้าตลาดไง.. อร่อยแบบกรี๊ดไปเลย นี่ให้เป็นส้มตำปูปลาร้าที่อร่อยที่สุดของทริปนี้เลย แถมราคาที่เป็นกันเอง.. ถ้าถามหารูปส้มตำหรืออาหารของทริป บอกเลยไม่มีถ่ายเคยไม่ทันหมดก่อนตลอด.. น้ำตก kaeng yui..
หลังจากกินส้มตำไปทั้งหมด 4 จาน.. เราก็พร้อมขี่รถวิบากตามหาน้ำตก kaeng yui ขี่รถบวกกับการเดินเท้าต่อเพื่อไปถึงชั้นบนสุดของน้ำตก เดินไปบ่นไปถ่ายรูปไป เห็นน้ำตกอยู่ไกลๆ บนภูเขาสูง หันไปถามเพื่อนว่าเราต้องไปถึงนั่นเลยหรอ (คิดในใจไม่ใช่หรอกมั้งไกลไปปปปป) แต่เอ้า!! เดินไปเดินมาถึงซะงั้นน้ำตกที่ไกลๆ นั่น.. น้ำตก kaeng yui ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนักแต่มีหลายชั้นที่สามารถนั่งเล่น นั่งพักผ่อนได้ ภาพที่เห็นเป็นภาพของน้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงมีต้นไม่ปกคลุม ด้วยความแรงของน้ำที่ตกลงมาจากที่สูง ทำให้มีละอองน้ำปะทะหน้าตลอดเวลา.. พวกเราไม่รีรอที่จะลงไปเล่นน้ำ ด้วยความสวยและความสดชื่นที่ได้สัมผัสทำให้ลืมไปเลยว่าเดินไปบ่นไปมาตลอดทาง..
เดินลงมาจากชั้นบนสุดนิดเดียว.. น้ำตกนี้เป็นของเรา ทุกคนมีความฟินในระดับ 10 จนมีคนยอมถอดเปลือยลงเล่นน้ำ
ด้วยการกลัวเพื่อนๆ หิว มีการแวะตลาดสดของชาวบ้าน แล้วสิ่งที่ได้มาคือ ลูกชิ้นยักษ์!! ตู้ (นามสมมติ) เพื่อนร่วมทางคนนึงก็หยุดเล่นน้ำ ไปก่อไฟเพื่อปิ้งลูกชิ้นให้เพื่อนๆ กิน
หลังเล่นน้ำกันอย่างเต็มอิ่มฝนก็เริ่มปรอยเบาๆ คงถึงเวลาที่ต้องกลับที่พัก ก่อนที่ฝนจะตกหนัก แต่ป่าวเลย พอถึงตัวเมืองฝนหยุด.. ไม่เป็นไรเพราะทุกคนลงความเห็นกันว่าต้องกินข้าวเพราะค่ำคืนนี้อีกยาวไกล แม้ว่าร้านอาหารที่กินเย็นนี้จะไม่อร่อยเหมือนมื้อกลางวันก็ตาม แค่อิ่มท้องเป็นพอ..
คืนสุดท้ายที่วังเวียง..
และแล้วก็ถึงเวลาที่เหมาะสมออกเที่ยวยามราตรี คราวนี้ไม่มีมอเตอร์ไชค์เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องกลับแล้ว นั่นไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด เราเดินแล้วก็เดินไปเรื่อยๆ กินเบียร์กันร้านละขวดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หาร้านถูกใจแต่สุดท้ายก็.. sakura bar และ kangaroo bar ร้านแดนซ์ส์ที่จะเต้น เต้น เต้น แล้วก็เต้น อย่างไม่หยุดยั้ง..
เพื่อนใจดีให้ลงรูป.. แค่เห็นรูปก็คงไม่ต้องบรรยายหรอกว่ามันสุดขนาดไหน พอถึงเช้าวันกลับที่ไม่มีแพลนเหมือนเดิม.. คนที่โรงแรมบอกว่ารถกับอุดรมารับ 9.30 น. เราก็ตื่น 9 โมง เพื่ออาบน้ำแต่งตัวเก็บของเตรียมตัวกลับ แต่!!! จริงๆ แล้วคือรถมารับที่โรงแรม 8.30น เพื่อไปต่อรถบัส.. เอิ่ม $&@?!$€£<>%#^¥££<>%&&)&@$ บรรยายไม่ถูกบ่นเป็นภาษาต่างดาวแทน..
รูปจบทริปคงไม่มี.. จากความรีบเร่งจากเมื่อเช้า และปาร์ตี้สุดมันจากเมื่อคืน ทำให้การเดินทางจากวังเวียง-อุดร หลับเป็นตายบนรถทัวร์.. ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในทริปนี้โดยประมาณกินดีอยู่ดีแบบไม่ประหยัดในช่วงเทศกาล..
ปล.รูปทั้งหมดมาจากสมาชิกในทริป มีทั้งกล้องเล็ก กล้องใหญ่ กล้องมือถือ และกล้องฟิล์ม
ขอบคุณทุกคนที่อ่านกันจนมาถึงรูปสุดท้ายยนะคะ
-
-
บทความยอดนิยมเดือนนี้
