เขาใหญ่ 2 วัน 1 คืน เน้นเรื่องกิน ฟินเรื่องที่พัก แค่เสาร์ – อาทิตย์ก็เที่ยวครบ
323,779 ครั้ง
23 ส.ค. 2561
323,779 ครั้ง
23 ส.ค. 2561
วันนี้ ทริปเก็ทเตอร์ มีทริปเอาใจคนมีเวลาน้อยมากฝากเพื่อนๆ กับ ทริป 2 วัน 1 คืน ที่จะพาเพื่อนๆ ไปเน้นเรื่องกิน ฟินเรื่องที่พัก กับสถานที่สุดฮิตใกล้เมืองกรุงอย่าง เขาใหญ่ ในช่วงกรีนซีซั่นแบบนี้ เพียงใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ชั่วโมงก็ได้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์แบบฟินๆ ที่สำคัญวันนี้ทริปเก็ทเตอร์เอาทั้งร้านอาหารสุดแซ่บ คาเฟ่สุดชิค และที่พักสุดฟินมาฝากเพื่อนๆ รับรองได้เลยว่าใช้เวลาเพียงแค่ 2 วัน กับอีก 1 คืนกับทริปนี้ก็เหมือนได้มาชาร์จพลังให้ร่างกายได้อย่างเต็มร้อย สายกิน สายเช็คอิน สายเซลฟี่ สายไหนก็ไม่ควรพลาด!!
เราเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ช่วงสายๆ มุ่งหน้าสู่เขาใหญ่ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงก็ถึงเขาใหญ่ตอนเที่ยงๆ พอดี ก็เลยขอแวะกินอาหารร้านเด็ดที่ขึ้นชื่อของที่นี่ นั่นก็คือร้าน จันผา เขาใหญ่ ที่ใครที่มาเที่ยวเขาใหญ่ก็ต้องแวะลิ้มรสชาติความอร่อยของร้านนี้
ตัวร้านมีทั้งโซนห้องแอร์ และโซน Open แบบชิลล์ๆ บรรยากาศรอบๆ ร้านเต็มไปด้วยต้นไม้และมีรูปปั้นของเหล่าฮีโร่ไว้ให้เราได้ถ่ายรูปเล่นกันอีกด้วย
และเมนูแนะนำของที่นี่ก็คือ ปลาช่อนเผาแม่ลา 350 บาท, ปูหลน 180 บาท, ปลาดุกฟูผัดไข่เค็ม 150 บาท, ผัดกระเพราเห็ดรวม 160 บาท, ต้มยำรวมมิตร 250 บาท, ปลาแรดทอดกระเทียม 250 บาท
เมื่อกินอิ่มแล้วก็ต้องต่อกันด้วยที่พัก วันนี้เรามาพักกันที่ ลาลา มูก้า รีสอร์ท เขาใหญ่ ( Lala Mukha Resort Khao Yai ) ที่พักสไตล์ Glamping แบบเต็นท์หรูติดแอร์ ที่ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นผสมผสานกลิ่นอายความเป็นซาฟารีได้อย่างลงตัว โดยในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติและดื่มด่ำการพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบภายในเต็นท์หรูสุดฟิน
ห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 30 ห้อง แบ่งออกเป็น 3 โซน คือ Eco Safari Tents, Deluxe Savanna Tents และ Loft Tree House ซึ่งภายในรีสอร์ท มีมุมถ่ายรูปชิคๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมสะพานไม้ หรือลานกลางรีสอร์ทที่สามารถเห็นวิวภูเขาแบบพาโรนามา นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อีกด้วย
ห้องแรกที่เราพักจะอยู่ในโซน Eco Safari Tents ห้องพักเต็นท์แบบอีโค ที่นอนได้ 2 คน ภายในห้องแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนด้านหน้าเป็นโซนสำหรับไว้นั่งเล่น ดูทีวี โซนด้านในจะเป็นโซนสำหรับนอน ภายในเต็นท์มีแอร์ ด้านนอกเต็นท์มีเก้าอี้สำหรับนั่งชมบรรยากาศอีกด้วย
สำหรับห้องน้ำ โซน Eco Safari Tents จะเป็นห้องน้ำรวมดีไซน์เก๋ๆ ที่แบ่งห้องสำหรับอาบน้ำ ห้องสำหรับแต่งตัวและยังมีล็อคเกอร์เพื่อความปลอดภัยอีกด้วย
โซนที่ 2 คือโซน Deluxe Savanna Tents ห้องพักเต็นท์หลังใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวสามารถพักได้ 2 คน ห้องนี้มีทั้งแอร์และพัดลมเพดาน ดีไซน์ภายในเต็นท์ให้อารมณ์แบบอยู่ที่สะวันนาจริงๆ ส่วนห้องน้ำก็กว้างขวางและดีไซน์เก๋อีกด้วย
โซนที่ 3 โซน Loft Tree House บ้านพักต้นไม้หลังใหญ่พักได้ 4 คน ที่เหมาะกับนักเดินทางแบบครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่มีความเป็นส่วนตัวสุดๆ โดยตัวบ้านเป็นไม้แต่ดีไซน์แบบโมเดิร์น ภายในตัวบ้านจะมี 2 ชั้น ชั้นบนจะเป็นห้องใต้หลังคา
สำหรับห้องน้ำก็มีทั้งอ่าบอาบน้ำและแบบ Shower ให้เลือกกันทั้ง 2 แบบ
หรือจะมาหามุมนั่งดูบรรยากาศวิวภูเขาแบบชิลล์ๆ ก็มีทั้งระเบียงแบบส่วนตัวและเปลตาข่ายสุดน่ารัก
เมื่อมาเที่ยววันหยุดพักผ่อนสุดพิเศษแบบนี้ มื้อเย็นก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเมนูปิ้งย่าง บาร์บีคิว ซี่โครงหมู และอีกหลายเมนูที่รับรองว่าอร่อยสุดๆ หรือใครที่อยากจะนั่งดื่มชมบรรยากาศของรีสอร์ทยามค่ำคืน ที่นี่ก็มีบาร์ให้บริการอีกด้วย
ส่วนมื้อเช้าก็มีบุพเฟ่ต์ทั้งอาหารสไตล์ไทยๆ และสไตล์ฝรั่งให้เลือกหลากหลายแบบกินได้ไม่อั้นกันเลยทีเดียว
เช้านี้เราเช็คเอาท์ช่วง 10 โมงเช้า และไปต่อกันที่ Birder’s Lodge Famer Market ฟาร์มออแกนิคสไตล์โรงนา ที่เปิดเฉพาะวัน เสาร์ – อาทิตย์ ที่นี่ผักและผลไม้ปลอดสารพิษไว้ให้เพื่อนๆ เลือกชิมเลือกซื้อรวมไปถึงสินค้าแฮนด์เมดเก๋ๆ ที่นี่ก็มีเช่นกัน
และยังมีคาเฟ่สุดฮิปที่อยู่ติดกันกับฟาร์มออแกนิคนั้นก็คือ The Birder’s Lodge cafe คาเฟ่ที่มีมุมถ่ายรูปชิคๆ เพียบ ภายในร้านตกแต่งอย่างน่ารักและมีหลายโซนให้เลือกนั่งและถ่ายรูปได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นโซนดาดฟ้า หรือโซนเรือนกระจก ที่ใครก็ไม่พลาดมุมนี้
ก่อนเดินทางกลับเราก็แวะเติมพลังกันสักหน่อยที่ร้าน เป็นลาว สาขาสวนน้ำ ร้านอาหารอีสานสุดแซ่บและเป็นร้านยอดฮิตที่มาเขาใหญ่ไม่ควรพลาด ที่นี่มีเมนูแนะนำคือ ส้มตำ ไก่ย่าง หมูย่าง เมียงคำทอด และอีกหลากหลายเมนูที่รับรองว่าถ้าได้มากินแล้วต้องติดใจอย่างแน่นอน
เป็นอย่างไงกันบ้างกับทริปเขาใหญ่ 2 วัน 1 คืน ที่ทริปเก็ทเตอร์ได้ไปเที่ยวและเก็บภาพบรรยากาศมาฝากเพื่อนๆ และหวังว่าคงจะถูกใจคนที่มีเวลาน้อย ทริปนี้สามารถใช้เวลาในวันหยุด เสาร์ – อาทิตย์ มาเที่ยวได้ เดินทางง่ายแถมยังใกล้กรุงเทพฯ ขับรถเพียง 2 ชั่วโมงก็ได้มาพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศชิลล์ๆ แบบนี้กันแล้ว และที่สำคัญแต่ละที่ที่ทริปเก็ทเตอร์เอามาแนะนำให้เพื่อนๆ ก็อยู่ใกล้ๆ กัน ทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก และคาเฟ่ชิคๆ ที่รับรองว่ามาแล้วได้รูปภาพสวยๆ แบบชีวิตดี๊ดี ไปอัพลงเฟซบุ๊คเพียบ !! และที่สำคัญก่อนเดินทางก็ต้องไม่พลาดจองห้องพักกันล่วงหน้ากับ Traveloka กันด้วยนะ