tripgether.com

หลงเสน่ห์ชุมชนคลาสสิค!! แวะเที่ยว 18 ชุมชนเล็กๆ ที่ไม่ธรรมดาจาก 6 จังหวัดน่าเที่ยวภาคตะวันออก

16,031 ครั้ง
9 ก.ย. 2561

18 ชุมชนน่าเที่ยวภาคตะวันออก อีกหนึ่งโครงการท่องเที่ยวดีๆ ที่อยากชวนทุกคนแวะไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เรียนรู้การใช้ชีวิต และชิมอาหารรสเด็ดที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชน ที่นอกจากจะได้เที่ยวและพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติที่บริสุทธิ์กันแล้ว ยังเป็นการช่วยกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชนได้อีกด้วยนะ.. และสำหรับรีวิวนี้เราจะพาไปรู้จัก 18 ชุมชนน่าเที่ยวภาคตะวันออก ที่จะทำให้คุณหลงเสน่ห์ความควาสสิคส จะมีที่ไหนบ้างตามไปชมบรรยากาศกันเลย…


1.ชุมชนบ้านมาบเหลาชะโอน จ.ระยอง

ชุมชนบ้านมาบเหลาชะโอน ใครจะรู้ว่าจังหวัดระยองเมืองทะเลแบบนี้ จะมีหมู่บ้านสุดอันซีนที่โดดเด่นด้านงานจักสานกระจูด ที่ส่งต่อความรู้กันมายาวนานกว่า 200 ปี ชุมชนบ้านมาบเหลาชะโอนสร้างไอเทมของใช้ได้อย่างประณีต มีเก๋ไก๋ไซน์เป็นที่รู้จัก ทั้งกระเป๋า เสื่อ ตะกร้า จนได้รับรางวัลระดับ 5 ดาวกันมาแล้ว นอกจากนี้ที่ชุมชนยังมีจุดเช็คอินเชิงธรรมชาติ อย่างบึงสำนักใหญ่ ปอดของชาวระยอง ให้ได้มาชิลล์ หรือจะนั่งเรือชมป่าเสม็ด 1000 ปี และการยืนบนทุ่งหญ้าเหนือน้ำ ที่สวนพฤกษศาสตร์ระยองได้ฟีลลิ่งการพักผ่อนไปอีกแบบ และพลาดไม่ได้กับเมนูซีฟู้ดท้องถิ่นที่รสชาติเป็นเอกลักษณ์ ปิดท้ายด้วยการไปชมวิวทะเลและเกาะกันที่โบถส์หินอ่อนกันแบบพาโนรามา นับว่าเป็นชุมชนสุดว้าว ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการกันเลยจริงๆ

ที่ตั้ง: หมู่ 5 ต.ซากพง อ.แกลง จ.ระยอง
บริการ: ผลิตภัณฑ์จักสานกระจูด เรือท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ โฮมสเตย์
เบอร์โทร: 038 647 079, 086 045 3938
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: หาดวังแก้ว, อนุสาวรีย์สุนทรภู่, อนุสรสถานเรือรบหลวงประแส
การเดินทาง: จากรุงเทพเวิ่งเข้าเส้นทางด่วนบูรพาวิถี มาทางจังหวัดชลบุรี วิ่งตรงตามถนนหมายเลข 344 เข้าสู่อำเภอแกลงระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร หนรือจะนั่งรถโดยสารประจำทางก็สามารถขึ้นได้ทั้งที่หมอชิต 2 และเอกมัย


2.ชุมชนบ้านยายดา จ.ระยอง 

ชุมชนบ้านยายดา แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแนวใหม่ในจังหยัดระยอง ฮิ! ที่มาในคอนเซ็ปต์ เรียนรู้ ดูชิม สัมผัสวิถีความพอเพียงแบบสนุกสนาน พื้นที่โดยรอบเป็นสวนผลไม้ บรรยากาศร่มรื่น มีทั้งทุเรียน มะปราง สละ และเงาะ โดยคุณสามารถเด็ดมาชิมกันได้แบบสดๆ จากต้น แบบบุฟเฟ่ต์ไม่จำกัดเวลา ส่วนกิจกรรมที่ให้เรียนรู้ก็มีหลายโซน ทั้งการทำปุ๋ยหมัก เตาเผาถ่าน น้ำส้มควันไม้ และการปลูกต้นอ่อนทานตะวัน และยังมีของฝากผลิตภัณฑ์แปรรูปฝีมือชาวบ้าน อย่างทุเรียนทอด กะปิ และสบู่สมุนไพรให้เลือกอุดหนุนกัน นอกจากนี้ยังมีโฮมสเตย์ที่เกิดจาการรวมกลุ่มของสมาชิกจำนวน 5 หลัง และจุดกางเต็นท์ให้นอนพัก พร้อมชิมเมนูอาหารพื้นบ้าน ที่รับรองว่าต้องประทับใจ เพราะที่นี่เค้าดูแลแบบเป็นกันราวกับคนในครอบครัวเลยทีเดียว

ที่ตั้ง: สวนยายดา ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง
บริการ: ชมสวนผลไม้ กิจกรรมทางการเกษตร และที่พักโฮมสเตย์
เบอร์โทร:  089 099 1297, 089 043 1330
ราคา: ค่าเข้าชมสวนผู้ใหญ่ 450 บาท เด็ก 200 บาท เด็กเล็กเข้าฟรี / โฮมสเตย์คนละ 400 บาท (ราคารวมอาหารและผลไม้) กางเต็นท์หลังละ 100 บาท
เวลาเปิด-ปิด: 8.00 – 17.00 น. ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน
การเดินทาง: จากถนนสุขุมวิท วิ่งเลยตัวเมืองระยองไปทางอำเภอแกลง เลยตลาดผลไม้ตะพง 500 เมตร มีทางแยกเลี้ยวซ้ายไปทางวัดยายดา วิ่งตามป้ายอีกประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบสวนยายดาทางขวามือ


3.ชุมชนบ้านคลองยาง จ.ระยอง

ชุมชนบ้านคลองยาง จุดเช็คอินสไตล์ธรรมชาติทที่น่าค้นหา ที่รอให้ไปสัมผัสทำความรู้จักกันมากมายอย่าง วัดถ้ำเขาประทุนที่มีถ้ำหินหงอกหินย้อย การเดินทางต้องนั่งเรือเข้าไปชม เพราะว่าในถ้ำนั้นเป็นแอ่งน้ำ และอีกหนึ่งจุดสุดอันซีน โพรงพญานาค เป็นหินหงอกหินย้อยสุดพิเศษ ที่เมื่อเราเคาะเสียงจะดังราวกับระฆัง แถมยังมีลานหินทอง ที่เมืองกระทบกับแสงจะเปล่งประกายทองอร่าม นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ทองเหลือง ให้ได้ทดลองตอก ดุนลาย และช้อปกลับไปใช้งาน ส่วนมุมชิมก็มีเมนูเด็ดๆ อย่าง ไข่เค็ม น้ำพริกปลาร้าสูตรลับเฉพาะ และน้ำเห็ดหลินจือ ถ้ายังไม่หนำใจที่นี่ยังมีมุมชิลล์ศาลากลางน้ำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงปู่มั่นแกะสลักให้สักการะกันก่อนกลับอีกด้วย

ที่ตั้ง: หมู่ 4 ต.เขาน้อย อ.เขาชะเมา จังหวัดระยอง
บริการ: นั่งเรือลอดถ้ำ, ทดลองทำเครื่องทองเหลือง
ราคา: นั่งเรือจ่ายตามจิตศรัทธา ทดลองทำเครื่องทองไม่เสียค่าใช่จ่าย
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: น้ำตกเขาชะเมา, อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง
การเดินทาง: จากรุงเทพเวิ่งเข้าเส้นทางด่วนบูรพาวิถี มาทางจังหวัดชลบุรี วิ่งตรงตามถนนหมายเลข 344 ถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้าย เข้าสู่อำเภอเขาชะเมา ระยะทางจากกรุงเทพประมาณ 180 กิโลใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง

 


4.ชุมชนบ้านเขาบายศรี จ.จันทบุรี

ชุมชนบ้านเขาบายศรี มาจันทบุรีต้องไม่พลาดเที่ยวสวนผลไม้! กับชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรรักษ์เขาบายศรี ชุมชนเก่าแก่ที่ยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติแบบ 100% และพลาดไม่ได้มาถึงที่นี่ต้องแวะมาเที่ยวชมพืชพันธุ์ผลไม้บ้านเก่าแก่ที่มีอายุไม่ต่ำว่าร้อยปี ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียนโบราณที่สูงที่สุด มังคุดโบราณ พร้อมเที่ยวชมสวนผลไม้และเก็บผลไม้ด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็น เงาะ ระกำ ลางสาด ลองกอง และแก้วมังกร นอกจากนี้ที่นี่ยังมีอุโมงค์เก็บน้ำใต้ดิน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านเขาบายศรีให้ชมอีกด้วย และพลาดไม่ได้กับของฝากติดไม้ติดมือกับผลไม้แปรรูปต่างๆ

ที่ตั้ง: ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรรักษ์เขาบายศรี 11/1 ม.4 ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทุบรี
บริการ: โฮมสเตย์สำหรับพักผ่อน และกิจกรรมชมสวนผลไม้และเก็บผลไม้
เบอร์โทร: 086 834 9604, 098 283 3102
ราคา: ค่าเข้าชมสวนและเก็บผลไม้ 1,200 บาทต่อคน, 1,090 บาทจำนวน 3 คนขึ้นไป, 955 บาทจำนวน 5 คนขึ้นไป และ 890 บาทสำหรับกลุ่ม 5-10 คน (ผลไม้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล หากต้องการเที่ยวเป็นกลุ่มมากกว่า 10 คน กรุณาโทรจองล่วงหน้า)
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00-16.00 น.
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: วัดเขาสุกิม, ตลาดพลอย, หาดเจ้าหลาว, พอพิธภัณฑ์พานิชนาวี, น้ำตกพลิ้ว


5.ชุมชนบ้านคลองเวฬุ จ.จันทุบรี

นั่งซาเล้งชมสวน ลิ้มรสผลไม้เกษตรอินทรีย์ ณ ชุมชนบ้านคลองเวฬุ ชุมชนน่าเที่ยวในอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ที่นอกจะได้มาเที่ยวพักผ่อนนอนโฮมสเตย์กันแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมสนุกๆ เชิงเกษตรให้เราทำทั้งอิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์ผลไม้และอาหาร พิเศษสุดๆ กับการได้ชิมทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองหายากอย่าง นกกระจิบ กบ ชมพูศรี พวงมณี ก้านยาว หมอนทอง ที่มีให้ชิมกันแบบจัดเต็ม และพลาดไม่ได้กับการนั่งรถซาเล้งชมสวนผลไม้ที่เพิ่มอรรถรสในการท่องเที่ยวให้สนุกยิ่งขึ้น ก่อนกลับที่นี่ยังมีสินค้าพื้นเมืองให้ได้ช้อปติดไม้ติดมือกันด้วยกับ สบู่ชาร์โคล เฮอร์บัลโซพ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากถ่านไม้ไผ่ธรรมชาติ

ที่ตั้ง: ชุมชนบ้านคลองเวฬุ ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี
บริการ: อาหารและผลไม้แบบอิ่มไม่อั้น แบ่งราคาการให้บริการออกเป็นชุดเล็กประมาณ 10 คน ราคา 500 บาท/ชุดใหญ่ 10 คนขึ้นไปราคา 1,000 บาท (ไม่รวมค่าอาหารพื้นเมืองที่สามารถเลือกรับประทานได้อย่างหลากหลายที่ผลิตจากผลไม้), บริการรถซาเล้งให้นักท่องเที่ยวชมสวนผลไม้อินทรีย์ปลอดสารพิษ ช่วงเทศกาลผลไม้ค่าซาเล้งคนละ 50 บาท, ที่พักโฮมสเตย์
เบอร์โทร: 081 762 2702, 086 156 9893, 063 2714064


6.ชุมชนบ้านหนองบัว จ.จันทบุรี

ชุมชนบ้านหนองบัว ชุมชนเล็กๆ ริมคลองที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปากอ่าวออกสู่ทะเลไทย มีดีเรื่องของกินอร่อย และงานฝีมือเด็ด ที่ถูกสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เพราะแต่เดิมในยุคพลอยเฟื่องฟูชาวบ้านที่นี่มีอาชีพหลักคือเจียระไนพลอย แต่เมื่อพลอยดิบเริ่มหายากงานเจียระไนก็ค่อยๆ เลือนหายไป แต่เรื่องอาหารการกินของที่นี่กลับมีชื่อเสียงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะขนมพื้นบ้าน ขนมชื่อแปลกอย่าง ขนมควยลิง ขนมโบราณที่ส่งต่อความอร่อยกับแบบรุ่นต่อรุ่น ที่ต้องมาหาชิมกันที่นี่เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเมนูอร่อยอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ขนมตังก๊วย ตะไลน้ำอ้อย ตะลุ่ม ขนมไข่นกกระสา รังผึ้งโบราณ และยังมีเมนูอาหารคาวอย่าง ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง ก๋วยเตี๋ยวผัดน้ำกุ้ง แกงเป็ดกะลา ยำมะละกอ และหอยครกให้กินกันจนอิ่มพุงอย่างแน่นอน

 

ที่ตั้ง: ชุมชนหนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี
บริการ: นั่งเรือเที่ยวชมธรรมชาติ สัมผัสวิถีชสวประมงริมคลองหนองบัว ตั้งแต่เวลา 14.00-17.00 น.
เบอร์โทร: 089 541 1816, 096 902 0175
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: วัดไผ่ล้อม, วัดมังกรบุปผาราม, วัดหนองบัว, น้ำตกพลิ้ว, ตลาดพลอย, บางสระเก้า, อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ, โอเอซิส ซีเวิลด์, คุกขี้ไก่, หาดเจ้าหลาว
การเดินทาง: มุ่งออกจากตัวเมืองจันทบุรีใช้ถนนหมายเลข 3348 เส้นทางที่จะไปอำเภอแหลมสิงห์ เข้าเขตตำบลหนองบัว เจอซอยแรกทางขวามือ จะมีป้ายบอกไปชุนชนหนองบัว ให้เลี้ยวขวาเข้าไปตามถนนตรงไปจนเจอสามแยกตรงมูลนิธิก๋วอิ้ว บัวเผื่อน (แซ่เล้า) ให้เลี้ยวขวา ตรงไปตามถนนหลักก็จะเริ่มเห็นบ้านไม้โบราณก็ถึงแล้วค่ะ


7.บ้านโขดทราย จ.ตราด

บ้านโขดทราย ชุมชนเล็กๆ ที่ได้ชื่อว่ามีพื้นที่แคบที่สุดในประเทศไทย แต่มีประเพณีและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นประเพณีลอยกระทงสองแผ่นดิน งานกองทรายน้ำไหล และสงกราานต์สองแผ่นดิน  นอกจากนี้ภายในชุมชนยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมให้เราได้ชมการทำประมง หรือถ้าใครสนใจจะล่องเรือตกหมึกที่นี่ก็มีให้บริการ และยังมีกิจกรรมแปรรูปให้ได้เรียนรู้การทำอาหารทะเล นำเคยมาทำกะปิ นำปลาตักมาทำน้ำปลา หรือถ้าใครอยากได้สินค้าท้องถิ่นที่นี่ก็มีของดี ของเด็ดอย่างน้ำพริกปลาหยอง น้ำพริกเผาหอยแมลงภู่ ให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันด้วยนะ

ที่ตั้ง: ชุมชนบ้านโขดทราย หมู่ที่ 2 ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด
บริการ: ล่องเรือตกหมึก ตกปลา จำกัดคนได้จำนวน 2 คน ราคา 1,500 – 2,000 บาท, มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ลองทำกะปิ
เบอร์โทร: 086 444 6631 สอบถามรายละเอียดได้ที่นายชาลี บุญช่วย
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น.


8.ชุมชนบ้านยายม่อม จ.ตราด

ชวนทำสปาธรรมชาติที่ชุมชนบ้านยายม่อม ชุมชนชาวมุสลิมที่มีอาชีพหลักเป็นประมง จับปลา ปู และปลาหมึก แต่ด้วยทำเลที่ตั้งที่ใกล้กับเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแหลมมะขาม ซึ่งมีหาดทรายดำ 1 ใน 5 แห่งของโลก จึงทำให้นี่กลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่ห้ามพลาดให้คุณได้แวะมาเที่ยวชมธรรมชาติป่าชายเลนริมทะเล พร้อมชมหาดทรายสีดำ หรือจะแวะชิมซีฟู้ดเมนูอร่อยที่นี่ก็มีร้านเด็ดให้เช็คอินกันหลายร้าน และไฮไลท์มาถึงที่นี่ก็ต้องลองทำสปาทรายดำ กับกะลาหน้าเด้งกันสักหน่อย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านยายม่อมที่ไม่มีที่ไหนอย่างแน่นอน 

ที่ตั้ง: ชุมชนบ้านยายม่อม อ.แหลมงอบ จ.ตราด
บริการ: กิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน พร้อมอาหารกลางวัน 600บาทต่อคน (รวมกิจกรรมชมหาดทรายดำ, ชมวิถีชีวิตชุมชนประมง, ชมสะพานแหลมงอบ, สปาทรายดำ, กิจกรรมปล่อยปูไข่นอกกระดอง, เล่าขานตำนานหินยายม่อม)
เบอร์โทร: 08 5214 2082 , 08 1996 4388
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: ชมธรรมชาติหาดทรายดำ 1 ใน 5 แห่งของโลก, ชมสะพานแหลมงอบ ประโจมไฟแหลมงอบ, ชมมัสยิดนูรู้ลการีม, 


9.บ้านอ่าวใหญ่ จ.ตราด

เที่ยวเกาะกูด แวะนอนโฮมสเตย์ เรียนรู้วิถีชีวิตที่ ชุมชนบ้านอ่าวใหญ่ ชุมชนเล็กๆ ที่มาพร้อมกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่จะทำให้หลายๆ คนหลงเสน่ห์ทะเลใสๆ และความน่ารักของชาวบ้านที่นอกจะได้มาเที่ยวพักผ่อนนอนโฮมสเตย์กันแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น ปาญวณยุคองเชียงสือ นั่งเรือชมศาลสมเด็จพระนเรศวร นั่งเรือปล่อยลูกปลากะรังหงส์ และการทำน้ำปลาตำรับโบราณที่มีเฉพาะที่ชุมชนบ้านอ่าวใหญ่เท่านั้น และห้ามพลาดกับของดี ของเด็ดประจำชุมชนอย่าง ปลาส้มที่ต้องลองหาแวะชิมกันสักหน่อย

ที่ตั้ง: ชุมชนบ้านอ่าวใหญ่ อ.เกาะกูด จ.ตราด
บริการ: บ้านพักโฮฒสเตย์, สปาญวณยุคองเชียงสือ, นั่งเรือชมศาลสมเด็จพระนเรศวร, นั่งเรือปล่อยลูกปลากะรังหงส์, การทำน้ำปลาตำรับโบราณ
เบอร์โทร: 085 278 6575 ป้าหนา
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: อ่าวยายายกี๋, อ่าวตะเภา, อ่าวงามโข่, อ่าวคลองหิน, อ่าวคลองมาด, อ่าวคลองเจ้า, หมู่บ้านประมงอ่าวสลัด, น้ำตกคลองเจ้า, จุดชมวิวอ่าวใหญ่


10.ชุมชนบ้านท่าวัง จ.ชลบุรี

ชุมชนบ้านท่าวัง ชุมชนแห่งนี้อยู่ที่เกาะสีชัง เกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของน้ำทะเลใสๆ และทรายสีขาวๆ และยังเป็นที่เที่ยวยอดฮิตอีกด้วย ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็น หาดถ้ำพัง, จุดชมวิวช่องเขาขาด, ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, ต้นเลียบวิจิตร ต้นไม้ที่รัชกาลที่5 ทรงมาปลูกไว้ และใครจะรู้ว่าชุมชนเล็กๆ บนเกาะสีชังแห่งนี้ยังมีการทำผ้ามัดย้อม ผ้าบาติก และพลาดไม่ได้มาเที่ยวทะเลแบบนี้ ต้องแวะชิมอาหารทะเลสดๆ หรือจะกาซื้อของฝากกลับบ้าน ที่ชุมชนแห่งนี้ก็มีผลิตภัณฑ์แปรรูปมากมายไม่ว่าจะเป็น ปลาหมึก กุ้ง ปลา และไฮไลท์มาที่ก็ต้องแวะไปชิม เย็นตาโฟ เจ๊อ๋อย เย็นตาโฟรสเด็ดที่ใส่วัตถุดิบสดๆ จากทะเล แบบเน้นๆ และยังมีน้ำพริกมนต์สีชัง น้ำพริกรสชาติสุดแซ่บให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันอีกด้วย

ที่ตั้ง: ชุมชนบ้านท่าวัง ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
เบอร์โทร: 038 216 519 องค์การบริหารส่วนตำบลเทววงศ์
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: หาดท่าวัง, หาดถ้ำพัง, จุดชมวิวช่องเขาขาด, ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, ต้นเลียบวิจิตร
การเดินทาง: ต้องเดินทางมาที่อำเภอศรีราช จังหวัดชลบุรี เพื่อรอขึ้นเรือโดยสารที่ท่าเรือจรินทร์ อ.ศรีราชา, มีออกทุกชั่วโมง เที่ยวแรกตั้งแต่เวลา 07.00 – 20.00 น. ( มีเส้นทางเดียวเท่านั้น )  และจากเกาะสีชังเรือออกเที่ยวแรก 06.00 –  18.00 น. ( เรือออกทุกชั่วโมง )


11.ชุมชนบ้านเนินบรรพต จ.ชลบุรี

ชุมชนบ้านเนินบรรพต บางเสร่ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่นี่นอกจากจะมีชายหาดที่ทอดยาวสวยงามแล้ว ชาวชุมชนเนินบรรพตยังยังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม ดังนั้นจะขึ้นชื่อเรื่องความสดใหม่ของเมนูซีฟู้ด ที่นี่จึงมีร้านให้เลือกนั่งแบบริมทะเลมากมาย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าชุมชนแห่งนี้ ก็มีงานฝืมืออย่าง ผ้าบาติก ที่เป็นเอกลักษณ์ ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนและทดลองได้อย่างใกล้ชิด ส่วนของฝากเมนูเด็ดต้องยกให้กับหมึกและปลาข้างทองแดดเดียว ส่วนที่พักสวยๆ ริมทะเลก็มีให้เลือกมากมาย จะนอนแบบโฮมสเตย์ราคาสบายกระเป๋า หรือบูติครีสอร์ทหรูๆ ก็บรรยากาศดีคุ้มราคา

ที่ตั้ง: ชุมชนบ้านเนินบรรพต บางเสร่ จ.ชลบุรี
บริการ: เรือตกปลา เที่ยวดำน้ำดูปะการัง ราคา 5,000-8,000 บาท หรือตามราคาที่ตกลงกันกับเรือนำเที่ยว
เบอร์โทร: 089 477 7007 คุณวลีพร 


12.ชุมชนบ้านหนองมะนาว จ.ชลบุรี 

ชุมชนบ้านหนองมะนาว อีกหนึ่งชุมชนที่มีวัฒนธรรมประเพณีที่น่าสนใจ มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เหมาะที่จะแวะมาเที่ยวพักผ่อน นอกจากนี้ภายในชุมชนยังมีกิจกรรมให้ได้เรียนรู้อย่างมากมาย เช่น การเผาข้าวหลามแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่จะได้กลิ่นหอมจากการเผาเมื่อรับประทาน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่มีการส่งต่อกันแบบรุ่นต่อรุ่น นอกจากนี้ในชุมชนยังมีผลิตภัณฑ์น่าสนใจอย่างมะนาวแปรรูป ข้าวเกรียบสมุนไพร ไข่เค็ม พืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอย่าง วัดพระพุทธบาทเขานางนม ที่สามารถมองเห็นวิวอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทรได้อย่างสวยงามอีกด้วย

ที่ตั้ง: ชุมชนบ้านหนองมะนาว ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี
เบอร์โทร: 084 783 5573 คุณกันนิกา


ชมวิดีโอบรรยากาศชุมชนน่าเที่ยวจังหวัดชลบุรี


13.ชุมชนคลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา 

ชุมชนคลองเขื่อน ชุมชนที่โดดเด่นที่เป็นทั้งที่เที่ยวและเป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการสอนทำขนมโบราณ ชุมชนคลองเขื่อนเป็นชุมชนที่มีมะม่วงเป็นของขึ้นชื่อเพราะชาวบ้านที่นี่นิยมปลูกมะม่วงจึงทำให้เกิดของอร่อยๆ ที่แปรรูปจากมะม่วง ไม่ว่าจะเป็น มะม่วงกวน, มะม่วงแช่อิ่ม, มะม่วงอบแห้ง, แยมมะม่วง และยังมีการให้ความรู้เรื่องมะม่วงสายพันธุ์ต่างๆ หรือใครที่สนใจอยากทำธุรกิจส่งออก ที่นี่ก็มีวิธีการทำมะม่วงส่งออกต่างประเทศอีกด้วย นอกจากมะม่วงที่เป็นของดีของที่นี่แล้ว ยังมี คุ้มวิมานดิน ที่เที่ยวที่เป็นแหล่งรวมตุ๊กตาดินเผา และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและศิลปะที่น่าสนใจอีกด้วย ใครที่กำลังหาที่พักผ่อนในวันหยุด หรือใครที่หลงรักในรสชาติของมะม่วงที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่ที่ต้องลิสต์ไว้แล้วมาให้ได้

ที่ตั้ง: ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา
เบอร์โทร: 038 509 222 ที่ว่าการอำเภอคลองเขื่อน
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: เขื่อนทดน้ำบางประกง, วัดเทวรุธ, คุ้มวิมานดิน
การเดินทาง: จาก กทม.ไปตามทางหลวงหมายเลข 304(กรุงเทพฯ-มีนบุรี –ฉะเชิงเทรา) ระยะทาง75 กิโลเมตร


14.ชุมชนบ้านทุ่งยายชี จ.ฉะเชิงเทรา

ชุมชนบ้านทุ่งยายชี ชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ที่มีทั้งทุ่งนาสีเขียวบรรยากาศสดชื่น ใครที่อยากเที่ยวทุ่งนาหรือถ่ายรูปกับทุ่งนาบอกเลยว่าที่ชุมชนแห่งนี้ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะที่นี่มีการทำนาถึงปีละ 2 ครั้งเรียกได้ว่าได้ชมทุ่งนาสีเขียวๆ กันตลอด นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่น คือ อ่างเก็บน้ำคลองสียัด ศาลเจ้าพ่อเขากา และน้ำตกทุ่งยายชี น้ำตกที่สร้างขึ้นด้วยฝายหินเพื่อชะลอน้ำ จนเกิดเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามและยังมีจุดเช็คอิน ถ่ายภาพที่ระลึกที่สะพานเชื่อมรัก และกิจกรรมเอาใจสายแอดเวนเจอร์อย่างล่องเรือคายัค นอกจากนี้ที่ชุมชนแห่งนี้ยังมีเมนูบ้านๆ อย่าง แกงลูกกล้วย แกงเห็ดป่า และเมนูจากผักกูด ให้ทุกคนได้มาลิ้มลอง หรือใครที่อยากจะหาของฝากอร่อยๆ ที่นี่ก็มีทั้ง กุนเชียง ข้าวหลาม ข้าวจี่ ให้ซื้อกลับไปเป็นของฝากกันด้วยนะ

ที่ตั้ง: ชุมชนบ้านทุ่งยายชี ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา
เบอร์โทร: 038 508 110 องค์การบริหารส่วนตำบลท่าตะเกียบ
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: อ่างเก็บน้ำคลองสียัด, ศาลเจ้าพ่อเขากา, น้ำตกทุ่งยายชี
การเดินทาง: ใช้เส้นทาง 304 (กรุงเทพฯ-มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา)  ระยะทาง 75 กิโลเมตร จากนั้นใช้เส้นทางที่ผ่านอำเภอแปลงยาว ไปอำเภอสนามชัยเขต ต่อด้วยทางหลวง 3259 ไปอำเภอท่าตะเกียบ ระยะทางประมาณอีกประมาณ 80 กิโลเมตร


15.ชุมชนอำเภอบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา

ชุมชนอำเภอบางคล้า ชุมชนริมน้ำบางปะกงที่ยังวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมได้อย่างน่าสนใจ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมให้ได้เรียนรู้ศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมายไม่ว่าจะเป็น อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนให้ได้ช้อปปิ้งของดี ของเด็ด พร้อมแวะชิมของอร่อยกันที่ตลาดน้ำบางคล้า ที่ได้รวบรวมเมนูอร่อยเด็ดในอำเภอบางคล้ามาไว้ที่นี่อย่างมากมาย ที่รับรองว่ามาที่นี่ได้อิ่มกันจนแน่นพุงอย่างแน่นอน หากยังไม่หนำใจที่นี่ก็มีร้านอาหารริมน้ำให้ได้อร่อยกันต่อที่รับรองว่าต้องติดใจบรรยากาศและรสชาติอาหารกันอย่างแน่นอน…

ที่ตั้ง: ชุมชนอำเภอบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
เบอร์โทร: 081 819 8941
เวลาเปิด-ปิด: ตลาดน้ำบางคล้าเปิกเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 8.00-18.00 น.
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์, วัดแจ้ง, หมู่บ้านน้ำตาลสด, สวนมะม่วง, ตลาดน้ำบางคล้า, โบสถ์สีทอง วัดปากน้ำโจ้โล้


ชมวิดีโอบรรยากาศชุมชนน่าเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา


16.ชุมชนบ้านใหม่ทรงคนอง จ.สมุทรปราการ

ชุมชนบ้านใหม่ทรงคนอง ชุมชนป่าในเมืองแห่งแรกของประเทศไทย ชุมชนเล็กๆ แห่งเกาะบางกระเจ้าแห่งนี้มีชาวบ้านที่ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมจนกลายเป็นห้องเรียนธรรมชาติที่รวบรวมสมุนไพรไทยไว้มากมายไม่ว่าจะเป็น ต้นเหงือกปลาหมอ ต้นชุมเห็ดเทศ และยังมีน้ำสมุนไพรฝีมือของชาวบ้านที่นี่คือ น้ำอัญชัญ, น้ำเก๊กฮวย, น้ำกระเจี๊ยบ, น้ำตะใคร้, น้ำมะตูม ที่รับรองว่าดื่มแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกายสุดๆ เท่านั้นยังไม่พอยังมี ขนมช่อม่วง ฉบับชาววัง ขนมไทยโบราณที่ไม่ได้หากินกันง่ายๆ แต่ที่นี่มีให้ได้ลิ้มลอง นอกจากนี้ที่นี่ยังมีการย้อมผ้าจากสีธรรมชาติเพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุด และที่พลาดไม่ได้อีกหนึ่งสถานที่นั่นก็คือ วัดป่าเกด วัดที่มีโบสถ์เก่าแก่อายุมากกว่า 200 ปีที่ยังคงความสมบูรณ์ไว้ให้เห็น ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวบรรยากาศกรีนๆ ใกล้กรุงเทพ ที่นี่เหมาะแก่การมาเที่ยวมากๆ หรืออยากหาที่พักผ่อนสักคืนที่นี่ก็มีโฮมสเตย์ไว้รองรับอีกด้วย รับรองว่ามาแล้วไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน

ที่ตั้ง: ม.2 – ม.3 ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
เบอร์โทร: 086 101 0704
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: วัดป่าเกด, วัดโปรดเกศเชษฐาราม, วัดจากแดง, วัดคันลัด 
การเดินทาง: เดินทางโดยใช้เส้นทางถนนจากกรุงเทพตามถนนสุขสวัสดิ์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนนครเขื่อนขันธ์ เลี้ยวซ้ายแยกเข้าถนนเพชรหงษ์ ประมาณระยะทาง 1 กิโลเมตรเข้าเขตตำบลทรงคนอง


17.ชุมชนบ้านบางยอ จ.สมุทรปราการ

ชุมชนบ้านบางยอ ชุมชนเล็กๆ ในเกาะบางกระเจ้าที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาจึงทำให้ชุมชนแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก เสน่ห์ของที่นี่ก็คือบ้านเรือนที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะทำให้เราได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตริมน้ำของชาวบ้าน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทำให้ชุมชนแห่งนี้เต็มไปด้วย สวนธรรมชาติ ที่มีผลไม้อร่อยๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น มะม่วงน้ำดอกไม้ และชมพู่ ที่ทานได้สดๆ จากในสวนกันเลยทีเดียว และยังมี น้ำตาลมะพร้าว ที่แสนหอมหวาน และพลาดไม่ได้กับ ก๋วยเตี๋ยวเป็ดแป๊ะเฮง และไปเที่ยวชมตลาดบางน้ำผึ้ง นอกจากนี้ยังมีงานฝีมืออย่างการ สานตะกร้า และ การทำหัวโขน ที่ยังคงสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน หรือใครที่อยากมีของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านที่นี่ก็มีทั้ง กระเป๋าผ้า และกระเป๋าสานจากเชือก ให้เลือกช๊อปได้ตามใจชอบ อิ่มพุงอิ่มใจกันไปแล้วก็ต้องมาอิ่มบุญกันต่อที่ วัดกองแก้ว วัดเก่าแก่ของชุมชนบางยอ หรือถ้าอยากนอนพักสักคืนที่นี่ก็มีโฮมสเตย์ให้เลือกหลากหลายที่ เหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อนใกล้กรุงเทพฯ ที่ยังคงความสโลว์ไลฟ์จนถึงปัจจุบัน

ที่ตั้ง: ต.บางยอ อ.บางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ
เบอร์โทร: 081 441 3028
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: ตลาดบางน้ำผึ้ง, วัดกองแก้ว, วัดบางน้ำผึ้งใน, พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย, สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์, Beehive Coffee House, ถนนสีเขียว หรือ ถนนมรกต, Bangkok Tree House
การเดินทาง: ใช้เส้นทาง ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ข้ามสะพานภูมิพล 1 เข้าซอยทรงธรรม และเข้าสู่ถนนเพชรหึงษ์ วิ่งตรงเข้าคุ้งบางกะเจ้า


18.ชุมชนบ้านบางพลี จ.สมุทรปราการ

ปิดท้ายกันที่ ชุมชนบ้านบางพลี ชุมชนเก่าแก่ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย ชุมชนแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตผู้คนที่ใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย และยังมีตลาดน้ำบางพลี ตลาดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 150 ปี ที่ยังคงรักษาสภาพดั้งเดิมไว้ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีต ตลาดน้ำบางพลีแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของวิถีชีวิตผู้คนชาวชุมชนบางพลี และยังมีของอร่อยและหากินยาก ไม่ว่าจะเป็นปลาสลิดบางพลี ขนมโบราณอย่าง กระยาสารท และของอร่อยที่ห้ามพลาดนั่นก็คือ ขนมชั้นแม่บุญศรี ขนมชั้นดอกไม้ที่มีเนื้อเนียน นุ่ม บอกได้คำเดียวว่าอร่อยสุดๆ นอกจากนี้ยังมีเรือให้เที่ยวชมคลองสำโรง ที่จะพาไปสัมผัสวิถีชีวิตสองฝั่งคลองของชาวบ้านบางพลี เที่ยวชมตลอดน้ำโบราณบางพลี วัดบางพลีใหญ่กลาง วัดหลวงพ่อโต และยังมีอีกหนึ่งสถานที่สำคัญอย่าง วัดบางพลีใหญ่ใน วัดเก่าแก่ที่ยู่คู่กับชุมชนบางพลีมาอย่างยาวนาน ที่อิ่มทั้งพุง อิ่มทั้งใจ แถมอิ่มบุญกับชุมชนบ้านบางพลี

ที่ตั้ง: ชุมชนบ้านบางพลี ต.บางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ
บริการ: นั่งเรือท่องเที่ยวคลองสำโรง ระยะทาง 4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาน 30 นาที ราคา 20 บาท/คน 
เบอร์โทร: 089 792 5280
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง: ตลาดน้ำโบราณบางพลี, วัดบางพลีใหญ่ใน, วัดบางพลีใหญ่กลาง 
การเดินทาง: ถนนบางนา-ตราด วิ่งเข้าถนนกิ่งแก้ว-บางพลี พอถึงบางพลีก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทพารักษ์ จากนั่นเลี้ยวซ้ายเข้าวัดบางพลีใหญ่

 

 


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ