3 วัน 2 คืน เกาะหมาก เกาะขาม เกาะกระดาด เกาะสวยน้ำใส เดินทางง่าย วันหยุดน้อยก็ไปได้!!
51,138 ครั้ง
23 เม.ย. 2562
51,138 ครั้ง
23 เม.ย. 2562
เดือนเมษาอย่างที่หลายๆ คนรู้กันดีว่าเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด และหลายคนก็คงรู้ดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยมีฤดูร้อนถึงสองแบบคือคือฤดูร้อนกับฤดูร้อนมาก แต่ความร้อนไม่ใช่อุปสรรคสำหรับนักเดินทางสายเที่ยวอย่างเรา ยิ่งกลิ่นอายของช่วง Summer แบบนี้ ที่ที่อดพูดถึงไม่ได้ก็คงหนีไม่พ้นทะเล แต่จะลงใต้ไปถึงอันดามันก็คงใช้เวลาเดินทางนานแถมงบยังบานอีกแน่ๆ ทริปเก็ทเตอร์ก็เลยไม่พลาดเอาทริปเอาใจคนมีเวลาน้อยไปตะลุย เกาะหมาก เกาะขาม เกาะกระดาษ 3 เกาะสวย น้ำทะเลใส ฝั่งอ่าวไทยแถมอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ มาฝากเพื่อนๆ วันหยุดยาวนี้เตรียมแพ็คกระเป๋าแล้วมุ่งหน่าไปรับ Vitamin Sea กันโลดดด…
การเดินทางไปยังเกาะหมากของเราครั้งนี้เราเดินทางไปง่ายๆ โดย บริษัทบุญศิริเรือเร็ว ที่จะมีรถบัสมารับยังจุดขึ้นรถที่ถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ เวลา 05.00 น. ซึ่งจะมุ่งหน้าไปยัง บริษัทบุญศิริเรือเร็ว ที่อยู่ใกล้กับท่าเรือแหลมศอก จ.ตราด ใช้เวลาในการเดินทางประมาน 5 ชั่วโมงนิดๆ ซึางสามารถทำการจองตั๋วได้ง่ายๆ ที่ www.boonsiriferry.com และเบอร์โทร 094 724 4555
เมื่อเดินทางมาถึง บริษัทบุญศิริเรือเร็ว แหลมศอก ที่นี่จะมีจุดฝากรถสำหรับคนที่เอารถส่วนตัวมาเองค่าบริการคันละ 50 บาท/วัน เดินทางมาไกลๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหิว เพราะที่นี่มีอาหารและขนมให้บริการมากมาย จะนั่งกินระหว่างรอไปขึ้นเรือหรือจะซื้อไปกินบนเรือก็ได้แล้วแต่ความสะดวก
ที่นั่งระหว่างรอเรือก็ยังกว้างขวางโปร่งโล่งสบายแถมยังได้พบประเพื่อนร่วมเดินทางใหม่ๆ อีกด้วย
เมื่อใกล้ถึงเวลา 10.45 ซึ่งเป็นเวลาเดินเรือ ก็จะมีรถของบริษัทบุญศิริเรือเร็วที่จะพาเราไปส่งยังท่าเรือแหลมศอกซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 25 ที่นั่ง และใช้เวลาไปยังท่าเรือแหลมศอกเพียง 5 นาทีเท่านั้น
เมื่อมาถึงท่าเรือแหลมศอกก็จะมีเรือลำใหญ่หรือ High Speed Ferry มารอรับแบบไม่ต้องกลัวว่าจะไปยืนรอตากแดดให้แผดเผากันเลย
และแล้วก็ถึงเวลา 10.45 น. เป็นเวลาขึ้นเรือ ซึ่งจะใช้เวลาการเดินทางไปยังเกาะหมากประมาน 2 ชั่วโมง ภายในเรือแบ่งเป็น 3 โซนคือ โซนชั้นล่าง เป็นห้องโดยสารแบบมีแอร์เย็นๆ และมีทีวีให้ชมตลอดการเดินทาง โซนที่สอง จะอยู่ชั้นที่ 2 ของตัวเรือโซนนี้จะเป็นแบบ Open Air สามารถนั่งรับลมแบบชิลล์ๆ และ โซนดาดฟ้า ชั้นบนสุดสามารถชมวิวทะเลระหว่างการเดินทางได้แบบ 360 องศา
ที่นั่งภายในก็นั่งได้แบบสบายแถมตัวเรือยังไม่มีเสียงดังรบกวนอีกด้วย
ก่อนที่จะไปถึงเกาะหมากเรือจะแวะส่งและรับผู้โดยสารที่เกาะกูดก่อน หรือใครที่อยากแวะเที่ยวเกาะกูดก่อนก็สามารถลงที่เกาะกูดได้เลย แต่วันนี้ทริปของเราจะมุ่งหน้าไปที่เกาะหมาก ซึ่งเราเดินทางมาถึงเกาะหมากกันเวลา 12.45 น. เรือบุญศิริจะมาส่งเราที่ท่าเทียบเรืออ่าวนิด และมีรถของ มิรา มนตรา รีสอร์ท ที่พักที่เราจะไปพักกันในวันนี้มารอรับถึงท่าเรืออ่าวนิด
และแล้วเราก็มาถึง มิรา มนตรา รีสอร์ท ที่พักหรูสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอลริมทะเลท่ีตั้งอยู่บนหาดอ่าวพระ ชายหาดทรายสีขาวแบบส่วนตัวที่อยู่คู่กับน้ำทะเลสีฟ้าใส และมีห้องพักให้เลือกถึง 4 แบบด้วยกันคือ Deluxe Villa, Beachfront Deluxe Villa, Family Villa และ Beachfront Family Villa
และถึงเวลาเช็คอินเข้าห้องพัก วันนี้เรานอนที่ห้อง Beachfront Deluxe Villa วิลล่าส่วนตัวริมชายหาด ที่สามารถเห็นวิวทะเลได้จากเตียงนอนกันเลยทีเดียว ตัววิลล่ายังคงตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอลและแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
ภายในตัวห้องพักตกแต่งด้วยวัสดุจากธรรมชาติตามสไตล์ทรอปิคอล โดดเด่นด้วยเพดานที่ทำมาจากไม้สานและเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลที่ตัดกับพนังสีขาวของห้องช่วยให้ดูผ่อนคลายและเพิ่มความอบอุ่นนุ่มนวลชวนให้หลงไหล พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็น แอลซีดีทีวี กาน้ำร้อน รู้นิรภัย ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ
นอกจากนี้ยังมีกระจกบานใหญ่ด้านหน้าห้องไว้ให้ชมวิวทะเลจากบนเตียงได้แบบเต็มที่ ประตูด้านหน้ายังสามารถเปิดรับลมเย็นๆ จากทะเลได้อีกด้วย
ภายในห้องน้ำก็ยังมีที่อาบน้ำให้เลือกทั้งสองแบบคือ แบบ อินดอร์ และแบบ เอ้าท์ดอร์ พร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower ให้อาบกันแบบชุ่มฉ่ำกายและใจ
ด้านหน้าห้องพักยังมีระเบียงที่มีเปลตาข่ายและบีนแบ็คไว้ให้นั่งชิลล์ชมวิวทะเลเพลินๆ
และ มิรา มนตรา รีสอร์ท ยังมีบริการเช่ารถจักรยานยนต์ ไว้ให้ขี่เที่ยวรอบเกาะอีกด้วยนะ วันนี้เราเลยเปลี่ยนแนวเป็นสายแว๊นขี่มอเตอร์ไซต์ไปเที่ยวรอบเกาะกัน
ไม่รอช้าเราปักหมุดไปที่ Ball Cafe คาเฟ่เปิดใหม่สไตล์โมเดิร์นที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก ภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์กึ่งอินดัสเทรียลและมีมุมสงบๆ ให้อ่านหนังสือแบบหรือนั่งทำงานแบบชิลล์ๆ
และยังมีที่นั่งให้เลือกทั้งแบบอินดอร์ เอ้าท์ดอร์บรรยากาศกลางสวน และที่นั่งบาร์
วันนี้เราสั่งเครื่องดื่ม โกโก้เย็น และ เค้กแครอท สูตรพิเศษของ Ball Cafe
ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ จนชุ่มฉ่ำใจคลายร้อนกันไปแล้ว เราก็ไปต่อกันที่ สะพานสู่ฝัน หรืออีกชื่อที่เรียกกันว่า สะพานชินนาม่อน ที่ตั้งอยู่ที่ เดอะชินนาม่อน รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะหมาก ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่ทอดตัวยาวขนานไปกับทะเลที่มีความยาวมากกว่า 500 เมตร และยังเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในเกาะหมากอีกด้วย คนนอกสามารถเข้าไปถ่ายรูปหรือชมบรรยากาศได้
มุมเปลตาข่ายสุดชิลล์ ที่ใครมาก็ต้องมารัวชัตเตอร์กันแบบไม่ยั้ง
และไปต่อกันที่ ร้านป้าสม แหลมสน อาหารบรรยากาศสุดชิลล์ ที่ตั้งอยู่ที่แหลมสนถึงแม้จะเข้าไปลึกสักหน่อยแต่รับรองว่ามาถึงแล้วคุ้มค่าอย่างแน่นอน ด้วยบรรยากาศแบบร้านอาหารเล็กๆ แบบชาวเกาะแท้ๆ ที่สามารถหาได้ที่นี่เพียงที่เดียวเท่านั้น มาพร้อมกับเมนูมากมายมายทั้ง ส้มตำ อาหารไทย และอาหารตามสั่ง
สำหรับที่นั่งที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือที่นั่งริมชายหาดที่สามารถมองเห็นวิวน้ำทะเลใสๆ และวิวของเกาะกระดาดซึ่งเป็นอีกหนึ่งเกาะสวยที่อยู่ไม่ไกลจากเกาะหมาก
มาถึงที่นี่แล้วเราก็ไม่พลาดที่จะนั่งเรือไปเที่ยว เกาะกระดาด ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากเกาะหมาก สามารถติดต่อขึ้นเรือได้ที่ร้านป้าสมแหลมสนได้เลย ซึ่งจะมีเรือมารับถึงแหลมสน ราคา 350 บาท/คน ใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็เดินทางมาถึงเกาะกระดาดแล้ว
เกาะกระดาด เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีลักษณะแบนราบคล้ายลักษณะของกระดาษแผ่นใหญ่ที่มีไฮไลท์คือฝูงกวางที่จะออกมาทักทายนักท่องเที่ยว ซึ่งชาวบ้านเล่าว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนทางสวนสัตว์ได้นำมาปล่อยเอาไว้จนปัจจุบันมีกวางมากกว่าร้อยตัวจนได้รับฉายาว่า ซาฟารีกลางทะเล
และนอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งจุดอันซีนที่คนยังไม่ค่อยรู้จักก็คือ เกาะขายหัวเราะ เกาะเล็กๆ ที่มีต้นไม้ขึ้นเพียงต้นเดียวและมีลักษณะคล้ายกับหน้าปกหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ ตัวเกาะอยู่ถัดจาก เกาะนกในและนกนอก ซึ่งจากวันจะมีทะเลแหวกเป็นหาดทรายสีขาวและโขดหินเป็นทางเดิน ให้เราข้ามไปได้อย่างสบาย
เที่ยวอยู่สักพักใหญ่ก็ได้เวลานั่งเรือกลับไปยังเกาะหมาก และเดินทางกลับไปยัง มิรา มนตรา รีสอร์ท ที่พักของเราในคืนนี้ซึ่งช่วงตอนเย็นๆ น้ำทะเลจะเริ่มขึ้นสูงทำให้ได้เห็นวิวทะเลจากชายหาดส่วนตัวของ มิรา มนตรา รีสอร์ท อีกแบบ
กลับมาถึงในช่วงเย็นพอดี เราเลยมาพายเรือคายัคชิลล์ๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของทางรีสอร์ทที่ให้บริการสำหรับลูกค้าที่มาพักผ่อน ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตกยิ่งทำให้บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกได้จากชายหาดส่วนตัวของทางรีสอร์ท
บรรยากาศยามค่ำคืนที่เงียบ สงบ จนได้ยินแต่เสียงคลื่นชวนไหลน่าหลงไหลผ่อนคลายกายและใจ
วันนี้เราตื่นแต่เช้ามารับวิตามินจากแสงแดดและมาสูดโอโซนอันสุดชื่นแบบท่ีหาไม่ได้จากเมืองกรุง และอิ่มอร่อยไปกับอาหารมื้อเช้าของทางรีสอร์ทที่มีให้เลือกหลากหลายเมนูและสามารถสั่งได้แบบไม่อั้น เช้านี้เราเลยจัด ไข่กระทะ อเมริกันเบรคฟาสต์ และแซนวิซไข่ชีส มากินแบบชิลล์ๆ ที่เทอเรซของห้องอาหาร แถมยังได้ชมวิวทะเลในตอนเช้าอีกด้วย
มาถึงเกาะหมากและพักที่รีสอร์ทหรูติดะทะเลแต่จะไม่ลงทะเลก็อย่างไงอยู่ ไม่รอช้าเรารีบเปลี่ยนชุดไปลงทะเล และชุดว่ายน้ำที่เหมาะสำหรับซัมเมอร์นี้สุดๆ ก็ต้องยกให้ชุดว่ายน้ำจากแบรนด์ Brooklyn Swimwear ที่สามารถครีเอทลุคได้ตามที่ใจต้องการ แบบที่เรียกได้ว่าไปเที่ยวทะเลเอาชุดว่ายน้ำไปชุดเดียวแต่เหมือนเอาไปหลายชุด เพื่อนๆ ที่สนใจชุดว่ายน้ำสวยๆ แบบนี้สามารถเข้าไปได้ที่ Facebook: Brooklyn Swimwear หรือ IG: BrooklynSwimwear_Official และ Line: @BrooklynSwimwear
และยังมีชิงช้านั่งชิลล์ๆ ริมชายหาดแบบนี้ด้วยนะ
ถ้าไม่อยากลงน้ำทะเลทาง มิรา มนตรา รีสอร์ท ก็มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ให้เพลิดเพลิน ที่เมื่อลงสระแล้วขอบสระว่ายน้ำจะขนานไปกับทะเลจริงๆ ทำให้ได้ฟีลลิ่งทั้งสองบรรยากาศรับรองเลยว่าฟินสุดๆ
วันนี้เราเช็คเอ้าท์ออกจาก มิรา มนตรา รีสอร์ท กันในช่วงสายๆ และไปต่อกันที่ แหลมตุ๊กตา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับชมวิวธรรมชาติและยังเป็นจุดที่ชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะหมาก การเดินทางไปอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และนอกจากนี้ยังสามารถเห็นวิวของเกาะระยั้งในและเกาะระยั้งนอกได้อีกด้วย
แล้วเราก็ปักหมุดไปต่อกันที่ Table Tale Cafe & Restaurant ร้านอาหารสุดเท่สไตล์อินดัสเทียลลอฟต์ ที่ตั้งอยู่กลางสวนสุดร่มรื่น ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. กันเลยทีเดียว ที่นั่งภายในร้านก็มีให้เลือกมากมายทั้งที่นั่งซึ่งส่วนมากจะเป็นที่นั่งแบบเอ้าท์ดอร์เพื่อให้ลูกค้าได้รับลมเย็นๆ จากธรรมชาติ
ไม่รอช้ารีบสั่งเมนูสุดแซ่บอย่าง ปูก้อนผัดพริกขี้หนู กุ้งแช่น้ำปลา ปลากระพงผัดฉ่า และหอยเชลล์ย่าง ซึ่งละเมนูบอกได้เลยว่าอร่อยแซ่บจนวางช้อนไม่ลงกันเลยทีเดียว
กินของคาวกันไปแล้วก็ไปต่อกันที่ Head in the Clouds คาเฟ่บรรยากาศสุดฟินที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Table Tale Cafe & Restaurant ตัวคาเฟ่จะตั้งอยู่บนชั้นสองของห้องอาหาร มักกะธานี รีสอร์ท ที่นอกจากจะเป็นคาเฟ่แล้วยังเป็นบาร์อีกด้วย ร้านเปิดตั้งแต่ 11.00 – 23.00 น. และยังมีดนตรีสด 20.00 – 22.00 (เฉพาะวันเสาร์) อีกด้วย
ตัวร้านตกแต่งด้วยสไตล์อินดัสเทียลแต่ก็มีความเป็นมินิมอลอยู่เบาๆ โดดเด่นด้วยโครงเหล็กสีดำเท่ๆ ด้วยความที่ตั้งร้านตั้งอยู่ชั้นบนยิ่งทำให้มองเห็นวิวทะเลได้จากมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม
ภายในตัวร้านก็มีกระจกบานใหญ่อยู่รอบด้านเพื่อให้ลูกค้าที่อยากนั่งที่นั่งแบบ อินดอร์ สามารถมองเห็นวิวทะเลได้เช่นเดียวกัน
โซนที่นั่งนอกร้านก็มีให้เลือกแถมยังได้รับความร่มรื่นจะต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางร้าน และยังมีระเบียงกระจกเก๋ๆ ไว้ให้เรามองวิวได้อย่างเต็มที่และไม่มีอะไรมาขัดตา และยังสามารถมองเห็นวิวเกาะยั้งในและเกาะระยั้งนอกได้อีกด้วย
นั่งมองวิวทะเลจนเพลินก็ได้เวลาไปเช็คอินเข้าที่พักซึ่งวันนี้เราจะไปพักกันที่ เกาะหมากโคโค่เคปรีสอร์ท รีสอร์ทหรูสไตล์ทรอปิคอลที่อิงแอบกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ตามสไตล์ชาวเกาะ และมีบ้านพักต่างสไตล์ให้เลือกมากถึง 16 รูปแบบ
แต่วันนี้เราเลือกนอนแบบ บ้านชายเขา บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง สามารถรับบรรยากาศของวิวได้ทั้ง 2 แบบคือวิวธรรมชาติสีเขียวชอุ่มชวนให้ชุ่มฉ่ำใจ และสามารถมองเห็นวิวหาดสวนใหญ่ได้จากมุม Top ภายในตัวห้องตกแต่งด้วยสไตล์รัสติกและลอฟต์ได้อย่างลงตัว พื้นที่ภายในห้องก็จัดสัดส่วนของเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างดีทำให้มีสเปซภายในห้องที่กว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้ง แอลซดีทีวี เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และไดร์เป่าผม
นอกจากนี้ภายในบ้านยังมีชั้นลอยที่สามารถนอนได้มากถึง 2 คน แถมมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่สามารถเปิดออกเพื่อรับลมเย็นจากธรรมชาติได้อีกด้วย
และยังมีระเบียงส่วนตัวหน้าห้องที่มีทั้งเก้าอี้และบีนแบ็คไว้ให้นั่งสูดโอโซนแบบชิลล์ๆ
ภายในห้องน้ำก็ยังคงสไตล์ลอฟต์เท่ๆ ที่ให้ความรู้สึกแบบ Hideaway อิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติ
เกาะหมากโคโค่เคปรีสอร์ทพยังมีกิจกรรมสนุกๆ ทั้ง สระว่ายน้ำพร้อมอ่างจากุซซี่วิวทะเล สปา พายเรือคายัด และดำน้ำ
อีกหนึ่งไฮไลท์ยอดนิยมที่มาเกาะหมากแล้วต้องห้ามพลาดคือ บาร์กลางทะเล ของ เกาะหมากโคโค่เคปรีสอร์ท ที่เป็นจุดชมวิวพรพะอาทิตย์ตกที่สวยงามและโรแมนติกที่สุดบนเกาะหมาก และเป็นจุดที่มีน้ำใสสุดๆ ใสจนสามารถมองเห็นปลาหลากสีสันที่แหวกว่ายอยู่ในทะเล
บรรยากาศของนักท่องเที่ยวที่มารอดูพะรอทิตย์ตกที่บาร์กลางทะเลของเกาะหมากโคโค่เคปรีสอร์ท ซึ่งมีที่นั่งให้เลือกหลากหลายมุม ถ้าอยากได้มุมดีๆ อาจจะต้องมาก่อนพระอาทิตย์ตกเร็วสักหน่อย หรือจะสั่งเครื่องดื่มจากบาร์มานั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกชิลล์ๆ ก็ได้นะ
วิวสวยมองเพลินจนไม่อยากลุกไปไหน เราเลยเอาบรรยกาศยามค่ำคืนของ บาร์กลางทะเล และเกาะหมากโคโค่เคปรีสอร์ท มาฝากเพื่อนๆ ด้วย
วันนี้เรารีบตื่นแต่เช้ามาจัดเต็มกับบุฟเฟ่ต์ของทาง เกาะหมากโคโค่เคปรีสอร์ท ที่มีให้เลือกมากมายทั้งอาหารเช้าสไตล์ตะวันตกและก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ
ด้วยความที่ เกาะหมากโคโค่เคปรีสอร์ท ตั้งอยู่ในจุดที่อยู่ไม่ไกลจากเกาะขาม เราก็เลยไม่พลาดที่จะใช้บริการเรือคายัคของทางรีสอร์ทพายไปที่ เกาะขาม หากพายเรือคายัคไปเองจะใช้เวลาประมาน 30 นาที แต่สำหรับใครที่ไม่อยากพายเรือคายัคไปเองก็สามารถติดต่อเรือได้กับทางรีสอร์ทได้เลย คิดค่าบริการ 350 บาท/คน (รวมค่ารับ – ส่ง และค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะ)
เมื่อมาถึง เกาะขาม ก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมคนละ 200 บาท แต่รับรองเลยว่าคุ้มสุดๆ เพราะเกาะขามเป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวนียนละเอียดสุดๆ
เงียบและสงบสุดๆ แถมยังมีสะพานไม้ที่ทอดตัวลงไปในทะเลให้ไปนั่งชิลล์ และยังได้เห็นปลาทะเลหลากสีสันมาแหวกว่ายให้เราดูอีกด้วย
มุมชิงช้านั่งชิลล์ๆ สูดบรรยกาศและฟังเสียงคลื่น สบายใจสุดๆ
นั่งชมบรรยากาศของเกาะขามจนหนำใจก็ได้เวลากลับไปยัง เกาะหมากโคโค่เคปรีสอร์ท ซึ่งใช้เวลาในการพายคายัคกลับประมาน 30 นาทีเช่นเดียวกับขาไป
ก่อนเช็คเอ้าท์ออกจาก เกาะหมากโคโค่เคปรีสอร์ท เลยแวะมาแช๊ะภาพกันที่บาร์กลางทะเลกันอีกรอบ
วันนี้ก่อนกลับไปรอเรือกลับไปยังแหลมศอก ก็เลยแอบแว๊บมาที่หาดสวนใหญ่บริเวณหน้า เกาะหมากรีสอร์ท ซึ่งมีมุมสะพานที่เป็นท่าเทียบเรือสวยๆ ให้เราได้นั่งถ่ายรูปไปอวดเพื่อนๆ อีกด้วย
ชมบรรยากาศของหาดสวนใหญ่ได้สักพักก็ได้เวลากลับ เราเดินทางกลับไปยังท่าเรือแหลมศอกโดย บริษัทบุญศิริเรือเร็ว อีกเช่นเคย และเรือจะมารับเราที่อ่าวนิดเวลา 11.00 น. และใช้เวลาเดินทางไปยังแหลมศอกประมาน 1 ชั่วโมง และเราก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยรถบัสของบริษัทบุญศิริเรือเร็วที่มีรถบัสคอยให้บริการรับส่งอย่างสะดวกสบายถึง ถ.ข้าวสาร กรุงเทพฯ ในเวลา 20.00 น.
เป็นอย่างไรกันบ้างกับทริป 3 วัน 3 เกาะที่ ทริปเก็ทเตอร์ ไปเก็บภาพบรรยากาศมาเป้นทริปตัวอย่างให้เพื่อนๆ ได้ไปฟินตามกัน ที่สำคัญการเดินทางยังเดินทางไปได้ง่ายๆ ทั้งรถและเรือโดย บริษัทบุญศิริเรือเร็ว ที่คอยอำนวยความสะดวกให้เราตั้งแต่วันไปถึงวันกลับ สำหรับทริปนี้รับรองเลยว่าเพื่อนๆ จะได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปกับ เกาะหมาก เกาะขาม และเกาะกระดาด เกาะกลางทะเลอ่าวไทย น้ำใส แถมอยู่ไม่ไกลกรุง แค่วันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ก็มาเที่ยวได้แล้ว ลองเอาทริปความสนุกสุดมันส์นี้เป็นทริปตัวอย่างดูรับรองว่าเที่ยวแบบทริปเก็ทเตอร์ได้เก็บครบทุกความสึกอย่างแน่นอน