tripgether.com

5 ร้านแฮงค์เอ้าท์ บาร์นั่งชิลล์ยามค่ำคืนในกรุงเทพ กับเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์

27,271 ครั้ง
7 พ.ค. 2562

ช่วงเวลาหลังเลิกงาน เป็นช่วงเวลาที่ต้องการผ่อนคลายที่สุด หลายคนเลือกเครื่องดื่มที่ทำให้สดชื่นอย่างเบียร์ หลายคนชอบไปสังสรรค์พบปะกับคนคอเดียวกัน หลายคนเลือกที่จะนั่งนิ่งๆชิลล์ๆ ขอแค่มีเสียงดนตรีอยู่เป็นเพื่อน แม้ว่าจะอยู่ในเมืองกรุงเหมือนกันแต่ความชอบและไลฟ์สไตล์ก็ใช่ว่าจะเหมือนกันซะทีเดียว ฉะนั้นร้านแฮงค์เอ้าท์และบาร์เบียร์จึงมีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการในทุกสไตล์ของคนกรุง สำหรับใครที่หลงรักในความละมุนของเบียร์คราฟท์ หลงใหลในการลิ้มลองรสชาติที่แปลกใหม่อยู่เสมอ วันนี้เรามาสนองให้กับคุณโดยการยกเอาร้านเบียร์คราฟท์ในกรุงเทพหลากหลายแนว มาเป็นตัวเลือกว่าคืนนี้คุณจะไปแฮงค์เอ้าท์ที่ไหนดี เพื่อตรงใจคุณมากที่สุด


1.เล็ท เดอะ บอย ดาย, กรุงเทพ
(Let The Boy Die)

ร้านคราฟท์เบียร์ขวัญใจชาวกรุงที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ หลังจากปิดร้านหายไปราว 2 ปี “Let the boy die, let the man be born” วลีเด็ดจากชื่อร้าน Let The Boy Die จากการที่เจ้าของร้านลาออกจากงานประจำแล้วหันมาทุ่มเทให้กับคราฟท์เบียร์อย่างจริงจัง จนกลายเป็นร้านคราฟท์เบียร์ที่ได้รับความนิยม หลังจากที่คนไทยเริ่มตื่นตัวกับรสชาติอันแปลกใหม่ของคราฟท์เบียร์มากขึ้น เรียกได้ว่า Let The Boy Die เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วงการคราฟท์เบียร์มีชีวิตชีวาขึ้นมาเลยก็ว่าได้ ตัวร้านโดดเด่นด้วยการตกแต่งแนวเท่ๆ ดิบๆ ด้วยอิฐแดงสลับกับรอยแตกแยกของปูนเปลือย เสมือนกับการวาดลวดลายลงไป ตกแต่งด้วยรูปภาพแนวโครงกระดูก เพิ่มความดิบสมกับโลโก้ของร้าน ที่นี่มีคราฟท์เบียร์ไทยสูตรเฉพาะของทางร้านเอง และคราฟท์เบียร์ไทยให้เลือกถึง 12 แท็ป ซึ่งจะถูกสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติของคราฟท์เบียร์ที่หลากหลาย สำหรับเมนูแกล้มเบียร์ก็ได้ถูกครีเอทมาอย่างพิถีพิถัน ด้วยความตั้งใจของทางร้านที่อยากสร้าง Let The Boy Die ให้เป็นคอมมูนิตี้สเปซสำหรับคนรักเบียร์ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้กัน จึงเป็นร้านที่ไม่ควรพลาดอย่างที่สุด

Lettheboy_03

Lettheboy_01

Lettheboy_02

Lettheboy_04

Location: 425 ถนนหลวง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 
Open-Close: เปิดให้บริการเวลา 17.00 – 23.00 น.
Phone: 099 493 9909
Facebook: Let the Boy Die


2.บ้านดอกแก้ว, กรุงเทพ
(Baan Dok Kaew)

บาร์เบียร์แสนลึกลับที่เลื่องลือกันเรื่องความเฮี้ยนว่าเป็นบาร์เบียร์ผีบอก บ้านดอกแก้ว แหล่งรวมบริวเวอร์ไทยที่พร้อมจะแชร์ประสบการณ์อันน่าค้นหา เนื่องจาก บ้านดอกแก้ว ซ่อนตัวอยู่ในซอยศาสนา ถ.พระราม 6 หากไม่มีการบอกต่อกันหรือไม่ใช่สาวกเบียร์ตัวจริงก็คงจะไม่รู้ว่ามีบาร์เบียร์อยู่ตรงนี้ นอกจากนี้บ้านดอกแก้วยังตั้งอยู่ที่บ้านไม้หลังเก่าที่มีอายุกว่า 100 ปี จึงเป็นที่มาของเสียงร่ำลือเหล่านั้น แต่หากคุณได้ลองก้าวเท้าผ่านต้นดอกแก้วต้นใหญ่เข้าไป จะพบกับความอบอุ่นและเป็นกันเองของเหล่าคนรักเบียร์ เพราะนอกจากเจ้าของร้านจะเป็นบริวเวอร์เองแล้ว มักจะมีเหล่าบริวเวอร์รุ่นเก๋าและน้องใหม่ มารวมตัวทำกิจกรรมสุดบันเทิงกันอยู่เรื่อย รวมถึงการรวมตัวของเบียร์หลากหลายสัญชาติที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกมาอวดรสชาติในแท็ปทั้ง 10 แท็ป คุณจะได้ลองเบียร์รสชาติแปลกใหม่อยู่เรื่อยๆ รวมทั้งได้ความรู้และเรื่องราวน่าสนใจของบริวเวอร์ทั้งหลาย เคล้าไปกับเสียงหัวเราะ เฮฮา และความอบอุ่นภายในบ้านหลังเก่านี้

banndok_06

banndok_02

banndok_03

banndok_04

banndok_05 

Location: 71 ซ.ศาสนา ถ.พระราม 6 เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 
Open-Close: เปิดให้บริการเวลา 17.00 – 23.00 น.
Phone: 089 993 1663
Facebook: บ้านดอกแก้ว Dok Kaew House Bar


3.แมช, กรุงเทพ
(Mash)

Mashing หนึ่งในกระบวนการหมักเบียร์ ที่มาของขื่อร้าน Mash ร้านคราฟท์เบียร์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ในย่านสีลม แม้ว่าตัวร้านจะเล็กกะทัดรัด แต่เต็มไปด้วยเบียร์คราฟท์โดยเน้นฝั่งอเมริกาและยุโรป อาจจะมีเบียร์ไทยมาแซมบ้างบางโอกาส รวมกันถึง 16 แท็ปเลยทีเดียว สมกับคอนเซ็ปต์ที่ว่า Small Brew Pub หรือโรงเบียร์เล็กๆ ที่ตอบโจทย์คนรักเบียร์ทั้งหลาย โดยภายในร้านตกแต่งสไตล์มินิมอล เสริมความเท่ด้วยท่อที่พาดเรียงรายอยู่ ด้วยความที่ร้านมีขนาดเล็ก จึงเกิดความรู้สึกเป็นกันเองซึ่งหากคุณอยากลองเบียร์ตัวไหน หรืออยากได้คำแนะนำจากทางร้านว่าควรทานคู่กับอะไรดี เจ้าของร้านก็ยินดีที่จะแชร์ความรู้ให้กับลูกค้าอยู่เสมอ

Mash_01

Mash_02

Mash_04

mash_03

Location: ซอยคอนแวนต์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
Open-Close: เปิดให้บริการเวลา 17.00 – 00.00 น.
Phone: 089 692 5666
Facebook: MASH craft brews & bites


4.ผีจิ่ว บาร์, กรุงเทพ
(Pijiu Bar)

ผีจิ่ว ที่แปลว่าเบียร์ ในภาษาจีน ได้ผุดขึ้นในซอยนานาฝั่งเจริญกรุงแถบเยาวราช บาร์เบียร์บรรยากาศจีนๆ ที่เหมือนกับโรงเตี๊ยมสมัยก่อน ตกแต่งด้วยโปสเตอร์โฆษณาเบียร์วินเทจ โต๊ะและเก้าอี้ไม้ ที่ดูเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์ กับแกล้มที่เสิร์ฟมาพร้อมกับเบียร์คราฟท์ยิ่งเป็นเอกลักษณ์ มาในรูปแบบจานเขียงไม้มีทั้ง กุญเชียง หมูแดง และข้าวเกรียบ ตกแต่งอย่างน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม ที่โดนใจก็คือภาชนะที่ทางร้านเลือกใช้ ล้วนแล้วแต่มีความคลาสสิคในแบบฉบับจีนยุคโบราณ รวมถึงความพิเศษยามค่ำคืนจะมี Jazz Night ศิลปินบรรเลงเพลงแจ๊สเพิ่มความเคลิบเคลิ้มในการจิบเบียร์ แม้ว่าเบียร์คราฟท์สดของทางร้านจะมีแค่ 5 แท็ป แต่ก็ครบถ้วนทุกสไตล์ ใครอยากลองสัมผัสบรรยากาศบาร์เบียร์สไตล์จีนเก่า ผีจิ่ว บาร์ ยินดีเสิร์ฟความคลาสสิคให้กับคุณ

Pijiu_04

Pijiu_01

Pijiu_02

Pijiu_03

Location: 16 ซอยนานา ถ.เจริญกรุง กรุงเทพมหานคร
Open-Close: เปิดให้บริการเวลา 18.00 – 00.00 น.
Facebook: Píjiǔ Bar


5.แคท ออน เดอะ รูฟ, กรุงเทพ
(Cat On The Roof)

Cat On The Roof บาร์สำหรับคนที่ชอบปาร์ตี้ หลงใหลในแสงสี และรักเสียงดนตรี เป็นนิยามของชื่อร้าน เปรียบกับแมวที่ซุกซนรักอิสระ แม้ว่าชื่อร้านจะเป็นแคท แต่ไม่มีแมวให้เล่นนะจ๊ะ ร้านตั้งอยู่บนรูฟท็อปของโฮสเทล Everyday Sunday เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอกับร้าน Cat On The Roof ซึ่งแบ่งเป็นสองโซน Indoor และ Outdoor ภายในจะตกแต่งด้วยไฟนีออนสลัวๆ ส่วนด้านนอกจะได้บรรยากาศชิลล์ๆ รับลมชมท้องฟ้ายามคำ่คื่น อาหารขึ้นชื่อของทางร้านต้องยกให้เมนูบาร์บีคิว ที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ แถมราคาน่าคบหา และเมนูทานเล่นอื่นๆ สำหรับแกล้มกับเบียร์คราฟท์ ถือว่าลงตัวที่สุด ทั้งบรรยากาศภายนอกและภายใน มาปลดปล่อยความเป็น Cat ที่อยู่ในตัวคุณในบาร์รูฟท็อปที่น่าสนใจแห่งนี้กันดีกว่า

Caton_01

Caton_02

Caton_03

Caton_04

Caton_05

Location: 466/1-3 ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
Open-Close: เปิดให้บริการเวลา 17.30 – 01.00 น.
Facebook: Cat on the roof 


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ